ตลอดสัปดาห์แรกของช่วงปิดเทอม นักเรียนห้อง ม.5/B ต่างมารวมตัวกันที่แปลงผักของโรงเรียนริโอะในทุก ๆ สี่โมงเย็น เสียงบ่นพึมพำยังคงมีให้ได้ยินเป็นระยะ แต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัดตามตารางเวรที่ไอโกะเป็นผู้จัดการ ทั้งรดน้ำ พรวนดิน และถอนวัชพืชภายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายคล้อยที่สาดส่องลงมา แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังคงได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดจาก โช และ เคนตะ เป็นประจำทุกวัน
วันนี้ บรรยากาศของสวนผักกลับแตกต่างออกไป ลมเย็นเยียบพัดเอื่อย ๆ ผ่านแนวต้นไม้สีขาว จนยอดหญ้าไหวลู่ไปตามแรงลม แสงอาทิตย์ที่เคยสาดส่องเจิดจ้ากลับถูกบดบังด้วยหมู่เมฆทะมึนที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า สีเทาเข้มของเมฆที่ปกคลุมทำให้บรรยากาศโดยรอบดูมืดครึ้มและอึมครึมกว่าทุกวัน ราวกับกำลังจะมีพายุใหญ่ก่อตัวขึ้น "วันนี้รีบทำหน่อยนะเด็ก ๆ" เสียงแหบพร่าของภารโรง ผู้สูงอายุประจำโรงเรียนดังขึ้นข้างหลังพวกเขา ภารโรงในชุดเสื้อเชิ้ตสีซีดมองไปยังท้องฟ้าที่มืดครึ้มด้วยสีหน้าเป็นกังวล ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้เหล่านักเรียนก้มหน้าก้มตาเร่งมือทำงานของตัวเองให้เสร็จเร็วขึ้น "ลมแรงจัง" ฮารุ เอ่ยขึ้นพลางรวบผมที่ปลิวไสวไปตามแรงลม มายู เหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้า "สงสัยพายุจะมาแน่ ๆ เลย" "รีบทำกันเถอะ ก่อนที่ฝนจะตก" ไอโกะ ออกคำสั่งเสียงเด็ดขาด ท่ามกลางความกังวลที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ทุกคนต่างรีบเร่งมือ พรวนดิน รดน้ำ และถอนหญ้ากันอย่างขะมักเขม้น เสียงเสียดสีของจอบกับผืนดิน และเสียงกระซิบกระซาบของเพื่อน ๆ กลายเป็นเพลงประกอบการทำงานที่เร่งรีบ ทว่าในระหว่างที่ทุกคนกำลังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองอย่างตั้งใจ ไอโกะ ซึ่งถูกจัดให้อยู่ท้ายแปลงผักใกล้กับรั้วโรงเรียน กำลังใช้จอบพรวนดินอยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าปลายจอบกระทบเข้ากับวัตถุแข็งบางอย่างใต้ดิน แรงกระแทกเบาๆ ทำให้เธอหยุดมือลงทันที เธอเขี่ยดินออกอย่างระมัดระวัง และสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาคือ หีบไม้ขนาดเล็กสีดำคล้ำ ที่ดูเก่าแก่คร่ำครึ ราวกับถูกฝังอยู่ตรงนั้นมานานนับศตวรรษ ผิวหีบเต็มไปด้วยฝุ่นและมีลวดลายประหลาดที่ดูเหมือนอักษรโบราณแกะสลักอยู่ ไอโกะใช้มือปัดฝุ่นออกจากหีบเบา ๆ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง หีบนั้นหนักและเย็นเฉียบในอุ้งมือของเธอ "ฉันเจอหีบอะไรไม่รู้" ไอโกะร้องบอกเพื่อน ๆ เสียงของเธอเบาลงกว่าปกติเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ คำพูดของไอโกะดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที ยูเมะ ที่อยู่ใกล้ที่สุดวิ่งเข้ามาดูเป็นคนแรก ตามมาด้วย ฟูมิโกะ, ฮานา, โช, โกฮัน และคนอื่น ๆ ต่างทยอยกันเข้ามามุงดูหีบในมือของไอโกะ "หีบอะไรน่ะไอโกะ?" ฮานา เอ่ยถามด้วยความสงสัย เคนตะ ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ "เฮ้ย! หีบอะไรวะเนี่ย? เก่ามากเลยนะ" "คงมีคนมาลืมไว้มั้ง" ทาเคชิ หนุ่มร่างใหญ่ใจดีเสนอความคิด เร็น ที่ปกติจะเงียบ ๆ มองดูหีบอย่างพินิจพิเคราะห์ "ลวดลายบนนั้นดูแปลก ๆ นะ" "ลองเปิดดูไหม? เผื่อเป็นแผนที่สมบัติแบบในหนังไง!" คิชิโระ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ราวกับกำลังดูหนังผจญภัย "จะดีเหรอ? ของคนอื่นหรือเปล่าก็ไม่รู้" ฮารุกะ เอ่ยอย่างลังเล เธอไม่แน่ใจว่าจะทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ทันใดนั้น เก็น ซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ห่างออกไป ก็เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยตามปกติ "มีอะไรกันเหรอ?" เขาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อน ๆ ยืนมุงกันเป็นวงกลม "ก็ไอโกะเจอหีบแปลก ๆ นะสิ!" ยูเมะตอบพลางชี้ไปที่หีบในมือไอโกะ เก็นกวาดสายตามองหีบนั้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังลวดลายโบราณที่สลักอยู่บนผิวหีบอย่างพินิจพิเคราะห์ "ข้างในมันคืออะไร?" "ไม่รู้เลย ยังไม่มีใครกล้าเปิด" ไอโกะตอบ พลางยื่นหีบให้เก็นดูใกล้ๆ เก็นรับหีบมาไว้ในมือ สัมผัสเย็นเฉียบของมันทำให้เขารู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่อาจเข้าใจได้ ลวดลายบนหีบดูคล้ายอักษรบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ราวกับความรู้บางอย่างที่ถูกซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจกำลังจะถูกปลุกขึ้น "งั้นเดี๋ยวฉันเปิดให้" เก็นพูดขึ้นอย่างไม่ลังเล เขามองหีบด้วยแววตาที่จริงจังเกินกว่านักเรียนมัธยมทั่วไป ก่อนจะเริ่มใช้มือคลำหาช่องหรือร่องรอยที่จะสามารถเปิดหีบออกได้ ทันทีที่เก็นใช้ปลายนิ้วสัมผัสไปที่ลวดลายแกะสลักอันซับซ้อนบนฝาหีบ... จู่ ๆ ลมก็พัดกระโชกแรงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง! ใบไม้แห้งปลิวว่อนไปทั่วสวนผักจนแทบมองไม่เห็นเมฆฝุ่นที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ท้องฟ้าที่มืดครึ้มอยู่แล้วกลับยิ่งมืดมิดลงไปอีกราวกับถูกกลืนกินด้วยเงามืดบางอย่าง เสียงฟ้าคำรามกึกก้องอยู่ไกล ๆ ราวกับสัญญาณเตือน และเม็ดฝนเม็ดแรกก็เริ่มโปรยปรายลงมา เหล่านักเรียนต่างรีบก้มหน้าหลบแรงลม แต่เก็นยังคงยืนนิ่ง มือของเขากำลังจับไปที่สลักกลไกบางอย่างบนหีบ แรงลมที่พัดกระหน่ำไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านแม้แต่น้อย ดวงตาของเขายังคงจดจ่ออยู่กับหีบปริศนาในมือ ราวกับว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่สามารถหยุดเวลาและรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น...เสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง