ตอนที่ 1
ผัวชื่ออะไร
"แล้วทำไมคุณย่าสิตางค์ถึงได้เอ็นดูแกขนาดนั้น"
หลังจากฟังเบญญาเม้าท์มอยเรื่องในอดีตเมื่อสามปีที่แล้ว จิดาพาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก็นับตั้งแต่เบญญาช่วยเหลือคุณย่าสิตางค์จากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน จากชีวิตเด็กกะโปโลที่ฐานะทางบ้านยากจนก็เปลี่ยนไป
จะว่าไปเวลาคนเราดวงเฮงอะไรก็ฉุดไม่อยู่ อีกอย่างตอนนั้นเบญญากำลังอยากสลัดอันธพาลแถวบ้านที่มาไล่ตามตื๊อ ก็เลยเลือกหนีปัญหาด้วยการแต่งงานมันซะเลย พอได้เป็นสะใภ้นิลปกรณ์ใครๆ ก็ไม่กล้าแตะต้อง อย่าว่าแต่หาเรื่องตามจีบเลย แค่ย่างกายเข้ามาใกล้เกินห้าเมตรก็ไม่กล้า
สามปีที่แล้วเบญญาเป็นเด็กจบใหม่ที่เดินหางานจนส้นรองเท้าสึก วันหนึ่งขณะที่เธอเดินอยู่ริมฟุตบาท เห็นหญิงอายุราวหกเจ็ดสิบต้นๆ กำลังข้ามถนน ตอนนั้นมีรถยนต์แล่นฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว เธอจึงพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือหญิงชราอย่างไม่คิดชีวิต
ปาฏิหาริย์ทำให้ทั้งคู่รอดตายหวุดหวิด เหตุการณ์นั้นส่งผลให้คุณย่าสิตางค์รักใคร่เอ็นดูเบญญาสุดๆ ถึงขั้นบังคับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนรับเบญญาเป็นเมีย ส่วนเบญญาก็ได้มีผัวรวยมาแบบงงๆ
แต่ถึงอย่างนั้นศิวะก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมทำตามทุกเรื่อง เขายื่นข้อเสนอว่าจะไม่มีการจัดงานแต่งและส่งตัวแทนมาดำเนินการเรื่องเอกสารจดทะเบียนสมรสกันเงียบๆ เพื่อไม่ให้เป็นข่าว ในสัญญาระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเบญญาไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติของสามี แต่ในระหว่างที่เธอและเขายังเป็นคู่สามีภรรยากันอยู่ศิวะจะเลี้ยงดูเบญญาเป็นอย่างดี
หลังจากการจดทะเบียนสมรสผ่านไป ศิวะไม่เคยย่างกายเข้ามาที่เรือนหอเลยสักครั้ง เธอจึงใช้ชีวิตในบ้านหลังใหญ่อย่างเปล่าเปลี่ยวเหงาใจ...เหงาใจก็บ้า!
มีเงินให้ใช้ มีของหรูๆ ให้กิน มีคนรับใช้ปรนนิบัติพัดวี อยากไปไหนมีสารถีคอยขับรถไปส่ง นี่มันชีวิตคุณหนูคุณนายในนิยายชัดๆ คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว ในเมื่อเขาไม่อยากข้องเกี่ยว เธอเองก็ไม่เคยเรียกร้องให้เขามาทำหน้าที่สามี ขอเพียงทุกๆ สิ้นเดือนมีเงินเข้ามาในบัญชีไม่ขาดส่ง
"ตกลงจะบอกได้ยัง เผื่อวันดีคืนดีฉันจะได้มีผัวรวยกับเขามั่ง"
จิดาพายังคงเร่งเร้าเอาคำตอบ เบญญาอมยิ้มแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
"ฉันเคยช่วยชีวิตคุณย่าสิตางค์เอาไว้ คุณย่าสิตางค์ดีกับฉันมาก น่าเสียดายหลังจากนั้นสามปีต่อมาคุณย่าก็มาด่วนจากไป"
"ตอนงานศพคุณย่าแกก็ไม่เห็นหน้าผัวตัวเองเลยเหรอ"
"ไม่เห็น เขาเข้าผ่าตัดด่วนพักฟื้นอยู่หลายวัน แม้แต่งานศพคุณย่าตัวเองแท้ๆ ก็ไม่ได้มาร่วมพิธี"
"น่าสงสารจัง เขาคงรักคุณย่ามาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำตามคำสั่งยอมรับแกเป็นเมียง่ายๆ ว่าแต่ผัวแกชื่อว่าอะไร"
"เอ่อ..."
