Share

บทที่ 1307

Author: โม่เสียวชี่
ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ขนตาหนาทอดเงาลงบนใบหน้าซีดเซียวของเขา

ราวกับถูกดูดเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดไปในพริบตา เซียวเหิงทรุดตัว ลงกับพนักเก้าอี้เย็นเฉียบ ทั้งร่างเหมือนถูกความมืดที่มองไม่เห็นกลืนกินทีละน้อย จมลึกลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายตกสู่ห้วงทะเลแห่งความสิ้นหวังที่เงียบงัน

"คงจะ..." เสียงแหบต่ำของเขา ลอยไปในอากาศที่เย็นเยือก ราวกับกำลังหายใจไม่ออกแลกำลังจมน้ำ "คงจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายเลย ใช่หรือไม่?"

ทั้งที่แสงแดดนอกหน้าต่างแผดจ้าขึ้น

แต่คนทั้งสองในห้อง กลับเหมือนจมดิ่งลงไปในบ่อน้ำเย็นเยือก

เฉียวเนี่ยนกุมข้อมือตนเองแน่น ปลายเล็บจิกลงบนเนื้อ แต่ความเจ็บปวดนั้นก็มิอาจเรียกสติเฉียวเนี่ยนกลับมาได้

นางสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มเสียงสะอื้นในลำคอ แล้วกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่ "ข้ารักษาเจ้าได้"

ระหว่างที่พูด ก็ค่อยๆ คลี่ห่อบรรจุเข็มทองเก้าแสงดาวออกตรงหน้าเซียวเหิง

เซียวเหิงกับสำนักราชาโอสถนั้น ก็มีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกันอยู่บ้าง

แม้เฉียวเนี่ยนจะไม่รู้ว่าเซียวเหิงรู้จักกับผู้ใดในสำนักราชาโอสถกันแน่ แต่ยารักษาบาดแผลในกองทัพของเซียวเหิง ล้วนมาจากสำนักราชาโอสถ

เช่นนั้น เฉียวเนี่ยนจึงคาดว่า เซียวเห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
LiYi Tk
ความจำเสื่อมก็ดีนะเซียวเหิง จะได้เจ็บปวดน้อยลง เซียวเหอก็มีองค์หญิงม่ดามใจแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1308

    ร่างกายเฉียวเนี่ยนชะงักค้างไปในทันที ราวกับถ้อยคำที่กล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจนั้นได้แทงเข้าไปในมุมหนึ่งซึ่งถูกปิดตายไว้ในใจของนาง แม้แต่ลมหายใจก็หยุดชะงักไปชั่วขณะเซียวเหิงกลับไม่รู้สึกอะไร สายตายังคงจับจ้องไปที่นาง "เจ้าไม่เคยนั่งอ่านนั่งสืออย่างสงบได้เลย พูดเจื้อยแจ้วราวนกกระจอกตัวน้อยที่เอาแต่ร้องจิ๊บๆ มีเพียงขนมเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าเงียบลงได้"ดังนั้น เซียวเหิงตอนอายุสิบเจ็ดย่อมคิดว่า เฉียวเนี่ยนชอบกินขนมเป็นที่สุดเฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้าๆ สายตาลึกล้ำดังธารา แต่เจือด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย นางมองทะลุเข้าไปในดวงตาของเซียวเหิงในที่สุดเซียวเหิงก็รู้สึกถึงความผิดแผก ใบหน้าจึงค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาฉายแววประหลาดใจ "มีอะไรหรือ?"เสียงของเขาแฝงความตึงเครียดที่แทบฟังไม่ออก และสายตาของเขาจ้องไปที่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ บนใบหน้าของนางเฉียวเนี่ยนรู้สึกเหมือนถูกดวงตาคู่นั้นแผดเผา จึงหลบตาเขานางยืนขึ้น แล้วนำจานขนมวางลงบนโต๊ะตังเดิมนางหันหลังให้เซียวเหิง กล่าวเบาราวเสียงลมพัด แต่กลับทำลายความเงียบในอากาศได้อย่างชัดเจน "ข้าไม่ชอบกินแล้ว"เพียงประโยคเด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1307

    ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ขนตาหนาทอดเงาลงบนใบหน้าซีดเซียวของเขาราวกับถูกดูดเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดไปในพริบตา เซียวเหิงทรุดตัว ลงกับพนักเก้าอี้เย็นเฉียบ ทั้งร่างเหมือนถูกความมืดที่มองไม่เห็นกลืนกินทีละน้อย จมลึกลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายตกสู่ห้วงทะเลแห่งความสิ้นหวังที่เงียบงัน"คงจะ..." เสียงแหบต่ำของเขา ลอยไปในอากาศที่เย็นเยือก ราวกับกำลังหายใจไม่ออกแลกำลังจมน้ำ "คงจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายเลย ใช่หรือไม่?"ทั้งที่แสงแดดนอกหน้าต่างแผดจ้าขึ้นแต่คนทั้งสองในห้อง กลับเหมือนจมดิ่งลงไปในบ่อน้ำเย็นเยือกเฉียวเนี่ยนกุมข้อมือตนเองแน่น ปลายเล็บจิกลงบนเนื้อ แต่ความเจ็บปวดนั้นก็มิอาจเรียกสติเฉียวเนี่ยนกลับมาได้นางสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มเสียงสะอื้นในลำคอ แล้วกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่ "ข้ารักษาเจ้าได้"ระหว่างที่พูด ก็ค่อยๆ คลี่ห่อบรรจุเข็มทองเก้าแสงดาวออกตรงหน้าเซียวเหิงเซียวเหิงกับสำนักราชาโอสถนั้น ก็มีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกันอยู่บ้างแม้เฉียวเนี่ยนจะไม่รู้ว่าเซียวเหิงรู้จักกับผู้ใดในสำนักราชาโอสถกันแน่ แต่ยารักษาบาดแผลในกองทัพของเซียวเหิง ล้วนมาจากสำนักราชาโอสถเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนจึงคาดว่า เซียวเห

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1306

    เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว ความรู้สึกประหลาดในใจแผ่ขยายอย่างไม่มีสิ้นสุดนางมองสำรวจเซียวเหิง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถาม "เซียวเหิง เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?"เซียวเหิงลดมือลง จากนั้นจึงค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้อง"ไม่รู้"ขณะพูด เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วค่อยๆ นวดขมับที่ปวดอยู่เสมอ การเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์ดูเย่อหยิ่งและไร้ความอดทนของเซียวเหิงนี้ ยังคงเหมือนก่อนเขาค่อยๆ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า "ข้า... จำได้เพียงได้รับบาดเจ็บหนัก ราวกระดูกทั้งร่างถูกทุบจนแหลก เจ็บปวดยิ่งนัก จากนั้นก็มีเพียงความพร่ามัว ไร้เรี่ยวแรง ง่วงซึมอยู่เสมอ ข้าไม่รู้วันเวลา ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด"เขาหยุดแล้วหอบอยู่สักพัก ราวนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดได้"ข้าลืมตาขึ้นมาอีกที ก็อยู่ที่นี่แล้ว" เขาลืมตามองเฉียวเนี่ยน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและความเคียดแค้นอย่างเปิดเผย "อวี่เหวินฮ่าวบอกข้าว่าเขาช่วยชีวิตข้าที่บาดเจ็บใกล้ตาย แล้วยังบอกว่า... ข้ามาที่เมืองหลวงแห่งแคว้นถังก็เพราะทรยศแผ่นดินเกิดตนเอง"พูดถึงตรงนี้ บนใบหน้าของเซียวเหิงก็ปรากฏความโกรธถึงขีดสุด "ปั้นน้ำเป็นตัวเก่งเสียจริง!"เข

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1305

    “องค์ชายโปรดพิจารณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” โหยวต๋าปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “เรื่องนี้เป็นความลับ ข้าน้อยปิดผนึกปากแน่นหนา แผนการมิอาจรั่วไหลได้ และข้ายังเดินเบายิ่ง ยอดฝีมือในยุทธภพก็อาจมิทันสังเกตด้วยซ้ำ คุณหนูเฉียวเป็นหญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะทราบได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”คำพูดนี้กลับเตือนอวี่เหวินฮ่าวให้ระลึกฝีมือโหยวต๋านั้น เขามั่นใจแน่นอนอยู่แล้ว วิชาตัวเบาของเขาในเมืองหลวงแห่งแคว้นถังก็ถือว่าหยั่งรู้ยากหากตั้งใจซ่อนร่องรอย ผู้สังเกตได้นั้นมีแทบไม่กี่คนหากเป็นเช่นนี้ กลยุทธ์แกล้งอ่อนแอเพื่อเรียกความสงสาร น่าจะใช้ได้ผลจริงๆแต่เฉียวเนี่ยนกับเซียวเหิงเติบโตมาด้วยกัน เรื่องความผูกพันย่อมต่างกัน...ความเย็นเยียบแบบพอใจแวบขึ้นที่มุมปากอวี่เหวินฮ่าวใช่แล้ว จะไม่ใช่ได้อย่างไรสมัยเด็ก เสด็จพ่อเย็นชาต่อเขานัก แล้วไม่ใช่เพราะใบหน้าอ้อนแอ้น น่ารัก ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ที่ค่อยๆ เจาะหัวใจท่านย่าจนแตกออกทีละน้อย ต่อมาฮองเฮายังเกิดความสงสารต่อเขาอีกหรอกหรือ?หญิงสองคนที่ว่ายากจะกำราบที่สุดในวังหลังของแคว้นถัง ในที่สุดก็ไม่รอดจากแผนการของเขา แล้วแค่คนอย่างเฉียวเนี่ยนเล่า?คิดดังนี้ ภาพความทรงจำในวัยเยาว์ท

