Compartilhar

บทที่6

last update Última atualização: 2025-12-06 00:01:19

ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้

"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"

คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง

"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์

"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอม

ทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่

"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ 

"โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่"

"วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ 

"วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"

แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม 

"ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคนเข้าไปในห้อง จัดการปิดประตูดัง ปัง!

ปุ๊บปั๊บจนทั้งสองตั้งตัวไม่ทัน มองหน้ากันอย่างงุนงง สนุกเขาแหละ "ป่ะป๊าซ่อมรถให้โลมาได้มั้ย" ลูกน้อยยื่นรถของเล่นขนาดเท่าฝ่ามือให้พ่อตัวเอง

คิมหันต์รับมาแล้วมองอย่างพิจารณา เห็นชิ้นส่วนแตกหักหลายอย่าง เขาย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนส่ายหน้าปฏิเสธ 

"พังหมดแล้ว เดี๋ยวป๊าซื้อคันใหม่ให้สิบคันเลยนะครับ โอเคมั้ย?" คนเป็นพ่อย่อตัวลูบหัวลูกน้อยอย่างอ่อนโยนราวกับปลอบประโลม 

โลมารู้... แต่เขาทำใจไม่ได้ ใบหน้าหนูน้อยหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด 

"ผมไม่ได้อยากได้อันใหม่ แต่อยากได้อันเดิม"

มันจี๊ดอยู่ในอกของคิม มันหน่วงอยู่ในใจของไวน์

มันเจ็บจนน้ำตาจะไหลพราก คิมหันต์กอดลูกชายพร้อมๆกันกับไวน์ ทั้งที่คำนั้นลูกพูดถึงรถแต่ทำไมมันถึงทรมานอยู่ในใจมากขนาดนี้

"ป๊าจะซ่อมให้ได้เลย สัญญา" 

"สัญญาแล้วนะ"

สองพ่อลูกเกี่ยวก้อยกัน ส่วนตัวไวน์นั้นกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนน้ำตาจะพรั่งพรูออกมาเป็นสาย

ร้องจนกว่าจะหนำใจ กัดปากกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้ความเจ็บเล็ดลอดออกมาเป็นเสียง รักมากแค่ไหนก็เจ็บมากเท่านั้น คงจะจริง เพราะตลอดสามปีที่ความสัมพันธ์พังทลายมันยากสำหรับไวน์เหลือเกิน

วันแรกที่ไม่มีเขาไวน์นอนจมกองน้ำตา 

เดือนแรกผ่านไปทุกอย่างยังคงดูเหี่ยวเฉาไปหมด

จนกระทั่งหนึ่งปีเวลายังคงเดินหน้าแต่ใจเขากลับจมอยู่ที่เดิม กว่าน้ำตาจะเหือดแห้งก็ใกล้สามปี ซึ่งหมายถึงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา

หมายความว่าตลอดสามปีที่ไม่มีคิมหันต์ ไวน์นอนจมกองน้ำตาเกือบทุกคืน 

ในหนึ่งพันสามสิบห้าวัน เขาร้องไห้ไปแล้วหนึ่งพันแปดสิบแปดวันหรืออาจจะมากกว่านั้น ส่วนเจ็ดวันให้หลังเขาพึ่งทำใจได้บ้าง

จนวันนี้ ตอนนี้ คำพูดของลูกชาย

'ไม่อยากได้คันใหม่ แต่อยากได้คันเดิม' มันทำให้กลั้นน้ำตาไม่อยู่ แม้จะรู้ว่าลูกพูดถึงของเล่นก็ตาม

สักพักไวน์ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดัง ก๊อกๆ! สองครั้ง พร้อมเสียงหญิงสาว "โลมา นอนได้แล้วลูก"

เป็นเสียงคุณยายเรียกหลานไปนอนดังแว่วๆเข้ามาในโสตประสาท

เขาไม่รู้เลยว่าเวลาได้ล่วงเลยจนกระทั่งถึงเวลาที่ตัวเล็กควรเข้านอนแล้ว เขาคงอยู่ในห้องน้ำนานเกินไป จึงตัดสินใจมองตัวเองในกระจก "เชี่ย!" ตาบวมเหมือนโดนผึ้งต่อย

"ฝันดีฮับ" ส่วนในห้อง ลูกชายวิ่งไปจับมือคุณยายโบกมือป่ะป๊า คิมยิ้มให้ลูกชาย

และเมื่อประตูปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆหุบลง สามปีแล้วที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับอดีตคนรัก เขาเองก็รู้ว่าไวน์ทำอะไรในห้องน้ำ จึงไม่กล้าเคาะเรียกเพราะกลัวน้องมันอาย

มันกระอักกระอ่วนใจจนทำตัวไม่ถูก แต่ควรพูดอะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็บรรเทาความตึงเครียดในห้อง เขาจึงตัดสินใจนอนรอไวน์บนเตียงเงียบๆ รอให้อีกฝ่ายก้าวขาออกมาด้วยตัวเอง

เวลาผ่านไปนาน น้องมันก็ไม่ยอมออกจากห้องสักที คิมหันต์เริ่มหงุดหงิดและเป็นห่วง แต่พอกำลังจะเดินลงเตียงไปเคาะประตูเรียก บานประตูก็แง้มออกพอดิบพอดี และไม่รู้ทำไมเขาถึงหลับตาลงกระทันหัน 

ตึก ตึก ตึก...

ได้ยินเสียงฝีเท้าย่องเข้ามาใกล้ๆเบาๆ ก่อนจะรู้สึกถึงเตียงยุบลง ไม่นานก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นคุ้นเคยทำให้หัวใจเขาเริ่มดังโครมคราม คนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรแต่กลิ่นกายหอมละมุนทำให้เขาแทบคลั่ง คิดถึง คิดถึง คิดถึง

อยากกอด อยากจูบ อยากหอม เสียงในหัวกำลังเรียกร้อง แต่คิมหันต์จำเป็นต้องยับยั้งใจชั่งใจ

"ขอแค่วันเดียว..." ยอมรับว่าหน้าด้านและดักดาน ที่ยังโอบกอดคนที่เอาแต่ผลักไสตัวเอง จะให้ทำไงก็พออยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ไวน์ยั้งใจไม่อยู่จริงๆ เขาเองก็อยากผลักไส พยายามผลักไสเขาเต็มกำลังเหมือนกัน

แต่มันเจ็บมากนะ

ไวน์ร้องไห้อีกครั้งอย่างทนไม่ไหว เขากลั้นน้ำตาไม่ไหวอีกแล้ว รู้ว่าพี่คิมแกล้งหลับ "ฮือ" ไม่ได้ขอให้กลับมา 

คิมหันต์เองก็ไม่ได้อยากแกล้งหลับนักหรอก แต่ไม่อยากตื่นมาแล้วทำตัวผลักไสอีกฝ่าย แค่ได้ยินเสียงร้้องไห้ก็ปวดใจจนอยากกอดน้องไว้แน่นๆแทบบ้าแล้ว

เขากัดฟันแน่นข่มใจตัวเอง ในใจตะโกนขอโทษซ้ำๆอย่างปวดร้าว พี่ขอโทษไวน์ พี่ขอโทษ 

"ทิ้งผมแล้วชีวิตดีขึ้นมั้ยครับ ปล่อยผมโดดเดี่ยวในห้องที่พี่เคยอยู่ สำนึกผิดบ้างหรือเปล่า..." ไวน์หยุดร้องไห้ พูดไปสะอื้นไปขณะใบหน้าซุกอกกว้างสูดกลิ่นเข้มคุ้นเคยผสมน้ำมูกตัวเอง "ส่วนผมน่ะเหงามากเลย"

"พี่ทำได้ยังไง ทิ้งร่องรอยตัวเองเต็มไปหมดแล้วจากไปแบบนั้น ผมแม่งโคตรเจ็บ" 

ห้องน้ำที่เคยส่องกระจกแปรงฟันด้วยกันทุกเช้า ในครัวที่มักทำอาหารให้กันชิม เตียงที่เคยนอนร่วมกัน ทุกอย่างในคอนโดที่ไวน์อยู่จนถึงตอนนี้มีแต่ความทรงจำของเขากับคิมหัันต์ แม้กระทั่งในห้องนี้ พวกเขาก็เคยใช้ร่วมกันมาแล้ว

เพียงแต่วันนี้ไวน์ไม่ต้องโอบกอดตัวเองเหมือนทุกคืน เขาได้กอดคนที่อยากกอดมาตลอดแล้ว ทั้งยังได้ระบายความในใจทั้งหมด ไม่ต้องแสร้งเล่นละครตบตาว่าไม่เป็นไรทั้งที่ใจแม่งโคตรเจ็บ

ไม่ไหวแล้ว...

คิมหันต์เองก็จะบ้าตาย เขาหันไปกอดตอบคนที่ตัวเองรักและโหยหามาตลอด กอดแน่นๆด้วยความเจ็บปวด ให้เวลาตั้งสามปีทำไมไม่ลืมกันสักที! 

