หากเขามีอาการกำหนัดมันจะออกฤทธิ์ต่อต้านกันรุนแรง แปลว่าบนตัวสาวใช้คนนี้โปรยผงยาปลุกกำหนัดเอาไว้ เซียวหงกำหน้าอกอย่างแรง เขากระอักเลือดออกมา เสี่ยวลี่ตกใจที่เห็นเจ้านายกระอักเลือดเต็มปาก นางร้องกรี๊ดจนบ่าวในเรือนวิ่งมาดู เซียวอี้เซียนรีบวิ่งมาทันทีพร้อมกับซุนเจิ้นหนาน ทันทีที่พังประตูเข้าไปก็เห็นบิดานอนกระอักเลือด ซุนเจิ้นหนานรีบเข้าไปหาฝังเข็มให้ทันทีเพื่อระงับอาการ
เซียวฮูหยินที่มาถึงเห็นอาการสามีก็ร้องไห้ปานจะขาดใจ เซียวอี้เซียนเดินไปหาตบหน้าเสี่ยวลี่อย่างแรงจนนางล้มลงเลือดกลบปาก
"เจ้าทำอะไร คิดปีนเตียงบิดาข้าหรือนังงูพิษ"
"คุณหนูกล่าวหาบ่าวเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ"
"สารรูปเจ้าตอนนี้ใส่เสื้อผ้าหรือแก้ผ้ายังไม่ต่างกันเลย ท่านตาเจิ้นหนานท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"
"ร่างกายเขาอ่อนแอ เดิมเรื่องหญิงชายก็ทำมิได้อยู่แล้ว เหมือนจะมีคนวางยาปลุกกำหนัดเขาน่ะ"
"ไม่นะ บ่าวป่าวนะเจ้าคะ คุณหนูท่านหมอซุนพวกท่านใส่ร้ายข้ามิได้นะ"
"ท่านตาตรวจนางได้หรือไม่"
"ไม่นะ....คุณหนูท่านหมอเป็นบุรุษ ท่านทำเช่นนี้มิเท่ากับลบหลู่เกียรติของบ่าวหรือ เช่นนี้ให้บ่าวตายเสียยังดีกว่า"
"อี้เซียน..มีอีกวิธีนี่เป็นแมลงที่ตาเลี้ยงเอาไว้ ขอเพียงบนตัวนางมีสมุนไพรที่ใช้ปรุงยานี้อยู่มันย่อมค้นหามาจนได้"
ซุนเจิ้นหนานเปิดกระบอกไม้ไผ่ออกมา แมลงตัวเล็กที่คล้ายๆกับจิ้งหรีดคลานออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ มันคลานไปหาเสี่ยวลี่ดมนางสักครู่ก็คลานไปตามทาง สาวใช้ตามแมลงตัวน้อยไปที่ห้องของเสี่ยวลี่ มันมุดผ้าห่มมุดหมอน จนกระทั่งไปหยุดที่รอยแยกข้างผนังห้อง สาวใช้คนหนึ่งเดินตรงไปแต่เสี่ยวลี่รีบไปขวาง ไม่ทันถึงแส้ในมือของเซียวอี้เซียนก็ตวัดรัดข้อมือนางกระชากกลับมา
สาวใช้ไปแงะตรงรอยแยกเจอห่อกระดาษสีน้ำตาล จึงนำออกมาสองห่อ จากนั้นก็ส่งให้เซียวอี้เซียนดู นางรับมาก่อนจะไปหาซุนเจิ้นหนาน หมอเทวดารับห่อกระดาษมาเปิดออกต้องปิดจมูก นี่เป็นยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรง เซียวหงไม่มีทางที่จะหลุดพ้นคืนราคะไปได้เลยหากสูดดมมันเข้าไป โชคดีที่เซียวอี้เซียนมาหาเขาก่อนหน้า บอกกับเขาว่านางไม่ไว้ใจสาวใช้บิดาเขาจึงให้สมุนไพรที่มีฤทธ์ต่อต้านกันมา แต่อาจทำให้เซียวหงลำบากสักหน่อยซึ่งเซียวอี้เซียนก็ยินยอม
