Share

บทที่ 22 : บุคคลสำคัญ

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-25 18:04:58

"ครับบอส อะ.. เอิ่ม.. มีอะไรรึเปล่าครับ?"

น้ำเสียงเบอร์แบโต้ฟังดูตะกุกตะกักอย่างชัดเจน เขารีบยัดแบงค์ใส่คืนลงไปในกระเป๋า พลางหันหลังกลับไปเช็คบานประตูว่าเอ็มม่าผลักสวนออกมารึเปล่า

.

"เปล่าหรอก.. แค่จะถามว่าคุณออกไปจากตึกรึยัง ภารกิจที่ให้ทำอ่ะถึงไหนแล้ว?"

.

"อ๊อ! ผมยังอยู่ชั้น 3 หน้าแผนกการเงินอยู่เลยครับบอส งานนี้งานยากต้องใช้เงินเยอะ แต่บอสไม่ต้องห่วงไปหรอกนะครับผมทำได้แน่ เสร็จเรื่องทางนี้จะดำเนินการให้ทันทีเลย"

.

วัวสันหลังหวะถอนหายใจพรูด้วยความโล่งอก เขากลัวเหลือเกินว่าเรื่องราวเมื่อครู่จะถูกบันทึกไว้ได้ด้วยกล้องวงจรปิด ที่ลิงค์กันไว้เป็นเครือข่ายเดียวกัน

.

"ฮู้ววว.. แรงสะเทือนคงทำให้กล้องหน้าตู้เซฟพังสินะ โชคดีไปเรา..!"

หลับตาลงคิดในใจก่อนจะได้ยินเสียงประมุขแห่งองกรค์เริ่มพูดต่อ

.

"ให้มันได้อย่างงี้สิลูกน้องฉัน! แต่ละคนขี้โม้ชะมัดชั่วโมงก่อนปิเก้ก็บอกแบบนี้เหมือนกัน แล้วตอนนี้เป็นไง!? หายหัว! ติดต่อก็ไม่ได้! ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้เจฟเฟอร์เขาช่วยอีกแรงนะ บอสทุ่มไม่อั้นไม่ต้องกังวลเรื่องค่าตอบแทน ก็อย่างที่เธอบอกแหละเบอร์แบโต้ บอสเข้าใจว่างานนี้มันยากจริง ๆ "

.

"กรุ๊บ! ตุ๊ด ๆ ตุ๊ด ๆ ตุ๊ด! "

.

แล้วสายก็ตัดไปเท่านั้น เบอร์แบโต้ที่ผิวหน้าออกดำ ๆ แทน ๆ อยู่แล้วยิ่งถอดสีลงกว่าเก่า เขาเหลือบสายตามองขึ้นไปข้างบนตรงฝ้าเพดานที่สั่นระรัว

.

"บางทีบอสก็ไว้ใจพี่แกมากเกินไปมั้งครับ เพราะจนป่านนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่าพี่เจฟเฟอร์แกกำลังเผชิญอยู่กับอะไรบ้าง! เฮ้อ..!"

"เอาวะ! นับเงินต่อ! ถึงไหนแล้วเมื่อกี้ ห้า! หก! เจ็ด! แปด! เก้า! สิบ! สิบเอ็ด! สิบสอง! สิบสาม!.."

.

จ้วงเท้าออกเดินโทง ๆ พลางนับฟ่อนธนบัตรในมือไปด้วย เบอร์แบโต้เดินลงบนไดไปทีละขั้น ๆ จนกระทั่งโผล่พรวดออกมานอกอาคารโดยไม่ทันตั้งตัว

.

