All Chapters of เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส: Chapter 1 - Chapter 10

30 Chapters

บทที่ 1

เครื่องบินโคลงเคลงวูบหนึ่ง ดึงสติของเวินหนานจื่อให้กลับมาเธอมองสภาพอากาศอันเลวร้ายด้านนอก ช่างเหมือนความร้อนรนในใจของเธอในยามนี้ไม่มีผิดเพี้ยนจากนั้นก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือ ข้อความที่ส่งหาแม่ของเธอยังไม่ได้รับการตอบกลับ และแม่ของเธอก็ขาดการติดต่อไปตั้งแต่เมื่อวานข้อความสุดท้ายที่ได้รับคือคำขอความช่วยเหลือ——“หนานจื่อ ช่วยแม่ด้วย”ดังนั้นเธอจึงมีทางเลือกเดียว คือกลับมายังบ้านตระกูลเวินที่กลืนกินคนทั้งเป็นเสียงหวานไพเราะของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินดังขึ้นข้างหูเวินหนานจื่อ “อีกหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติอี๋ซื่อ เรากำลังเดินทางผ่านสภาพอากาศแปรปรวน อาจทำให้เกิดการสั่นสะเทือน ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านนั่งประจำที่ คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ตลอดเวลา และงดลุกจากที่นั่ง ขอบคุณค่ะ”เวินหนานจื่อยกโทรศัพท์ขึ้นส่องดูใบหน้าของตัวเอง ดวงตาที่ไม่ได้นอนทั้งคืนว่างเปล่าไร้ประกาย ใต้ตาคล้ำเข้ม แก้มซีดจนแทบไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิดเธอกัดริมฝีปากพลางนึกถึงคนตระกูลเวิน เธอไม่อยากให้พวกเขามองเธอเป็นตัวตลกจึงหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางขึ้นมา และรอจนเครื่องบินนิ่งก่อนจึงลุกขึ้นไปห้องน้ำเพื่อแต่ง
Read more

บทที่ 2

ในห้องน้ำอบอวนไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แผดเผาไปทั่วทุกอณูของเวินหนานจื่อ เธอเกาะขอบอาบล้างมือแน่น ร่างกายโคลงเคลงราวกับผ้าขาดรุ่งริ่งทว่าร่างของชายคนนั้นกลับยังคงกระแทกตัวเธออย่างไม่หยุดหย่อน“คุณ คุณเป็นใคร?” เธอกอดหน้าอกตัวเองพร้อมถอยรนหนีชายคนนั้นสัมผัสแก้มของเวินหนานจื่อได้อย่างแม่นยำราวกับมองทะลุความมืดได้ ก่อนจะปัดปอยผมที่เปียกเหงื่อขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ แล้วลูบไล้ผ่านแก้มและมุมปากของเธออย่างจงใจ พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า“บางทีถ้าเธอให้ฉันลิ้มลองอีกครั้ง ฉันอาจจะบอกเธอก็ได้”แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืด แต่เวินหนานจื่อก็รู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเขากำลังยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างเย็นชาเวินหนานจื่อตัวสั่นคลอน รู้สึกเหมือนโสเภณีที่ถูกเหยียดหยาม เธอแกว่งมือที่สั่นเทาไปตบหน้าของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ“หน้าไม่อาย!”อุณหภูมิในห้องน้ำลงลดอย่างฉับพลัน ถึงขั้นเย็นยะเยือกเวินหนานจื่อฉวยโอกาสผลักชายคนนั้นออก แล้วรีบวิ่งออกไป เครื่องบินเริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง ร่างของเขาจึงถูกบานประตูห้องน้ำที่ปิดลงกั้นไว้เธอรีบย่อตัวลง หลบเข้าไปในที่นั่ง แล้วคว้าผ้าห่มบนที่นั่งมาคลุมตัวเองจนมิด แต่
Read more

