ความจริงฉันเริ่มเห็นว่าการสนับสนุนนักเขียนที่ปล่อยผลงานฟรีมันมีหลายหน้าไม่ใช่แค่การจ่ายเงินตรง ๆ และก็มีวิธีสร้างรายได้ที่ไม่ต้องทำให้ผู้อ่านต้องเสียค่าบริการเพื่อเข้าถึงผลงานหลักเลย
ฉันเคยลองใช้ช่องทางรับบริจาคแบบง่าย ๆ อย่างการติดปุ่มรับทิปบนโฮมเพจหรือโปรไฟล์โซเชียล ซึ่งสะดวกที่สุดคือบริการอย่าง Ko-fi หรือ Buy Me a Coffee ที่เปิดโอกาสให้คนกดให้กาแฟแบบครั้งเดียวโดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก ประโยชน์คือยังคงปล่อย
นิยายฟรีไว้ทุกตอน แต่ผู้สนับสนุนสามารถมอบความขอบคุณแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ทันที อีกวิธีที่ฉันชอบคือใช้ระบบขายของดิจิทัลแบบจ่ายเท่าที่อยาก (pay-what-you-want) ผ่าน Gumroad หรือ itch.io สำหรับการรวบรวมตอนพิเศษเป็นไฟล์ PDF หรือแจกฟรีพร้อมตัวเลือกจ่าย หากต้องการของจริง การพิมพ์รวมเล่มแล้วตั้งแคมเปญระดมทุนใน Kickstarter ก็เป็นทางเลือกดีสำหรับพิมพ์ครั้งเดียว ช่วยให้คนที่อยากมีสำเนาจริงได้ซื้อ ในขณะที่คนอ่านออนไลน์ยังคงอ่านฟรี
การสร้างรายได้แบบสม่ำเสมอก็ทำได้โดยใช้ Patreon หรือ Substack แต่ในกรณีที่ไม่อยากให้เนื้อหาหลักติดเหรียญ ฉันแนะนำให้กำหนดสิทธิพิเศษเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับการอ่านตอนหลัก เช่น โปสการ์ดลายพิเศษ โพลเลือกพล็อต หรือสติกเกอร์ดิจิทัล อีกช่องทางที่เห็นผลคือการทำของที่ระลึกผ่านบริการ print-on-demand อย่าง Redbubble หรือ Teespring และเชื่อมกับร้านบน Facebook/Instagram ซึ่งแฟนๆ มักชอบซื้อ
ให้กำลังใจ อีกทางหนึ่งคือรับบริจาคตรงผ่าน PromptPay, TrueMoney, LINE Pay หรือ PayPal สำหรับคนไทย วิธีนี้ช่วยให้ผู้สนับสนุนที่ไม่ชอบใช้แพลตฟอร์มต่างประเทศยังสามารถช่วยได้
สุดท้ายฉันอยากเน้นว่าการสร้างชุมชนสำคัญพอ ๆ กับช่องทางรับเงิน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือการส่งจดหมายข่าวฟรีผ่าน Substack คนที่รู้สึกมีส่วนร่วมมักจะอยากสนับสนุนมากกว่า นอกจากเงินยังมีวิธีอื่นที่มีค่าอย่างการแนะนำเพื่อน เขียนรีวิว หรือซื้อของที่ทำขึ้นมาอย่างตั้งใจ ซึ่งทำให้การเป็นนักเขียนที่ไม่ติดเหรียญยังคงยั่งยืนได้ นี่คือสิ่งที่ฉันทำและเห็นผล ทั้งให้ผู้อ่านเข้าถึงผลงานได้ฟรีและยังได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง