Compartilhar

บทที่4

last update Última atualização: 2025-11-20 16:54:23

กระทั่งถึงลานจอดรถในคอมโด ไวน์ดับเครื่องก่อนลงรถ เดินไปเคาะกระจกเก๋งขาวที่จอดเทียบข้างๆ ก๊อกๆ! เบาๆสองที ไม่นานหน้าต่างสีทึบก็ลดลงเผยให้เห็นโฉมหน้าคนขับ

"ลงมา" เขาชะโงกหน้าเข้าไปในตัวรถอย่างไม่เกรงกลัว กระดิกนิ้วทำหน้าเหมือนจะหาเรื่อง 

คนขับลงจากรถด้วยท่าทางเหลอหลา หน้าแดง ตาปรือ ต้อยๆมายืนตรงหน้าเหมือนหมารอรับคำสั่ง ดูก็รู้ว่าเมาหนักมาก

"ตามมาทำไมครับ?" ไวน์เปิดประเด็น ไม่รู้จะได้ปูดหรือได้เปรียบ 

"เป็นห่วง" ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับสั้นๆ 

ก่อนหน้าบอกพลาดจูบ ตอนนี้บอกเป็นห่วง สักพักบอกคิดถึง สุดท้ายพรุ่งนี้ ข้ออ้างก็คือ'เมา' ตบท้ายด้วยคำขอโทษ จะเล่นกับใจของเขาไปถึงไหนกัน!

จับปล้ำแล้วบอกพลาดไปเลยดีไหม?

ไวน์ก็ได้แค่คิดเขาไม่กล้าหรอก ก็โดนผลักไสขนาดนัั้นหนิ "เห็นแล้วหนิครับว่าผมไม่เป็นไร เพราะงั้นไสหัวไปได้แล้วครับ"

"งั้น..เจอ..กั..นนะ"

"ไม่เจอจะดีมากเลยครับ" ใจไม่อยากให้กลับหรอก แต่ให้ทำไงอะ ปากมันไปไวกว่าสมอง สุดท้ายเลยได้แต่มองแผ่นหลังกว้างของคิิมหันต์หายเข้าไปในรถตาละห้อย

ไม่นานเก๋งขาวก็เคลื่อนตัวผ่านไวน์ไป แม่งเอ๊ย! คงเป็นเสียงสบถผ่านสีหน้าของเขาตอนนี้ สามปีไม่เคยพลาดท่า แต่มาตกม้าตายเพราะเมาเนี่ยนะ! เขาอยากเอาหัวโขกกำแพงแล้วสลบไป ให้มันเป็นเพียงความฝัน

ไวน์เดินตึงตังขึ้นบันได มาถึงหน้าห้องก็รีบเปิดประตู สไลด์เท้าจนถึงปลายเตียง ก่อนล้มตัวลงนอนอย่างคนหมดแรง พร้อมหัวใจเต้นรัว ตึกตักๆๆ ไม่รู้เป็นเพราะคิมหันต์หรือความเหนื่อยล้ากันแน่

"ไม่อยากรู้สึกแบบนี้เลยจริงๆ"

ความเหนื่อยเริ่มกลืนกินตัวตนจนเจ้าของห้องเริ่มอ่อนเพลีย และผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น 

เช้าวันใหม่...

ไวน์ตื่นนอนทำกิจวัตรประจำวันเหมือนทุกวัน ลุกจากเตียงบิดขี้เกียจเดินไปอาบน้ำ แล้วกลับมาแต่งตัวเพียงแต่วันนี้เขาขับรถไปยังถนนอีกสาย 

ซึ่งนั่นก็คือบ้านของผู้เป็นแม่ ห่างจากคอนโดที่อาศัยราวครึ่งชั่วโมง วันนี้จึงตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้เขารู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมา เหมือนได้ย้อนกลับไปเจ็บอีกครั้ง 

วันนี้มันเจ็บปวดมากจริงๆ...