เมื่อถูกซักถามเบญญากลอกตาไปมาครุ่นคิดอยู่นาน เหมือนชื่อของสามีจะติดอยู่จะงอยปาก จะว่านึกออกก็ไม่ใช่ จะลืมสนิทเลยก็ไม่เชิง
"โว๊ะ นังเบล! อย่าบอกนะว่าลืม"
"อืม ก็ลืมนั่นแหละ ในชีวิตคนเรามันก็มีคนผ่านเข้ามามากมายใครจะไปจำได้หมดวะ"
"แต่นั่นผัวแกนะเว้ย ไปเลยไป แกใบเอาใบทะเบียนสมรสมาดูซิว่าในนั้นเป็นชื่อใคร"
ยังไม่ทันที่เบญญาจะได้ลุกจากโซฟาเพื่อไปหยิบทะเบียนสมรสในลิ้นชักออกมาดู เสียงกดกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น สักพักคนรับใช้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา ในมือมีซองเอกสารสีน้ำตาลยื่นมาตรงหน้า
เบญญารับมาแล้วเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัย แกะเอกสารข้างในออกมาดู ในนั้นมีเอกสารหลายฉบับที่เป็นสัญญายาวเหยียดหลายข้อ และกระดาษแผ่นสุดท้ายมีที่เว้นไว้ให้เธอเซ็นชื่อตัวเองลงไป
"คำร้องขอจดทะเบียนหย่าระหว่างนางสาวเบญญา สว่างไสว กับ นายศิวะ นิลปกรณ์ ศิวะ...ชื่อนี้คุ้นๆ"
เสียงหวานอ่านไปพึมพำไป พออ่านจบบรรทัดสุดท้ายแล้วก็เงยหน้าพูดกับเพื่อน
"ไม่ต้องเอาทะเบียนสมรสมาดูหรอก ฉันจำได้แล้วว่าเขาชื่อศิวะ"
"แล้วแกรู้ได้ไง"
"ก็นี่ไง เขาส่งหนังสือขอหย่ามาให้ฉันอยู่เนี่ย"
แต่ทำไมฟังดูทะแม่งๆ เบญญาเว้นช่วงแล้วถ่างตาดูใหม่ พออ่านทวนจนแน่ใจแล้วก็แหกปากลั่นบ้าน
"ห๊ะ! หนังสือขอหย่า นี่มันหนังสือขอหย่า!"
นางสาวเบญญา สว่างไสว จะได้กลายเป็นนางสาวเบญญา มืดมิด ก็คราวนี้แหละ ไม่ใช่ว่าแต้มบุญกำลังจะหมดแล้วเหรอ อยู่มาสามปีใช้ชีวิตเพลิดเพลินจนลืมเก็บเงินเก็บทอง เงินที่ได้จากศิวะส่วนหนึ่งส่งให้น้องเรียนหนังสือและจุนเจือครอบครัวจนหมด บ้านก็ยังไม่มีเป็นของตัวเอง งานการก็ไม่มีทำ มิหนำซ้ำสามียังส่งหนังสือมาขอหย่าฟ้าผ่าอีก พอคุณย่าสิตางค์ตายได้ไม่ถึงเดือนศิวะก็มาเร็วเคลมเร็วเสียยิ่งกว่าประกันชั้นหนึ่ง
"หนังสือขอหย่าเหรอ แกดูดีๆ ไหนเอามาให้ฉันอ่านมั่ง"
จิดาพาคว้าเอกสารเหล่านั้นไปอ่าน พออ่านจบแล้วก็เบิกตาโตอ้าปากค้าง
"ซวยแล้วเบลเอ๊ย"
"ดาวฉันจะทำยังไงดี"
"ไม่เซ็น แกอย่าเพิ่งเซ็น ถ้าแกไม่เซ็นคุณศิวะบังคับแกไม่ได้"
หากรู้ว่าศิวะจะขอหย่าไวขนาดนี้เบญญาก็คงกอบโกยให้มากหน่อย ไม่สิ...หมายถึงเก็บเงินสำรองไว้เลี้ยงชีพในอนาคตต่างหาก ใช้คำว่ากอบโกยมันก็อาจจะดูหน้าเงินเกินไป แต่ให้พูดกันตามตรงก็หน้าเงินนั่นแหละ
