บททั้งหมดของ วุ่นรักวิวาห์ลวง: บทที่ 1 - บทที่ 10
405
บทที่ 1
ฤดูร้อนคืนหนึ่ง ในภูเขาที่ทั้งชื้นและอบอ้าวฉินซูใช้เวลาทั้งวันหายาสมุนไพร เหนื่อยล้าสายตัวแทบขาด ฝ่าเท้าทั้งสองเกิดอาการห้อเลือดเธอถอดรองเท้าและถุงเท้าออก เหยียดเท้าลงไปแช่ในแม่น้ำขณะกำลังเพลิดเพลินกับความเย็นสบายของสายน้ำ จู่ ๆ ก็มีเสียงดังสะเทือนขึ้นมาจากทางด้านหลัง และเสียงนั้นก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังบินแกว่งไปแกว่งมา ค่อย ๆ ลดตัวลงสู่พื้นดิน ในที่สุดก็ลื่นไถลจนแทบจะไปติดอยู่บนพื้นหญ้าพายุลมที่โหมกระหน่ำพัดทำให้ปีกของเครื่องบินแยกออกเป็นชิ้น ๆ ใบหญ้าทั้งหมดพัดปลิวจนเกิดเสียงดังซ่าซ่าลมพัดแรงจนฉินซูไม่สามารถลืมตาได้ปังเสียงที่ดังนั้นตามมาด้วยการพลิกคว่ำของเฮลิคอปเตอร์ห่างออกไปจากเธอเพียงแค่ 20 ถึง 30 เมตรฉินซูลืมตาขึ้นมาด้วยความลังเล เธองุนงงไปชั่วครู่นี่มัน… เครื่องบินตก?ในที่สุดเธอก็มีปฏิกิริยาออกมา หันไปมองเฮลิคอปเตอร์ที่สูญเสียการควบคุมมีคนอยู่ข้างใน!ภายในแสงที่มืดสลัว พยายามฝืนมองเข้าไป ปรากฏเงาของคน ๆ หนึ่งในตำแหน่งที่นั่งนักบินควันดำหนาทึบพวยพุ่งออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ อาจจะทำให้เกิดระเบิดในฐานะแพทย์ฝึกหัด ฉินซูไม่สามารถปล
Read More
บทที่ 2
ฉินซูเข้าร่วมการฝึกอบรมในชนบทที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยจำนวนนักศึกษาแพทย์ที่เข้าร่วมการอบรมครั้งนี้มีด้วยกัน 20 กว่าคน สถานที่จัดตั้งค่ายอยู่ในหมู่บ้านซานเซียหลังจากกลับมาถึงค่าย เพื่อน ๆ ต่างก็นอนหลับกันหมดฉินซูตักน้ำชำระล้างร่างกายเมื่อเห็นร่องรอยที่อยู่บนร่างกายของตนเอง เบ้าตาก็แดงก่ำอุตส่าห์ทะนุถนอมความบริสุทธิ์ของตนเองไว้กว่า 20 ปี โดยคิดไว้ว่าจะมอบมันให้แก่ชายผู้เป็นที่รัก“เมิ่งฟาน ฉันขอโทษ”ฉินซูก้มหน้าสะอื้นไห้ ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าเธอจะควบคุมจิตใจและอารมณ์ให้คืนสู่สภาพเดิมได้อีกครั้งการร้องไห้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เธอเสียตัวไปแล้ว และไม่ได้มีความคิดที่จะปกปิดหลินเมิ่งฟาน เธอตัดใจสินที่จะสารภาพกับเขาหลังจากกลับไปเรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุ อีกทั้งเมิ่งฟานยังเป็นคนที่อ่อนโยน เอาใจใส่ และรักเธอมาก เธอเชื่อว่าเขาจะต้องเข้าใจเธอ…หลังจากเช็ดทำความสะอาดเสร็จ ฉินซูก็กลับไปนอนเธอพบว่าเตียงนอนด้านข้างยังว่างเปล่า หวังอี้หลินเพื่อนสนิทของเธอยังไม่กลับมา“อี้หลินบอกว่าต้องไปกินข้าวที่บ้านญาติในเมือง ระยะทางค่อนข้างจะไกลมาก ดูท่าแล้วคืนนี้คงจะไม่กลับมา...”คิดได้แบบนี
Read More
บทที่ 3
