แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: หรูซู่
เวินหนานจื่อกลิ้งตัวอยู่บนเตียงอย่างยากลำบาก แม้จะมองไม่เห็นคนที่อยู่ตรงหน้า แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าอากาศรอบกายกำลังจับตัวเป็นก้อนเพราะการคืบคลานเข้ามาใกล้ของชายผู้นั้น

เธอกลั้นหายใจไว้ลึกสุด พรั่นพรึงว่าเสียงหายใจของตนเองจะไปยั่วโทสะผู้ที่อยู่เบื้องหน้า

ชายหนุ่มแทรกตัวเข้ามาอยู่ระหว่างร่องขาของเธอ เนื้อผ้ากางเกงที่เรียบลื่นเสียดสีกับผิวหนังบริเวณขา สัมผัสที่เย็นเยียบนั้นคล้ายกับอสรพิษ เธอนึกว่าตัวเองถูกอันตรายรัดพันเอาไว้แล้ว และในเสี้ยววินาทีต่อไป เธอจะต้องขาดใจตายเป็นแน่

“ไม่… อย่า” เวินหนานจื่อเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก

เตียงสั่นไหวขึ้นมาในทันใด เธอรู้สึกว่ามีมือข้างหนึ่งทาบลงมาใกล้หู จนเกิดแรงลมพัดเส้นผมของเธอปลิวไหวไปหลายเส้น หัวใจของเธอพลันหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด

ใบหน้าของชายคนนั้นอยู่ใกล้มาก และลมหายใจของเขาที่รดหน้าเธอทั้งร้อนผ่าวและอันตราย จนเธอต้องกลั้นหายใจด้วยความหวาดกลัว

ในเสี้ยววินาทีถัดมา เสื้อผ้าของเธอก็ถูกฉีกขาด มือที่ทาบอยู่ข้างหูเลื่อนผ่านแก้มลงมากดบีบลำคอของเธอ ขณะที่มืออีกข้างก็ลูบไล้ไปบนเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธออย่างได้ใจ

เธอรู้สึกเหมือนมือที่อยู่บนลำคอของเธอกำลังบีบรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้สึกคลื่นไส้แล่นพล่านไปทั่วลำคอ ดวงตาที่ถูกผ้าปิดอยู่เริ่มเปียกชื้น

“แค๊ก... ปล่อย ปล่อยฉัน” เธอร้องวิงวอนเสียงขาด ๆ หาย ๆ

แต่เขากลับหัวเราะออกมา เสียงหัวเราะเยาะที่แสนเย็นชาแฝงความคึกคะนองอย่างน่าขนลุก

ในขณะที่เธอคิดว่ากำลังจะขาดใจตาย ผ้าผืนที่ปิดตาอยู่ก็ถูกกระชากออก ทำให้เธอได้เห็นใบหน้าของชายตรงหน้าอย่างชัดเจน

ใบหน้าที่เย้ายวน กลับแฝงด้วยอันตราย ดวงตาเรียวยาวเต็มไปด้วยความดูแคลน มุมปากฉีกยิ้มชั่วร้าย ร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าดูแข็งแกร่งและน่าหวาดหวั่น

เขาคือคุณกง กงเฉิน ชายที่เฉียนฮุ่ยหรูพูดถึง

และเป็นคนที่เธอถูกยัดเยียดให้แต่งงานเพื่อรองรับอารมณ์ของเขาเท่านั้น

“คนตระกูลเวินสมควรได้รับแบบนี้เท่านั้นแหละ!”

ทันทีที่เสียงแหบพร่าสิ้นลง ร่างของเวินหนานจื่อก็ถูกกงเฉินบังคับให้พลิกคว่ำ... อยู่ในท่าคุกเข่าโก้งโค้งอยู่บนเตียง

ในตอนนั้นเอง เวินหนานจื่อถึงสังเกตเห็นว่าที่หัวเตียงคือกระจกบานใหญ่ ทำให้เธอสามารถมองเห็นตนเองได้อย่างชัดเจนว่ากำลังคุกเข่าอย่างอัปยศอยู่ใต้ร่างของกงเฉิน