"ชิบหาย! ดันนับเพลินไปหน่อย! แต่นับแค่แบงค์ก็ได้ตั้ง 5 พันเหริยญแหนะ นี่ขนาดยังไม่นับเหรียญทองเลยนะถือว่าคุ้มอยู่ ลองเป็นอีหรอบนี้บาร์โค้ดนี่ก็คงไม่ต้องใช้แล้ว"

เขาพลิกท้องแขนข้างที่มีบาร์โค้ดหงายขึ้นมา พลันวางมืออีกข้างลูบลงไปอยู่พักหนึ่ง แป๊บเดียวมันก็จางหายกลืนไปกับผิวหนัง จากนั้นเจ้าตัวถึงได้เดินข้ามฟากถนนมายังร้านกาแฟที่อยู่ฟากตรงข้าม

.

.

บรรยากาศสุดแสนละมุนฉ่ำความโรแมนติก แม้จะเป็นช่วงเย็นใกล้ค่ำแต่เจ้าของร้านแกก็ยังเปิดไฟสีนวลค้างไว้ตลอด ประกอบกับกลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วที่หอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ ยิ่งทำให้ใครต่อใครแวะเวียนเข้ามาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย

.

"ยอร์คชินคอฟฟี่สวัสดีครับ! เอ้าพ่อหนุ่มร้านดอกไม้นี่นาวันนี้รับอะไรดี"

.

"เหมือนเดิม!"

เบอร์แบโต้ตอบห้วน ไม่มองหน้าคุณลุงเจ้าของร้านใจดีที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ด้วยซ้ำ

.

แต่ทว่า!

.

"ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ตืด ๆ ๆ ๆ "

เพียงเสี้ยววินาทีหลังจากได้ยินคำสั่งออเดอร์ ใบหน้าของเจ้าของร้านก็รูดปื๊ด ๆ หมุนเลื่อนลงติ้ว ๆ ราวกับตู้สล็อตแมชชิน มันเปลี่ยนจากหูตาจมูกปากไปเป็นภาพเมนูกาแฟต่าง ๆ ที่หมุนครืด ๆ ด้วยความรวดเร็วก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ , ติ๊ง!

.

"คาปูชิโน่แก้วใหญ่หวานน้อย.. กินนี่ ถูกต้องไหมครับ?"

.

"อืม.. ถูก จำเก่งดีเหมือนกันนี่เจ้าหุ่น"

เบอร์แบโต้หันมามองหน้าจอที่ต่อพ้นจากส่วนคอขึ้นมา ก่อนจะใช้สายตาคู่เดิมดวงนั้นมองหาโต๊ะว่าง ๆ กับมุมสงบ เพราะในขณะนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนในนี้ก็มีแต่หุ่นยนต์เต็มไปหมดเลย พวกมันมีบทบาทมากกว่ามนุษย์ไปแล้วในยุคปัจจุบัน ทั้งในภาคแรงงาน การเกษตร และเทคโนโลยี แม้รูปลักษณ์จะอัปลักษณ์ไปบ้าง แต่ส่ิงที่พวกมันทำได้ก็ถือว่าทดแทนการจากไปของคน ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 4 ได้หมด โดยเฉพาะในส่วนของงานบริการ

.

"มองหาโต๊ะอยู่เหรอครับ?"

เจ้าหุ่นเจ้าของร้านถาม ในขณะที่หน้าจอหมุนติ้ว ๆ กลับมาเป็นใบหน้าคนตามปกติ

.

"ก็ใช่น่ะสิ.. ฉันไม่มีวันไปนั่งโต๊ะร่วมกับพวกหุ่นกระป๋องหรอกนะบอกไว้ก่อน เหม็นน้ำมันเครื่อง!"

.

"........"

ไม่ได้เงีียบเพราะว่าโกรธ แต่เพราะเจ้าหุ่นเจ้าของร้านกำลังแงะเอาแป้นพิ้มพ์ตรงหน้าท้องออกมา มันพิมพ์คำสั่งกร๊อกแกร๊ก ๆ ด้วยความคล่องแคล่ว สักพักโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าสุดติดกับกระจกหน้าร้านก็เรืองแสงขึ้น

.

"ว้าว! มีอยู่โต๊ะหนึ่งพอดีเลย เชิญพ่อหนุ่มไปนั่งรอที่นั่นก่อน"

.