ตอนที่ 6ไม่ได้แอบนะคะ"สนุกมากมั้ยครับแอบดูคนอื่นแบบนี้""ไม่ได้แอบนะคะ""ก็เห็นอยู่ว่าแอบหลังเสามองนานแล้ว""คุณศิวะพูดเกินไป๊"เบญญาลากเสียงสูงแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะแหะๆ คนกำลังเดินอยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะมีซิทคอมให้ดู แล้วนี่เขาไม่ต้องรีบเข้าไปเคลียร์งานหรือยังไง ถึงมีเวลามาถามคำถามจับผิดแม่บ้านอยู่ได้"แล้วนี่มันเวลาอะไรแล้วครับ ทำไมถึงได้ยืนแทะไก่ย่างอยู่อีก ไม่ต้องทำงานแล้วเหรอ" ถามได้ใจตรงกันเป๊ะ"อุ้ย! ทำสิคะ จะรีบไปทำงานเดี๋ยวนี้ค่ะ""เดี๋ยวครับ"เบญญาหันกลับมาโปรยยิ้มหวาน"ตอนเข้าไปทำความสะอาดห้องของผม ไม่ต้องไปหยิบจับอะไรบนโต๊ะย้ายไปย้ายมา ผมไม่ชอบ"ถึงแม้จะหน้าชานิดหน่อยแต่เบญญาก็ยังยิ้มได้อยู่ ที่เขาไม่ชอบคงไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่ไม่ชอบขี้หน้าเธอเสียมากกว่า"เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปเบลจะไม่หยิบจับอะไรบนโต๊ะทำงานของคุณศิวะอีก"ชายหนุ่มพ
ตอนที่ 5อ่อยเธอเช็ดกระจกวนไปวนมาหลายรอบ หากกระจกพูดได้มันคงตะโกนบอกว่า 'หล่อนเช็ดจนฉันถลอกหมดแล้วสาว!'ศิวะเงยหน้าขึ้นเมื่ออ่านเอกสารหน้าสุดท้ายจบ เห็นว่าหญิงสาวกำลังยืนจ้องเขาเขม็ง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"มีอะไรรึเปล่าครับคุณแม่บ้านคนใหม่""เอ่อ เปล่าค่ะ เรียกเบลก็ได้ค่ะ เอาซะเต็มยศเลย""งั้นก็ฝากคุณเบลเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ อีกสิบนาทีจะมีทีมงานใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุม""รับทราบค่ะ"เร็วเท่าความคิด ทันทีที่ศิวะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกจากห้อง เบญญาก็แสร้งสะดุดล้มพุ่งตัวไปทางเขา ชนิดที่ว่ากะระยะไว้อย่างแม่นยำ ทว่าหลังจากนั้นก็...โครม!ศิวะเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นแบบไม่ใช้ตัวแสดงแทน ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอย เขาถอยหลังออกไปสองสามก้าว หลุบตามองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นแล้วถามเสียงเย็นชา"เจ็บไหมครับ"ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์ถามไถ่ ฉันควรจะดีใจถูกต้องมั้ย"ยังไงก็อย่าลืมเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ"เป็นไงละทีนี้ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ นอกจากไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ยังเจ็บตัวอีกต่างหาก เธอมองแผ่นหลังที่เดินห่างออกจากประตูแล้วคิดในใจ เมื่อวานนี้เขาก็ดูเหมือนคนดีมีน้ำใจ
ตอนที่ 4แน่ใจเช้าวันรุ่งขึ้นเบญญาถูกปลุกให้ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ร้องครวญ ตอนแรกนึกว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ปอยเปตโทรมา Goodmorning ที่ไหนได้เป็นนัดเรียกสัมภาษณ์งาน เบญญาดีดตัวลุกจากที่นอนทั้งที่ยังซึมกะทือ พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งแจ่นเข้าไปอาบน้ำแต่งตัววันนี้เธอสวมใส่ชุดที่เรียบร้อยหน่อย แต่งหน้าเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อวาน เพราะรู้แล้วว่าแต่งหน้าแนวโต่วอินมันเอามาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เรียกรถรับจ้างมารับ ที่ไม่ได้ให้คนขับรถไปส่งเพราะกลัวว่าสามีจะเห็นเข้าแล้วสงสัย เบญญาถูกพาตัวเข้าไปในห้องสัมภาษณ์งาน ภายในห้องอุณหภูมิเย็นเฉียบมีพนักงานฝ่ายบุคคลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว"สวัสดีค่ะ ฉันเบญญา สว่างไสวค่ะ""สวัสดีค่ะ ดิฉันเห็นใบสมัครของคุณแล้ว แน่ใจใช่มั้ยคะว่าจะทำตำแหน่งนั้นจริงๆ"จากประวัติการศึกษาที่เขียนมาในใบสมัคร ทำให้พนักงานฝ่ายบุคคลต้องถามย้ำอีกรอบ "แน่ใจค่ะ"เบญญายิ้มแห้งๆ แล้วพยักหน้า อยากสารภาพไปตามตรงว่าเมื่อวานติ๊กตำแหน่งมั่วๆ ไม่ได้ดูอะไรเลย เผลอสมัครตำแหน่งอะไรจำไม่ได้หรอก แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับคุณศิวะ"ฉันผ่านก
ตอนที่ 3ให้น้องไปแล้ว"ขอโทษครับ เจ็บรึเปล่า""ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ ขอโทษค่ะ"ชายหนุ่มก้มลงเก็บใบสมัครงานขึ้นมาแล้วยื่นให้ จากนั้นผายมือไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่"นั่งเขียนใบสมัครตรงนั้นครับ""คือว่า เอ่อ...ฉัน"ฉันกำลังจะเผ่นหนีต่างหากเล่า!"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าคุณดูแดงผิดปกติ ให้ผมเรียกรถพยาบาลให้มั้ย"รูปหล่ออย่าเวอร์ไป แค่ปัดบรัชออนหนักมือไปหน่อยก็เท่านั้นไม่ใช่แค่หน้าหรอกที่แดง แต่ขอบตายังดูปูดเพราะเทคนิคการแต่งหน้าแบบเปิดหางตาของจิดาพา เปิดกว้างจนลูกกะตาจะไหลออกจากเบ้าแล้วเนี่ย"ไม่ค่ะ ฉันโอเคดีมาก เอ่อ...จะไปเขียนใบสมัคร"เบญญารีบบอกปัดไปทันที แต่พอหันหลังให้เขาแล้วเสียงทุ้มๆ ของใครคนหนึ่งดังแว่วเข้าหู"คุณศิวะครับ อีกครึ่งชั่วโมงเข้าประชุมครับ"คุณศิวะ!หญิงสาวหูผึ่งหันขวับกลับไปมองทันที คนที่เดินชนเมื่อครู่คือคุณสามี อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนได้ขนาดนี้วะ ตั้งใจจะมาแสดงตัวว่าเป็นเมียเขา แต่เขาดันรู้จักเธอในนามของผู้มาสมัครงาน! แล้วที่ย่ำแย่ไปกว่าคือหนังหน้าตอนนี้มันไม่สมควรเปิดเผยตัวตนด้วยไง คนทั้งบริษัทจะได้รู้ว่าเมียท่านประธานกำลังจะไปเล่นงิ้วอย่างงี้เหรอ
