หน้าหลัก / รักโบราณ / กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน / บทที่ 4 ข้าสาบานจะกลับมาทวงแค้น

แชร์

บทที่ 4 ข้าสาบานจะกลับมาทวงแค้น

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-03 17:33:38

จนเมื่อร่างกายที่อ่อนระโหยของหมิ่นเอ๋อที่บัดนี้แทบจะไร้เรี่ยวแรง นางค้นพบว่าเสี่ยวหลงเปาถูกหนูกินไปจนหมดแล้ว เหลือไว้เพียงกระบอกน้ำดื่มที่หล่นอยู่บนพื้น นางจึงได้พยายามลุกไปหยิบมาดื่ม  นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ผนังที่มองเห็นลางๆเพราะบัดนี้คงจะเริ่มเช้าวันใหม่ของอีกวันหนึ่งแล้ว นางพยายามจะจุดตะเกียงแต่ไม่สามารถจุดได้ เพราะไม่มีที่จุุดไฟ มีแต่ตะเกียงแขวนเอาไว้บนผนังเท่านั้น

นางค้นหาจนทั่วเท่าที่แสงสว่างมันจะส่องไปถึง เพราะมันมีแสงสว่างลอดเข้ามาแค่ลำเดียวเท่านั้น หมิ่นเอ๋อเขี่ยห่อผ้าขาดวิ่นนั้นไปที่มุมห้องเพราะกลัวว่าหนูจะกลับมาอีก นางยกกระบอกน้ำที่ยังคงเหลือน้ำอีกครึ่งกระบอกยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างน้อยน้ำที่เหลืออยู่นี้ก็ยังพอประทังความหิวไปได้อีกหลายวัน หลังจากนั้นหากนางยังไม่สามารถขึ้นไปจากที่นี่ได้ ก็แล้วแต่โชคชะตาก็แล้วกัน หมิ่นเอ๋อครุ่นคิด บัดนี้ดวงตาของนางแห้งผากใบหน้านั้นมีแต่คราบฝุ่นผงจับเต็มไปหมด นางไม่ยกมือขึ้นเช็ดอีก เพราะทั้งมือและตัวก็เปรอะเปื้อนไปจนหมด 

หมิ่นเอ๋อนั่งที่บันไดนั้นอย่างอ่อนแรงและเอนกายพิงบันไดเอาไว้ ตอนนี้นางแทบจะไม่มีเสียงจะร้องอีกแล้ว ลำคอนั้นแห้งผากแสบไปหมด และที่สำคัญนางไม่ได้ยินเสียงจากด้านนอกเลย ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆจากด้านนอก ความหวังของหมิ่นเอ๋อเลือนลางอย่างยิ่ง นางเอนกายที่ไร้เรี่ยวแรงดวงตาแห้งผากไร้ความหวังนั้นพิงเอาไว้กับกำแพงหินที่เย็นเฉียบนั้น ดวงตาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายใดๆ  ตอนนี้นางไม่มีความหวังว่าจะว่าจะมีผู้ใดกันที่จะคิดถึงนาง ผู้ใดกันที่จะสนใจใยดีว่านางนั้นหายไป และออกตามหานาง ชีวิตหญิงไร้ค่าเช่นนางนั้นจะมีหรือ จะมีคนที่ห่วงใยนางจนออกตามหานางหรือ หมิ่นเอ๋อตอบตนเองได้เลยว่าไม่มี ชีวิตนี้นางไม่มีใครเลยสักคนที่จะห่วงใยนางและออกตามหานางหรอก ไม่มี………..

ผ่านมาอีกหนึ่งวันน้ำในกระบอกแทบจะแห้งเหือดไปไม่เหลือสักหยดแล้ว หมิ่นเอ๋อยกกระบอกน้ำขึ้นส่องมองดู แล้วนางก็ปล่อยให้มันหล่นไปบนพื้นหินข้างตัวอย่างไม่อินังขังขอบมัน ตอนนี้จะกลืนน้ำลายลงไปยังแทบไม่มีให้กลืน ลำคอปวดแสบปวดร้อนไปหมด และเรี่ยวแรงก็แทบจะไม่มีแล้ว นางแค่หลับไปและสะดุ้งตื่นขึ้นมา และจ้องมองแสงแดดที่ทอดเป็นลำลงมาเพียงลำเดียวนั้น ที่ทำให้นางรู้ว่าขณะนี้เป็นตอนกลางวันหรือว่ากลางคืน และถ้าจำไม่ผิดวันนี้คือวันแต่งงานของแม่ทัพหยางอี้เทียน