"ได้ไงกันเล่า! ไม่เห็นรึไงว่ามันมีคนนั่งอยู่ ฉันจะไปนั่งกับเขาได้ยังไง?"

.

หุ่นอ้วนร้านกาแฟหยุดนิ่งประมวลผล คราวนี้ใบหน้ามันเลือนหายไปแล้วปรากฏเป็นหลอด Now Loading.. ขึ้นมา กระทั่งโหลดเต็มจึงพูดเสริมออกมาว่า

.

"เอ๋.. ก็คิดว่ามาด้วยกันซะอีก นั่นน่ะแม่สาวร้านดอกไม้หรือพ่อหนุ่มจำเธอไม่ได้ ยังไงซะถ้าไม่ยอมแชร์โต๊ะด้วยกันในร้านนี้ก็ไมมีที่ให้มนุษย์อย่างคุณแล้ว"

.

"เวรกรรม! แต่ก็จริง! นั่นมันแคทเธอรีนร้านดอกไม้นี่หว่า ขอบใจมากเจ้าหุ่นอย่าลืมเอาคาปูมาเสิร์ฟฉันด้วยล่ะ"

.

"ตุ๊ด! ๆ ๆ รับทราบ!"

.

หลังจากสนทนาภาษาหุ่นยนต์กันเสร็จ เบอร์แบโต้ก็ได้เดินมาที่โต๊ะของแคทเธอรีนที่กำลังจิบกาแฟและเหม่อลอยออกไปนอกบานกระจก เหลือเชื่อที่เจ้าหล่อนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าพื้นผิวบนโต๊ะตัวเองกำลังเรืองแสงเจิดจ้าอยู่

.

"เฮ้! แคท!"

เบอร์แบโต้ทักขึ้นก่อน ด้วยความที่พวกเขานั้นอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จึงไม่ต้องวางฟอร์มใส่กันมากเหมือนตอนคุยกับคนอื่น

.

"อุ๊ย! ไอ้ดำโต้! ฉันตกใจหมดมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แล้วนี่อะไรถือสิทธิ์อะไรมาแชร์โต๊ะกับฉันยะ!"

.

"ก็ลุงแอนดรอยน์เจ้าของร้านแกเลือกให้นี่ ฉันไม่ได้อยากนั่งกับเธอสักหน่อย"

พอจุ่มก้นลงกับเก้าอี้ได้ แสงสว่างจากพื้นผิวบนโต๊ะก็ค่อย ๆ เลือนลางลงจนกลายเป็นโต๊ะปกติ

.

"อี๋..! แล้วนี่เนื้อตัวแกไปโดนอะไรมา ทำไมมีแต่รอยแผลฟกช้ำกับรอยอะไรอ่ะ? แดง ๆ ตรงคอ? แหวะอย่างกับรอยดูดอ่ะ.. นี่อย่าบอกนะว่าแกไอ้โต้!"

"ใช่ ๆ ไหม? กับน้องบ้าน ๆ ที่แกแปรสภาพออกมาได้ แกไปล่วงละเมิดน้องเขาใช่ไหม!?"

.

"เฮ๊ย! เปล่าไม่มีอะไร ลดนิ้วลงได้แล้วชี้หน้ากันอย่างกับจะจับผิดแหนะ ไม่มีไรหรอกฉันเพิ่งไปรับงานใหม่จากบอสมา แล้วก็แวะไปแช่น้ำร้อน แผลตอนออกไปทำงานก็เลยเด่นชัดขึ้นเฉย ๆ "

"ว่าแต่ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วแกดูอะไรอยู่หรอแคท? แล้วนี่ไม่เฝ้าหน้าร้านรึยังไง?"

ชายหนุ่มพยายามเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง เพราะกลัวว่าถ้าโดนซักหนักเข้าความลับสุดอื้อฉาวที่ปกปิดไว้จะแตก

.

