เซ่าเยว่ทนพฤติกรรมอันหยาบคายของเจียงเฉินหานไม่ไหว จึงพลั้งปากพูดแบบนั้นออกไป แต่ไม่คาดคิดเลยว่าซางจื้อเหนียนจะปรากฏตัวขึ้นในจังหวะนั้นเขาก้าวมายืนอยู่ด้านหลังเธออย่างเงียบเชียบ พลางยกมือขึ้นปิดตาเธอ แล้วจับมือเธอไว้ ไม่ต่างจากตอนที่เธอถูกเจียงอวี่เสียนสาดไวน์แดงใส่ แล้วเขาก็คลุมเสื้อสูทที่อบอวลด้วยไออุ่นของเขาลงบนบ่าของเธอซางจื้อเหนียนมักจะปรากฏตัวอยู่ข้างเธอโดยไม่ทันตั้งตัวเสมอ และเขาก็เป็นคนที่พูดน้อย แต่ลงมือทำเสียมากกว่า เช่นเดียวกับที่เขาสามารถรอเธอเลือกซื้อเสื้อผ้าได้ทั้งที่เขาไม่เคยบอกก่อนเลยว่าจะรอเธอ และเมื่อเธอใช้เวลานานกว่าที่คิด ทว่าเขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีวี่แววของความรำคาญเลยแม้แต่น้อยประหนึ่งว่าการรออยู่ที่เดิมนั้น เป็นสิ่งที่เขาควรทำแต่แรกอยู่แล้วและก็เพราะช่วงเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันเหล่านั้นเอง ที่ทำให้เซ่าเยว่เกิดความมั่นใจขึ้นมาอย่างไม่มีที่มาที่ไปว่า ต่อให้เธอบอกซางจื้อเหนียนตรง ๆ ว่าเธอคิดจะใช้เขาเป็นเครื่องมือ เขาก็คงยินยอมในที่สุดเซ่าเยว่ก็ได้คำตอบจากเขาแล้วจริง ๆในขณะนั้น ซางจื้อเหนียนยังคงจับมือเธอไว้แน่น และพาเดินตรงออกไปข้างนอกโดยไม่หยุด เธอก
Read more