หลินเมิ่งฟานโดนตบฉินชูที่อยู่ด้านหน้าเขาในตอนนี้ เคยเป็นคนที่น่ารักน่าเอ็นดู อ่อนโยน จงรักภักดี และพึงพอใจในศักดิ์ศรีทั้งหมดของเขาตลอดมาฝ่ามือที่ตบลงบนใบหน้าเขาทำให้ศักดิ์ศรีทั้งหมดสลายหายไปในพริบตา“ฉินซู”หลินเมิ่งฟานโกรธ เนื่องจากความละอายและขุ่นเคือง เขาต้องการที่จะเอาคืนเธอดวงตาที่แหลมคมจ้องมองไปที่คอของเธอเขากระชากคอเสื้อเธอบริเวณกระดูกไหปลาร้าเล็ก ๆ ของเธอปรากฏร่องรอยต่าง ๆถางเสี่ยวหรูที่โดนตบรู้สึกคับแค้นใจ เมื่อเห็นร่องรอยนั้นก็ยิ้มเยาะและพูดจาถากถางขึ้นมา “เมิ่งฟาน ดูเหมือนว่าแฟนสาวคนนี้ของเธอที่ยึดมั่นถือมั่นในคุณธรรมนักหนาก็ร้ายไม่เบานะ!”หลินเมิ่งฟานหน้าซีด“ฉินซู เกิดอะไรขึ้น?!”ฉินซูหัวเราะเยาะ “เหอะ นายคิดว่าไงล่ะ?”เธอมาหาเขาเพื่อให้เขาช่วยปลอบประโลม แต่กลับมาพบเจอสถานการณ์ที่ตัวเองโดนสวมเขาในตอนนี้ ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานให้เขาฟังแล้วฉินซูปัดมือเขาออก ค่อย ๆ จัดแต่งคอเสื้อให้เข้าที่ เผยน้ำเสียงแข็งกระด้างเสียดสีออกมา “นายมีอะไรกันลับหลังฉันได้ ฉันก็สามารถสวมเขาให้นายได้เหมือนกัน!”“ทำไมเธอถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้? อยู่
Read More
บทที่ 4
หวังอี้หลินได้รับรูปถ่ายสร้อยคอ เมื่อมองดูเธอก็รู้สึกคุ้นตาขึ้นมาทันทีจางเหวิน แม่ของเธอเข้าไปมองดูใกล้ ๆ แล้วถอนใจ “คาดไม่ถึงเลยว่าสร้อยคอที่ไม่มีราคาเส้นนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของภรรยาทายาทตระกูลฉู่”หวังอี้หลินตกใจเธอจำได้แล้ว!สร้อยคอเส้นนี้ คือเส้นที่ห้อยอยู่ที่คอของฉินซูที่แท้ ฉินซูก็เป็นคนที่ช่วยฉู่หลินเฉิน!หวังเจิ้นฮวาพูด “หยุดพูด แล้วรีบหาสร้อยคอเส้นนั้นให้เจอให้เร็วที่สุดเถอะ ถ้าหาไม่เจอ ลูกสาวของเราจะแต่งงานเข้าไปในตระกูลฉู่ได้อย่างไร?”“ใช่ ใช่ ใช่!”จางเหวินพูดพลางไปหยิบกระเป๋าสัมภาระของหวังอี้หลิน“คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องหาแล้ว! หนูรู้แล้วว่าสร้อยเส้นนั้นอยู่ที่ไหน”หวังอี้หลินหยุดทั้งสองคนด้วยสีหน้าที่หนักแน่นสองสามีภรรยามองเธอด้วยความประหลาดใจ“สร้อยคออยู่ข้างนอก หนูจะไปเอามันกลับมา”พูดจบหวังอี้หลินก็ออกไปหวังเจิ้นฮวาและจางเหวินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างอีกครั้งจางเหวินตบหน้าอกตัวเอง “เจ้าเด็กคนนี้ ทำให้พวกเรากังวลจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ไม่รู้ว่าของสำคัญขนาดนั้นเอาไปวางไว้ข้างนอกได้อย่างไร...”หวังอี้หลินมุ่งตรงไปหาฉินซูที่มหาวิทยาลัยเพื่อ
Read More
บทที่ 5
