บททั้งหมดของ บุปผาสีชาด: บทที่ 51 - บทที่ 60

69

ตอนที่51คลื่นใต้น้ำ

ภายในห้องคุมขังอับชื้น กลิ่นสนิมของโซ่เหล็กและคราบเลือดคละคลุ้งอยู่โดยรอบ ร่างของเซิ่งซื่อซูบเซียวลงจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ซ่อนความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ไม่เคยสมาน แผลที่แผ่นหลังของนางเริ่มเน่าเปื่อย แม้จะมีการทำแผลอย่างลวกๆ แต่พิษไข้ก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง นางนอนซูบซีดบนฟางเก่า เสียงหายใจขาดห้วงราวเปลวเทียนใกล้ดับดวงตาของนางพร่ามัว น้ำตาเอ่อรื้น เมื่อนึกถึงบุตรชายบุตรสาวที่ไม่อาจกอดเป็นครั้งสุดท้าย ความเจ็บปวดในกายคล้ายถูกกลืนหายไป เหลือเพียงความขมขื่นที่ตรึงอยู่กลางใจในห้วงสุดท้าย คล้ายถูกดึงวิญญาณไปทีละน้อย สายตาพร่ามัวค่อยๆ จับภาพตรงหน้า แล้วร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นราวกับฝันไป๋ซูเหยา ฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ ภรรยาคนแรกของอวี้จิ้ง ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยชุดผ้าแพรสีอ่อนงดงาม ดวงหน้าสงบหากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความโกรธแค้นเซิ่งซื่อสะดุ้งเฮือก หัวใจสั่นสะท้าน นางพึมพำเสียงแผ่วเหมือนเพ้อ"ไป๋ซูเหยา เจ้า…เจ้าใช่หรือไม่"ภาพตรงหน้านั้นเหมือนจริงเหลือเกิน ริมฝีปากของไป๋ซูเหยาขยับเอื้อนเอ่ย แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นเสียงกรีดร้องของหญิงผู้สิ้นใจด้วยพิษที่นางเป็นคนมอบให้ ค
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-09-28
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่52ประจันหน้า

หลังจากเหตุการณ์มากมายถาโถมเข้ามาในจวนอวี้ ความเงียบสงัดก็กลับกลายเป็นสิ่งที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุกมุม แม้เรื่องราวจะคลี่คลายลงแล้ว แต่ในใจของใครหลายคนยังคงหลงเหลือร่องรอยแห่งความเจ็บปวดอวี้จิ้งผู้เป็นบิดามองบุตรีคนรองด้วยสายตาอ่อนโยนกว่าที่เคย ความเข้มงวดถูกแทนที่ด้วยความห่วงใยลึกซึ้ง ภายหลังเหตุการณ์คาวเลือดและความวุ่นวายในตระกูล เขาเกรงว่าดวงใจของอวี้หลันจะถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัวและเศร้าหมอง"หลันเอ๋อร์"อวี้จิ้งเอ่ยเรียกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "หากเจ้าอยากออกไปเที่ยวเล่นนอกจวนก็ไปเถิด ความครึกครื้นภายนอกอาจช่วยให้จิตใจผ่อนคลายได้บ้าง"อวี้หลันยอบกายคารวะรับคำ ดวงตาคู่งามแม้ยังเจือความสงบนิ่ง แต่ในแววตากลับสะท้อนประกายอ่อนไหวเล็กน้อย นางรู้ดีว่า คำอนุญาตครั้งนี้ของบิดาไม่ใช่เพียงเพราะความเอ็นดู แต่เพราะท่านพ่อห่วงใยหัวใจของนางอย่างแท้จริง"ขอบคุณท่านพ่อเจ้าค่ะ"น้ำเสียงอ่อนหวานตอบรับอย่างอ่อนน้อม จะว่าไป การได้ออกไปสูดอากาศภายนอกก็ดีเหมือนกัน ความคึกคักของผู้คนในตลาด อาจช่วยคลายความอึดอัดในใจที่ยังหลงเหลืออยู่ได้บ้าง อีกทั้งนางเองก็ยังไม่เคยมีโอกาสเที่ยวชมความครื้นเครงของโลกภายน
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-03
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่53เที่ยวชมตลาด

