บททั้งหมดของ คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?: บทที่ 141 - บทที่ 150

228

บทที่ 141

หลังครุ่นคิดอยู่นาน หานเชี่ยนก็ตัดสินใจว่าจะลองคุยกับสืออวี๋ดูก่อน หากสืออวี๋ยังไม่ยอมยกโทษ เธอก็จะแตกหักกับอีกฝ่ายให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปอีกด้านหนึ่ง เมื่อสืออวี๋กลับถึงห้อง และได้นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว เธอก็ลากกระเป๋าเดินทางออกมาเริ่มจัดของเมื่อบรรจุของเต็มกระเป๋าเดินทาง เธอก็ไม่ได้จัดเตรียมอะไรต่อเสื้อผ้าและของใช้ในกระเป๋าเดินทางใบนี้ เพียงพอสำหรับให้เธอใช้ระหว่างย้ายไปอยู่บ้านเก่าตระกูลสือแล้วสืออวี๋ลากกระเป๋าเดินทางไปไว้ที่ประตู ก่อนหยิบชุดนอนไปอาบน้ำและเข้านอนเช้าวันรุ่งขึ้น เธอนำกระเป๋าเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อมอบให้ป้าอู๋ทุกวันที่ป้าอู๋เดินทางไปกลับโรงพยาบาล คนขับรถของบ้านเก่าก็จะทำหน้าที่คอยรับส่งเสมอเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางของสืออวี๋ ป้าอู๋ก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่คะ งั้นเดี๋ยวป้าเอาไปไว้ในห้องของคุณหนูให้เลยนะคะ ก่อนหน้านี้ป้าทำความสะอาดห้องคุณหนูเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาคุณหนูแค่ย้ายเข้าไปก็อยู่ได้เลยค่ะ”สืออวี๋พยักหน้า “รับทราบค่ะ ป้าอู๋ เหนื่อยหน่อยนะคะ”“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ คุณหนูขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าท่านเถอะ ป้าขอตัวก่อนนะคะ”“ได้ค่ะ”เมื่อสืออวี๋ก
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 142

ช่วงหลายปีมานี้ตระกูลสือตกต่ำลงก็จริง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่ตระกูลเล็ก ๆ จะมาทำตัวอวดดีต่อหน้าพวกเขาได้สักหน่อยรอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อหานแข็งค้างไปเล็กน้อย “คุณท่านครับ ผมทราบว่าท่านโกรธเรื่องโง่ ๆ ที่หานเชี่ยนทำลงไป ถ้าเป็นผมผมก็โกรธเหมือนกัน ยิ่งนึกถึงเรื่องที่เธอจ้างคนไปใส่ร้ายคุณหนูสือในเน็ตเพราะบาดหมางกันแค่เล็กน้อย ผมก็รู้สึกผิดต่อคุณหนูสือเหลือเกิน เป็นผมที่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดีเองครับ”ขณะพูดถ้อยคำเหล่านี้ น้ำเสียงของพ่อหานก็ฟังดูจริงใจ คล้ายรู้สึกผิดอย่างแท้จริง“ประธานหาน เรื่องที่คุณหนูหานทำลงไป แค่ขอโทษไม่กี่คำมันหายกันไม่ได้หรอกนะ คุณอย่ามาลองเชิงฉันเลย หลานฉันเอายังไงฉันก็เอายังงั้น พวกคุณกลับไปเถอะ”สีหน้าของพ่อหานค่อย ๆ มืดมนลง ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้าคุณย่าสือหรือสืออวี๋ เพราะตอนนี้บริษัทของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย แค่เกิดเรื่องเล็กน้อยก็ทำให้บริษัทล่มจมได้แล้วเขาสูดหายใจลึกอีกครั้ง ก่อนมองไปที่คุณย่าสือ “คุณท่านครับ คุณหนูสือ วันนี้ที่ผมมา ก็เพื่อหวังจะคลี่คลายความเข้าใจผิดระหว่างหานเชี่ยนกับคุณหนูสือ หานเชี่ยนแกสำนึกผิดแล้วจริง ๆ ขอแค่คุณหนู
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 143