"พักเบรคย่ะ! พักประจำชั่วโมงอ่ะเคยได้ยินไหม แล้วฉันก็แขวนป้ายตรงลูกบิดประตูบอกลูกค้าไว้แล้วด้วย แกเดินออกมาไม่ลืมตาดูรึไง?"

.

เบอร์แบโต้มุ่ยหน้ามองบนพลันยักไหล่ขึ้นสองที ในทำนองว่าใครมันจะสน! ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่กาแฟคาปูชิโน่ร้อนที่สั่งไว้ได้ตรงดิ่งเข้ามาเสิร์ฟ

.

"โอ๊ะ! ออเดอร์ฉันมาแล้ว ชิ่ว ๆ ถอยไปอย่าบังจะดู!"

.

มือหนาปัดป่ายไปมาเพื่อเขี่ยท่อนแขนของแคทเธอรีนลงไปจากโต๊ะ แล้วในเวลาไล่เลี่ยกันนั้นก็เกิดวงแสงสีฟ้าทรงกลมขึ้นมาบนโต๊ะวงหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือการเสิร์ฟอาหารของคน ค.ศ. นี้ เพราะโลกแม่งไม่ค่อยจะมีคน จึงไม่มีการใช้บริกรหรือเด็กเสิร์ฟประคองถาดอาหารมาวางตามโต๊ะอีกต่อไป แก้วกาแฟควันโขมงค่อย ๆ หมุนติ้ว ๆ โผล่พ้นผิวโต๊ะขึ้นมาจากด้านล่าง ตามติดมาด้วยโถน้ำตาล แล้วก็ผ้าเช็ดปากที่หมุนติ้ว ๆ เคลื่อนขึ้นมาราวกับโผล่ออกมาจากต่างมิติ พอทุกอย่างอยู่บนโต๊ะจนครบปุ๊บ! แสงสีฟ้าสว่างเป็นวง ๆ เหล่านั้นก็หายแว๊บไป

.

"ไอ้บ้านนอก! แค่นี้ก็ไม่เคยเห็น แล้วดูของที่สั่งดิมีปัญญาจ่ายเหรอกาแฟร้านยอร์คชินอ่ะแก้วเป็นพันดอลล่าเชียวนะยะ! ลำพังของที่แก Drain มาได้มันจะแปรสภาพออกมาได้สักกี่ตังค์เชียว"

.

"เดี๋ยวตบฟันร่วง! เห็นว่าเป็นผู้หญิงเฉย ๆ หรอกนะยัยแคท เออน่ะ! ฉันมีปัญญาจ่ายล่ะกันจ่ายเผื่อส่วนของแกด้วยก็ยังได้"

.

"จะอวดรวยว่างั้น!?"

.

"เออสิ?"

.

"แล้วไปได้เงินมาจากไหนล่ะ?"

.

"ไม่บอก! (ขืนบอกไปก็ซวยสิ) แกต่างหากแคทที่ต้องบอกฉัน ว่าเมื่อกี้แกเหม่อลอยอะไร?"

.

เด็กสาวแคทเธอรีนละสายตาออกจากดวงหน้าของเบอร์แบโต้ เธอหันย้อนกลับไปยังตึกสูง 7 ชั้นของอาคาร Parallel พลางซดกาแฟไปหนึ่งจิบ

.

"คิดถึงพี่เจฟเฟอร์น่ะ เจอกับพี่เขาครั้งล่าสุดอาการแกแย่มาก ขึ้นไปหาหมอตั้งนานแล้วป่านนี้ยังไม่กลับลงมาเลย"

.

"เออฉันก็เหมือนกันบอสโทรมากำชับกับฉันว่าภารกิจใหม่ค่อนข้างยาก ให้ฉันดับเบิ้ลทีมกับพี่เจฟเฟอร์ ก็เลยมานั่งดักรอแกที่ร้านกาแฟยอร์คชินเหมือนกันนี่แหละ"

.

"แกจะเป็นยังไงบ้างน้อ!?"

.

