เมื่อเห็นว่าตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แม้จะเคียดแค้นฉินอ๋องกับจิ้งจอกสีเงินสักเพียงใด จ้าวเฟิงเหลยก็จำต้องถอยออกไปก่อน หาไม่แล้ว หากเรื่องนี้ถึงหูบิดาเกรงว่าตนคงถูกลงโทษสถานหนัก เพราะแค่เรื่องของจ้าวกุ้ยอินก็ทำบิดาผมหงอกขึ้นหลายเส้น“มู่เลี่ยงหรงสักวันเจ้าจะต้องเสียใจ” ชายหนุ่มกลับขึ้นอาชาสีแดงของตนอย่างเสียมิได้“คนที่จะต้องเสียใจ ย่อมเป็นเจ้า” มู่เลี่ยงหรงยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เขาไม่ได้ยี่หระกับท่าทีคุกคามของอีกฝ่ายแต่อย่างใดก่อนจากไป จ้าวเฟิงเหลยจ้องถางซือเซียนกับเยี่ยนจิ้นหลิงอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ นัยน์ตาสีนิลประทุษร้ายด้วยแรงริษยา จากนั้นจึงตัดใจชักม้าจากไปด้วยหัวใจที่เคียดแค้นเมื่อจ้าวเฟิงเหลยจากไปแล้ว มู่เลี่ยงหรงจึงขึ้นอาชาเหงื่อโลหิตสีดำของตน พร้อมประกาศกร้าวด้วยเสียงอันดังต่อหน้าราชองครักษ์ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อครู่ “จงเก็บปากของพวกเจ้าเอาไว้ให้ดี หาไม่แล้วข้าจะทำให้พวกเจ้าอยู่ไม่สู้ตาย”“พ่ะย่ะค่ะ” ทหารทุกนายกล่าวรับคำสั่งอย่างพร้อมเพรียงเยี่ยนจิ้นหลิงบังคับอาชาสีหมอกของตนให้ก้าวเดินนำไปก่อน โดยไม่สนใจเยี่ยนเยว่ฉีกับมู่เลี่ยงหรงผ่านไปสักพักหนึ่ง เยี่ยนจิ้นหลิงกับถางซือเซียน
Terakhir Diperbarui : 2025-06-07 Baca selengkapnya