ขับมาจนถึงหน้าบ้าน หลังเล็ก ชั้นเดียว สีขาว ภายนอกดูอบอุ่นไม่ต่างจากภายใน เป็นความอบอุ่นปนความเจ็บปวด เขาก้าวขาเข้าไปในบ้านด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้ฝืนอะไรมากเพราะเห็นเจ้าลูกชายตัวจ้อยวิ่งหน้าตั้งมาหา "โลมา" ไม่ทันไรก็ห้าขวบแล้ว

เด็กชายตัวน้อยวิ่งแจ้นมากอดอย่างเบิกบาน

"ป่ะป๊าไม่มาด้วยเหรอฮะ" เด็กน้อยเอียงคอถามอย่างสงสัยขณะเงยหน้ามองผู้ให้กำเนิด ซึ่งเขาเรียกแทนว่าป่ะปิ๊

"ช่วงนี้ป่ะป๊างานยุ่งมาก ไว้ปิ๊จะพามานะครับ" ไวน์ลูบหัวลูกชายอย่างรักใคร่ ไม่มีใครรู้ถึงความสัมพันธ์ที่แตกหักนอกจากตัวพวกเขาเอง

ไวน์เลือกปกปิดและเก็บความเจ็บปวดนี้เอาไว้ทั้งหมด

"อ้าว! มาทำไมไม่โทรบอก แม่จะได้เตรียมน้ำพริกไว้ให้" คนเป็นแม่พอเห็นลูกชายก็ดีใจหน้าบานรีบตรงเข้ามาทักทาย

เธอเป็นหญิงสูงวัยอายุหกสิบห้าปี ส่วนไวน์ปีนี้จะสามสิบเอ็ด ดูจากผมเผ้ายุ่งเหยิงก็รู้ว่าเธอกำลังวุ่นวายอยู่กับหลานชายและกับข้าวในครัว

"พูดอย่างกับว่าโทรมาแล้วแม่จะเตรียมทันงั้นแหละ" ไวน์เองก็หยอดคนเป็นแม่อย่างขำขัน 

เธอตีไหล่เจ้าลูกชายเพราะไปไม่ถูก แปะ!

สองแม่ลูกหัวเราะคิกคัักหยอกกันสักพัก ไวน์ก็ย่อตัวอุ้มลูกชาย "วันนี้เดี๋ยวป่ะปิ๊จะไปส่งโลมาที่โรงเรียนเอง"

"เย้!" หนูน้อยดีใจ เพราะกว่าป่ะปิ๊กับป่ะป๊าจะมาหาแต่ละทีก็นานจนเขาเบื่อ ถึงคุณยายจะเล่านิทานให้ฟังบ่อยๆแต่พอเห็นป่ะปิ๊แล้วโลมาก็ชื่นใจ

เพราะว่าบ้านกับคอนโดห่างกันครึ่งชั่วโมง แต่บ้านกับที่ทำงานห่างกันเกือบชั่วโมง เขาจึงไม่ค่อยได้มาบ่อยมากนัก เหตุผลหลักไม่ใช้ระยะทางแต่เป็นเวลา

เขาทำงาน ทำงาน แล้วก็ทำงาน คิดถึงลูกแต่บางครั้งก็ปฏิเสธหัวหน้าไม่ได้ อย่างเมื่อวานก็ไปกินเลี้ยง วันนี้ไม่รู้จะเลิกเร็วหรือเปล่า

"เมื่อไหร่ป่ะป๊าจะมาฮะ"

คงเป็นคำถามที่เขาไม่อยากตอบที่สุด แต่เพราะดวงตากลมใสช่างไร้เดียงสา บ่งบอกความรู้สึกนึกคิดได้ชัดเจน ชัดจนบาดลึกในใจของเขา

"เดี๋ยวปิ๊จะพามาหาแน่นอน"

"สัญญานะ" เด็กน้อยยื่นนิ้วก้อยให้เกี่ยว

"สัญญาเลย" ไวน์เกี่ยวกลับ

เด็กคงคิดถึงพ่อ ให้ทำไงได้เขาคงต้องลากคอ'สารเลว'กลับมาให้ลูกเห็นหน้าบ้างเสียแล้วสิ 

"มากินข้าวก่อนสิลูก โลมาเองก็ด้วย หนูต้องกินเยอะๆนะ วันนี้บอกมีเต้นที่โรงเรียนไม่ใช่เหรอ?"