เบอร์แบโต้ยกแก้วกาแฟขึ้นซดเฉกเช่นแคทเธอรีน ด้วยรสชาติสุดเข้มข้นหวานมัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ชายที่รักของพวกเขานั้น จะกำลังชิมรสนี้อยู่รึเปล่า?

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 53 : เปลือกห่อหุ้ม 48 มม. (18+)

    คุ้มไหมกับการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คุ้มไหมกับเวลาที่เสียไปให้แก่แขนข้างหนึ่ง เพื่อเอามาแลกกับการทำอะไรที่ต่ำทรามเช่นนี้."นี่กูจำเป็นต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอวะ? แม่งเอ๊ย! มันกระจอกเกินไปรึเปล่าวะไอ้เจฟ?".มือซ้ายข้างใหม่ที่เพิ่งได้รับการปลูกถ่ายมาสั่นพับ ๆ เจฟเฟอร์กำลังช่างใจอย่างหนักว่าจะใช้มือข้างนี้ชักว่าวให้แก่ลำควยที่แข็งโด่ขึ้นมาดีไหม เพราะต่อให้เขาจะเป็นคนสถุลหื่นกามยังไง มือข้างใหม่ก็ควรจะนำไปใช้ในภารกิจช่วยโลกไม่ใช่เอามาช่วยตัวเอง."ถ้าแกมีชีวิตแกคงเกลียดฉัน เอาเป็นว่าฉันจะไม่ทำล่ะกัน ตราบใดที่ใจแข็งพอเชื่อว่าไม่นานลำควยก็จะสงบ มันคงอ่อนตัวลงไปเองโดยไม่ต้องง้อการชักว่าว".เคยได้ยินแต่สำนวนที่ว่า "รออย่างมีความหวัง" มาตอนนี้เจฟเฟอร์กับกำลัง "รออย่างมีความเงี่่ยน" อย่าว่าแต่มือเลย นาทีนี้แม้แต่ขาข้างใหม่ก็ยังโรมรันร้องครือครางเอี๊ยด.. อ๊าดดด.. ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซต์ 250 cc ของวาเลนติโน่ รอสซี่ ที่เตรียมจะออกตัวจากกริดสตาร์ท มันจวนจะปะทุอยู่รำไร.ก็อย่างที่บอกแหละว่าก่อนหน้านี้ ขาเจ้ากรรมนั้นเคยเดินโทง ๆ ไปหาช่อดอกลาเวนเดอร์เองมาแล้ว กับครั้งนี้เองก็ด้วย! กลไกกับชุดฟันเพืองของม

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 52 : ห้องของบอส (18+)

    เปลือกตาหนักอึ้งเริ่มเคล่ือนเปิดกว้าง พรายแสงเจิดจ้าจากหลอดไฟเพดานคือสักขีพยานสำหรับการตื่นตัว บนเตียงผ่าตัดในห้องพยาบาลชั้น 4 ในที่สุดเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ก็วกกลับคืนสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ พร้อมกับแขนและขาข้างใหม่ที่ทั้งสวยงามและวาววับ ไม่มีแล้วกับไอ้ด้วนแขนกุด นาทีนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่พร้อมจะทำภารกิจทุกชนิด แบบใส่สุดไม่หยุดสุดสัปดาห์.แต่ก็แปลกตรงที่สิ่งแรกที่เจ้าตัวเลือกทำ กลับมิใช่การก้าวเท้าลงจากเตียงผ่าตัดแล้วขยับเขยื้อนยืดเส้นยืดสาย เหมือนกับที่ผู้ช่วยนาริตะทำกับร่างกายของออเจ้าดาวิกา เขากลับเลือกที่จะถามหมอยูมิโกะขึ้นว่า."ดอกไม้ผมอยู่ไหน?"พลางหันซ้ายแลขวา สอดส่ายสายตาลอกแลก."ดอกไม้?! ดอกอะไรของคุณคะ หมอไม่เห็นรู้เรื่อง หรือว่าสมองคุณผิดปกติเพราะได้รับรังสีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มันปวดตรงไหนรึเปล่าเอ่ย?"