มือของกงเฉินออกแรงกดลงบนเอวของเธออย่างหนัก ทำให้บั้นท้ายของเธอต้องยกสูงขึ้น ทว่าเขากลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม ราวกับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายที่กำลังจะยัดเหยื่อเข้าปาก

เวินหนานจื่อตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอได้แต่พึมพำขอร้องให้เขาหยุดด้วยเสียงสะอื้น

ทว่ากงเฉินกลับจดจ้องเธอที่น่าเวทนาด้วยสีหน้าตื่นเต้นและฮึกเหิม พลางแค่นเสียงหัวเราะเยาะ “ร้องออกมา ร้องต่อไปอีก”

กงเฉินฉีกกระชากปราการด่านสุดท้ายของส่วนล่างของเวินหนานจื่อออก ทว่าสีหน้าของเขากลับเคร่งขรึมลง เมื่อเห็นร่องรอยบนบั้นท้ายของเธอที่แสดงถึงการถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะฟาดลงไปอย่างรุนแรงหนึ่งครั้ง

"อ๊ะ!" เวินหนานจื่อเจ็บปวดจนริมฝีปากซีดขาวและร้องเสียงหลงออกมา

“คนตระกูลเวิน มันเจ้าเล่ห์จริง ๆ คิดจะเอาของใช้แล้วมาหลอกฉันงั้นเหรอ!” กงเฉินสอดนิ้วมือเข้าไปอย่างแรง พร้อมขมวดคิ้วแน่น เขาสัมผัสได้ว่านิ้วถูกโพรงที่แห้งผากโอบรัดจนขยับไม่ได้ นั่นยิ่งไปกระตุ้นความปรารถนาทั่วร่างของเขาทันที

“ไม่ใช่ ฉันไม่” สมองของเวินหนานจื่อขาวโพลน สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงความเจ็บปวดและคำวิงวอนขอชีวิตมากมาย

แต่กงเฉินไม่ปล่อยเธอไป เมื่อความปรารถนาลุกโชน เขาก็โถมแก่นกายเข้าสู่ร่างกายของเธอโดยไม่มีการเตรียมพร้อมใด ๆ

ทันใดนั้น เวินหนานจื่อรู้สึกเหมือนร่างกายถูกผ่าออกเป็นสองซีก การถูกข่มขืนถึงสองครั้งภายในวันเดียว ทำให้จิตใจของเธอพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

เธอส่งเสียงร้องออกมาครั้งหนึ่ง รู้สึกเหมือนร่างกายที่ถูกมัดแขนไว้แปรเปลี่ยนเป็นคมมีดที่ฝังลึกเข้าสู่ผิวหนัง ราวกับกำลังแยกชิ้นส่วนเธอออกเป็นเสี่ยง ๆ

เธอกัดริมฝีปาก ส่วนที่ฉีกขาดถูกกระทําชําเราอีกครั้งจนเลือดไหลซึมเปื้อนผ้าห่ม

เธอไม่กล้ามองกระจกตรงหน้า ทำได้เพียงปิดตาลง บังคับตัวเองไม่ให้ส่งเสียงที่น่าอับอายเช่นนั้นออกมา

แต่เมื่อกงเฉินเห็นเวินหนานจื่อซ่อนใบหน้าลงในผ้าห่ม ก็คว้าเส้นผมสั้นของเธอไว้ ดึงให้ศีรษะเธอเงยขึ้นเพื่อมองกระจก

"แหกตาดูให้ชัด ๆ! พูด! ว่าเธอถูกใครเอาอยู่!"

เวินหนานจื่อส่ายหน้า ไม่ยอมพูด

กงเฉินจึงยิ่งกระแทกแก่นกายเข้าสู่ร่างกายของเธอแรงขึ้นจนสุดดุ้น แรงที่ดึงผมเธอก็เผลอกระชากแรงตามไปด้วย

เวินหนานจื่อทำได้แค่มองทุกสิ่งด้วยดวงตาที่แดงก่ำและว่างเปล่า

หลังจากกงเฉินระบายอารมณ์ของเขาเสร็จ เขาก็ผลักเวินหนานจื่อออก ทิ้งไว้บนเตียงราวกับตุ๊กตาผ้าขาด ๆ แล้วบิดคอตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะมองลงมาที่เธอ

เขาคีบบุหรี่ไว้ที่นิ้ว ดูดบุหรี่แล้วพ่นออกมา จากนั้นสั่งเสียงเข้ม “ใครก็ได้! พาตัวผู้หญิงสำส่อนคนนี้กลับไปส่งที่บ้านตระกูลเวิน ฉันต้องการให้ตระกูลเวินรู้ว่าผลของการหลอกลวงฉันเป็นยังไง!”

สติที่เหลืออยู่ของเวินหนานจื่อยังจำคำเตือนของเฉียนฮุ่ยหรูได้ ถ้าจะช่วยแม่ก็ต้องเอาใจกงเฉิน

“อย่า ขอร้องล่ะ อย่าส่งฉันกลับไป!”

“ขอร้องฉัน?” กงเฉินจับคางเวินหนานจื่ออย่างแรง “นี่คือท่าทีที่เธอใช้ขอร้องฉันอย่างนั้นเหรอ?”

เวินหนานจื่อขยับตัวอย่างยากลำบาก รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทุกอณูของกระดูก แต่สุดท้ายก็ได้แต่คุกเข่าลงตรงหน้าเขา

พลางอ้อนวอนด้วยความต่ำต้อย “อย่าส่งฉันกลับไปเลยนะ ได้โปรดเถอะนะคุณกง”

กงเฉินนั่งลงบนเก้าอี้และรอคอยอย่างเงียบ ๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจกับคำวิงวอนของเธอ

คนข้างนอกเคาะประตู “คุณกงครับ เราขออนุญาตเข้าไปนะครับ”

“อย่า!” เวินหนานจื่อเปลือยกายพลางตะโกนเสียงดัง เธอพยุงร่างกายที่สั่นเทิ้มขึ้นอย่างยากลำบากและเดินโซซัดโซเซไปหากงเฉิน ก่อนจะย่อตัวคุกเข่าต่อหน้าเขา “คุณกงคะ ได้โปรด ฉัน... ฉันจะทำตัวดี ๆ ค่ะ"

กงเฉินยิ้มเหี้ยมเกรียม ทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยความอำมหิต ก่อนสั่งให้คนด้านนอกถอยไป แล้วหยิบปลายบุหรี่ที่ลุกแดงขึ้นมาแนบใกล้ข้อมือที่ถูกมัดของเธอ

เปลวไฟจากบุหรี่จี้เข้าที่ข้อมือของเวินหนานจื่อ เธอกัดฟันแน่นเพื่ออดทน จนกระทั่งเชือกคลายออก แขนทั้งสองข้างของเธอจึงร่วงลงอย่างอ่อนแรง ทิ้งรอยแผลไหม้จากบุหรี่ไว้ที่ข้อมือ

ร่างของเธอถูกกงเฉินอุ้มขึ้นคร่อมบนขาของเขา ก่อนถูกกะซวกแทงอย่างโหดเหี้ยม จนใบหน้าของเธอซีดขาว

เธอไม่ต่อต้านอีกต่อไป ยอมให้เขาเอาได้ตามใจอยาก จัดท่วงท่าที่เอาใจและส่งเสียงครางอันเชื่องยอมทุกรูปแบบ มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่ยังคงหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเศร้าโศกเพื่อตัวเธอเอง

หลังจากหมดสติไปและฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เวินหนานจื่อส่งเสียงครางแผ่วเบาด้วยความเจ็บปวด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าดูเหมือนจะกลับตาลปัตรไปหมด เธอใช้มือแตะหน้าผาก ความร้อนสูงแทบแผดเผาฝ่ามือของเธอ

ยังไม่ทันที่เธอจะได้พยุงตัวขึ้น ร่างของเธอก็ถูกอีกคนลากขึ้นแล้วเหวี่ยงลงไปในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำเย็นจัด

น้ำเย็นที่ท่วมมิดตัวทำให้แขนขาของเธอแข็งทื่อ และหายใจไม่ออกอีกครั้ง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส   บทที่ 30