บทที่ 3

เวินหนานจื่อรีบวิ่งหน้าตั้งกลับบ้านตระกูลเวิน แต่ยังไม่ทันก้าวพ้นประตู ก็ถูกผู้หญิงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดคนหนึ่งขวางเอาไว้เสียก่อน“หนานจื่อ ดูสภาพแกเหมือนหนีตายกลับมาจากต่างประเทศไม่มีผิด? ตระกูลเวินเคยให้แกอดอยากตรงไหนกัน?”เวินหนานจื่อดึงปลายผมสั้นที่ถูกตัดอย่างลวก ๆ บนศีรษะแล้วเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้า ซึ่งก็คือแม่เลี้ยงของเธอ เป็นความลับที่เลื่องลือไปทั่วว่าตระกูลเวินมีนายหญิงสองคน และผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือคนที่ได้รับความโปรดปรานสูงสุด ชื่อเฉียนฮุ่ยหรูเฉียนฮุ่ยหรูใช้ปรายนิ้วจิ้มหน้าผากเวินหนานจื่อ “จุ๊จุ๊ น่าอายจริง ๆ! เหมือนแม่ที่เงียบเป็นใบ้ของแกไม่มีผิด วัน ๆ เอาแต่ทำหน้าอมทุกข์ เห็นแล้วอารมณ์เสีย”ดวงตาสีแดงก่ำของเวินหนานจื่อคลอไปด้วยน้ำ เธอถามคนตรงหน้าอย่างเอาความว่า “แล้วแม่ฉันล่ะ? พวกคุณทำอะไรแม่ฉัน? พวกคุณไม่ชอบฉัน ส่งฉันไปต่างประเทศฉันก็ยอมแล้ว แต่ทำไมต้องทำร้ายแม่ฉันด้วย? แม่ฉันถือศีลกินเจ ท่านไปทำอะไรให้พวกคุณหนักนัก?”เฉียนฮุ่ยหรูอวดกำไลหยกสวยบนข้อมือพลางกล่าวยั่วยุว่า “ก็เพราะแม่แกชอบทำตัวสูงส่งไงล่ะ ถึงได้ไม่มีปัญญารั้งผัวตัวเองไว้ ขนาดพระโพธิสั
Read more

บทที่ 4

เวินหนานจื่อกลิ้งตัวอยู่บนเตียงอย่างยากลำบาก แม้จะมองไม่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้า แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าอากาศรอบกายกำลังจับตัวเป็นก้อนเพราะการคืบคลานเข้ามาใกล้ของชายผู้นั้นเธอกลั้นหายใจไว้ลึกสุด พรั่นพรึงว่าเสียงหายใจของตนเองจะไปยั่วโทสะผู้ที่อยู่เบื้องหน้าชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามาอยู่ระหว่างร่องขาของเธอ เนื้อผ้ากางเกงที่เรียบลื่นเสียดสีกับผิวหนังบริเวณขา สัมผัสที่เย็นเยียบนั้นคล้ายกับอสรพิษ เธอนึกว่าตัวเองถูกอันตรายรัดพันเอาไว้แล้ว และในเสี้ยววินาทีต่อไป เธอจะต้องขาดใจตายเป็นแน่“ไม่… อย่า” เวินหนานจื่อเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบากเตียงสั่นไหวขึ้นมาในทันใด เธอรู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งทาบลงมาใกล้หู จนเกิดแรงลมพัดเส้นผมของเธอปลิวไหวไปหลายเส้น หัวใจของเธอพลันหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุดใบหน้าของชายคนนั้นอยู่ใกล้มาก และลมหายใจของเขาที่รดหน้าเธอทั้งร้อนผ่าวและอันตราย จนเธอต้องกลั้นหายใจด้วยความหวาดกลัวในเสี้ยววินาทีถัดมา เสื้อผ้าของเธอก็ถูกฉีกขาด มือที่ทาบอยู่ข้างหูเลื่อนผ่านแก้มลงมากดบีบลำคอของเธอ ขณะที่มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปบนเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธออย่างได้ใจเธอรู้สึกเหมือนมือท
Read more

บทที่ 5

เวินหนานจื่อที่กำลังจมอยู่ในอ่างน้ำเย็นจัดควานมือทาบขอบอ่างด้วยสัญชาตญาณ พยายามดันร่างท่อนบนขึ้นมาเพื่อหายใจเฮือกใหญ่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัว กงเฉินในชุดสีดำก็ปรากฏตัวตรงหน้า ที่มุมปากของเขายังคงติดตรึงรอยยิ้มอันชั่วร้ายอยู่ตลอดเวลา มันอันตรายจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้กงเฉินยกมือขึ้นกดไหล่ของเวินหนานจื่อ อุณหภูมิฝ่ามือของเขาเย็นยะเยือกไม่ต่างจากน้ำเย็นนั้นเลย กลิ่นเส้นยาสูบที่ติดปลายนิ้วเรียวยาวเย้ายวนชวนให้หลงใหล ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความอันตรายดุจคมมีดเพียงเขากดนิ้วลงเบา ๆ ก็ทำให้ไหล่ของเธอแดงเป็นปื้นเวินหนานจื่อลืมตาโพลง มองชายหนุ่มรูปงามดุจปีศาจตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว กว่าจะหายใจเป็นปกติ แต่แล้ววินาทีถัดมา กงเฉินกลับกดเธอกลับลงไปในน้ำอีกครั้งเธอกรีดร้องอย่างหมดทางสู้ “อ๊า!” เมื่อเสียงกรีดร้องของเวินหนานจื่อดังระงมทั่วห้องน้ำ กงเฉินจึงปล่อยมืออย่างพอใจก่อนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ร่างสูงโปร่งทอดยาวราวกับเงาปีศาจที่แฝงไว้ด้วยความอำมหิตเขาดึงบุหรี่ม้วนหนึ่งออกมาจุด แล้วค่อย ๆ พ่นควันจาง ๆ ออกมา ดวงตาสีดำสนิทเต็มไปด้วยความสะใจ“เข้ามาล้างตัวเธอให้สะอาด”สาวใช้เดินเข้ามาอย่างหุ่
Read more

บทที่ 6

รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบหน้าประตูใหญ่บ้านตระกูลเวิน พ่อบ้านก้าวลงจากรถ ก่อนกดกริ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติชายร่างบึกบึนสองคนโยนเวินหนานจื่อผู้หมดสติลงตรงหน้าประตู เนื้อตัวเธอมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวห่อหุ้ม ผมเพ้าที่เปียกชื้นถูกลมหนาวพัดเป่าจนแห้งกรังพ่อบ้านขมวดคิ้ว ถอดเสื้อโค้ตตัวยาวห่มคลุมให้แก่เวินหนานจื่อ จากนั้นจึงพูดสีหน้าเรียบเฉย "ไปกันเถอะ"เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากในบ้านตระกูลเวิน พ่อบ้านก็นำคนขึ้นรถจากไปเฉียนฮุ่ยหรูอยู่ในสภาพเกียจคร้านหลังงีบหลับ ปากก่นด่าสาวใช้ว่าหูหนวกตาบอดขณะเดินมาเปิดประตูเพราะได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าบ้านทันทีที่เห็นเวินหนานจื่อนอนกองอยู่กับพื้น ใบหน้าของเฉียนฮุ่ยหรูพลันซีดขาว หัวใจกระตุกวูบ รีบคว้าเอกสารข้างกายเวินหนานจื่อขึ้นมาพลิกดูเมื่อเห็นช่องสำหรับลงนามของกงเฉินยังคงว่างเปล่า เธอก็กรีดร้องเสียงแหลม "แย่แล้ว! แย่แล้ว!"สถานการณ์ย่ำแย่จริงดังว่า เวินเสียงผู้เป็นพ่อซึ่งอยู่ชั้นบนเพิ่งวางสายโทรศัพท์ กงเฉินบีบคั้นจนโรงงานในเครือกว่าครึ่งของเขาต้องหยุดชะงัก ไม่อาจขับเคลื่อนสายพานการผลิตได้อีกเวินเสียงกระแทกโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ เดินไ
Read more