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 51 : เบอร์แบโต้ ระวังหน่อยเซ้!

    “งั้นเหรอคะ จริงสิเกือบลืมคุณไปเลยคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ หมอรักษาสัญญาอยู่แล้วน่าไม่ต้องห่วง เด็ก ๆ จ๊ะมาจับตัวเขาไว้ที!”สิ้นสุดเสียงสั่งสองพี่น้องผู้ช่วยพยาบาลก็ทำตาขวาง พลางถลันตัวเข้ามาจับเจฟเฟอร์ที่แขนขาดข้างหนึ่งเอาไว้.“เฮ้! เดี๋ยวสิออเจ้า นี่มันอะไรกันไม่เห็นจะต้องรุนแรงขนาดนี้ก็ได้นี่!”แน่นอนว่าไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ กลับมา เพราะออเจ้าดาวิกาได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว.“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันฟังไม่เห็นรู้เรื่อง..”.“ไม่ต้องสนใจหรอกน้องนาริตะ แค่พาเขาไปที่เครื่องแปลงมวลสารให้ได้ก็พอ ฮึบ!”.ยูมิจังแทรกขึ้นก่อนจะใช้พลังที่หลงเหลืออยู่ทั้งหมด ออกแรงดันช่วยกันกับน้อง ทำให้แขนกับขาเทียมข้างใหม่ของเจฟเฟอร์ร่วงหลุดจากมือ สายลับหนุ่มพลั้งพลาดเข้าให้แล้ว ร่างแกร่งถลันถลาเซแถด ๆ จนศีรษะมุดเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ส่วนหน้าโดยไม่รู้ตัว.“เดี๋ยวก่อน! อธิบายกันก่อนสิหมอ ผมแขนขาดนะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสมองเลย ทำไมถึงต้อง?! เฮ้! เดี๋ยวก่อนเซ้!”.“ชู่ววว! อย่าเอ็ดตะโรไปสิคะคุณเจ้าหน้าที่ ก็ในเมื่อคุณรู้ความจริงหมดแล้ว ว่าทั้งหมดที่เห็นอยู่ก็แค่ของสมมติที่หมอฝังโปรแกรมไว้ในเลนส์ตาของคุณ ที่จริงคุณจะ Drai

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 50 : การเดินทางของฉันและเธอ คือการเรียนรู้

    การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ เธอเข้าใจและฉันเข้าใจก็ทำให้เรามั่นใจ.. (ในสิ่งนั้น) ซะที่ไหนล่ะ! นาทีนี้แม้แต่ชาติ เดอะวอยซ์ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เจฟเฟอร์สายลับหนุ่มผู้อาภัพได้แต่พร่ำพรึงถึงความหลังที่ผ่านมา ว่าตลอดระยะเวลาหลาย 10 ชั่วโมงที่เข้ามาที่นี่ เขาต้องพจญภัยผ่านชะตากรรมอันหนักหน่วงอยู่คนเดียวเพื่ออะไรกัน แขนข้างใหม่ที่เหน็บอยู่ใต้รักแร้กับขาไทเทเนียมอัลลอยเงาวับนี่ล่ะ ทำไมถึงไม่มีใครสนใจใยดีเลย.มากไปกว่านั้น ยูมิจังผู้ช่วยยังมายึดเอาอุปกรณ์ชิ้นสำคัญของเขาไปอีก."คุณเจ้าหน้าที่คะ.. ขอหูฟังคืนด้วยค่ะ หมอให้มาทวง"."เอิ่ม.. ม.. ก็ได้เอ้านี่เอาไป! ชิ!".เจฟเฟอร์ถอดมันออกพลันสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า บรรดาหมู่มวลจุลชีพสีดำขลับนับล้านต่างพากันบินแตกฮือขึ้นไปกลางฟากฟ้า ดั่งได้รับการปลดปล่อย."อานีคาโหตุ.. จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขีอัตตานัง ปะริหารันตุ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.. สาธุ"ขึ้นเสียงสูงประชดประชันแกมหมั่นไส้ ทั้งที่ความจริงก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าตนเป็นชาวคริสต์นิกายไหนกันแน่ ถึงได้แผ่เมตตาเข้าใส่ได้อ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 49 : ลาก่อนออเจ้า