"มีอะไรจะพูดไหมเสี่ยวลี่"
ซุนเจิ้นหนานถามสาวใช้ที่ตอนนี้นั่งตัวสั่นอยู่ นางจะทำเช่นไรดี จะบอกว่าตนเป็นคนของคุณชายจ้าวก็ไม่ได้ ทำอย่างไรดี
"เจ้าเลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ พรุ่งนี้ขายออกไปให้หอนางโลมเถอะ ในเมื่อเจ้าชมชอบเรื่องโลกีย์เพียงนี้ที่นั่นอาจเป็นสถานที่ดีๆสำหรับเจ้า"
"ไม่นะท่านขายข้าไม่ได้ ลืมแล้วหรือในสัญญาขายตัวที่ไท่ฮูหยินซื้อตัวข้ามาห้ามขายข้าออกไป คุณหนูข้าจะไปขอความเป็นธรรมเรื่องที่ท่านใส่ร้ายข้ากับไท่ฮูหยิน"
เสี่ยวลี่ไม่ยอมแพ้ เสี่ยวฮวาที่ปกติเงียบขรึมขี้ขลาดมาตลอด นางเดินมาถึงก็ตบหน้าเสี่ยวลี่อีกข้างอย่างแรง เสี่ยวลี่น้ำตาร่วงนางเจ็บเหลือเกิน
"นางงูพิษ คิดฆ่านายท่านยังจะให้มารดาของเขาอุ้มชูเจ้าหรือ ไร้ยางอาย"
เซียวอี้เซียนเดินหน้ามาหาสาวใช้ทรยศก่อนจะเรียกหาบางคน
"พ่อบ้าน ท่านไปตามลุงโจวมิ่งมาสักหน่อยได้หรือไม่"
"ขอรับคุณหนู"
พ่อบ้านไปไม่นานก็มาพร้อมกับชายแก่อายุห้าสิบกว่าคนหนึ่ง ผิวดำมะเมื่อม ลงพุงหน่อยๆ โจวมิ่งเป็นบ่าวที่ทุกเช้าต้องนำสิ่งปฏิกูลไปเททิ้ง เขาไม่ค่อยคุยกับใครนักเพราะเนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหม็น เมื่อมาถึงก็นั่งลงคุกเข่า เซียวอี้เซียนเอ่ยกับเขาช้าๆ
"ลุงโจว....ท่านทำงานกับจวนเรามากี่ปีแล้ว"
"เรียนคุณหนู สี่สิบปีแล้วขอรับ บุญคุณของนายท่านข้าน้อยไม่เคยลืม"
"อืม..นับว่าท่านภักดียิ่งนัก ลุงโจวข้าอยากตอบแทนความภักดีของท่านสักหน่อย ข้าขอเป็นตัวแทนท่านย่ายกเสี่ยวลี่สาวใช้คนนี้เป็นภรรยาท่าน คืนนี้เข้าหอได้เลย สินสอดไม่ต้องจ่ายข้าจะให้เงินตั้งตัวแก่ท่านด้วย อายุท่านเยอะแล้วไปหาบ้านเล็กๆสร้างครอบครัวเถอะ"
"อะไรนะ..ไม่ๆๆเจ้าทำกับข้าอย่างนี้ไม่ได้นะ เซียวอี้เซียนเจ้ารู้ไหมข้าเป็นคนของใครเจ้ากล้าหรือ"
เสี่ยวลี่โวยวายออกมา นางดิ้นสุดฤทธิ์ แต่ถูกกดเอาไว้ โจวมิ่งมองไปที่สตรีงดงาม เสื้อผ้าที่นางสวมอยู่ช่างเย้ายวน เขาไม่เคยได้ลิ้มลองสตรีสักครั้ง วันนี้คุณหนูใจดียกสาวใช้คนนี้ให้เขาหรือ
"ขอบพระคุณคุณหนูมากขอรับ ข้าจะถนอมนางอย่างดีเลยขอรับ เมียจ๋าเจ้าไม่ต้องกลัวข้านะ ไปกันเถอะข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขที่แต่งงานกับข้า"
"ไม่เอามือโสโครกของเจ้าออกไป อ๊าย กรี๊ดดดด คุณชายจ้าวช่วยเสี่ยวลี่ด้วยเจ้าค่ะ เซียวอี้เซียนเจ้ามันไม่ใช่คน ปล่อยข้าปล่อย"
บ่าวชราลากเสี่ยวลี่ไปยังเรือนพักของตน นางขัดขืนเขาจึงแบกนางขึ้นบ่าไปจนได้ เซียวอี้เซียนไปดูบิดาที่ตอนนี้มารดากำลังเช็ดเหงื่อให้อยู่ นางมองมายังบุตรสาวน้ำตาคลอ
"ท่านแม่ นางเป็นคนของสกุลจ้าว มาเพื่อทำลายทายาทหนึ่งเดียวของสกุลเซียว หากข้าแต่งกับจ้าวเฉิงจะยังรอดหรือเจ้าคะ หากท่านพ่อจากไปสกุลเซียวย่อมต้องพึ่งพาบ้านสามี ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่ถอดใจหรอก มิแน่พรุ่งนี้อาจมีเกี้ยวสีชมพูมารับอนุเช่นข้าเข้าจวน"
"เลวนัก เซี่ยนเซี่ยนของแม่พวกเขาๆ"
"ท่านแม่วางใจ พวกเขาทำอะไรลูกไม่ได้หรอกเจ้าคะ เดิมทีข้าจะหาหลักฐานที่เสี่ยวลี่วางยาท่านพ่อ แต่ว่าข้าไม่รู้คิดอย่างไรกลัวว่านางจะปีนเตียงท่านพ่อจึงคิดแผนนี้ออกมา แต่ก็ทำให้ท่านพ่อร่างกายแย่ลงกว่าเดิม"
"อย่าห่วงเลยมีตาอยู่มิใช่หรือ หากไม่ได้ดื่มยาเทียบนั้นต่อเนื่องบิดาเจ้าจะอาการดีขึ้น"
เซียวอี้เซียนพูดคุยกับมารดาและซุนเจิ้นหนานอีกไม่นานก็กลับเรือนตนเอง ข้างนอกบ่าวกำลังสนุกกันใหญ่ เฒ่าโจวไม่เคยมีเมียพอได้เข้าหอก็ร่วมสวาทกับเสี่ยวลี่จนเสียงดังลั่นเรือน เสี่ยวลี่ครางราวกับสัตว์ในฤดูผสมพันธุ์ดูท่าตาแก่โจวคงจะทำให้นางได้ถึงใจ เซียวอี้เซียนยิ้มซ่อนมีดในใบหน้า จ้าวเฉิง จ้าวอันป๋อ ข้าจะลับมีดรอพวกเจ้าเดินมาชนบังตอของข้าเอง
บนหลังคาบุรุษสามคนที่นั่งดูปาหี่มาตั้งแต่ต้นก็เอ่ยปากพูดคุยกันหลังจากที่คุณหนูคนงามเดินกลับเรือนตนเองไปแล้ว
"ท่านอ๋อง ว่าที่พระชายาท่านช่างน่ากลัวยิ่งนัก นางวางแผนเช่นนี้ไม่เพียงจ้าวเฉิงเสียหมากไปแล้ว สาวใช้ในจวนที่หวังปีนเตียงบิดานาง หรือแม้แต่คิดปีนเตียงพระองค์ในอนาคตคงคิดหนัก มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว" ลู่เสวียนเอ่ยขึ้น
"น่าสงสารนางอยู่นะ ข้าไปแอบฟังมาตาเฒ่านั่นรุนแรงจริงๆ เตียงหักแล้วกระมัง"
หลินหย่งเอ่ยอีกประโยค แต่หยางเทียนหลงลุกขึ้นยืนก่อนจะเอ่ย
"เมียข้าฉลาดเพียงนี้ หากข้าอยากนอกใจนางกลัวว่าข้านั่นแหละจะโดนเชือดก่อนเสียเอง"