ในปีนั้นอากาศหนาวจัด คุณย่าเก็บฉินซูที่ยังเป็นเด็กทารกมาเลี้ยง ท่านเลี้ยงดูฉินซูโดยลำพัง สอนวิธีฝังเข็มให้เธอถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่า ในโลกนี้ก็จะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อฉินซูคนนี้คุณย่ามอบชีวิตใหม่ให้แก่เธอ…ฉินซูกำโทรศัพท์มือถือไว้ในมือแน่นเธอโกรธมากจนไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นได้ขณะเดียวกัน มีเสียงเคาะประตูเบา ๆ จากด้านนอก“คุณฉิน คุณตื่นหรือยัง?”ฉินซูพยายามจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงเพื่อคุณย่า เธอจึงทำได้เพียงทำตามคำพูดของพ่อแม่บุญธรรมไปก่อน ก่อนที่เธอจะหาวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ได้ “เชิญค่ะ”น้ำเสียงของฉินซูแผ่วลง หญิงวัยกลางคนยกถาดเข้ามา“คุณท่านให้ฉันเข้ามาดูคุณ ถ้าคุณตื่นแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ทุกคนพร้อมกันหมดแล้ว”ฉินซูมึนงง ตอบไปแค่ว่า “ตกลง”จากนั้นเธอก็มองดูหญิงวัยกลางคนเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบกระโปรงหนึ่งตัว รองเท้าหนึ่งคู่ และเครื่องประดับหนึ่งชุดออกมาจากในตู้เสื้อผ้า“คุณท่านเตรียมสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้คุณ”แค่ไปพบคุณท่านเอง ดูจะยิ่งใหญ่ไปหน่อยฉินซูคิดในใจแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าตระกูลฉู่ร่ำรวยขนาดไหน จะพิถีพิถันกับการแต่งหน้าแต่งตัวก็เป
Read More
บทที่ 6
เว่ยเหอตกตะลึง นี่มัน...อะไรกันเนี่ย?ฉู่หลินเฉินเม้มปากแน่น ดวงตาเรียวยาวตัดกับนัยน์ตาดำขลับจ้องไปยังฉินซู รังสีแห่งความน่าเกรงขามและเยือกเย็นแพร่กระจายไปทั่วบริเวณภายในพริบตาฉินซูรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวเมื่อเผชิญเข้ากับสายตาที่ดุดันดั่งเหยี่ยวเจ้าเวหา หัวใจของเธอก็บีบรัดขึ้นมาทันทีในชั่วพริบตาเดียว เหมือนลมหายใจถูกบีบรั้งด้วยมือที่มองไม่เห็นจนทำให้หายใจแทบไม่ออกฉินซูหลบสายตาของเขาอย่างไม่ให้ผิดสังเกตในตอนนั้นเอง น้ำเสียงที่เย็นชาของฉู่หลินเฉินก็ดังขึ้น “เว่ยเหอ ส่งแขก”เว่อเหอเข้าใจความหมายของคุณชายทันที รีบเดินไปยังด้านหน้าของนักข่าว“ตอนนี้คุณชายมีธุระส่วนตัวที่ต้องจัดการ ขอให้ทุกท่านกลับไปก่อน อีกเรื่องหนึ่ง ขอให้ทุกท่านลบภาพถ่าย และวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับตระกูลฉู่วันนี้ทิ้งทั้งหมด”นักข่าวต่างก็มองหน้ากัน หากจะขอให้กลับออกไปพวกเขาก็เข้าใจ แต่มันยากที่จะเข้าใจในความต้องการอย่างหลัง จึงพากันมองไปยังคุณท่านของตระกูลฉู่“อาเฉิน นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่?” ซ่งจิ่นหรงพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ เพราะเธอคือคนที่ตั้งใจเชิญนักข่าวมา“เดี๋ยวคุณย่าก็จะเข้าใจ”ตามความต้องการของฉู่หลินเฉิ
Read More
บทที่ 7
