Compartilhar

บทที่5

last update Última atualização: 2025-11-20 16:54:54

หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน

"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา"

"ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย

"เก่งมาก"

สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย 

เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆ

เพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็ง

มาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา 

ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?"

"ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ

"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา"

"ฮับ" 

"เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว 

พอเห็นตัวเล็กเดินไปหาเพื่อน คุยอะไรกันจ้อแจ้ความห่วงใยก็ลดน้อยลง ถอนหายใจ แล้วเดินกลับไปยังรถตัวเอง ทว่าสายตากลับเหลือบไปเห็นเก๋งขาวคุ้นตาขับผ่านพอดิบพอดี ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ?

ไวน์ชะงัก รีบควบมอไซค์มุ่งหน้าไปยังบริษัท ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะมาถึงลานจอดรถ พอๆกับเก๋งขาวที่เคลื่อนตัวมาจอดเทียบอยู่ข้างๆ

เจ้าของเก๋งขาวเดินออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทำเหมือนไม่รู้จักไวน์ต่างจากเมื่อคืนลิบลับ มันต้องแบบนี้สิถึงจะสมเป็น'สารเลว' ไม่ใช่เอาแต่พูดว่าคิดถึง หรือไม่ก็เป็นห่วง 

วันนี้เองก็คงจะบังเอิญไปทำธุระแถวนั้นนั่นแหละ ลึกๆไวน์รู้สึกน้อยใจ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน เขาเองก็จะทำเหมือนคิมหันต์เป็นอากาศธาตุเหมือนกัน

ไวน์เดินตึงตังด้วยสีหน้าบึ้งตึง หัวคิ้วขมวดไม่รู้ตัวผ่านร่างสูงไปได้สองก้าวก็พึ่งนึกได้ว่าโลมาอยากเจอหน้า พ่อตัวเอง ถึงกับหยุดเดิน ก่อนจำใจหันกลับไปมองเจ้าของฝีเท้าที่ย้ำตามมาติดๆ 

"ผมไม่ได้อยากเสวนากับคุณนักหรอก แต่โลมาอยากเจอหน้าครับ" ไวน์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะมองเข้าไปในตาร่างสูงตรงหน้า

"งั้นเจอกันหลังเลิกงาน"

เห็นไหม...

คิมหันต์ตอบส่งๆ สั้นๆ แล้วเดินผ่านไวน์ไปทั้งอย่างนั้น เขาไม่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของลูกเลยสักนิด ไวน์ขบกรามแน่น คิดในใจถ้าลูกไม่ร้องขอก็คงไม่เสนอหน้าพูดจากับคนทีี่ไม่อยากเสวนาด้วยนักหรอก 

ไวน์เดินตามเขาไปด้วยใจที่สั่นคลอน ทั้งโกรธและเสียใจ แต่เขาไม่อยากแสดงอาการเหล่านั้นให้อีกคนเห็นถึงความอ่อนแอ

ก้าวเข้ามาในบริษัทหนุ่มหล่อผมทองก็ยิ้มทััก 

"เมื่อคืนกลับบ้านปลอดภัยใช่มั้ยครับ"

เจอาร์ยืนรอคนที่ชอบอยู่นานสองนานและแล้วก็มาสักที เมื่อคืนทักข้อความไปหา แต่ไวน์กลับไม่ตอบ เขาทำหน้ามุ่ย รู้อยู่หรอกว่าถูกปฏิเสธแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

"ปลอดภัยครับ"

ได้ยินคำตอบพร้อมยิ้มอ่อนบนใบหน้าหวานละมุนเจอาร์ก็คลี่ยิ้มตอบ น่ารักจนอยากยัดเข้ากระเป๋าลากกลับไปอยู่ด้วย สองคนเดินเข้าไปด้้านในด้วยกัน

เป็นจังหวะเดียวกับที่คิมหันต์เห็นเข้าพอดี เขากัดฟันจ้องเขม็งอย่างไม่ชอบใจ กำมือแน่นจนเลือดห่่อ อยากต่อยคนว่ะ...