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1304

    แสงอรุณแรกดุจทองหลอมรินรดผ่านหน้าต่างไม้แกะสลัก ละเลงบนพื้นเย็นเยียบจนทอดเงายาวเหยียดเฉียวเนี่ยนยืนนิ่งอยู่ตรงประตู ดวงตาหยุดอยู่บนใบหน้าซีดขาวของคนที่เอนอยู่บนเก้าอี้ไม้นางแทบจะลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นใบหน้านี้ได้อย่างชัดเจนนั้นคือเมื่อใดบุรุษที่เคยวนเวียนอยู่ในชีวิตนางมากว่าสิบปีราวกับได้จบสิ้นบทของตนไปเนิ่นนานแล้ว จากไปอย่างเงียบงัน เหลือเพียงเงารางในมุมความทรงจำที่แทบเลือนหายยามนี้ แสงอรุณลอดผ่านกรอบหน้าต่างฉลุลาย สาดลงบนใบหน้าไร้สีเลือดของเขาอย่างอ่อนโยนและโหดร้ายในคราเดียวกัน เส้นกรอบที่ชัดเจนเกินควรนั้น ทำให้นางพลันนึกถึงดอกเหมยในเรือนลั่วเหมยที่เคยเบ่งบานสะพรั่งยามดอกผลิบาน ยังสามารถตรึงตาโลกาได้ดังเดิม แต่ความรู้สึกที่เคยทำให้นางหัวใจสั่นไหวกลับคล้ายเม็ดทรายร่วงหล่นจากซอกนิ้ว ไม่อาจเก็บไว้ได้อีกเลยแต่... เขายังมีชีวิตอยู่ดียิ่งนักเกือบจะพร้อมกันนั้นเอง ดวงตาที่พร่ามัวเหม่อลอยของเซียวเหิงก็สั่นระริกทันที จับจ้องนางราวคมมีดแทงทะลุต่อมาก็มีเพลิงโทสะรุนแรงฉาบทั่วใบหน้าเขา!ราวกับถูกแรงมองไม่เห็นทิ่มแทงอย่างรุนแรง มือที่อ่อนแรงเมื่อครู่กลับปะทุพลังมหาศาลขึ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1303

    เฉียวเนี่ยนหลุบตาลงเมื่อพูดจบ วาจา ท่าที กระทั่งแววตา ล้วนเลียนแบบอย่างอวี่เหวินฮ่าว“ที่ข้ามาแคว้นถังครั้งนี้ ฝ่าฟันระยะทางแสนไกล ก็เพื่อเซียวเหิง ตระกูลมู่บอกข้าว่า เซียวเหิงอยู่ในมือขององค์ชาย องค์ชายอาจยังไม่รู้ว่า ข้ากับเซียวเหิงเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ขอองค์ชายได้โปรดเห็นแก่ที่ข้าเฝ้าองค์ชายอยู่สองคืนเต็มๆ ให้ข้าได้พบเขาสักครั้งเถิด...”คำพูดเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างที่สุดทว่าก็พลอยพาดพิงเอาตระกูลมู่เข้ามาข้องเกี่ยวด้วยอวี่เหวินฮ่าวขมวดคิ้วแน่น ดวงตาคู่นั้นจ้องเฉียวเนี่ยนเขม็งอย่างจะมองให้ทะลุปรุโปร่ง แต่กลับไม่อาจเข้าใจสิ่งใดเลย“เจ้า...”อ้าปากอยู่นาน ทว่ากลับพูดไม่ออกสักคำเขาไม่รู้เลยว่าหญิงตรงหน้านี้กำลังแสร้งเล่นละคร หรือแท้จริงแล้วเพียงแค่เป็นห่วงเซียวเหิงเท่านั้นเฉียวเนี่ยนมองเห็นสีหน้าของเขาที่ราวกับถูกฟ้าผ่าชัดเจนถนัดตานางไม่เพียงไม่ถอย กลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อย่างไรเล่า? หรือที่องค์ชายรับปากอย่างหนักแน่นเมื่อคืน ล้วนแล้วแต่หลอกลวงข้า?”นางก้าวเข้าไปอีกขั้น ดวงตาคมปลาบแทงทะลุเข้าก้นบึ้งนัยน์ตาของอวี่เหวินฮ่าว “หรือว่าในใจองค์ชาย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status