ความรู้สึกซาบซึ้งของฉินซูนั้นสลายหายไปหมดสิ้นในชั่วพริบตาเธอพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “คุณท่านจะไม่เป็นอะไร”ดวงตาที่นิ่งเฉย น้ำเสียงที่ไพเราะ แสดงออกให้เห็นถึงความมั่นใจไปโดยปริยายแค่เพียงชั่วพริบตาของฉู่หลินเฉิน เมื่อเขามองเธออีกครั้ง ก็เห็นเธอก้มลงไปเริ่มทำการปฐมพยาบาลโรคลมชักเมื่อกำเริบดูเหมือนจะน่ากลัว แต่ความจริงแล้ว ขอเพียงแต่คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้วิธีจัดการที่ถูกต้อง ก็จะสามารถช่วยเหลือได้ ทำให้ไม่อันตรายถึงแก่ชีวิตแต่ถ้าโกลาหลเหมือนอย่างคนในตระกูลฉู่ก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ก็จะกลายเป็นอีกอย่างขณะที่ฉินซูเข้าสู่กระบวนการรักษา เธอก็จะจดจ่ออยู่กับการรักษาอย่างเต็มที่ โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างในตอนนี้ เธอพูดออกมาโดยที่ไม่เงยหน้า “พวกคุณถอยออกไป อย่ามุง ให้อากาศได้ถ่ายเท!”ฉู่หยุนซีที่ยืนอยู่ด้านข้างเบิกตากว้าง นึกไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่หลอกลวงคนนี้กล้าออกคำสั่งกับคนในครอบครัวเธอแต่เธอสิ่งทำให้เธอตกใจยิ่งไปกว่านั้นคือ ฉู่หลินเฉินลุกขึ้นให้ความร่วมมือเป็นคนแรก เขาถอยออกไปด้านข้างและยังส่งสัญญาณให้ฉู่สวี่และภรรยาถอยออกมาฉู่หยุนซีกัดฟันกรอด ยิ่งเห็นสายตาของฉินซูยิ่งทำให้ไม่พอใจฉิน
Read More
บทที่ 8
สายตาที่ดุดันมองไปยังฉินซูโดยทันที เขาแปลกใจเล็กน้อย และในไม่ช้าก็เปลี่ยนเป็นความโกรธจาง ๆ ผู้หญิงคนนี้…“เธอมีความเห็นได้ด้วยเหรอ?” ฉู่หยุนซีกรอกตาอย่างไม่พอใจฉินซูมองไปที่เธอ ยิ้มออกมาเล็กน้อย สีหน้าเฉยเมย “ฉันก็เป็นแค่ของเลียนแบบ เป็นผู้หญิงหลอกลวงที่มาจากครอบครัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีฐานะทางสังคมอะไร สิ่งสำคัญก็คือ ฉันแสดงละครไม่เก่ง ถ้าเกิดว่าฉันบังเอิญเผยความจริงออกมา มันจะไม่ยิ่งทำให้ตระกูลคุณเสียหน้าเหรอ?”ฉู่หยุนซีตกตะลึงของเลียนแบบ ครอบครัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีฐานะทางสังคม ผู้หญิงหลอกลวง… ทั้งหมดนี้เป็นคำพูดที่เธอเพิ่งจะเหน็บแนมฉินซูไปคาดไม่ถึงว่าเธอจดจำมันไว้ในใจทุกคำ และยังจะเหน็บแนมกลับมาอีก!ฉู่หยุนซีพาลโกรธจากความอับอาย พูดอย่างหยิ่งยโส “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงกับต้องให้ตระกูลฉู่ของฉันขอร้องเธอเชียวเหรอ?”พูดจบ ก็จงใจย้ำอีกประโยคว่า “ของเลียนแบบ!”ฉินซูไม่สนใจทันใดนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความอึมครึม หันไปมองสายตาที่นิ่งเฉยและเย็นชาของชายหนุ่ม“คุณคิดว่าคุณมีสิทธิเลือกไหม?”เสียงต่ำของชายหนุ่มเอ่ยเตือนสติ“ถ้าฉันไม่ให้ความร่วมมือ พวกคุณจะส่งฉันไปสถานีตำรวจเหรอ?”