“ แม่ทัพหยางหากวันนี้ท่านได้แต่งงานกับฟางหลิวสมดังใจท่านแล้ว ท่านคงจะปล่อยข้าออกไปใช่หรือไม่ หญิงเช่นข้านั้นไม่มีปัญญาใด  ที่จะไปขัดขวางความสุขของพวกท่านหรอก ปล่อยข้าไปเสียเถิด ข้าสัญญาว่าหากข้ารอดไปได้ ข้าจะเก็บข้าวของย้ายไปจากที่นี่ ไม่อยู่รกหูรกตาของพวกท่านอีกแล้ว ” หมิ่นเอ๋อพร่ำเพ้อออกมา เพราะตอนนี้นางจัับไข้สลับร้อนสลับหนาว จนเมื่อทนไม่ไหวก็ผล็อยหลับไป นางไม่มีแรงที่จะเคลื่อนย้ายตนเองไปที่ใดแล้ว ร่างกายนี้มันทั้งหิวทั้งกระหายน้ำ กระหายน้ำเหลือเกิน มันจะมีน้ำไหลลงมาจากด้านบนสักหยดไหม สักหยดก็ยังดี ร่างบางยังคงพร่ำเพ้อเพราะพิษไข้ 

ผ่านไปอีกสามวัน ร่างที่ตอนนี้ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวได้อีกแล้ว เหลือเพียงดวงตาแห้งผากโหลลึกที่จ้องมองไปตรงหน้าของตนเอง ตอนนี้นางนอนพับอยู่ที่เชิงบันไดนั่น นางรู้ว่าไร้ความหวังใดใดแล้ว เมื่อนางรู้สึกว่าร่างกายนี้มันใกล้จะแตกดับเต็มที คงมิอาจจะหวนคืนไปใช้ชีวิตที่ขมขื่นดังเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว " ลาก่อนท่านพ่อ หวังว่าเราคงจะไม่พบกันอีก ข้าขอบคุณที่ทำให้ข้าเกิดมาและเลี้ยงดูข้าจนเติบใหญ่อย่างแสนลำเค็ญยิ่งนักในจวนของบิดาตนเอง  

และบัดนี้ข้าขอลาท่านไปก่อน…….. แม่ทัพหยาง…… ชีวิตของข้าเสียใจอยู่เพียงเรื่องเดียว…… ที่หลงโง่งมไปรักท่าน…. รักชายที่รังเกียจข้าถึงขนาดต้องการให้ข้าตายอนาถเยี่ยงนี้ ……….หากชาติหน้ามีจริงข้าขอสาบานว่าข้าจะล้างแค้นทุกคนที่มันทำกับข้าเช่นนี้ โดยเฉพาะท่านแม่ทัพหยางอี้เทียน ข้าเกลียดท่าน เกลียดท่านที่สุด เกลียด………….เฮื้อก……และลมหายใจสุดท้ายของหมิ่นเอ๋อก็หลุดลอยไปในทันที ทิ้งร่างที่ผอมเกร็งจนแทบจะจำเค้าเดิมไม่ได้ให้กองอยู่ที่เชิงบันไดห้องใต้ดินนั้น 

ขณะที่ร่างกายหนึ่งแตกดับไป ก็พลันกำเนิดชีวิตใหม่ขึ้นในเรือนหลังขนาดกลางที่เป็นที่พำนักของรองแม่ทัพเหลียงหย่งเล่อที่วันนี้ฮูหยินของเขาได้ให้กำเนิดบุตรีคนแรกแก่เขา นางเป็นเด็กน้อยตัวอ้วนจ้ำม่ำน่ารักเหลือเกิน ผิวพรรณหรือก็แสนจะนุ่มนิ่มเมื่อบิดาของนางได้พบหน้านางครั้งก็หลงรักเหลือเกิน  ลูกเอ๋ย  สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันกลม บิดาโอบกอดมารดาที่นอนพิงหัวเตียงในห้องที่จัดเอาไว้ให้นางคลอดบุตร ส่วนบุตรสาวตัวน้อยก็อยู่ในห่อผ้านั้น นางไม่ร้องสักแอะ ดวงตากลมนั้นจ้องมองผู้ใหญ่ตรงหน้านิ่ง