แต่พอคิดว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ใจถึงได้สงบลง การได้เห็นน้องมีชีวิตที่ดีมันก็ดีสำหรับเขามากแล้ว 

ออฟฟิศยังคงน่าเบื่อและวุ่นวาย โต๊ะนั่งของเขากับอดีตคนรักช่างห่างไกล หากแต่เขยิบเก้าอี้ไปทางซ้ายเล็กน้อยจะเห็นเรือนผมสีน้ำตาลขยับไปมาเหมือนกำลังพิมพ์งาน มีคอมตั้งโต๊ะเป็นฉากกั้น แต่แค่เห็นเส้นผมน้ำตาลอ่อนชี้โด่ชี้เด่เหมือนกำลังเอ่ยทัก แค่นั้นก็ไม่น่าเบื่อแล้ว

คิมหันต์ยังคงเฝ้ามอง ตกหลุมรักรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เขานับไม่ได้ จนเผลอระบายยิ้มโดยไม่รู้ตัว

"มีเรื่องอะไรดีๆหรือเปล่าครับหัวหน้า" ไวท์ช็อกหน้าสวยเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย ทำให้คิมหันต์หุบยิ้มทันทีหลังได้ยินเสียงใสเอ่ยทัก เป็นเลย์ ไวท์ช็อกกลิ่นมิ้นท์ สมาชิกในทีมที่อยู่ใกล้แล้วให้กลิ่นหอมสดชื่น 

"นั่นสิครับ เหมือนจะดี" ก็เย็นวันนี้เขาจะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบหลายเดือนเลยนี่

ตอบเสร็จก็ก้มหน้าทำงานต่อ เฝ้ารอเวลาเลิกงานแทบทนไม่ได้ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือเป็นพักๆสลับกับทอดมองเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนอีกฝั่งของโต๊ะทำงาน

ไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นและจบลงของพวกเขาสองคน มันไม่ได้เป็นความลับ เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้คนอื่นรับรู้ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นและจบลงก่อนจะมาเจอกันอีกครั้งในบริษัทแห่งนี้

แต่เมื่อกลับบ้านพวกเขาก็ยังเป็นคู่รักในสายตาของแม่และลูกชายตัวน้อยเหมือนเดิม ตกเย็นเวลาเลิกงานของวันนี้ทั้งคู่นั่งรถเก๋งขาวกลับบ้านพร้อมกัน 

ในรถอืมครึมเหมือนท้องฟ้าในยามที่ฝนใกล้ตก แต่เมื่อถึงที่บ้าน มองเห็นหญิงสูงวัยหุ่นเพรียวพร้อมเด็กชายตัวเล็กมายืนต้้อนรับ ทั้งคู่ลงจากรถด้วยใบหน้าสดใส ราวกับฟ้าหลังฝน 

"ป่าป๊า" ลูกชายวิ่งแจ้นมากอดพ่อตัวเองด้วยความคิดถึง 

"มาป๊าหอมหน่อย" คิมเองก็คิดถึงลูกชายมาก มากจริงๆ เขากอดลูกชายแน่น แม้ไวน์อาจจะเข้าใจว่านี่คือการแสดง แต่นี่แหละคือความรู้สึกที่แท้จริงของคนเป็นพ่อที่ไม่ได้เจอหน้าลูกชายมาหลายเดือน

คิดถึงใจจะขาด เขาอุ้มลูกชายขึึ้น จากนั้นก็หอมแก้มป่องๆ โอบกอดแนบแน่น โดยมีสายตาของแม่ยายและอดีตคนรักมองดูอย่างอบอุ่น

"ช่วงนี้งานเยอะมากเลยเหรอลูก เห็นเจ้าไวน์บอกคิมยุ่งจนไม่ได้พักเลย" เธอถามลูกเขยด้วยความเป็นห่วง

"ครับ แต่ต่อไปจะมาทุกวันเลยครับ"

ปัก!

แทบกระอักเลือด เจอศอกแหลมๆของเมียกระทุ้งหน้าท้อง ใบหน้าของคิมแดงก่ำ จุกจนพูดไม่ออก

"แหมม...พี่ก็พูดติดตลก จะมาได้ไงทุกวันครับ งานเยอะขนาดนั้น จริงมั้ย?" ส่วนคนทำก็ดูไม่พอใจ เขาจะพอใจได้ไง เหตุการณ์วันนั้นทำให้เขาโกรธไม่หาย ลืมไม่ลงแต่แปลกที่ยังรักฝังใจ

แล้วถ้ามาทุกวันเขาก็ต้องแสดงบทคนรักที่ไม่เต็มใจเลย'สักนิด'จริงๆ 

"คะ...ครับ หมายถึงอาทิตย์ละครั้ง" คิมบอกแม่ยาย

"ป่ะๆๆ เข้าไปข้างในแม่ทำกับข้าวไว้ให้เยอะเลย"

"ครับ"

สิ้นเสียงทุกคนต่างพากันเข้าบ้าน

"โอ้ะ! แฮมทาโร่มาแย้ว!" เข้าบ้านปุ๊บเห็นทีวีเด็กน้อยรีบดิ้นให้คนเป็นพ่อวางตัวเองลง แล้ววิ่งหน้าตั้งไปนั่งรอบนโต๊ะกินข้าว ตั้งหน้าตั้งตาดูการ์ตูนโปรด

"โอโห แก้มเหมือนโลมาเลย" คนเป็นพ่อแซวลูกชายขณะย่อตัวนั่งเก้าอี้ข้างๆ

"ไม่เห็นเหมือนเลย"

"แก้มป่องเหมือนกันนั่นแหละ"

บรรยากาศในบ้านหลังเล็กที่ตอนแรกมีเพียงยายหลานนั่งดูการ์ตูนกันสองเงียบๆ ตอนนี้กลับครึกครื้นขึ้นมาหลังจากครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

ยังไงลูกก็ต้องการความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่อยู่แล้ว ทั้งคู่เลยตัดสินใจร่วมกันว่าจะปิดบังเรื่องความสัมพันธ์ที่สิ้นสุดลงนี้ไว้ให้มิด เพราะไม่อยากให้เด็กมีปม

"กลับพรุ่งนี้ใช่มั้ย" แม่ยายถามลูกเขยพร้อมยิ้มอ่อนโยน

"ครับ"

กึด..

แค่ตอบสั้นๆ แต่โดนเมียแอบหยิกขาใต้โต๊ะ โคตรปวดใจ 

"พี่เขามีงานทำแต่เช้าน่ะแม่ อีกเดี๋ยวก็กลับแล้ว"

ไวน์ไม่ใช่คนใจแคบถึงขนาดไม่ให้ลูกอยู่กับพ่อ แต่ถ้าจะค้างที่นี่มันเหลือห้องเดียว! เขาทำใจยอมนอนร่วมเตียงกับคนสารเลวไม่ได้จริงๆ

"แต่ผมอยากให้ป๊านอนนี่"

โลมาเอ่ยขัด ทำให้สองคนที่กำลังมองหน้าเหมือนทำสงครามเย็นผ่านสายตา สงบลงแล้วหันไปมองลูกชายแทน

โลมาจะขัดป่ะปิ๊ทำไม!!

ไวน์ยกยิ้มฝืนๆ เขาไม่เคยขัดใจลูกชายเลยสักครั้ง

"งั้นพี่ค่อยกลับพรุ่งนี้เช้าแล้วกันเนอะ^^" 

เขาทำได้เพียงจำใจตกลง ตามน้ำไปก็แค่นั้น

"ได้สิ...ได้เลย" ส่วนอีกตอบ ยิ้มหน้าบาน คล้ายโดนคนเกลียดขี้หน้ามอบดอกไม้ให้ ถึงไม่เต็มใจแต่ก็จะรับมาด้วยความยินดี

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่6

    ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอมทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ "โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่""วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ "วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม "ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่5

    หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา""ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย"เก่งมาก"สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆเพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็งมาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?""ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา""ฮับ" "เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว พอเห

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่4

    กระทั่งถึงลานจอดรถในคอมโด ไวน์ดับเครื่องก่อนลงรถ เดินไปเคาะกระจกเก๋งขาวที่จอดเทียบข้างๆ ก๊อกๆ! เบาๆสองที ไม่นานหน้าต่างสีทึบก็ลดลงเผยให้เห็นโฉมหน้าคนขับ"ลงมา" เขาชะโงกหน้าเข้าไปในตัวรถอย่างไม่เกรงกลัว กระดิกนิ้วทำหน้าเหมือนจะหาเรื่อง คนขับลงจากรถด้วยท่าทางเหลอหลา หน้าแดง ตาปรือ ต้อยๆมายืนตรงหน้าเหมือนหมารอรับคำสั่ง ดูก็รู้ว่าเมาหนักมาก"ตามมาทำไมครับ?" ไวน์เปิดประเด็น ไม่รู้จะได้ปูดหรือได้เปรียบ "เป็นห่วง" ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับสั้นๆ ก่อนหน้าบอกพลาดจูบ ตอนนี้บอกเป็นห่วง สักพักบอกคิดถึง สุดท้ายพรุ่งนี้ ข้ออ้างก็คือ'เมา' ตบท้ายด้วยคำขอโทษ จะเล่นกับใจของเขาไปถึงไหนกัน!จับปล้ำแล้วบอกพลาดไปเลยดีไหม?ไวน์ก็ได้แค่คิดเขาไม่กล้าหรอก ก็โดนผลักไสขนาดนัั้นหนิ "เห็นแล้วหนิครับว่าผมไม่เป็นไร เพราะงั้นไสหัวไปได้แล้วครับ""งั้น..เจอ..กั..นนะ""ไม่เจอจะดีมากเลยครับ" ใจไม่อยากให้กลับหรอก แต่ให้ทำไงอะ ปากมันไปไวกว่าสมอง สุดท้ายเลยได้แต่มองแผ่นหลังกว้างของคิิมหันต์หายเข้าไปในรถตาละห้อยไม่นานเก๋งขาวก็เคลื่อนตัวผ่านไวน์ไป แม่งเอ๊ย! คงเป็นเสียงสบถผ่านสีหน้าของเขาตอนนี้ สามปีไม่เคยพลาดท่า แต่มาตกม้าตายเ

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่3

    "ทำไมครับ?" หือ? เสียงนี้... คิมหันต์ หันไปมองเจ้าของเสียงที่เดินตามมา เห็นเป็นหนุ่มผมทองตาฟ้าเบ้าหน้าลูกครึ่งถึงกับตกใจ "เปล่าครับ ผมสะกิดคนผิด" กะจะสะกิดไหล่ไวน์แต่ดันเป็นเจอาร์ หน้าเลยหมองลง"คุณชอบไวน์เหรอครับ"คิมหันต์กำลังจะเดินกลับแต่คำถามอีกฝ่ายทำให้เขาชะงัก "ไม่ได้ชอบ" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ผมดูออกน่่า อย่าปฏิเสธหน่อยเลย""รักเลยต่างหาก"และคำตอบนัั้นทำให้หนุ่มผมทองนิ่งค้าง ทั้งที่คนตอบเดินจากไปแล้ว เขาไม่คาดคิดถึงสิ่งที่ได้ยิน นั่นมันไม่ต่างอะไรจากการป่าวประกาศว่าเป็นศัตรูกับเขาโต้งๆเลยสักนิด เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าเขากำลังจัีบคุณไวน์อยู่ขณะเดียวกันคิมหันต์เดินออกจากห้องน้ำ สายตาทอดมองไปไกล ทัศนียภาพในกรอบสายตาเห็นเพียงไวท์ช็อกผมน้ำตาลอ่อนนั่งดื่มคนเดียว เขารีบจ้ำอ้าว พยุงตัวให้มั่นไปหาอีกฝ่ายอย่างไร้สติ มาถึงก็จับมือน้อยๆของไวท์ช็อกผมน้ำตาลโดยไม่รู้ตัวไวน์ที่กำลังเคี้ยวเนื้อแก้มตุ่ยถึงกับตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่ทันได้ถามก็ถูกฉุดกระชากให้เดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ "จะพาผมไปไหน!" เขาพยายามสะบัดข้อมือสุดแรงแต่กลับไม่เป็นผล ถูกลากมาที่รถเก๋งขาว กระจกทึบคันหนึ่ง จอดนิ่ง

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่2

    "ทีมB ขอเสนอข้าวปั้นต้มยำกุ้งครับ วัตถุดิบทัั่วไป แต่...""ผมมองว่ามันธรรมดาไป"ไวน์ยังไม่ทันพูดจบคิมหันต์ก็ตัดบททันที"ไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทเหรอครับ?"เอาแล้ว! ดูเหมือนไวน์จะเริ่มฉุน"นั่นสิครับ สงสัยต้องหาเมียสักคนไว้สอนเรื่องมารยาท"กึดไวน์กัดฟันเสียงดังจนคนที่นั่งข้างๆอย่างเจอาร์ได้ยิน แต่เขากลับยิ้มกริ่ม ดูชอบใจที่เห็นไวน์ทำหน้าบึ้งตึงใส่คนตรงหน้า"ผมว่าหัวหน้าทีมBก็พูดถูกนะครับ หัวหน้าทีมAควรจะฟังให้จบก่อน ส่วนจะธรรมดาหรือเปล่านั้นค่อยมาตัดสินหลังจบประชุมกันเถอะครับ" เจอาร์แทรกขึ้นถึงจะอย่างนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนไวน์จะไม่มีอารมณ์สาธยายต่อ เขาไม่ชอบที่คิมหันต์พูดแทรก ขัดแข้งขัดขาตลอด แต่เขาจะไม่ลาออกเพราะเรื่องแค่นี้เด็ดขาด! คิดได้ก็สูดหายใจเข้าลึกๆปรับอารมณ์แล้วเริ่มนำเสนองานต่อ "ที่ผมจะบอกคือ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีรสชาติจัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ แต่ใช้เวลาในการปรุงค่อนข้างนาน ทำให้คนที่อยากทานแต่มีเวลาน้อยอย่างเช่นพนักงานออฟฟิศ หรือกลุ่มคนใช้แรงงาน ผมจึงอยากนำเสนอในรูปแบบข้าวปั้น อิ่ม อร่อย ในงบประหยัดครับ เราเทสสูตรมาแล้วด้วย ลองชิมดูสิครับ" หัวหน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่1

    เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น...แต่ชายหนุ่มกลิ่นตัวหอมละมุนดุจวนิลลายังคงนอนน้ำลายยืดบนเตียง แดดอ่อนยามเช้าสาดผ่านรูม่านทึบเข้ามาในห้องนอน ส่องไปยังร่างไร้สติบนเตียง ขลับผิวขาวและเรือนผมน้ำตาลอ่่อนให้เด่นชัด ก่อนที่เปลือกตานวลบนหน้าหวานเริ่มกระตุก ค่อยๆตื่นจากห้วงภวังค์ความฝัน แล้วลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เอนตัวนั่งพลางอ้าปากหาวหวอดชายหนุ่มลงจากเตียง จัดการแก้ผ้าจนตัวล่อนจ้อนเผยให้เห็นร่างกายขาวเนียน ยอดอกชมพูรวมไปถึงส่วนลับสีสวยขนาดกระทัดรัดพกพาง่ายดุจแหนมตุ้มจิ๋ว เดินตัวเปลือยไปเข้าห้องน้ำ ก่อนอาบน้ำแปรงฟันให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พอเสร็จก็คว้าผ้าขนหนูขาวบนราวเหล็กข้างผนังมายีหัว ขณะก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ จนทางเดินเต็มไปด้วยหยดน้ำติ๋งๆจากอุ้งเท้าน้อยๆของเขาใครมาเห็นเข้าคงอดใจไม่ไหวกับหุ่นเซ็กซี่เย้ายวนนี้แน่ๆครืด ครืดดด~เสียงโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งบนเตียงสั่นดังเข้าไปในโสตประสาท ทำให้หนุ่มหน้าหวานปลายตามองอย่างใคร่รู้ ใครวะ? ก่อนเห็นรายชื่อบนหน้าจอ 'สารเลว' ใบหน้าก็หม่นลงทันที เขาเดินเช็ดผมไปเลือกเสื้อผ้าหน้าตู้อย่างไม่สนใจ คว้าเชิ้ตขาวมาสวม ผูกไทสีแดงตบท้ายด้วยการสวมสแล็คดำขายา

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status