"ฮะ"

ไวน์วางลูกชายตัวน้อยลง ก่อนเจ้าตัวจะวิ่งแจ้นไปหาคุณยาย ทั้งสามคนกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาทีี่โต๊ะอาหารกลางบ้าน ทำให้ไวน์หวนคิดถึงวันวานอีกครั้ง

วันวานอันหวานชื่น เปร่งประกาย งดงามราวกับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ แต่เวลาไม่อาจย้อนกลับไปเหมือนกับอดีตที่ไม่อาจแก้ไข ตอนนี้ซากุระได้โรยราเหลือเพียงกิ่งแห้งดุจใจช้ำๆของเขา

เขามองแม่ที่เริ่มชรา เห็นผมสีหม่นเกือบเต็มหัว สลับกับเจ้าตัวเล็กที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ใครจะไปคิดว่าตีนเท่าฝาหอยวันนั้น จะวิ่งวุ่นอย่างวันนี้ได้แล้ว จู่ๆก็รู้สึกใจหาย 

เขาตักต้มจืดหมู ชิมรสมือแม่ ก่อนคลี่ยิ้ม รสชาติยังดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นอกจากนั้นยังมีปลาทับทิมนึ่งของโปรดโลมากับข้าวสวยร้อนๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวไวน์ตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ ซดซุปไปด้วย กินปลาไปด้วย จนน้ำตาแทบไหล ไม่รู้กับข้าวอร่อยเกินไปหรือภูเขาลูกใหญ่ในอกกันแน่ 

ก็เพราะในบ้านเต็มไปด้วยความทรงจำของเขากับคิมหันต์ แต่ก็็เต็มไปด้วยความทรงจำของเขากับแม่และตัวเล็กเหมือนกัน กลับบ้านทีไร เขาถึงได้รู้สึกมีความสุขปนความเจ็บปวดราวกับปอดจะฉีกขนาดนี้ไง 

ไวน์มองลูกชายที่เคี้ยวจนแก้มตุ่ยไม่ต่างจากตน 'โลมา' ชื่อนี้คิิมหันต์เป็นคนตั้งให้ เพราะเห็นไวน์ชอบโลมาตอนไปดูการแสดงโลมาด้วยกัน อุ้มท้องมาเกือบสิบเดือน หน้าดันเหมือนพ่อเปี๊ยบ 

"พรุ่งนี้ป่ะปิ๊จะซื้อปลามาให้เยอะๆเลยดีมั้ย" เห็นลูกกินอร่อยเขาก็ปลื้ม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่รู้ตัว

ระหว่างที่ไวน์มองลูกชาย แม่เองก็มองเขาด้วยความห่วงใย เห็นลูกชายกินมุมมามเหมือนคนอดอยากก็อดห่วงไม่ได้

"ทำงานเป็นไงบ้างลูก" เธอเอ่ยถาม

"ก็ดีครับ" ไวน์พยักหน้าตอบ เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง

"แล้วลูกเขยล่ะเป็นยังไงบ้าง พักหลังแม่ไม่เห็นตามมาด้วยเลย มีอะไรกันหรือเปล่า"

เพียงชั่วครู่สีหน้าของเขาก็หม่นลง แต่เพราะไม่อยากให้แม่สงสัยในความสัมพันธ์จึงรีีบฝืนยิ้ม 

"โถ่แม่! อย่างผมกับพี่คิมน่ะไม่มีอะไรหรอก แค่ช่วงนี้พี่เค้ายุ่งๆน่ะ ไว้ผมจะพามานะ"

เพราะยังไงก็พ่อของลูก โลมาเองก็คงคิดถึงพ่อเหมือนกัน เขารีบลุกขึ้น เพราะกลัวจะเก็บสีหน้าไม่อยู่ มันปวดร้าว ระบม ระทม หนักอกไปหมดจนไม่รู้จะทำยังไง

"อิ่มแล้ว เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะครับ"

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่6

    ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอมทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ "โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่""วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ "วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม "ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่5

    หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา""ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย"เก่งมาก"สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆเพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็งมาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?""ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา""ฮับ" "เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว พอเห