“ ลูกพ่อ ไม่ร้องเลยลูกเก่งจริงๆ ” เขาจ้องมองหน้าบุตรสาวและเอ่ยชมเชยนางที่ไม่ร้องเลย สมกับเป็นลูกของทหารยิ่งนัก  นางส่งเสียงอ้อแอ้เล็กๆเหมือนตอบโต้บิดากระนั้น เขาจึงได้หัวเราะที่บุตรสาวทำเหมือนนางรู้ความที่เขาพูดกับนางอย่างนั้นแหละ   ขณะที่เรือนขนาดกลางของรองแม่ทัพเหลียงหย่งเล่อมีความสุขสมใจและมีเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของสองสามีภรรยาที่บุตรสาวเกิดมาแข็งแรงและน่ารักสมใจที่พวกเขารอคอย

แต่ที่จวนหวังนั้นเกิดเรื่องอึกทึกครึกโครม  เพราะบัดนี้คหบดีหวังกลับมาแล้ว และเขาถามหาบุตรสาวคนโตทันทีอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะระหว่างเดินทางกลับมาเขารู้สึกสังหรณ์แปลกๆและเอาแต่ครุ่นคิดเป็นห่วงบุตรสาวคนโต เหมือนว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนางทำให้เขาดูร้อนใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ และคหบดีหวังนั้นก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวคนโตอย่างแน่นอน ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักหมิ่นเอ๋อ แต่เขามีอาชีพที่ต้องเดินทางไปค้าขายต่างเมืองอยู่บ่อยครั้ง และเขาวางใจว่าฮูหยินที่เขาแต่งงานกับหล่อนนั้นเป็นคนดีมีใจเมตตาจึงคิดว่านางคงจะรักบุตรสาวของเขาเช่นเดียวกับลูกของนางเอง แต่ความเป็นจริงมันไม่่ใช่เช่นนั้นแต่เขาไม่รู้

“ ข้าเองก็ร้อนใจ ส่งคนตามหานางมาหลายวันแล้วเจ้าค่ะ แต่ก็ยังไม่พบ พบเพียงจดหมายที่นางทิ้งเอาไว้และข้าวของบางอย่างก็หายไป เสื้อผ้าก็หายไปไม่น้อย ข้าจึงคิดว่านางน่าจะหนีออกจากบ้านไปนะเจ้าคะ ” คหบดีหวังไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าสตรีเช่นบุตรสาวคนโตจะหนีตามผู้ชายไปอย่างที่จดหมายเขียนเอาไว้ เขายอมรับว่าลายมือในจดหมายนั้นมันคล้ายกับลายมือของบุตรสาว แต่ด้วยนิสัยของนางที่อ่อนแอและขี้ขลาดปานนั้นจะกล้าเก็บเสื้อผ้าหนีออกไปกับบุรุษได้อย่างไรกัน และนางก็ไม่ได้คบหากับใคร แทบจะไม่ค่อยออกไปจากจวนเสียด้วยซ้ำ จะไปคบหากับบุรุษที่ไหนได้ จนถึงกับเก็บเสื้อผ้าหนีตามเขาไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ เขาเห็นแต่มีแม่ทัพหยางอี้เทียน บุรุษข้างบ้านเท่านั้น ที่เทียวไปเทียวมาหานาง 

แม้คหบดีหวังจะไม่ค่อยอยู่ติดจวน แต่เขาก็เคยเห็นแม่ทัพหนุ่มมาที่นี่หลายครั้งแล้ว และเขาก็รู้ว่าแม่ทัพหนุ่มนั้นมาเกี้ยวพาบุตรสาวคนโต เขาจึงร้องเรียกพ่อบ้านหวังมาทันที " พ่อบ้านหวังให้คนไปเชิญท่านแม่ทัพหยางมาเดี๋ยวนี้ บุตรสาวของข้าหายไปทั้งคืน และข้าไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่านางหนีตามบุรุษไป 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 24 ซูลี่คลอดลูกแฝด