ตอนที่ 2เข้าหาเขาเอง"ตอนนี้ถ่วงเวลาไปได้ แต่อีกสักพักคุณศิวะต้องให้คนมาไล่จี้แน่ ดาวฉันไม่พร้อมหย่าตอนนี้"จิดาพาช่วยเพื่อนคิด พอคิดออกแล้วก็เผยรอยยิ้มร้าย"ถ้าไม่อยากหย่าก็ทำให้สามีในนามเป็นสามีจริงๆ ซะเลยสิ""จะบ้า แค่หน้าเขาฉันยังไม่เคยเห็น เขาจะมาพิศวาสฉันได้ยังไง""แล้วทำไมแกไม่เข้าหาเขาเองละ บริษัทในเครือนิลปกรณ์ที่เขาทำงานอยู่แกก็รู้จักไม่ใช่เหรอ"หลังจากจิดาพากลับไปแล้ว เบญญาขนบรรดาสมุดบัญชีธนาคารทั้งหลายแหล่มาเปิดออกดู เผื่อว่าก่อนหน้านั้นตัวเองจะมีหัวคิดดีๆ โอนเงินไปเก็บไว้สักก้อน แต่สิ่งที่ได้เจอหลังจากเปิดหน้าสมุดคือยอดค้างในบัญชีละสิบบาทยี่สิบบาทหรือว่าจะต้องไปตามจีบสามีตัวเองจริงๆ ?หญิงสาวมองตัวเองผ่านกระจกเงา หันซ้ายทีขวาทียิ้มบ้างทำหน้าบูดบึ้งบ้าง สะบัดผมที่ยุ่งเหยิงแล้วใช้มือสางอย่างลวกๆ จากนั้นใช้ปลายนิ้วชี้กดมุมปากฝืนยิ้มแล้วพึมพำคนเดียว"สองปี ขอแค่สองปีเท่านั้น จะคิดใหม่ทำใหม่ขยันเก็บเงิน พอถึงตอนนั้นคุณศิวะอยากหย่าก็จะไม่ว่าเลยสักคำ สวยๆ แบบนี้มันก็ต้องหลอกล่อผู้ชายให้หลงเสน่ห์ได้บ้างแหละ งั้นพรุ่งนี้เช้าก็อาบน้ำทาแป้งดีๆ แล้วไปหาเขาที่บริษัท"เช้าวันรุ่งขึ้น
ตอนที่ 1ผัวชื่ออะไร"แล้วทำไมคุณย่าสิตางค์ถึงได้เอ็นดูแกขนาดนั้น"หลังจากฟังเบญญาเม้าท์มอยเรื่องในอดีตเมื่อสามปีที่แล้ว จิดาพาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก็นับตั้งแต่เบญญาช่วยเหลือคุณย่าสิตางค์จากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน จากชีวิตเด็กกะโปโลที่ฐานะทางบ้านยากจนก็เปลี่ยนไปจะว่าไปเวลาคนเราดวงเฮงอะไรก็ฉุดไม่อยู่ อีกอย่างตอนนั้นเบญญากำลังอยากสลัดอันธพาลแถวบ้านที่มาไล่ตามตื๊อ ก็เลยเลือกหนีปัญหาด้วยการแต่งงานมันซะเลย พอได้เป็นสะใภ้นิลปกรณ์ใครๆ ก็ไม่กล้าแตะต้อง อย่าว่าแต่หาเรื่องตามจีบเลย แค่ย่างกายเข้ามาใกล้เกินห้าเมตรก็ไม่กล้าสามปีที่แล้วเบญญาเป็นเด็กจบใหม่ที่เดินหางานจนส้นรองเท้าสึก วันหนึ่งขณะที่เธอเดินอยู่ริมฟุตบาท เห็นหญิงอายุราวหกเจ็ดสิบต้นๆ กำลังข้ามถนน ตอนนั้นมีรถยนต์แล่นฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว เธอจึงพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือหญิงชราอย่างไม่คิดชีวิตปาฏิหาริย์ทำให้ทั้งคู่รอดตายหวุดหวิด เหตุการณ์นั้นส่งผลให้คุณย่าสิตางค์รักใคร่เอ็นดูเบญญาสุดๆ ถึงขั้นบังคับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนรับเบญญาเป็นเมีย ส่วนเบญญาก็ได้มีผัวรวยมาแบบงงๆแต่ถึงอย่างนั้นศิวะก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมทำตามทุกเรื่อง เขายื่นข้อเ