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่4

    กระทั่งถึงลานจอดรถในคอมโด ไวน์ดับเครื่องก่อนลงรถ เดินไปเคาะกระจกเก๋งขาวที่จอดเทียบข้างๆ ก๊อกๆ! เบาๆสองที ไม่นานหน้าต่างสีทึบก็ลดลงเผยให้เห็นโฉมหน้าคนขับ"ลงมา" เขาชะโงกหน้าเข้าไปในตัวรถอย่างไม่เกรงกลัว กระดิกนิ้วทำหน้าเหมือนจะหาเรื่อง คนขับลงจากรถด้วยท่าทางเหลอหลา หน้าแดง ตาปรือ ต้อยๆมายืนตรงหน้าเหมือนหมารอรับคำสั่ง ดูก็รู้ว่าเมาหนักมาก"ตามมาทำไมครับ?" ไวน์เปิดประเด็น ไม่รู้จะได้ปูดหรือได้เปรียบ "เป็นห่วง" ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับสั้นๆ ก่อนหน้าบอกพลาดจูบ ตอนนี้บอกเป็นห่วง สักพักบอกคิดถึง สุดท้ายพรุ่งนี้ ข้ออ้างก็คือ'เมา' ตบท้ายด้วยคำขอโทษ จะเล่นกับใจของเขาไปถึงไหนกัน!จับปล้ำแล้วบอกพลาดไปเลยดีไหม?ไวน์ก็ได้แค่คิดเขาไม่กล้าหรอก ก็โดนผลักไสขนาดนัั้นหนิ "เห็นแล้วหนิครับว่าผมไม่เป็นไร เพราะงั้นไสหัวไปได้แล้วครับ""งั้น..เจอ..กั..นนะ""ไม่เจอจะดีมากเลยครับ" ใจไม่อยากให้กลับหรอก แต่ให้ทำไงอะ ปากมันไปไวกว่าสมอง สุดท้ายเลยได้แต่มองแผ่นหลังกว้างของคิิมหันต์หายเข้าไปในรถตาละห้อยไม่นานเก๋งขาวก็เคลื่อนตัวผ่านไวน์ไป แม่งเอ๊ย! คงเป็นเสียงสบถผ่านสีหน้าของเขาตอนนี้ สามปีไม่เคยพลาดท่า แต่มาตกม้าตายเ

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่3

    "ทำไมครับ?" หือ? เสียงนี้... คิมหันต์ หันไปมองเจ้าของเสียงที่เดินตามมา เห็นเป็นหนุ่มผมทองตาฟ้าเบ้าหน้าลูกครึ่งถึงกับตกใจ "เปล่าครับ ผมสะกิดคนผิด" กะจะสะกิดไหล่ไวน์แต่ดันเป็นเจอาร์ หน้าเลยหมองลง"คุณชอบไวน์เหรอครับ"คิมหันต์กำลังจะเดินกลับแต่คำถามอีกฝ่ายทำให้เขาชะงัก "ไม่ได้ชอบ" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ผมดูออกน่่า อย่าปฏิเสธหน่อยเลย""รักเลยต่างหาก"และคำตอบนัั้นทำให้หนุ่มผมทองนิ่งค้าง ทั้งที่คนตอบเดินจากไปแล้ว เขาไม่คาดคิดถึงสิ่งที่ได้ยิน นั่นมันไม่ต่างอะไรจากการป่าวประกาศว่าเป็นศัตรูกับเขาโต้งๆเลยสักนิด เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าเขากำลังจัีบคุณไวน์อยู่ขณะเดียวกันคิมหันต์เดินออกจากห้องน้ำ สายตาทอดมองไปไกล ทัศนียภาพในกรอบสายตาเห็นเพียงไวท์ช็อกผมน้ำตาลอ่อนนั่งดื่มคนเดียว เขารีบจ้ำอ้าว พยุงตัวให้มั่นไปหาอีกฝ่ายอย่างไร้สติ มาถึงก็จับมือน้อยๆของไวท์ช็อกผมน้ำตาลโดยไม่รู้ตัวไวน์ที่กำลังเคี้ยวเนื้อแก้มตุ่ยถึงกับตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่ทันได้ถามก็ถูกฉุดกระชากให้เดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ "จะพาผมไปไหน!" เขาพยายามสะบัดข้อมือสุดแรงแต่กลับไม่เป็นผล ถูกลากมาที่รถเก๋งขาว กระจกทึบคันหนึ่ง จอดนิ่ง

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่2

    "ทีมB ขอเสนอข้าวปั้นต้มยำกุ้งครับ วัตถุดิบทัั่วไป แต่...""ผมมองว่ามันธรรมดาไป"ไวน์ยังไม่ทันพูดจบคิมหันต์ก็ตัดบททันที"ไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทเหรอครับ?"เอาแล้ว! ดูเหมือนไวน์จะเริ่มฉุน"นั่นสิครับ สงสัยต้องหาเมียสักคนไว้สอนเรื่องมารยาท"กึดไวน์กัดฟันเสียงดังจนคนที่นั่งข้างๆอย่างเจอาร์ได้ยิน แต่เขากลับยิ้มกริ่ม ดูชอบใจที่เห็นไวน์ทำหน้าบึ้งตึงใส่คนตรงหน้า"ผมว่าหัวหน้าทีมBก็พูดถูกนะครับ หัวหน้าทีมAควรจะฟังให้จบก่อน ส่วนจะธรรมดาหรือเปล่านั้นค่อยมาตัดสินหลังจบประชุมกันเถอะครับ" เจอาร์แทรกขึ้นถึงจะอย่างนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนไวน์จะไม่มีอารมณ์สาธยายต่อ เขาไม่ชอบที่คิมหันต์พูดแทรก ขัดแข้งขัดขาตลอด แต่เขาจะไม่ลาออกเพราะเรื่องแค่นี้เด็ดขาด! คิดได้ก็สูดหายใจเข้าลึกๆปรับอารมณ์แล้วเริ่มนำเสนองานต่อ "ที่ผมจะบอกคือ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีรสชาติจัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ แต่ใช้เวลาในการปรุงค่อนข้างนาน ทำให้คนที่อยากทานแต่มีเวลาน้อยอย่างเช่นพนักงานออฟฟิศ หรือกลุ่มคนใช้แรงงาน ผมจึงอยากนำเสนอในรูปแบบข้าวปั้น อิ่ม อร่อย ในงบประหยัดครับ เราเทสสูตรมาแล้วด้วย ลองชิมดูสิครับ" หัวหน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่1

    เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น...แต่ชายหนุ่มกลิ่นตัวหอมละมุนดุจวนิลลายังคงนอนน้ำลายยืดบนเตียง แดดอ่อนยามเช้าสาดผ่านรูม่านทึบเข้ามาในห้องนอน ส่องไปยังร่างไร้สติบนเตียง ขลับผิวขาวและเรือนผมน้ำตาลอ่่อนให้เด่นชัด ก่อนที่เปลือกตานวลบนหน้าหวานเริ่มกระตุก ค่อยๆตื่นจากห้วงภวังค์ความฝัน แล้วลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เอนตัวนั่งพลางอ้าปากหาวหวอดชายหนุ่มลงจากเตียง จัดการแก้ผ้าจนตัวล่อนจ้อนเผยให้เห็นร่างกายขาวเนียน ยอดอกชมพูรวมไปถึงส่วนลับสีสวยขนาดกระทัดรัดพกพาง่ายดุจแหนมตุ้มจิ๋ว เดินตัวเปลือยไปเข้าห้องน้ำ ก่อนอาบน้ำแปรงฟันให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พอเสร็จก็คว้าผ้าขนหนูขาวบนราวเหล็กข้างผนังมายีหัว ขณะก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ จนทางเดินเต็มไปด้วยหยดน้ำติ๋งๆจากอุ้งเท้าน้อยๆของเขาใครมาเห็นเข้าคงอดใจไม่ไหวกับหุ่นเซ็กซี่เย้ายวนนี้แน่ๆครืด ครืดดด~เสียงโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งบนเตียงสั่นดังเข้าไปในโสตประสาท ทำให้หนุ่มหน้าหวานปลายตามองอย่างใคร่รู้ ใครวะ? ก่อนเห็นรายชื่อบนหน้าจอ 'สารเลว' ใบหน้าก็หม่นลงทันที เขาเดินเช็ดผมไปเลือกเสื้อผ้าหน้าตู้อย่างไม่สนใจ คว้าเชิ้ตขาวมาสวม ผูกไทสีแดงตบท้ายด้วยการสวมสแล็คดำขายา

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status