    หลายเดือนต่อมาสถานการณ์ในจวนแม่ทัพก็ปกติดีไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ซูลี่วางใจแล้วเพราะคิดว่าฟางหลิวคงจะคิดได้จริงๆแล้ว คงจะไม่ก่อเรื่องขึ้นอีก เพราะนางเองนอกจากห่วงตนเองและบุตรที่เพิ่งจะคลอดแล้ว ก็เป็นห่วงบิดาเมื่ออดีตชาติที่ต้องอยู่ในจวนเดียวกับฟางหลิวด้วย เพราะท่านชราลงมากแล้ว นางอยากจะเห็นน้องสาวคิดได้จริงๆ วันหนึ่งซูลี่ให้สาวใช้ออกไปซื้อหาผลไม้เชื่อมมาหลายๆอย่างและขนมหวานแห้งที่ใส่ขวดโหลเอาไว้กินได้นานมาด้วยอีกสองสามอย่าง แล้วนางแบ่งให้สาวใช้นำไปให้ฟางหลิวที่จวนข้างๆ บอกว่านางฝากมาให้ ผ่านไปครู่ใหญ่สาวใช้กลับมาบอกว่าคุณหนูหวังฝากขอบคุณและตอนนี้นางกำลังนั่งปักผ้าอยู่ที่ศาลาริมบึง“ ข้าว่าคุณหนูหวังน่าจะหายดีแล้วนะเจ้าค่ะ บัดนี้นางแต่งกายดูดีขึ้นมาก สวมอาภรณ์สะอาดสะอ้านมีสาวใช้ดูแลสองคน กำลังนั่งปักผ้าอยู่ในศาลาริมบึงบัว นางบอกว่าขอบคุณมากที่พี่สาวยังคิดถึงนาง นางกำลังอยากจะกินผลไม้เชื่อมอยู่พอดี และจะแบ่งขนมหวานไว้ให้ท่านพ่อกินกับน้ำชาด้วยเจ้าค่ะ ” สาวใช้ที่กลับมารายงานดังนี้ ทำให้ซูลี่สบายใจขึ้น นางยกพัดขึ้นพัดวีตนเองแล้วยิ้มออกมาอย่างสุขใจตอนนี้นางเอนกายพักผ่อนและให้สาวใช้บีบนวดอยู่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 23 อภัยเพื่อใจที่เป็นสุข

    ซูลี่จ้องมองใบหน้าของฟางหลิวนิ่งนาน และนางก็ค่อยๆเดินไปตรงหน้าของฟางหลิวอย่างไม่เกรงกลัวว่านางจะทำร้ายหรือคลุ้มคลั่งขึึ้นมา มือบางของซูลี่วางลงบนศีรษะของฟางหลิวเบาๆ แล้วลูบศีระษะของฟางหลิว แล้วเอ่ยว่า “ ฟางหลิว พี่ไม่ได้เกลียดเจ้า ไม่ได้ริษยาเจ้า พี่รักเจ้าเช่นดังน้องสาวของพี่จริงๆ ไม่ได้คิดจะแย่งยื้อสิ่งใดจากเจ้าทั้งนั้น เจ้าลองทบทวนดู เจ้าเติบใหญ่ขึ้นมาด้วยการเอาใจและการเลี้ยงดูที่ดีกว่าพี่มากนัก เจ้าเติบใหญ่่มามีพร้อมทั้งบิดาและมารดาที่คอยเลี้ยงดูเจ้า เงินทองข้าวของเจ้าก็มีมากมายกว่าพี่ เจ้าได้ใส่อาภรณ์ใหม่ๆดีๆ แต่พี่ต้องใช้ของเหลือจากเจ้า เจ้าได้เครื่องประดับของมีราคามากกว่าพี่จนนับไม่ถ้วน แต่พี่ไม่เคยมีสิ่งเหล่านั้น เจ้าลองทบทวนดูสิ ครั้งอดีตเมื่อท่านพ่อกลับมากจากนอกเมืองก็มักจะมีของมาฝากเสมอและของฝากของเจ้าก็มากกว่าพี่เสมอ เจ้าลองทบทวนความทรงจำดูสิ แล้วเจ้าจะพบว่าเจ้ามีสิ่งต่างๆล้นเหลือในขณะที่พี่แทบจะไม่มี แล้วเจ้าจะบอกว่าพี่แย่งทุกอย่างไปจากเจ้าได้อย่างไรกัน ” ซูลี่เอ่ยกับฟางหลิวเบาๆ จ้องมองนางอย่างให้อภัยและมีความรักใคร่เอ็นดูปนอยู่ในนั้น ฟางหลิวนิ่งฟังคำของซูลี่ แล้ว

