“เอ้า! ดื่มๆ ดื่มให้เต็มที่เลยเพื่อน ให้สมกับที่ไม่ได้สังสรรค์กันมานาน”เสียงของวีศิลป์เจ้าของผับ ลูกชายคนโตเจ้าของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อดังของเมืองไทยร้องบอกเพื่อนทั้งกลุ่มมือเพรียวสมกับเป็นหมอของวิศรุตต์หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อที่หน้าออกจนหมด ก่อนที่จะใส่แว่นทรงเหลี่ยมไร้กรอบกลับลงไปที่เดิมหลังจากดื่มไปแล้วหลายแก้วจนเริ่มมึน และวางแก้วนิ่งไม่ยกขึ้นมาดื่มต่อ แต่คนข้างตัวเขายังชนแก้วกับเพื่อนๆ ในสมัยที่เรียนอยู่อเมริกาด้วยกันอย่างรื่นเริงไม่รู้จักมึนเมา เพราะตติยะไม่ได้เจอเพื่อนกรุ๊ปนี้นานแล้ว แต่ทุกคนยังติดต่อกันเสมอ ซึ่งเพื่อนในกลุ่มอีกหนึ่งคนก็คือเรฟที่วันนี้ไม่ได้มาด้วย“ไงวะ ไอ้หมอ ยอมแล้วเหรอ” เสียงเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถาม“เออ...นั่นดิเพิ่งหมดไปห้าขวดเองนะเว้ย อย่าบอกนะว่าเมาแล้ว...พอเป็นหมอไหงคออ่อนวะ”วีศิลป์บ่นตามมาทันควัน“พรุ่งนี้ต้องเข้าเวรว่ะ ไม่อยากมึนถึงจะเข้าเวรบ่ายก็เหอะ”“ปล่อยคุณหมอรุตต์เขาไปเหอะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันดื่มแทนมันเอง” ตติยะบอกอย่างอารมณ์ดี“ก็เพราะนายเป็นอย่างนี้ไงล่ะ ฉันถึงต้องยอมถอย ไม่งั้นเราไม่ได้กลับบ้านแน่”“ถูกของนาย เออ นายไม่เมาก็ขับกลับ
Terakhir Diperbarui : 2025-07-19 Baca selengkapnya