เสียงดนตรีของฉากสำคัญเป็นตัวกำหนดอารมณ์ที่แทรกอยู่ในเนื้อเรื่องของ '
เซียงหานจือ' มากกว่าสิ่งอื่นใด และในมุมมองของคนที่คลุกคลีอยู่กับงานสร้างสรรค์เพลงประกอบ ฉันคิดว่าทีมงานน่าจะเริ่มจากการทำความเข้าใจธีมหลักและจังหวะการเดินเรื่องก่อนเป็นลำดับแรก
การเลือกเครื่องดนตรีและใจความดนตรีมักมาจากการประชุมกับผู้กำกับแล้วทำ spotting session ร่วมกัน เพื่อกำหนดจุดวางธีมของตัวละคร เหตุการณ์ และอารมณ์ที่ต้องการให้คนดูรับรู้ ฉันเห็นว่าทีมสร้างสรรค์มักใช้แนวทางผสมผสาน: เสริมด้วยเครื่องดนตรีจีนแบบดั้งเดิมอย่าง '
กู่เจิง' หรือ 'อี๋หัว' สำหรับฉากที่ต้องการความเปราะบางและกลิ่นอายท้องถิ่น แล้วตีกรอบด้วยเครื่องสายและวงออเคสตร้าตะวันตกเมื่อต้องการความยิ่งใหญ่หรือความเคลื่อนไหวทางอารมณ์ นอกจากนั้นยังมีการใช้ซินธ์เล็กน้อยเพื่อเชื่อมโลกเก่า-ใหม่ให้ลื่นไหล
กระบวนการจริงจังมักรวมถึงการทำเท็มป์แทร็ก (temp track) เพื่อให้ทีมภาพเห็นทิศทางเสียง จากนั้นผู้ประพันธ์จะสลับธีมย่อยให้กลายเป็น leitmotif ของตัวละคร บางครั้งธีมความรักจะถูกปรับคีย์หรือจังหวะให้กลายเป็นท่อนต่อสู้ได้อย่างแนบเนียน ฉันยังเชื่อว่าทีมมอบความสำคัญกับเสียงร้อง — การเลือกนักร้องเสียงที่มีโทนเฉพาะหรือการใช้เด็กหญิงเสียงสูงอาจถูกนำมาใช้เพื่อให้ฉากสำคัญตราตรึงใจ เช่นเดียวกับงานเพลงภาพยนตร์อย่าง 'Your Name' ที่ใช้เพลงเป็นตัวเล่าเรื่อง ทีมงานของ 'เซียงหานจือ' คงใช้เพลงเป็นเครื่องมือบอกเล่าเชิงอารมณ์เช่นกัน
สุดท้ายนี้ เรื่องเล็ก ๆ อย่างการบันทึกในสตูดิโอที่เหมาะสมและการมิกซ์เสียงให้เหลือเนื้อที่ให้กับบทสนทนาและเสียงประกอบฉากก็มีผลมาก ฉันมักชอบเห็นเพลงประกอบที่ไม่แย่งซีน แต่ทำให้ฉากนั้น ๆ มีลมหายใจ การเลือกเพลงสำหรับ 'เซียงหานจือ' จึงน่าจะเป็นการเดินร่วมกันระหว่างผู้กำกับ ผู้ประพันธ์ และคนทำเสียง จนเกิดเป็นรสชาติเฉพาะที่เข้ากับภาพและอารมณ์ของเรื่องได้อย่างพอดี