บทที่ 7

เวินเสียงและเฉียนฮุ่ยหรูไม่เปิดโอกาสให้เวินหนานจื่อได้พักหายใจ ทั้งคู่ลากเธอขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่ตระกูลกง โดยไม่ให้เวลาเธอได้สวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเสียด้วยซ้ำเวินหนานจื่อกระชับเสื้อคลุมตัวนอกแนบแน่น ศีรษะซึ่งยังคงหนักอึ้งและมึนงงเดี๋ยวก้มเดี๋ยวเงยด้วยความทรมาน เส้นผมที่ถูกตัดเปียกชุ่มด้วยคราบน้ำตาแนบติดใบหน้าเฉียนฮุ่ยหรูสั่งให้คนส่งผลตรวจปลอมฉบับหนึ่งมาที่บ้านตระกูลเวิน ตลอดการเดินทางก็เอาแต่หารือกับเวินเสียงไม่หยุดปากว่าควรทำอย่างไรให้กงเฉินหลงเชื่อรายงานฉบับนี้ดีเมื่อถึงตระกูลกง พ่อบ้านผู้อยู่หน้าประตูก็กวาดตามองพวกของเวินหนานจื่อทั้งสามคนพลางขมวดคิ้ว เขาไม่ได้เปิดประตูให้ในทันที แต่กลับเดินเข้าไปในตัวคฤหาสน์เพื่อเรียนให้กงเฉินทราบเรื่องกงเฉินวางแก้วไวน์ในมือลง กระตุกยิ้มมุมปาก “ให้เข้ามา”เวินหนานจื่อถูกคุมตัวมาอยู่ตรงหน้ากงเฉินคล้ายเป็นตุ๊กตาผ้าเก่าขาดตัวหนึ่ง เธอยังไม่ทันยืนให้มั่นคง เฉียนฮุ่ยหรูก็ปรี่เข้าไปเตะข้อพับขาของเธอจนทรุดฮวบลงหัวเข่ากระแทกพื้น นั่งคุกเข่าต่อหน้ากงเฉินผู้ยืนตระหง่านกงเฉินยืนอยู่บนขั้นบันได รูปร่างที่สูงโปร่งอยู่แล้วยิ่งดูโดดเด่น มือข้างหนึ่งล้
Read more

บทที่ 8

เวินหนานจื่อตื่นขึ้นในยามฟ้าสาง เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั่วร่าง รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปทั้งตัว ลำคอแห้งผากระคายเคืองเธอกวาดตามองไปรอบห้องเก็บของ ก่อนก้มมองผ้าห่มบนตัว ตรงหน้ามีน้ำหนึ่งแก้วและของกินวางอยู่ จึงรีบคว้าขนมปังในจานทรงกลมขึ้นมากัดกินโดยไม่ลังเลเพราะเธอหิว หิวจนแทบทนไม่ไหวแล้วนับตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิดแต่ขนมปังที่วางทิ้งไว้ข้ามคืนหมดสิ้นความนุ่มนิ่มทั้งแห้งและแข็ง เวลากลืนลงไปจึงให้ความรู้สึกราวกลืนใบมีดที่คอยกรีดผ่านลำคอซึ่งเจ็บระบมอยู่แล้วเวินหนานจื่อคว้าแก้วน้ำขึ้นมากระดกดื่ม ฝุ่นละอองบนพื้นฟุ้งกระจายขึ้นมาเป็นชั้น จนเธอต้องหรี่ตาลงแสงอรุณจากหน้าต่างบานเล็กสาดส่องเข้ามา ฝุ่นผงในห้องเก็บของลอยล่องหนาตากระจายตัวอยู่ในลำแสงนั้นเมื่อมองไปรอบกาย เวินหนานจื่อก็ยกมือขึ้นปิดปาก เพิ่งหวนนึกถึงสภาพความเป็นจริงของตนเอง เธอขยี้ดวงตาที่แสบพร่า พยายามสะกดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลรินเวินหนานจื่อจ้องมองกระเป๋าเดินทางที่เฉียนฮุ่ยหรูให้ติดตัวมาตรงมุมห้อง คิดจะลุกเดินไปหา แต่หัวเข่ากลับอ่อนพับ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ทำได้เพียงคลานเข้าไปหากระเป๋าเดินทา
Read more