สืออวี๋มองคุณย่าสือ ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณย่าคะ แล้วคุณย่าอยากให้หนูฟ้องร้องต่อไป หรืออยากให้หนูถอนฟ้องให้อภัยหานเชี่ยนมากกว่ากันล่ะ?”เมื่อเห็นหลานสาวย้อนถามกลับมาที่ตัวเอง คุณย่าสือก็อดหัวเราะไม่ได้“เรื่องนี้แกต้องตัดสินใจเอง ย่าตัดสินใจแทนแกไม่ได้ แต่ไม่ว่าแกจะเลือกทางไหน ย่าก็จะสนับสนุนเต็มที่”เมื่อเห็นความแน่วแน่และความสุขุมในแววตาของคุณย่าสือ หัวใจของสืออวี๋ก็พลันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาคุณย่าสือเองก็รู้ดีว่า ถ้าเธอดึงดันจะฟ้องร้องต่อไป เรื่องนี้คงต้องแพร่สะพัดไปทั่วแวดวงสังคมตระกูลสือแน่นอนต่อให้สืออวี๋ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ผู้คนในแวดวงระดับเดียวกับตระกูลสือ ส่วนใหญ่มักไม่ปล่อยให้มีเรื่องกันถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล เนื่องจากมันดูน่าเกลียดเกินไป แต่ถึงรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องนี้จะทำให้ตระกูลสือต้องเสียหน้า คุณย่าสือก็ยังคงเลือกสนับสนุนเธออยู่ดีขอบตาของสืออวี๋แดงก่ำเล็กน้อย ผ่านไปครู่ใหญ่ เธอจึงมองไปที่คุณย่าสือ“คุณย่าคะ หนูว่าหนูถอนฟ้องดีกว่าค่ะ แค่ให้หานเชี่ยนออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ ก็ถือเป็นบทลงโทษสำหรับเธอเหมือนกัน หนูดึงดันต่อไปคงไม่มีความหมายอะไร”ดวงตาของคุณย่าสือทอประกายด้วย
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 144

สืออวี๋ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเงยหน้ามองซือเยี่ยนตามสัญชาตญาณ“บังเอิญจังเลยนะคะ?”เมื่อเห็นเธอทำหน้าประหลาดใจ ซือเยี่ยนก็คลี่ยิ้ม “ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะบังเอิญขนาดนี้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าคุณจะถูกใจห้องนั้นหรือเปล่า”สืออวี๋พยักหน้า “ได้ค่ะ งั้นคงต้องรบกวนคุณแล้ว”“ไม่เป็นไรครับ”หลังทั้งสองคนแยกกันที่ลานจอดรถ และซือเยี่ยนเข้ามาอยู่ในรถแล้ว เขาก็หยิบมือถือออกมากดโทรออกเบอร์หนึ่ง“นายมีห้องที่เซิ่งซื่อหาวถิงหรือเปล่า?”ปลายสายเป็นเสียงทุ้มต่ำชัดเจนของผู้ชายคนหนึ่ง “มี ทำไมเหรอ?”“ช่วยอะไรฉันหน่อย”…อีกด้านหนึ่ง สืออวี๋ขับรถไปถึงหน้าทางเข้าโครงการที่นัดไว้กับนายหน้านายหน้ารอเธออยู่ที่หน้าประตู เมื่อลงจากรถ เธอก็รีบเดินตรงไปหานายหน้าทันทีหลังจากดูทั้งสองห้องเรียบร้อย สืออวี๋ก็พบว่าห้องจริงต่างจากรูปที่เธอดูในอินเทอร์เน็ตมากทีเดียวห้องดูเก่ากว่าในรูปมาก แถมสภาพสุขอนามัยก็ไม่ค่อยดี ตามมุมห้องยังมีเชื้อราอยู่หลายจุดอีกด้วยถ้าต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ไปนาน ๆ คงส่งผลกระทบต่อสุขภาพแน่เมื่อเห็นสืออวี๋ไม่ค่อยถูกใจกับตัวห้องสักเท่าไหร่ นายหน้าจึงกล่าวว่า “คุณสือครับ ด้วยร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 145

ทั้งสองคนคุยกันไปพลางเดินเข้าคอนโดไปพลาง ไม่นานก็มาถึงห้องของคุณหวังเมื่อก้าวเข้าสู่โถงทางเข้า และเห็นห้องนั่งเล่นที่แทบไม่ต่างจากในรูปแม้แต่น้อย สืออวี๋ก็ใจเต้นขึ้นมาทันทีห้องของคุณหวังตกแต่งสไตล์ครีมมี่ ซึ่งเป็นสไตล์ที่สืออวี๋ชื่นชอบมากที่สุด“คุณสือคะ เดี๋ยวฉันพาไปดูห้องนอน”เมื่อเดินเข้าห้องนอน และได้เห็นการตกแต่งภายในถนัดตา สืออวี๋ก็ยิ่งใจเต้นแรงมากขึ้นอีกการตกแต่งห้องนอนดูสดใสและเรียบหรู เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา โดยรวมแล้วดูสบายตาดีเยี่ยมและเมื่อสำรวจดูห้องน้ำกับห้องครัวเรียบร้อย สืออวี๋ก็รู้สึกถูกใจ ถึงขั้นอยากเช่าเสียเดี๋ยวนั้น“คุณหวังคะ ห้องคุณค่าเช่าถูกขนาดนี้ คงมีคนอยากเช่าเยอะน่าดู”คุณหวังพยักหน้า “คนอยากเช่าเยอะจริงค่ะ แต่ฉันก็เลือกคนเช่าด้วยเหมือนกัน คุณเป็นคนที่หมอซือแนะนำมา ฉันเลยคิดว่าน่าจะไว้ใจได้ ถึงได้ยอมให้คุณมาดูบ้านตอนกลางคืนแบบนี้ค่ะ”“ถือว่าฉันพึ่งใบบุญหมอซือจริง ๆ ฉันถูกใจห้องนี้มากค่ะ ถ้าคุณหวังยอมให้ฉันเช่า เดี๋ยวฉันจ่ายค่าเช่าให้รวดเดียวเลยค่ะ”ทั้งสองคนสนทนากันต่ออีกครู่หนึ่ง ก็จัดการเซ็นสัญญากันสองปี สืออวี๋โอนทั้งเงินค่ามัดจำและค่าเช่าให้คุ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 146

“ได้ค่ะ ซือเยี่ยน คืนนี้คุณว่างไหม?”ดวงตาที่เป็นประกายด้วยรอยยิ้มของสืออวี๋ราวกับบ่อน้ำพุใสแจ๋ว ทั้งงดงามทั้งสุกใส หลังสบตาเธอได้สองวินาที ซือเยี่ยนก็หลบสายตาอย่างผิดธรรมชาติเล็กน้อย“คืนนี้มีผ่าตัดน่ะครับ คงไม่มีเวลา”สืออวี๋ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา จึงถามต่อ “แล้วค่ำพรุ่งนี้ล่ะคะ?”“ค่ำพรุ่งนี้ยังไม่มีธุระอะไรครับ”สืออวี๋ยิ้มพลางกล่าว “งั้นค่ำพรุ่งนี้นะคะ แต่ถ้าถึงเวลาแล้วคุณติดธุระ เราค่อยเปลี่ยนเวลาใหม่ก็ได้”“ได้เลยครับ”เมื่อกลับถึงห้องพักผู้ป่วย คุณย่าสือเห็นหลานสาวยิ้มแย้มอารมณ์ดีเป็นพิเศษ แววตาของท่านจึงสาดประกายประหลาดใจวูบหนึ่ง“หนูอวี๋ วันนี้ทำไมดูอารมณ์ดีจัง?”สืออวี๋มองไปที่คุณย่าสือ “หนูเช่าห้องใหม่ได้แล้วค่ะ สิ้นเดือนนี้ย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย แล้วหนูก็ชอบสไตล์การแต่งห้องนั้นมากด้วย”“แค่เรื่องนี้ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยเนี่ยนะ?”“ใช่แล้วค่ะ ว่าแต่หนูขอตัวไปทำมื้อเช้าก่อนนะคะ”สืออวี๋ฮัมเพลงเดินเข้าไปในครัว ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยสองย่าหลานพิ่งทานมื้อเช้าเสร็จ ซือเยี่ยนก็นำพยาบาลเข้ามาตรวจคนไข้พอดีหลังยืนยันว่าคุณย่าสือสามารถกล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 147

“เชิญค่ะ”เมื่อสืออวี๋หันกลับไป คนรับใช้ก็ผลักประตูห้องนอนเข้ามาพอดีตอนนี้ สืออวี๋ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มีดอกล่าเหมยซึ่งกำลังบานสะพรั่งอยู่ด้านหลัง ยิ่งส่งเสริมให้เธอดูงดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดแววตาของคนรับใช้ฉายประกายตกตะลึง ก่อนรีบก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่คะ พวกคนตระกูลหานมากันแล้วค่ะ คุณท่านให้ฉันมาเรียกคุณหนูออกไป”สืออวี๋เลิกคิ้ว ดูท่าว่าตระกูลหานจะร้อนใจในเรื่องที่เธอยื่นฟ้องหานเชี่ยนจริง ๆ ไม่งั้นคงไม่รีบวิ่งแจ้นมาทันทีที่คุณย่าสือออกจากโรงพยาบาลแบบนี้แน่“ค่ะ เดี๋ยวฉันตามออกไป”เมื่อสืออวี๋มาถึงห้องนั่งเล่น พ่อของหานเชี่ยนก็กำลังพูดคุยอยู่กับคุณย่าสือ ส่วนหานเชี่ยนนั่งก้มหน้าอยู่ด้านข้าง ไม่ทราบว่ากำลังคิดอะไรอยู่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า พ่อของหานเชี่ยนจึงหันมามอง หลังเห็นว่าเป็นสืออวี๋ก็กล่าวขึ้น “คุณหนูสือ ในที่สุดคุณก็มา พวกเรารอคุณอยู่นานแล้วครับ”“สวัสดีค่ะ คุณหาน”เธอนั่งลงข้างคุณย่าสือยังไม่ทันไร พ่อของหานเชี่ยนก็รีบเปิดฉากถามทันที “ไม่ทราบว่าเรื่องถอนฟ้อง คุณหนูสือพิจารณาไปถึงไหนแล้วครับ?”สืออวี๋มองไปที่พ่อของหานเชี่ยน “คุณหานคะ ฉันถอนฟ้องให้ก็ได้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 148

เมื่อเทียบกับถูกสืออวี๋ฟ้องร้อง การโพสต์ขอโทษในโลกออนไลน์ก็นับว่าเป็นบทลงโทษที่เบามากแล้วแต่เมื่อคิดว่าบรรดาคนที่รู้จักเธอและคนที่เธอรู้จักจะต้องมาเห็นโพสต์นั้น เธอก็รู้สึกอับอายขึ้นมาชอบกล“รู้แล้วค่ะ”“รู้แล้วก็รีบเขียนขอโทษให้มันจบไปสิ รู้ไหมว่าครั้งนี้แกก่อเรื่องเดือดร้อนให้ฉันขนาดไหน? ฉันขอเตือนแกไว้ก่อนนะ ช่วงนี้แกต้องอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ถ้ายังกล้าไปมีเรื่องกับสืออวี๋อีก ฉันจะอายัดบัตรแกให้หมด!”คำขู่นี้เมื่อใช้กับหานเชี่ยน ก็ถือว่าได้ผลเป็นอย่างดี“พ่อวางใจเถอะค่ะ หลังจากนี้ถ้าหนูเห็นสืออวี๋ หนูจะรีบเดินเลี่ยงไปให้ไกลเลย”“แกควรทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน”ตกเย็น ขณะที่สืออวี๋กำลังทานมื้อค่ำกับคุณย่าสือ เธอก็เห็นแถลงการณ์ขอโทษที่หานเชี่ยนโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตในแถลงการณ์เขียนอธิบายกระบวนการทั้งหมดที่เธอจ้างหวังจือจือให้ใส่ร้ายสืออวี๋ ซ้ำยังแนบหลักฐานไว้ใต้โพสต์ด้วยโพสต์นี้เพิ่งถูกเผยแพร่ไม่ทันไร ก็ติดเทรนด์ฮิตในทันใด เพียงพริบตาเดียว คนที่เคยเข้าข้างหวังจือจือต่างก็พากันขนรถทัวร์มาถล่มหวังจือจือและหานเชี่ยนทันทีหานเชี่ยนนั่งมองคอมเมนต์ด่าทอและเยาะเย้ยเธออ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 149