    ยามเห็นพิณผีผาสุดรักถูกฟาดแตกหัก เวินหนานจื่อก็ตะลึงงันไปสามวินาที ทั้งร่างคล้ายถูกความตระหนกเข้าครอบงำจนทำอะไรไม่ถูกเวินหนานจื่อไม่แยแสความเจ็บปวดที่ข้อเท้าอีกต่อไป รีบหยัดกายลุกขึ้น แต่เมื่อทอดตามองพิณผีผาที่ถูกกงเฉินโยนทิ้งไว้บนพื้น ร่างกายก็พลันอ่อนระทวยทรุดฮวบลงคุกเข่า“ผีผาของฉัน! ผีผาของฉัน!” เธอพึมพำเสียงเครือราวคนเสียสติ ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัวเธอโผเข้าไปคว้าซากพิณที่แตกหักมากอดแนบอก พยายามประกอบมันเข้าด้วยกัน นิ้วมือดึงรั้งสายพิณ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร มันก็ไม่มีวันกลับคืนสู่สภาพเดิมได้อีกแล้วกระทั่งสายพิณเส้นสุดท้ายที่ยังสมบูรณ์อยู่พลันขาดเสียงดังเปรี๊ยะ บาดลึกลงไปในปลายนิ้วของเวินหนานจื่อ ก่อนจะรัดพันนิ้วของเธอเอาไว้ เลือดสดไหลทะลักออกมาจนปลายนิ้วแดงฉานแต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บปวด ยังคงกอดพิณผีผาไว้แนบอก นั่งคอตกอย่างคนหมดอาลัยตายอยากเสียงสะอื้นไห้ฮือ ๆ ใกล้ระเบิดเต็มทีกงเฉินยืนตระหง่านอยู่ข้างกายเวินหนานจื่อ หลุบตามองหญิงสาวเบื้องล่าง ดวงตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อย ไม่ว่าเขาจะกระทำย่ำยีอย่างไร เวินหนานจื่อก็มักกัดฟันอดทนไม่ยอมหลั่งน้ำตา แต่เวลานี้เธอกลับร้องไห้ฟูมฟายเพี

  • เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส   บทที่ 29

    ลุงจงเปิดประตูห้อง พลางส่งสัญญาณให้เวินหนานจื่อเดินเข้าไปภายใต้แสงไฟสลัวที่ชวนให้รู้สึกคลุมเครือ กงเฉินนั่งอยู่บนโซฟาหนังสไตล์อเมริกัน โซฟาหนังทรงคลาสสิกที่ทอประกายมันวาวนั้น ยิ่งขับเน้นความเย้ายวนใจของกงเฉินให้ดูสูงศักดิ์และยากจะเอื้อมถึงมากขึ้นหญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขานั้นงดงามหยาดเยิ้ม รูปร่างอวบอัดมีส่วนเว้าส่วนโค้งชวนมองบนโซฟาอีกตัวหนึ่งคือกู้เหยียนอี้ เขาดูราวกับไม่ได้อยู่ในโลกใบเดียวกับกงเฉิน ทั้งที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังเนื้อดีเช่นเดียวกัน แต่เขากลับแผ่กลิ่นอายความหล่อเหลาที่ดูสงบเยือกเย็นออกมาเวินหนานจื่อยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขา กอดพิณผีผาในอ้อมอกไว้แน่นจนบดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง พร้อมกันนั้นก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อยกู้เหยียนอี้รีบลุกขึ้น ก่อนลากเก้าอี้ตัวหนึ่งเดินเข้ามา "หนานจื่อ ขาคุณยังไม่หายดี นั่งคุยกันเถอะครับ"เวินหนานจื่อยังคงไม่กล้าขยับตัว เธอแอบชำเลืองมองกงเฉินแวบหนึ่ง เห็นเพียงแววตาของเขามืดมนลง แฝงความเย็นชายากอธิบายเธอไม่ยอมนั่ง แต่กลับถูกกู้เหยียนอี้กดไหล่บังคับให้นั่งลงจนได้หญิงสาวผู้นั้นปรายตามองเวินหนานจื่อ ขณะถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ "นี่ไปหานางคณิกามาจา

  • เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส   บทที่ 28

    สุ้มเสียงอ่อนโยนของกู้เหยียนอี้ดังขึ้นเหนือศีรษะเวินหนานจื่อเงยหน้าขึ้น พบว่าสเต๊กในจานของกงเฉินหายไปหลายชิ้น จึงทอดสายตามองกงเฉินเป็นทำนองขอความเห็นกงเฉินกระตุกยิ้มร้ายกาจ พลางจิบไวน์แดงอึกหนึ่ง "นี่เธอจะฟังคำสั่งเขาเหรอ?"เวินหนานจื่อส่ายหน้า "ฉันไม่หิวค่ะ"เธอก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าคิดต่อต้าน เพราะเคยเกือบจะถูกกงเฉินผู้เกรี้ยวกราดกดร่างลงกับโต๊ะอาหารตัวนี้เพื่อย่ำยีศักดิ์ศรีมาแล้ว"กงเฉิน!" กู้เหยียนอี้ขึ้นเสียง ก่อนหันมาพูดกับเธอ "หนานจื่อ คุณไม่ต้องกลัวเขาหรอก กินเถอะ"แต่กงเฉินกลับจ้องมองด้วยสายตาคล้ายหยั่งเชิง คาดคิดว่าเธอคงไม่กล้าเคลื่อนไหวสุดท้าย เวินหนานจื่อก็ยังคงว่านอนสอนง่ายไม่ได้แตะต้องอาหารแม้แต่คำเดียว ได้แต่กลืนความหิวโหยทั้งหมดลงท้องไปพร้อมกับน้ำลายอึกแล้วอึกเล่าภายใต้สายตาของลุงจง เธอปรนนิบัติกงเฉินอย่างระมัดระวังตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อยไปจนถึงของหวาน โดยที่ตัวเองไม่มีของกินตกถึงท้องเลยสักคำเดียวกงเฉินยอมรับการปรนนิบัตินั้น แต่แววเย้ยหยันในดวงตากลับไม่ลดน้อยลง ราวกับเห็นว่าการเอาอกเอาใจของเธอเป็นเรื่องตลกสิ้นดีเมื่อกลับมาถึงห้อง เวินหนานจื่อ

  • เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส   บทที่ 27

    เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำ ลุงจงก็มาเคาะประตูห้องของเวินหนานจื่อ พอเปิดเข้าไปก็เห็นเธอกำลังลากขาที่หนักอึ้ง คุกเข่าจัดเก็บข้าวของในห้องอันคับแคบ"คุณหนูเวินครับ คุณกงเชิญไปรับประทานอาหารครับ""รับประทานอาหาร?" เวินหนานจื่อเบิกตาโต รีบส่ายหน้าปฏิเสธ "นะ...หนูไม่หิวค่ะ ไม่กินดีกว่า"เธอแสดงความหวาดกลัวที่มีต่อกงเฉินออกมาโดยไม่ซ่อนเร้นแต่ลุงจงกลับย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเวินหนานจื่อด้วยความระมัดระวัง พลางหาอะไรมารองขาของเธอไว้เพื่อให้รู้สึกสบายขึ้นเท่าที่จะทำได้"คุณหนูเวินครับ คุณแต่งงานเข้ามาแล้ว นี่คือความจริงนะครับ"เวินหนานจื่อเข้าใจดี ตนเองถูกคนตระกูลเวินขายเข้ามา แต่เธอก็ไม่อยากจะยอมรับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ลุงจงกล่าวต่อ "แม้แต่สิงโตยังต้องลูบขนให้ถูกทาง นิสัยคนเราก็เหมือนกันครับ ยิ่งคุณต่อต้าน ยิ่งไปกระตุกหนวดเสือ ท้ายที่สุดคนที่จะเจ็บตัวก็คือคุณเอง"เวินหนานจื่อมองลุงจงด้วยสีหน้าเหมือนเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจลุงจงเผยรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งออกมา "คุณหนูเวิน คุณยังมีส่วนที่แตกต่างจากคนอื่นอยู่นะครับ อีกอย่าง อย่าลืมเหตุผลของการที่คุณแต่งเข้าตระกูลกงด้วยสิครับ"เหตุผลงั้นหรือ? เป็น

  • เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส   บทที่ 26

    ลุงจงสงวนท่าที เหลือบมองสาวใช้ผู้มีสีหน้าริษยาแวบหนึ่ง ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ "เดี๋ยวผมจะไปเรียนถามคุณกงให้นะครับ"สาวใช้ได้ยินดังนั้นก็แค่นเสียงดูถูก ในเมื่อกงเฉินโยนเวินหนานจื่อไปไว้ในห้องเก็บของแล้ว นั่นก็เท่ากับปล่อยเธอไปตามยถากรรมแล้วไม่ใช่หรือ จะมาแยแสอะไรกับเธออีก? คิดได้ดังนี้จิตใจที่ร้อนรุ่มด้วยความริษยาก็พลันสงบลงเมื่อกู้เหยียนอี้สบตามองลุงจง ก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด จึงเพียงยิ้มไม่พูดอะไรลุงจงชี้ไปทางชั้นสาม "คุณกงขึ้นไปพักผ่อนบนชั้นสามแล้วครับ คุณหมอกู้ขึ้นไปหาได้เลย"กู้เหยียนอี้พยักหน้ารับ ก่อนหมุนตัวเดินขึ้นไปบนชั้นสามพื้นที่ชั้นสามถือเป็นเขตหวงห้ามในบ้านตระกูลกง แต่ความจริงมันเป็นเพียงห้องนอนของกงเฉินเท่านั้นนี่คือสถานที่ซึ่งกงเฉินใช้เผชิญหน้ากับฝันร้ายอันตามหลอกหลอนเขามานานหลายปี ภายในห้องว่างเปล่าไร้สิ่งของตกแต่ง ผนังสีขาวโพลนสะอาดตาปราศจากมลทิน มีเพียงเตียงสี่เสาสีดำทะมึน กับเก้าอี้นวมสองตัวและโต๊ะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ริมหน้าต่างเท่านั้นกู้เหยียนอี้เคาะประตูสามครั้ง ก็เปิดประตูเดินเข้าไป เห็นกงเฉินกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้นวม มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์แดง ทอดสายตาผ่า

  • เพลิงแค้นพ่ายแรงพิศวาส   บทที่ 25

    กู้เหยียนอี้กับเวินหนานจื่อไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก เมื่อตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าอาการบาดเจ็บที่ขาของเธอไม่เป็นอะไร กู้เหยียนอี้ก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเมื่อไม่มีใครแล้ว เวินหนานจื่อก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเธอลองกดโทรหาแม่ แต่เสียงสัญญาณดังอยู่นานสองนาน ก็ยังคงไม่มีคนรับสายเช่นเดิมการที่ไม่ทราบเลยว่ามารดาเป็นตายร้ายดีอย่างไร ทำให้จิตใจของเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ความหวาดกลัวจึงเริ่มเกาะกุมจิตใจอย่างช่วยไม่ได้จากนั้นเวินหนานจื่อก็นึกถึงโจวจิน ชายหนุ่มที่เธอเคยคิดว่าจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันไปชั่วชีวิตในเมื่อกงเฉินล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของโจวจินแล้ว โจวจินจะเป็นอะไรไปอีกคนหรือเปล่า?คิดดังนั้น เธอจึงรีบกดโทรหาโจวจินทันทีเธอรักและผูกพันกับโจวจินมาตลอด ช่วงเวลาที่อยู่ในตระกูลเวิน ก็ได้โจวจินคอยปลอบโยนและปกป้องคุ้มครอง แม้วันนี้จะถูกบีบให้ต้องแยกทาง แต่เธอก็ไม่อยากให้โจวจินต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วยในใจเฝ้าภาวนาขอให้โจวจินรีบรับสายไว ๆ ขอแค่ได้ยินเสียงเขา เธอก็จะวางใจ หนำซ้ำยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเสียงของเขาจะช่วยปลอบประโลมจิตใจเธอได้เหมือนดั่งวันวานเมื่อมีคนรับสาย เวินหนานจื่อก็รีบก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status