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 22 แกล้งบ้าเพื่อรอดคุก

    ทั้งบนม้าหนุ่มตัวสูงใหญ่ของเขาที่ซูลี่ติดใจจังหวะการกระแทกของสามีเวลาม้าออกวิ่ง มันทั้งเสียวซ่านทั้งเร้าใจนางยิ่งนัก นางมักจะชวนเขาออกไปขี่ม้าเล่นกันเสมอ ทั้งสองคนแค่สบตาก็รู้แล้วว่านางและเขาต้องการกันและกันมากแค่ไหนคืนนี้วิวาห์นี้ซูลี่จึงสมใจยิ่งนัก นางร่อนสะโพกอวบรับเขาได้ทุกท่วงท่ายิ่งกว่าหญิงนางโลมที่ต้องบำเรอชาย ซูลี่คิดว่านางทำให้เขาถึงขนาดนี้แล้ว หากเขาแอบไปมีหญิงอื่นนางจะจัดการสามีผู้นี้ให้หนักทีเดียว คืนนั้นเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเป็นระยะ เตียงวิวาห์หลังใหญ่ที่ไหวโยกอย่างรุนแรงหากเป็นเตียงไม้หยาบๆ ของชาวบ้านธรรมดาคงจะหักกลางไปเสียแล้ว เสียงร้องครวญครางผสานกันอย่างสุขสมของทั้งสองบ่าวสาว ดังขึ้นเป็นระยะจนกระทั่งเช้าวันใหม่เสียงทั้งหลายจึงได้เงียบสงบไป ขณะที่จวนแม่ทัพนั้นเต็มไปด้วยความสุขความสมหวัง และบรรยากาศที่ชื่นมื่นของคนในจวนที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหลายปี จวนหวังที่อยู่ข้างๆก็พลอยมีบรรยากาศที่ดีขึ้น ทุกคนดูเป็นสุขนายท่านหวังก็เริ่มเป็นสุขมาก เขามักไปเยี่ยมซูลี่ที่จวนแม่ทัพบ่อยๆและรอคอยหลานที่อีกไม่นานคงจะมาเกิดแล้วหญิงผู้หนึ่งที่ซ่อนตัวในคราบของคนบ้ามาหลายปีแล้ว ใช่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 21 เข้าหอหุหุ nc

    หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็ถึงวันแต่งงานของแม่ทัพหยางอี้เทียนกับคุณหนูเหลียงซูลี่แล้ว งานแต่งงานครั้งนี้ก็ยิ่งใหญ่เช่นกันเพราะเป็นการแต่งงานของแม่ทัพใหญ่ แขกเหรื่อได้รับเชิญเป็นจำนวนมาก ทุกคนวิ่งวุ่นวายจัดเตรียมงานและในวันงานกันวุ่นวาย บ่าวไพร่และสาวใช้หลายๆคนของจวนคหบดีหวังก็มาช่วยงานนี้ด้วยตัวของคหบดีหวังและพ่อบ้านหวังก็มาร่วมงานและช่วยเหลืองานหลายๆอย่างดังเช่นเป็นเจ้าภาพอีกคน และทุกคนก็ยินดีที่จะให้ท่านคหบดีหวังมาเป็นบิดาบุญธรรมของซูลี่อีกคน ทำให้เขามีความสุขมากที่นางเอ่ยปากเรียกเขาว่าท่านพ่อ วันงานแต่งแขกเหรื่อก็มากมายเกือบจะเป็นงานแต่งที่ยิ่งใหญ่มากอีกงานของเมืองนี้ งานแต่งนี้ก็มีราชวงศ์มาร่วมงานหลายคน ขุนนางและพ่อค้าคหบดีก็มากมาย งานเลี้ยงมีทั้งอาหารและสุราเลี้ยงไม่อั้น ทหารต่างก็มาร่วมงานกันมากมายและช่วยงานกันคึกคักเต็มหน้าลานกว้างของจวนแม่ทัพ เมื่อเสร็จพิธีไหว้ทั้งสี่แขกเหรื่อต่างก็ร่ำสุราและสนทนากันอย่างออกรส และฟังการบรรเลงพิณไปด้วย ที่เป็นสตรีก็จับกลุ่มคุยกัน อาหารนั้นแทบจะยกเหลามาไว้ที่นี่ เพราะมีการสั่งปิดภัตตาคารถึงสองที่เพื่อยกมาจัดเลี้ยงฉลองแต่งงานนี้โดยเฉพาะ ผลไม้แล