“ไม่ต้อง เอาตามนี้ไปก่อนแล้วกัน”“รับทราบครับ คุณชาย”ในบ้านเก่าตระกูลสือ ฝ่ายสืออวี๋เองก็เห็นแถลงการณ์ขอโทษฉบับนั้นแล้วเช่นกันหลังอ่านดูรอบหนึ่งจนแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไร สืออวี๋ก็เก็บมือถือ ไม่ได้สนใจอีกเช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อสืออวี๋ตื่นนอน เธอก็เดินทางไปศาลเพื่อทำเรื่องถอนฟ้องหานเชี่ยนทว่าเพิ่งเดินออกจากศาล เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากบ้านเก่าตระกูลสือสืออวี๋นึกว่าคุณย่าสือมีธุระอะไร จึงรีบกดรับสาย“ฮัลโหล? มีอะไรเหรอคะ?”เสียงเย็นชาของโจวฉินพลันดังมาจากอีกฝั่งหนึ่ง “วันนี้น้องสาวแกกลับมาแล้ว ตอนเย็นแกกลับบ้านด้วยแล้วกัน”สืออวี๋เหลือบมองเบอร์โทรเข้า พบว่าเป็นเบอร์ของบ้านเก่าตระกูลสือจริง ๆ ในดวงตาจึงทอประกายด้วยความสับสน“ทำไมถึงใช้เบอร์ที่บ้านโทรหาฉันล่ะคะ?”“ก็ถ้าฉันใช้มือถือฉันโทรไป แกจะรับสายเหรอ?”โจวฉินจงใจกดเสียงให้ต่ำลง แต่ก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจและความเย็นชาในน้ำเสียงอยู่ดี“ในเมื่อคุณรู้ว่าฉันคงไม่รับสายถ้าใช้เบอร์ตัวเองโทรมา งั้นคุณก็น่าจะเข้าใจดีว่า ฉันไม่มีวันทำตามที่คุณบอกแน่นอน”พูดจบ สืออวี๋ก็ตัดสายทิ้งทันทีตอนแรก เธอตั้งใจจะกลับบ้านเก่าหลังถอนฟ้องเ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 150

“อีกอย่าง ถ้าจัดงานเลี้ยงของเด็กสองคนในวันเดียวกันแต่แยกกันจัด คนอื่นต้องคิดว่าม่านม่านกับสืออวี๋ไม่ถูกกันแน่ ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีคนแอบเอาไปนินทามากแค่ไหนด้วยค่ะ”คุณย่าสือมองเธอ น้ำเสียงแฝงความเย้ยหยัน “กะอีแค่ลูกเลี้ยงคนหนึ่ง ยังอุตส่าห์วางแผนให้ขนาดนี้ คงลำบากเธอแย่เลยสินะ”เมื่อได้ยินคำว่าลูกเลี้ยง รอยยิ้มบนใบหน้าของโจวฉินก็พลันแข็งค้าง“แม่คะ แม่เลิกพูดคำว่าลูกเลี้ยงตอกย้ำหนูสักทีได้ไหม สำหรับหนูแล้ว ม่านม่านก็ไม่ต่างจากลูกสาวแท้ ๆ ของหนูหรอกค่ะ!”ส่วนสืออวี๋ นอกจากไม่เชื่อฟังแล้ว ก็มีแต่จะทำให้เธอขายหน้าผู้คน ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด“เธอจะนับว่ายัยเด็กนั่นเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของเธอก็ได้ แต่ฉันไม่มีทางนับเด็กนั่นเป็นหลานฉันแน่ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะบอดทั้งตาบอดทั้งใจเหมือนเธอสักหน่อย”ลูกเลี้ยงก็คือลูกเลี้ยง แค่ได้เติบโตมาอย่างสุขสบายในบ้านตระกูลสือก็ถือเป็นบุญวาสนาที่สร้างมาแต่ชาติปางก่อน ถ้ายังอยากได้มากกว่านี้ ก็คงเรียกว่าโลภมากไม่รู้จักพอแล้วคงมีแต่โจวฉินเท่านั้นที่มองความทะเยอทะยานของสือม่านไม่ออก และยังทำเหมือนเธอเป็นแก้วตาดวงใจ“ได้ค่ะ! ถือว่าเมื่อกี้หนูไม่ได้พูดอ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1314151617
...
23
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status