"ข้าคิดว่า เจ้าควรถอยออกมาให้ห่างจากว่าที่ชายาข้านะ เจ้าห้า"ดวงเนตรดุดันขององค์ชายใหญ่ฉายแววกร้าว ขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ หลี่จื้อหยวนยืนนิ่งไม่ไหวติง ดวงตาคมปลาบยังคงตรึงอยู่บนร่างบอบบางของอวี้หลัน สีหน้าสงบนิ่ง แต่แฝงความดื้อรั้นชัดเจน เขาแค่นยิ้มเย็น ก่อนหมุนตัวกลับไปสบตาพี่ชายต่างมารดาอย่างท้าทาย"เสด็จพี่ เกรงว่าทรงเข้าใจผิดแล้วกระมัง ข้าหาใช่คนอื่นคนไกล เพียงแวะมาทักทายหลันเอ๋อร์เท่านั้น"คำพูดนั้นแม้ฟังดูสุภาพแต่กลับแฝงแววท้าทาย ไม่มีผู้ใดยอมก้าวถอย บรรยากาศรอบตัวพลันเคร่งขรึมจนแม้แต่สายลมเย็นที่พัดลอดหน้าต่างเข้ามาก็ไม่อาจคลายความร้อนแรงระหว่างทั้งสองลงได้แต่ก่อนที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างสองพี่น้อง อวี้หลัน สตรีเพียงผู้เดียวท่ามกลางแรงกดดันราวสนามรบ นางยอบกายเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบแต่ชัดเจน"องค์ชายห้า ได้โปรดหลีกทางให้หม่อมฉันด้วยเพคะ"เสียงหวานใสของนางเปรียบดังสายน้ำเย็นที่สาดลงบนเพลิงที่กำลังลุกโชน หลี่จื้อหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความตัดพ้อและเจ็บปวด เขาจ้องมองนางเนิ่นนาน ราวกับไม่อยากยอมรับคำพูดนั้น ก่อนจะฝืนหัวเราะเบาๆ ท้ายที่สุดก็ยอมถอย หลีกทางให
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-08
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่54ศึกแดนใต้ปะทุ

รุ่งอรุณแรกของวันมาเยือน เมืองหลวงเต็มไปด้วยความคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่เหมือนทุกวัน แสงแดดยังไม่ทันส่องแทรกหมอกจางๆ ก็มีเสียงเกือกม้าเร่งเร้ามาทางประตูเมืองทิศใต้ ดังสะท้อนก้องไปทั่วถนนหิน"ม้าเร็ว! ม้าเร็วจากแดนใต้!"เสียงตะโกนจากชายผู้ขี่ม้าเร็วในชุดทหารดังขึ้น ชาวเมืองที่กำลังเปิดร้านขายของ รีบเบี่ยงกายหลีกออกจากทาง บ้างก็ชะโงกหน้ามองด้วยแววตาแตกตื่นตึง! ตึง! ตึง!กลองประจำเมืองดังขึ้นระรัว ราวปลุกทั้งเมืองให้ตื่นจากฝัน บอกชัดเจนว่าข่าวที่มากับม้าเร็วไม่ใช่เรื่องเล็กเพียงไม่นาน เสียงกระซิบกระซาบก็กระจายไปทั่วตลาด"ชายแดนใต้เกิดอะไรขึ้น""หรือกองทัพต่างแคว้นตีฝ่าเข้ามาแล้ว""สวรรค์อย่าได้ให้เป็นลางร้ายเลย"ความโกลาหลค่อยๆ ปกคลุมทั่วทั้งเมือง บรรยากาศคึกคักในยามเช้ากลับกลายเป็นความวุ่นวายตื่นตระหนกภายในเวลาไม่กี่ชั่วยาม พระราชโองการจากวังหลวงก็ประกาศออกมา เรียกขุนนางผู้ใหญ่ทุกตระกูลให้เข้าประชุมด่วนในท้องพระโรงเสียงกลองเตือนภัยยังคงดังก้องไม่หยุด สายลมพัดธงบนหอคอยโบกสะบัดราวกับประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในราชสำนัก และไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าข่าวที่มาถึงเมืองหลวง
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-11
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่55ร่ำลา