บทที่ 9

ภายในห้องยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของการระบายความใคร่อันดิบเถื่อน ผ้าม่านกั้นเตียงหนาทึบปิดกั้นจนแสงไม่อาจเล็ดลอดเข้ามาได้ ภายใต้ความสลัวชวนวาบหวามนั้น เงาร่างของกงเฉินดูเลือนรางไม่ชัดเจนเวินหนานจื่อเหลือบตามองเล็กน้อย ครั้นเห็นคนบนเตียงลุกขึ้น ก็ตกใจรีบหลุบตาลงมองปลายเท้าบนพื้นทันทีกงเฉินลุกขึ้นโดยไม่คิดปิดบังสิ่งใด เผยให้เห็นเรือนร่างอันกำยำชัดเจน ก่อนคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาคลุมตัว ไม่ได้สวมใส่แขนเสื้อให้เรียบร้อยเสียด้วยซ้ำ"ตามฉันมา"สิ้นเสียงคำสั่งที่เปี่ยมด้วยความดุดัน ก็ตามมาด้วยเสียงกริ๊ก นิ้วมือของกงเฉินคีบบุหรี่มวนหนึ่ง ปลายบุหรี่ขยับไหวขึ้นลง ยามเดินผ่านหน้าเวินหนานจื่อก็จงใจพ่นควันออกมากลุ่มหนึ่งเวินหนานจื่อสำลักจนอยากจะไอ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ร้าย นอกจากยอมสยบด้วยความสั่นเทาแล้ว เธอก็ทำได้เพียงข่มความอึดอัดทั้งหมดเอาไว้เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนก้าวเท้าตามกงเฉินไป ภาพอันน่าอับอายในหัวสมองคอยทรมานทุกประสาทสัมผัส ความเจ็บปวดในช่วงล่างยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายโซเซ ขณะเงยใบหน้าที่ซีดเซียวเสียยิ่งกว่าคนป่วยขึ้นเล็กน้อยห้องน้ำในห้องนอนนั้นกว้างขวาง อ่างอาบน้ำระ
Read more

บทที่ 10

กงเฉินหยัดกายลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ เผยให้เห็นรอยสักที่พาดผ่านทั่วทั้งแผ่นหลังเมื่อครู่เวินหนานจื่อเอาแต่ก้มหน้า ตอนนี้จึงเห็นรอยสักถนัดตา ผ้าขนหนูในมือถึงกับร่วงหล่นลงน้ำไปกงเฉินปรายตามองมาแวบหนึ่ง เธอจึงรีบคว้าผ้าขนหนูแห้งมาเช็ดหยดน้ำตามตัวให้เขาทันที ไม่กล้าชักช้าแม้แต่น้อยด้วยความที่รอยสักรูปพญาอินทรีซึ่งสุดจะสมจริงนั้นมีรอยนูนเล็กน้อย เธอจึงแอบชำเลืองมองอย่างระมัดระวัง ถึงได้พบว่าบนตัวอินทรีนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่พาดเฉียงไปมา ทับซ้อนจนกลายเป็นปีกของพญาอินทรี แต่ละรอยล้วนดูสดใหม่และชัดเจนรอยสักนี้มีไว้เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นใช่ไหม?แล้วทำไมบนตัวเขาถึงได้มีรอยแผลเป็นมากมายขนาดนี้ล่ะ?กงเฉินสัมผัสได้ถึงสายตาที่หยุดมองของเวินหนานจื่อ จึงกระชากผ้าเช็ดตัวจากมือเธอมาพันกายลวก ๆ "ไสหัวไป""ดะ...ได้ค่ะ"เวินหนานจื่อรีบพุ่งตัวออกจากห้องทันที เหมือนรอเวลานี้มานานแล้วแต่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว เซียวหลานกำลังยืนรอเธออยู่ เพื่อเยาะเย้ยว่า "แหม โผล่หัวออกมาได้แล้วเหรอ? เดี๋ยวนี้สาวใช้ตระกูลกงใจกล้าขนาดนี้เชียว? ถึงกับกล้าปีนขึ้นเตียงเจ้านายเลยสินะ?"เวินหนานจื่อเม้มปาก พยายามเบี่ยงกายท
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status