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 20 เร่งผลิตทายาท

    นิ้วแกร่งสอดเข้าไปในร่องอวบของนางช้าๆ เขางอข้อนิ้วแหย่ที่รูสวาทของนางไปมา เขี่ยเมล็ดดอกไม้ของนางจนสะโพกอวบโยกไปมาอย่างเสียวซ่าน น้ำรักของนางเริ่มไหลรินออกมาอีก เขาจึงได้ก้มลงไล้เลียร่องอวบของนางไปมา ขณะที่นิ้วแกร่งก็ขยับเข้าออกถี่ ๆ แหย่เข้าออกที่รูสวาทของนาง ปากหนาก็ดูดเมล็ดดอกไม้ของนางอย่างรุนแรงจนมันบวมเป่ง “ อ๊าา ซี๊ดดดดด ท่านพี่เจ้า ท่านพี่ อ๊าาา ข้า…ไม่ไหวแล้ว ซูลี่เสียวเหลือเกิน เสียวววว อ๊าาา ” ยิ่งเขาดูดเมล็ดดอกไม้ของนาง ยิ่งทำให้นางเสียวจนทนแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว อี้ชิงสั่นเกร็งอย่างรุนแรง น้ำหวานทะลักทะลายออกมาอย่างมากมาย จนเปื้อนขาอวบไปหมด คุณชายเฟยหลงก้มลงมองร่องอวบที่บัดนี้มันตอดตุบๆ และฉ่ำไปด้วยน้ำรักของนาง เขาทนไม่ไหวแล้ว ทนไม่ไหว เขาต้องเลีย ต้องเลียร่องอวบของนางในตอนนี้ และเขาก็ก้มลงซุกใบหน้าหล่อเหลาลงที่ร่องอวบของนางทันที น้ำหวานของนางไหลรินไม่ขาดสาย เมื่อลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของเขาสัมผัสกับเมล็ดดอกไม้ที่บวมเป่งจนร้อนผ่าวของนาง เสียงครวญครางของนางก็ดังกระเส่านางครวญครางแทบจะขาดใจ ร่อนสะโพกอวบโยกเข้าหาใบหน้าหล่อคมและก็แตกคาปากร้อนรุ่มของเขาไปทันทีสองครั้งติดๆกัน แม่ทั

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงคืน   บทที่ 19 การคืนดีที่เท่าร้อน nc

    “ ข้าทิ้งท่านเอาไว้ที่นี่ถึงสองวัน กินอาหารและน้ำก่อนเถิดเจ้าค่ะ แล้วค่อยอาบน้ำอีกสักหน่อย ข้าให้สาวใช้หยิบอาภรณ์มาให้ท่านผลัดเปลี่ยนแล้ว ” แม่ทัพหนุ่มที่ยังกอดนางเอาไว้ในอกรีบเอ่ยว่า “ ถ้าพี่ยอมกินอาหารและอาบน้ำแล้ว เจ้าจะให้อะไรเป็นรางวัลกับพี่เล่า ”แม่ทัพหนุ่มยังไม่วายมีข้อแม้เพราะเขาดีใจมากที่นางเปลี่ยนใจกลับมาช่วยเขา และคิดว่านางเองก็ยังมีเขาในหัวใจของนางอยู่ไม่น้อย จึงได้รีบอ้อนคนในอ้อมกอดใหญ่ “ ก็ได้ หากท่านยอมกินอาหารและอาบน้ำเสร็จแล้ว ท่านต้องการส่ิงใดข้าจะทำให้ท่าน ” ซูลี่ตัดสินรับปากกับเขาโดยไม่มีข้อแม้ แม่ทัพหนุ่มยกยิ้มอย่างพอใจ “ ถ้าเช่นนั้น เจ้ามีอะไรให้พี่กินบ้างล่ะ เราออกไปนั่งกินข้างนอกดีกว่า ในนี้อากาศมันไม่ถ่ายเท ” เขาจูงมือของนางกลับออกไปที่ด้านนอก แล้วไปทรุดนั่นที่โต๊ะกลมที่เขาทำความสะอาดทิ้งเอาไว้วันก่อนในห้องโถงหน้าเรือนนั่น ซูลี่แกะห่อผ้าออก แล้วค้นหาห่อข้าวที่นางให้สาวใช้ห่อให้นางแกะแล้ววางไว้ตรงหน้าคนร่างหนา แล้วหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำเอาไว้จนเต็มยื่นให้เขา “ ดื่มน้ำก่อนนะเจ้าคะ แล้วค่อยกินข้าว ข้าจะนั่งเป็นเพื่อนท่าน กินให้เยอะๆนะเจ้าคะ ” แม่ทัพหนุ่่ม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status