ค่ำคืนนั้น สายลมหนาวพัดเอื่อยผ่านสวนดอกเหมยในจวนอัครเสนาบดี กลีบดอกสีขาวปลิวว่อนราวหิมะต้องแสงจันทร์ อวี้หลันยืนเงียบอยู่ริมระเบียง ศีรษะเอนพิงเสาไม้ มองท้องฟ้าสีหม่นปล่อยความคิดมากมายให้ล่องลอยไปเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นจากด้านหลัง กลิ่นกายอบอุ่นคุ้นเคยแผ่ซ่านมาก่อนร่างสูงใหญ่จะปรากฏ หลี่เหวินหลงก้าวเข้ามาหยุดใกล้เพียงครึ่งก้าว"หนาวหรือไม่" เขาเอ่ยถามเสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยน พลางถอดผ้าคลุมของตนห่มคลุมบนบ่าบอบบางอวี้หลันเหลือบตามอง ยิ้มบางๆ "ไม่เพคะ แต่พระองค์นี่สิ พรุ่งนี้จะต้องเคลื่อนทัพแล้ว เหตุใดถึงยังไม่พักผ่อนอีก"หลี่เหวินหลงสบดวงตาคู่นั้น เงียบไปครู่หนึ่งราวกำลังจดจำทุกรายละเอียดบนใบหน้าของนาง "ข้าอยากอยู่กับเจ้าให้นานกว่านี้สักหน่อย"คำพูดเรียบง่ายแต่กลับก้องกังวานในหัวใจอวี้หลันพวกเขารับรู้ดีว่าศึกครั้งนี้มิใช่เพียงศึกชายแดนระหว่างแคว้น แต่เป็นกลลวงขององค์ชายห้าและตระกูลเซิ่ง ทว่าทั้งคู่ต่างเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงฝ่ามือบอบบางของหญิงสาวยกขึ้นแตะข้างแก้มของคนตรงหน้าเบาๆ "พระองค์รู้ใช่หรือไม่…ว่าหนทางเบื้องหน้าไม่ได้มีเพียงศัตรูจากต่างแคว้น"รอยยิ้มบางปรากฏบนมุมปากของหลี่เหวิ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-13
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่56ข้าศึกประชิดประตูเมือง

ผ่านไปเพียงสามวัน เมืองหลวงที่เพิ่งสงบหลังข่าวเมืองอี้โจวกลับสะเทือนอีกครั้ง ค่ำคืนนั้นลมกรรโชกพัดคลุ้งกลิ่นฝน สายฟ้าฟาดครืนเหมือนส่งสัญญาณร้าย ในคุกหลวงของกรมอาญา เสียงเหล็กเสียดประตูดังสนั่นก้องขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทหารเวรยามที่กำลังผลัดเปลี่ยนเวรสะดุ้งไม่ทันตั้งตัว ควันไฟยาสลบลอยเข้ามาเป็นม่านหนาทึบ ก่อนเสียงฝีเท้าหนักและการปะทะคมดาบจะตามมาอย่างฉับพลัน"ระวัง! มีคนบุก!"เสียงตะโกนเตือนขาดหายกลางอากาศเมื่อคมดาบวาววับสะท้อนแสงคบเพลิง ชายชุดดำหลายคนเคลื่อนที่รวดเร็วราวเงา สกัดทุกเส้นทางด้วยความแม่นยำ การจู่โจมเป็นไปอย่างเป็นขั้นตอนราววางแผนมาอย่างดีภายในคุก เซิ่งกงซุนที่ถูกพันธนาการเงยหน้าขึ้น ดวงตาแข็งกร้าวแต่สงบ เขารู้ทันทีว่าผู้มาเยือนคือคนของตนเอง ชายชุดดำสองคนตัดกุญแจเหล็กออกอย่างชำนาญ"นายท่าน รีบไป!"เสียงหนึ่งกระซิบหนักแน่นเซิ่งกงซุนก้าวออกมาจากคอกคุมขัง เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นและคราบเลือดเก่าไม่อาจบดบังรัศมีเย็นชา เขามองรอบด้านเพียงชั่ววูบก่อนเอ่ยเสียงต่ำ"ไปจากที่นี่ก่อน เหลือคนไว้เก็บกวาดร่องรอย"กลุ่มชายชุดดำเคลื่อนตัวออกอย่างเป็นระเบียบ ประตูเหล็กบานใหญ่ถูกเปิดทิ้งโดยไร้เส
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-16
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่57องค์ชายสามหลี่เหวินหวาย

