ในฐานะแฟนเพลงประกอบละครที่
คลั่งไคล้ ผมขอยกเพลงหนึ่งที่โดดเด่นที่สุดจาก '
เล่ห์ราคะ' คือเพลงธีมหลักที่สื่ออารมณ์ทั้งเรื่องได้อย่างกลมกล่อม ชื่อเพลงนี้มีท่วงทำนองที่ค่อนข้างค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากเปียโนบาง ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายด้วยสตริงและกีตาร์ไฟฟ้าเบา ๆ ให้ความรู้สึกทั้งหวานและมีเงื่อนงำไปพร้อมกัน เสียงร้องมีน้ำเสียงอบอุ่นแต่แฝงความระแวดระวัง ทำให้เวลาปรากฏในฉากปะทะทางอารมณ์หรือฉากเปิดเผยความลับ มันเข้าถึงจุดอารมณ์ได้ทันที คำร้องเน้นประเด็นเรื่องการหลอกลวงทางความรักและความซับซ้อนของความต้องการ จึงเข้ากับธีมของเรื่องได้อย่างเหนียวแน่น นักร้องที่รับหน้าที่ถ่ายทอดเพลงนี้มีสไตล์การร้องที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เพลงไม่ถูกลืมแม้จบฉากและกลายเป็นเพลงที่แฟน ๆ มักเปิดซ้ำเมื่อคิดถึงจังหวะและบรรยากาศของละคร
ในมุมมองที่ต่างออกไป อีกเพลงประกอบที่ควรหยิบยกคือเพลงบัลลาดที่ใช้ในฉากสำคัญระหว่างตัวละครสองคน เพลงนี้สร้างจุดพีกของเรื่องได้ดีเพราะเรียบเรียงเสียงประสานร้องคู่และคอรัสเล็ก ๆ ที่เพิ่มไดนามิกเมื่อความจริงค่อย ๆ ถูกเปิดเผย เสียงนักร้องหลักลงน้ำหนักที่การเล่าเรื่องผ่านน้ำเสียงมากกว่าการโชว์ภายในช่วงสูง ทำให้เนื้อเพลงซึ่งมีภาพพจน์เกี่ยวกับการล่อลวงและเวียนวนของใจ ฟังแล้วยิ่งหนักแน่นและทรงพลังขึ้น คนร้องคนนี้เคยมีผลงาน OST ที่ได้รับความนิยมมาก่อน จึงมีทักษะในการตีความ
บทเพลงประกอบซีนดราม่าอยู่แล้ว ทำให้เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่แฟน ๆ
ชื่นชอบเพราะมันผสมทั้งความเศร้าและความเข้มข้นไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
มองในภาพรวมของซาวด์แทร็ก เพลงประกอบของ 'เล่ห์ราคะ' เลือกใช้โทนเสียงที่ค่อนข้างสากลแต่ยังคงเอกลักษณ์ไทยในบางจังหวะ เช่น การใช้เครื่องสายแบบบาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกเข้มข้น และการวางเสียงคีย์บอร์ดเป็นแผงพื้นหลังเพื่อสร้างบรรยากาศลึกลับ เทคนิคการผสมเสียงระหว่างอิเล็กทรอนิกส์และออร์เคสตราเล็ก ๆ ทำให้ซาวด์แทร็กสามารถรองรับทั้งฉากหวาน ฉากเผชิญหน้า และฉากพลิกผันได้ดี อีกจุดที่ชอบคือการใช้ธีมเมโลดี้ซ้ำในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ผู้ชมเชื่อมโยงเพลงกับเหตุการณ์สำคัญได้ทันที แม้ไม่ได้ดูซ้ำทั้งหมด แค่ได้ยินทำนองก็
พากลับไปยังโมเมนต์ในเรื่องได้อย่างรวดเร็ว
สรุปว่าเพลงที่โดดเด่นจาก 'เล่ห์ราคะ' คือเพลงธีมหลักที่ถ่ายทอดทั้ง
ความหวานและความลวงได้อย่างพอดี และเพลงบัลลาดที่ใช้ในฉากพีคซึ่งขับอารมณ์ตัวละครได้ชัดเจน ทั้งสองเพลงมีนักร้องที่มีสไตล์เฉพาะตัวและทักษะการถ่ายทอดอารมณ์ ทำให้ซาวด์แทร็กของเรื่องนี้น่าจดจำและติดอยู่ในเพลย์ลิสต์ของฉันนานพอสมควร รู้สึกว่าทุกครั้งที่ฟังจะเหมือนได้ย้อนไปสัมผัสความเข้มข้นของเรื่องอีกครั้ง