คิมรู้ว่าขอโทษอย่างเดียวมันคงไม่พอ ตอนนี้เขาไม่กล้าผลักไส ถือว่าพลาดกอดเพราะละเมอแล้วกัน

Continue a ler este livro gratuitamente
Escaneie o código para baixar o App

Último capítulo

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่6

    ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอมทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ "โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่""วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ "วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม "ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่5

    หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา""ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย"เก่งมาก"สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆเพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็งมาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?""ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา""ฮับ" "เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว พอเห

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่4

    กระทั่งถึงลานจอดรถในคอมโด ไวน์ดับเครื่องก่อนลงรถ เดินไปเคาะกระจกเก๋งขาวที่จอดเทียบข้างๆ ก๊อกๆ! เบาๆสองที ไม่นานหน้าต่างสีทึบก็ลดลงเผยให้เห็นโฉมหน้าคนขับ"ลงมา" เขาชะโงกหน้าเข้าไปในตัวรถอย่างไม่เกรงกลัว กระดิกนิ้วทำหน้าเหมือนจะหาเรื่อง คนขับลงจากรถด้วยท่าทางเหลอหลา หน้าแดง ตาปรือ ต้อยๆมายืนตรงหน้าเหมือนหมารอรับคำสั่ง ดูก็รู้ว่าเมาหนักมาก"ตามมาทำไมครับ?" ไวน์เปิดประเด็น ไม่รู้จะได้ปูดหรือได้เปรียบ "เป็นห่วง" ร่างสูงตรงหน้าตอบกลับสั้นๆ ก่อนหน้าบอกพลาดจูบ ตอนนี้บอกเป็นห่วง สักพักบอกคิดถึง สุดท้ายพรุ่งนี้ ข้ออ้างก็คือ'เมา' ตบท้ายด้วยคำขอโทษ จะเล่นกับใจของเขาไปถึงไหนกัน!จับปล้ำแล้วบอกพลาดไปเลยดีไหม?ไวน์ก็ได้แค่คิดเขาไม่กล้าหรอก ก็โดนผลักไสขนาดนัั้นหนิ "เห็นแล้วหนิครับว่าผมไม่เป็นไร เพราะงั้นไสหัวไปได้แล้วครับ""งั้น..เจอ..กั..นนะ""ไม่เจอจะดีมากเลยครับ" ใจไม่อยากให้กลับหรอก แต่ให้ทำไงอะ ปากมันไปไวกว่าสมอง สุดท้ายเลยได้แต่มองแผ่นหลังกว้างของคิิมหันต์หายเข้าไปในรถตาละห้อยไม่นานเก๋งขาวก็เคลื่อนตัวผ่านไวน์ไป แม่งเอ๊ย! คงเป็นเสียงสบถผ่านสีหน้าของเขาตอนนี้ สามปีไม่เคยพลาดท่า แต่มาตกม้าตายเ

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่3

    "ทำไมครับ?" หือ? เสียงนี้... คิมหันต์ หันไปมองเจ้าของเสียงที่เดินตามมา เห็นเป็นหนุ่มผมทองตาฟ้าเบ้าหน้าลูกครึ่งถึงกับตกใจ "เปล่าครับ ผมสะกิดคนผิด" กะจะสะกิดไหล่ไวน์แต่ดันเป็นเจอาร์ หน้าเลยหมองลง"คุณชอบไวน์เหรอครับ"คิมหันต์กำลังจะเดินกลับแต่คำถามอีกฝ่ายทำให้เขาชะงัก "ไม่ได้ชอบ" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ผมดูออกน่่า อย่าปฏิเสธหน่อยเลย""รักเลยต่างหาก"และคำตอบนัั้นทำให้หนุ่มผมทองนิ่งค้าง ทั้งที่คนตอบเดินจากไปแล้ว เขาไม่คาดคิดถึงสิ่งที่ได้ยิน นั่นมันไม่ต่างอะไรจากการป่าวประกาศว่าเป็นศัตรูกับเขาโต้งๆเลยสักนิด เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าเขากำลังจัีบคุณไวน์อยู่ขณะเดียวกันคิมหันต์เดินออกจากห้องน้ำ สายตาทอดมองไปไกล ทัศนียภาพในกรอบสายตาเห็นเพียงไวท์ช็อกผมน้ำตาลอ่อนนั่งดื่มคนเดียว เขารีบจ้ำอ้าว พยุงตัวให้มั่นไปหาอีกฝ่ายอย่างไร้สติ มาถึงก็จับมือน้อยๆของไวท์ช็อกผมน้ำตาลโดยไม่รู้ตัวไวน์ที่กำลังเคี้ยวเนื้อแก้มตุ่ยถึงกับตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่ทันได้ถามก็ถูกฉุดกระชากให้เดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ "จะพาผมไปไหน!" เขาพยายามสะบัดข้อมือสุดแรงแต่กลับไม่เป็นผล ถูกลากมาที่รถเก๋งขาว กระจกทึบคันหนึ่ง จอดนิ่ง

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่2

    "ทีมB ขอเสนอข้าวปั้นต้มยำกุ้งครับ วัตถุดิบทัั่วไป แต่...""ผมมองว่ามันธรรมดาไป"ไวน์ยังไม่ทันพูดจบคิมหันต์ก็ตัดบททันที"ไม่มีใครสอนเรื่องมารยาทเหรอครับ?"เอาแล้ว! ดูเหมือนไวน์จะเริ่มฉุน"นั่นสิครับ สงสัยต้องหาเมียสักคนไว้สอนเรื่องมารยาท"กึดไวน์กัดฟันเสียงดังจนคนที่นั่งข้างๆอย่างเจอาร์ได้ยิน แต่เขากลับยิ้มกริ่ม ดูชอบใจที่เห็นไวน์ทำหน้าบึ้งตึงใส่คนตรงหน้า"ผมว่าหัวหน้าทีมBก็พูดถูกนะครับ หัวหน้าทีมAควรจะฟังให้จบก่อน ส่วนจะธรรมดาหรือเปล่านั้นค่อยมาตัดสินหลังจบประชุมกันเถอะครับ" เจอาร์แทรกขึ้นถึงจะอย่างนั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนไวน์จะไม่มีอารมณ์สาธยายต่อ เขาไม่ชอบที่คิมหันต์พูดแทรก ขัดแข้งขัดขาตลอด แต่เขาจะไม่ลาออกเพราะเรื่องแค่นี้เด็ดขาด! คิดได้ก็สูดหายใจเข้าลึกๆปรับอารมณ์แล้วเริ่มนำเสนองานต่อ "ที่ผมจะบอกคือ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีรสชาติจัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ แต่ใช้เวลาในการปรุงค่อนข้างนาน ทำให้คนที่อยากทานแต่มีเวลาน้อยอย่างเช่นพนักงานออฟฟิศ หรือกลุ่มคนใช้แรงงาน ผมจึงอยากนำเสนอในรูปแบบข้าวปั้น อิ่ม อร่อย ในงบประหยัดครับ เราเทสสูตรมาแล้วด้วย ลองชิมดูสิครับ" หัวหน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่1

    เช้าวันใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น...แต่ชายหนุ่มกลิ่นตัวหอมละมุนดุจวนิลลายังคงนอนน้ำลายยืดบนเตียง แดดอ่อนยามเช้าสาดผ่านรูม่านทึบเข้ามาในห้องนอน ส่องไปยังร่างไร้สติบนเตียง ขลับผิวขาวและเรือนผมน้ำตาลอ่่อนให้เด่นชัด ก่อนที่เปลือกตานวลบนหน้าหวานเริ่มกระตุก ค่อยๆตื่นจากห้วงภวังค์ความฝัน แล้วลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ เอนตัวนั่งพลางอ้าปากหาวหวอดชายหนุ่มลงจากเตียง จัดการแก้ผ้าจนตัวล่อนจ้อนเผยให้เห็นร่างกายขาวเนียน ยอดอกชมพูรวมไปถึงส่วนลับสีสวยขนาดกระทัดรัดพกพาง่ายดุจแหนมตุ้มจิ๋ว เดินตัวเปลือยไปเข้าห้องน้ำ ก่อนอาบน้ำแปรงฟันให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พอเสร็จก็คว้าผ้าขนหนูขาวบนราวเหล็กข้างผนังมายีหัว ขณะก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ จนทางเดินเต็มไปด้วยหยดน้ำติ๋งๆจากอุ้งเท้าน้อยๆของเขาใครมาเห็นเข้าคงอดใจไม่ไหวกับหุ่นเซ็กซี่เย้ายวนนี้แน่ๆครืด ครืดดด~เสียงโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งบนเตียงสั่นดังเข้าไปในโสตประสาท ทำให้หนุ่มหน้าหวานปลายตามองอย่างใคร่รู้ ใครวะ? ก่อนเห็นรายชื่อบนหน้าจอ 'สารเลว' ใบหน้าก็หม่นลงทันที เขาเดินเช็ดผมไปเลือกเสื้อผ้าหน้าตู้อย่างไม่สนใจ คว้าเชิ้ตขาวมาสวม ผูกไทสีแดงตบท้ายด้วยการสวมสแล็คดำขายา

Mais capítulos
Explore e leia bons romances gratuitamente
Acesso gratuito a um vasto número de bons romances no app GoodNovel. Baixe os livros que você gosta e leia em qualquer lugar e a qualquer hora.
Leia livros gratuitamente no app
ESCANEIE O CÓDIGO PARA LER NO APP
DMCA.com Protection Status