"พี่สะใภ้"เสียงทุ้มนุ่มชัดเจนเอ่ยดังขึ้นท่ามกลางความโกลาหลอวี้หลันชะงักฝีเท้า หันกลับไปตามเสียงนั้นทันที พลันหัวคิ้วทั้งสองก็ขมวดมุ่น เมื่อสายตาปะทะเข้ากับบุรุษผู้หนึ่งชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเกราะสีเงินวาววับยืนเด่นอยู่ท่ามกลางทหารนับสิบ แผ่นอกกว้างสะท้อนแสงแดดยามสายราวกับเปลวเหล็กส่องประกาย"พระองค์คือองค์ชายสาม หลี่เหวินหวายเจ้าค่ะคุณหนู"ฉิงอีที่ติดตามมาเอ่ยกระซิบเบาๆ ข้างหูผู้เป็นนาย"หม่อมฉันอวี้หลัน คำนับองค์ชายสามเพคะ"อวี้หลันย่อกายคำนับอีกฝ่ายด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าขาวผ่องนิ่งเรียบไม่บ่งบอกถึงความรู้สึก น้ำเสียงของนางราบเรียบ นุ่มนวล แต่ฟังไม่ออกว่าแฝงความคิดใดไว้ ดวงตาคู่งามฉายเพียงประกายเยือกเย็นที่ยากจะอ่าน นางดูมั่นคงราวสายน้ำที่นิ่งสนิท แม้ในห้วงวังวนอันตึงเครียดรอบกำแพงเมืองก็ไม่อาจสั่นคลอนความสงบของนางได้องค์ชายสามหลี่เหวินหวายหัวเราะเบาๆ รอยยิ้มกว้างสว่างขึ้นทันตา เมื่อเห็นท่าทีของสตรีที่อ่อนเยาว์กว่าพระองค์เกือบสิบปีตรงหน้า แต่กลับมั่นคงและหนักแน่นอย่างประหลาด ในใจอดคิดไม่ได้ว่าที่แท้ก็สตรีเช่นนี้เองที่ทำให้พี่ชายผู้เย็นชาของเขายอมสยบ"พี่สะใภ้ไม่ต้องมากพ
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-18
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่58ปะทะเสิ่นฮองเฮา

เมื่ออวี้หลันก้าวพ้นธรณีประตูเข้าสู่ตำหนักโอ่อ่าหรูหรา บานประตูไม้สลักก็ถูกปิดลงในทันที รอบกายเงียบงันราวกับถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิงอวี้หลันเหยียดยิ้มบางขณะกวาดสายตามองรอบบริเวณ ลวดลายแกะสลักบนเสาไม้ประณีตละเมียดละไม ผ้าม่านแพรเนื้อละเอียดทิ้งตัวพลิ้วไหวราวม่านน้ำตก ข้าวของเครื่องใช้และเครื่องประดับล้วนเป็นของล้ำค่า ทว่าที่นี่ ไม่ใช่ตำหนักจิ้งเหอ อันเป็นที่ประทับของฮองเฮาดูท่าว่านี่คงเป็นตำหนักลับที่มีผู้จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ เพื่อกักขังนางคิดจะกักขังข้าหรือ...แววตาของอวี้หลันฉายประกายเยียบเย็นขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนริมฝีปากจะคลี่ยิ้มบางเบาเช่นนั้นก็คงต้องมาดูกันว่า พวกเขามีความสามารถหรือไม่อวี้หลันก้าวลึกเข้าไปภายในตำหนัก เสียงฝีเท้าดังแผ่วสะท้อนก้องไปกับความเงียบ จนกระทั่งถึงห้องโถงใหญ่ที่มีเพียงแสงตะวันอ่อนลอดผ่านบานหน้าต่างไม้แกะสลักเป็นลำสวยงามกลางห้องนั้น ร่างระหงในอาภรณ์แพรสีทองเจิดจ้า ยืนโดดเด่นอยู่ท่ามกลางแสงตะวันที่ส่องลอดหน้าต่าง เส้นผมดำขลับถูกรวบเกล้าอย่างพิถีพิถัน ปิ่นหงส์ทองคำประดับอัญมณีเลอค่าระยิบระยับยามต้องแสง ยิ่งขับให้เงาหลังนั้นสง่างามจับตาเสิ่นฮองเฮา ส
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-21
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่59ข้าไม่ต้องการ