Read More
บทที่ 9
สิ่งที่ตอบเธอคือสายตาที่ลึกลับไม่มีที่สิ้นสุดของฉู่หลินเฉิน และคำพูดที่ไม่สามารถจะขัดขืนได้ “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ที่อยู่อาศัยและการเดินทางของเธอ ฉันเป็นคนตัดสินใจ”ฉินซูนิ่งเงียบ คิดไปถึงนักข่าวเมื่อกี้ในช่วงเวลาที่เธอต้องแสดงละครเป็นคุณหนูของตระกูลฉู่ ก็จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโดนนักข่าว “จับตามอง” ได้เธอไม่ใช่ฉินซู เด็กผู้หญิงที่เป็นนักเรียนแพทย์ธรรมดาทั่วไปเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว จะกลับไปเรียนต่อที่มหาลัยก็ไม่สามารถทำได้แต่ฉินซูก็ยังคงพยายามต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง“แบบนั้นก็อาจจะรบกวนคุณไปหน่อย ฉันอยู่ที่บ้านก็ได้ แค่ไม่ออกไปข้างนอกตามอำเภอใจ… ถ้าคุณมีอะไรที่ต้องการความร่วมมือจากฉัน ฉันพร้อมช่วยตลอดเวลาเลย”ฉินซูพูดอย่างตรงไปตรงมา สายตามองไปที่ด้านข้างของเขาคิ้วขมวดเข้ม จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากบางเม้มสนิท… โครงหน้าที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติฉินซูไม่ได้เป็นคนที่ยึดติดกับรูปร่างหน้าตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ผู้ชายคนนี้หล่อแบบ 360 องศา ไม่มีที่ติเลยจริง ๆอยู่ ๆ ฉู่หลินเฉินหันศีรษะมา ฉินซูรีบหยุดความคิดของเธอลงไปในวินาทีนั้น และมองเขาอย่างนิ่งเฉย“ไม่ได้” เขาปฏิเสธอย่าง
Read More
บทที่ 10
หวังอี้หลินรับโทรศัพท์จากเว่ยเหออีกครั้ง หลังจากฟังเรื่องราวที่เขาเล่าจนจบ ในที่สุดความวิตกกังวลในจิตใจเธอก็ลดลงเธอกลัวมากว่าฉินซูจะบอกความจริงต่อหน้าคนตระกูลฉู่ จากนั้นคำโกหกของเธอก็จะทำร้ายตัวเธอเองแต่เมื่อเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นตอนนี้หวังอี้หลินมั่นใจ ฉินซูไม่รู้เลยสักนิดว่าคนที่เธอช่วยในคืนนั้นคือใคร!ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าคำโกหกของตัวเองจะถูกเปิดโปง! รอให้ฉินซูออกไปจากตระกูลฉู่ เธอก็จะกลายเป็นคุณหนูของตระกูลฉู่!หวังอี้หลินมีความมั่นใจมาก แต่เธอแสร้งทำเป็นพูดอย่างน้อยใจ “แล้วเมื่อไหร่ที่คุณชายฉู่จะสามารถแต่งงานกับฉันได้? ทันทีที่ฉันคิดว่าฉินซูแต่งงานกับคุณชายฉู่แทนฉัน ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจเลย”เว่ยเหอพูด “คุณไม่ต้องเป็นกังวล คุณชายฉู่ไม่ได้ชอบฉินซู และอีกไม่นานก็จะไล่เธอไป”พูดจบก็กล่าวเสริมว่า “คุณชายฉู่กำชับว่า ถ้าคุณต้องการอะไรให้บอกได้เลย”หวังอี้หลินดีใจมาก กรอกตาไปมา “ถ้าอย่างนั้น สร้อยเส้นนั้นที่คุณชายฉู่มอบให้ฉัน ฉันเอามันกลับมาได้ไหม? เพราะฉันชอบมันมาก”ถ้าฉินซูเห็นสร้อยคอเส้นนั้น เธอก็จะจำเรื่องคืนนั้นได้ มันไม่ดีแน่เธอต้องเตรียมการเผื่อไว้“อันน
Read More
ก่อนหน้า
123456
...
41
DMCA.com Protection Status