    "อูยยยย....บัดซบเอ๊ย! ให้ตายเถอะมันจะวินาศสันตะโรอะไรกันขนาดนี้ว่ะเนี่ยะ คุ้มกันไหมกับการสำเร็จความใคร่ใส่หุ่นยนต์แอนดรอยน์ ".ร่างอันล่อนจ้อนแต่สุดจะแข็งแกร่งค่อย ๆ ประคองตัวเองลุกขึ้นยืน ด้านบนคือผืนฟ้ากว้างสุดสายตา ส่วนด้านล่างเป็นพื้นทรายประสมกรวดหินและเศษวัสดุ."สัด! นี่กูกระเด็นมาไกลถึงนี่เลยเหรอวะ? ไม่ใช่ว่าแขนขากูขาดเพิ่มไปแล้วนะเฟ้ย! หึ๊ยยย! ออกไปให้พ้นมันหนักโว๊ยยย! ไอ้ก้อนหินสารเลว!"."เปร๊ีียงงง!".ชั่วเคี้ยวหมากแหลกเศษอิฐผนังที่กระเด็นปลิวทะลุตามมาด้วย ก็โดนเจฟเฟอร์หวดเข้าอย่างจัง มันพุ่งแหวกอากาศย้อนกลับไปทางเดิมด้วยความรุนแรงที่มากกว่าหลายเท่า ก่อนจะชนกระทบเข้ากับผนังโกดังเสียงดัง โครมมม! เพิ่มความเสียหายให้กระจายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น."เวร.. เวร.. เวรของกูแท้ ๆ"เจฟเฟอร์ส่ายหน้า พลางสะบัดขาเจ็บแปล๊บ ๆ.ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First - person) ตัวเลขความเสียหายวิ่งตื๋อขึ้นมามากมาย บ่งบอกว่าร่างกายของเขานั้นไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้การอะไรได้อีกต่อไปแล้ว แขนขาด ขาหมดพลัง แม้แต่ควยกับไข่หำก็ยังแฟบลงเหี่ยวหยดย้อย คล้อยไปกับแสงแดด.นี่จึงเป็นสาเหตุให้เขาออกอาการเซ็งอย่างท

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 48 : ทางใครทางมัน (18+)

    รวบขึงข้อมือคู่น้อยเข้าด้วยกันด้วยฝ่ามือหนาเพียงข้างเดียว! ชูขึ้นเหนือหัว! พลันซุกไซร้มุมปากสลับกับการลงลิ้นเลียกินวงแขนขาวจนหนำใจและพึงพอใจเป็นที่สุด ความคลั่งหื่นกระหายกำลังจะเปลี่ยนให้เจฟเฟอร์เป็นโปรดิวเซอร์หนังโป๊แนวพีเรียดกึ่งย้อนยุค ด้วยเหตุผลดังกล่าวลีลารักที่เขาร่ายรำ จึงไม่ต่างจากกิจกรรมในซ่องชำเลาบุรุษหลังกำแพงวังพระนครศรีฯ."อ๊ายยย! คนบ้าทำอะไรเนี่ยะ"."ก็เลียให้ไง นึกว่าชอบแบบเสียว ๆ ? ".ออเจ้าหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ด้วยความที่แขนทั้งสองข้างถูกรวบตรึงให้ชูขึ้นค้างเติ่ง ไอครั้นจะแสร้งเบี่ยงหน้าหลบก็ดูจะเป็นการใช้มุกเดิมซ้ำซากจนเกินไป."ก็ชอบอยู่... ก็จั๊กจี้ดี แต่ฉันอยาก.. ก.. ก เอิ่ม.. ม.. ม".".....?".

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status