ทันทีที่ประตูตำหนักเปิดออก เสียงฝีเท้าหนักแน่นก็ดังก้องไปทั่วโถงตำหนัก องค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มก้าวเข้ามา ดวงเนตรคมเปล่งประกายทันทีเมื่อมองเห็นร่างระหงของอวี้หลันยืนอยู่กลางห้อง รอยยิ้มกว้างเผยขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาอบอุ่นราวกับเขารอคอยและปรารถนาเพียงเห็นนางเท่านั้น"หลันเอ๋อร์" น้ำเสียงทุ้มต่ำเปี่ยมด้วยความยินดี เขาเดินเข้าหานางอย่างไม่รีรอ มือใหญ่เอื้อมออกไปหมายจะคว้ามือเรียวบอบบางมากุมไว้ แต่กลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่าอวี้หลันเบี่ยงกายหลบเขา แววตาของนางนิ่งเฉยมองเขาอย่างเย็นชาไร้ร่องรอยหวั่นไหว ใบหน้างามเย็นเยียบราวน้ำแข็ง ไม่แม้แต่จะมีเยื่อใยต่อเขา ทำให้หัวใจของหลี่จื้อหยวนกระตุกวูบภายในอกร้อนผ่าวรอยยิ้มของชายหนุ่มชะงักค้าง ดวงตาที่เคยอ่อนโยนพลันหม่นลงไร้ประกาย ความไม่พอใจและความหึงหวงไหลทะลักราวเปลวเพลิง ลมหายใจร้อนผ่าวกระชั้นขึ้นทุกทีความคิดแรกที่แล่นเข้ามาคือ เพราะหลี่เหวินหลงจึงทำให้นางแสดงท่าทางรังเกียจเขาเช่นนี้ดวงตาคมกริบที่เคยอบอุ่นกลับพลันแข็งกร้าว แววเกรี้ยวกราดส่องประกายวาบขณะมองนางราวกับจะทะลุทะลวงเข้าไปให้ถึงหัวใจ "เพราะเขาหรือ เจ้าจึงเปลี่ยนไป
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-22
อ่านเพิ่มเติม

ตอนที่60กบฏ

ท้องพระโรงอันยิ่งใหญ่โอ่อ่าที่เคยเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจของแผ่นดิน ยามนี้กลับคล้ายสนามรบ รอบด้านถูกปิดล้อมด้วยกำลังทหารในเกราะสีเขียวเข้มยืนเรียงรายถืออาวุธครบมือ ทุกก้าวที่พวกเขาเคลื่อนตัวราวกับกดน้ำหนักลงบนบ่าของทุกชีวิตภายในท้องพระโรง กลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยคลุ้งปะปนไปกับอากาศ ชวนให้ผู้คนขนลุกซู่บัลลังก์มังกรทองคำถูกโอบล้อมไว้ด้วยทหารองครักษ์ชุดเกราะดำผู้ปกป้องบัลลังก์ ใบหน้าพวกเขาแข็งกร้าวไร้ความหวาดหวั่น คมดาบในมือสะท้อนแสงระยับ ตั้งมั่นไม่ยอมถอยแม้เบื้องหน้าจะเต็มไปด้วยเงาของศัตรูฮ่องเต้ประทับนิ่งเหนือบัลลังก์มังกร พระพักตร์เคร่งขรึมเคร่งเครียด พระหัตถ์กำแน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้นชัด เบื้องหลังพระองค์คือเหล่าสนมเอก พระสนมชั้นสูง และองค์ชายองค์หญิงที่ยังเยาว์วัย พวกนางต่างซ่อนความหวาดผวาไว้หลังม่านผ้าคลุมบาง เสียงสะอื้นแผ่วเบาประปรายดังแข่งกับเสียงโลหะกระทบเกราะที่เคลื่อนไหวเบื้องล่าง เหล่าขุนนางในราชสำนักที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกบฏ ต่างถูกกดให้นั่งคุกเข่าด้วยใบหน้าตึงเครียด บางคนสั่นสะท้าน บางคนกำหมัดแน่นรอชะตา ทุกลมหายใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันใดนั้น ประตูบานใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออก ก
last updateปรับปรุงล่าสุด : 2025-10-26
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1234567
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status