ลองนึกภาพโรงเรียนที่กลายเป็นแหล่งระบาดของความหวาดกลัวและความสูญเสียจนทุกคนต้องเอาตัวรอด — นั่นคือแก่นของซีรีส์ที่ในไทยใช้ชื่อว่า '
วิกฤติวันสิ้นโลก' ซึ่งเป็นการดัดแปลงจาก
เว็บตูนเกาหลีชื่อ 'Now at Our School' (บางคนอาจรู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า 'All of Us Are Dead') การเล่าเรื่องพื้นฐานทั้งสองเวอร์ชันมีแกนร่วมคือการระบาดของเชื้อไม่ทราบที่เกิดขึ้นในโรงเรียน และกลุ่มนักเรียนที่ติดอยู่กับทางเลือกเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ในรายละเอียดทั้งโทน ตัวละคร และจังหวะการเล่า ต่างกันค่อนข้างชัดเจน
เราเห็นว่าจากหน้าเว็บตูนถึงหน้าจอซีรีส์มีการย่อ-ขยายเนื้อหาเพื่อให้เหมาะกับฟอร์แมตภาพเคลื่อนไหว เว็บตูนต้นฉบับมักมีการลงรายละเอียดในความคิดของตัวละคร การขยายโลกรอบนอก และฉากเลือดสาดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ในขณะที่เวอร์ชันซีรีส์ต้องเติมเส้นเรื่องของผู้ใหญ่ ปรับจังหวะเพื่อให้มีช่วงพีคของอารมณ์ในแต่ละตอน และบางครั้งก็เลือกปรับชะตากรรมของตัวละครเพื่อให้เรื่องมีความสมดุลระหว่างความตื่นเต้นกับการเข้าใจตัวละครมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ตัวละครบางคนในเว็บตูนอาจมีฉากหลังเชิงลึกมากกว่า แต่พอขึ้นจอหนังต้องย่อส่วนหรือรวมเส้นเรื่องเข้าด้วยกัน ทำให้บางมิติถูกเน้นขึ้นและบางมิติหายไป
นอกจากการปรับตัวละครแล้ว การอธิบายต้นตอของเชื้อและการแสดงผลทางภาพก็เป็นจุดที่แตกต่างกันเห็นได้ชัด เว็บตูนสามารถใช้ภาพนิ่งจัดเฟรมเพื่อเล่นมุมมองและระยะห่างของตัวละคร ในขณะที่ซีรีส์ต้องพึ่งเทคนิค CGI เอฟเฟกต์และการตัดต่อเพื่อสร้างบรรยากาศ บางฉากที่ในเว็บตูนโหดเหี้ยมอย่างตรงไปตรงมา ซีรีส์อาจเลือกทำให้เห็นเป็นภาพคร่าว ๆ แต่เน้นปฏิกิริยาของตัวละครมากกว่า หรือกลับกันก็ขยายฉากบางฉากให้ตึงเครียดทางสายตา นอกจากนี้ประเด็นสังคมอย่างการกลั่นแกล้งในโรงเรียน การรับผิดชอบของผู้ใหญ่ และการตัดสินใจในภาวะวิกฤต ถูกปรับน้ำหนักไปคนละทางเพื่อให้เข้ากับผู้ชมทางทีวีมากขึ้น
ภาพรวมแล้วเราให้ความรู้สึกว่าเวอร์ชันซีรีส์ทำหน้าที่เป็นประตูให้คนจำนวนมากเข้าถึงเรื่องราว ในขณะที่เว็บตูนยังคงเป็นแหล่งอารมณ์ดิบและรายละเอียดที่แฟนเดิม
ชื่นชอบ ทั้งสองเวอร์ชันเติมเต็มกันได้: เว็บตูนให้ความเข้มข้นเชิงภาพและจินตนาการ ส่วนซีรีส์เติมความเป็นมนุษย์ สายสัมพันธ์ และบรรยากาศทางภาพที่ขยี้ความรู้สึกได้คนละแบบ ถ้าชอบการสำรวจตัวละครเชิงลึกเราแนะนำกลับไปหาเว็บตูน แต่ถ้าต้องการความตื่นเต้นแบบมีจังหวะและการแสดงสดที่จับต้องได้ ซีรีส์ก็ทำได้ดีในวิธีของมัน — จบด้วยความคิดว่าการดัดแปลงที่ดีไม่จำเป็นต้องเลียนแบบทุกเส้นเสมอไป แต่ควรรักษาจิตวิญญาณของเรื่องไว้ให้ผู้ชมทั้งเก่าและใหม่รู้สึกเชื่อมต่อ