"ท่านอ๋อง หรือทรงกลัวพระชายาที่ยังไม่เข้าพิธีคนนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ"
"แล้วเจ้าสองคนว่า เมียข้าน่ากลัวหรือไม่"
"ดูเหมือนพี่สะใภ้จะเดาถูกนะพี่ใหญ่...นางถึงได้ให้ท่านเสนอแก่ฝ่าบาทถึงสามรอบเรื่องไปสำรวจภูมิทัศน์ต้าฉิน อ้างว่าเพื่อให้รัชทายาทได้รู้จักแผ่นดินตนเองก็เป็นนางที่แนะนำให้ท่านกราบทูลแก่ฝ่าบาท"เสียงดังมาจากคนที่เพิ่งเดินลงมาจากด้านบ้าน ลู่เสวียนเดินเข้ามาด้วยอาภรณ์ที่สะอาดไร้รอยเปื้อนแต่อย่างใด หวังจิ่วคอหด ขนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาอยู่ข้างนอกมิใช่หรือ เหตุใดลงมาจากข้างบนได้กัน ว่ากันว่าคุณชายลู่ฆ่าคนเสร็จก็จะเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่ทันทีเพราะเป็นคนรักสะอาด หยางเทียนหลงภูมิใจในตัวเซียวอี้เซียนเอ่ยออกอย่างภูมิใจ"เมียข้านางฉลาดนัก แต่คนกลับคิดว่านางเป็นเพียงสตรีที่ต้องอาศัยบุรุษถึงสามารถอยู่ได้""แล้วคนที่คิดเช่นนี้ตอนนี้ถูกปรับไม่ได้รับเบี้ยหวัดสามปี อีกทั้งยังถูกลดจากอำมาตย์ช้ายไปเป็นรองเจ้ากรมพิธีการ ทั้งจวนจ้าวถูกองครักษ์หลวงควบคุม ช่างน่าขันยิ่งนักฮ่าๆๆๆ"ลู่เสวียนหัวเราะไม่เก็บอาการแต่อย่างใด ยามที่อยู่นอกเมืองหลวงเขาก็คือน้องรอง ส่วนหลิวหย่งก็คือน้องสามเป็นพี่น้องบุญธรรมกับหยางเทียนหลง เมื่อพี่ใหญ่มีความสุขเหตุใดพวกเขาจะไม่แสดงความยินดีออกมากันเล่า "ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ คนต้
ในห้องพักทุกคนเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ หยางเทียนหลงนอนอยู่บนเตียงด้านนอกลู่เสียนที่ปลอมเป็นคนขับรถม้ายืนเฝ้าอยู่ด้านล่างขอโรงเตี๊ยมคนของแคว้นเหลียงเริ่มที่จะลงมือ โรงเตี๊ยมยามนี้เงียบวังเวงแม้แต่เสียงยุงบินผ่านยังไม่มี ลู่เสวียนได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก่อนจะลืมตาทำท่าทีงัวเงียแล้วเอ่ยกับองครักษ์ที่เฝ้ายาม"นี่ๆๆ พี่ชายข้าจะไปนอนที่รถม้านะ""อ้อ..อืม"ลู่เสวียนเดินออกไปด้านนอกเมื่อออกมาได้ก็แอบไปด้านหลังแล้วดีตัวไปยังยอดไม้เพื่อดูความเคลื่อนไหว ชายชุดดำกว่าร้อยคนกำลังมา แปลว่าพวกมันเหมาโรงเตี๊ยมทุกโรงที่เป็นทางผ่านเพื่อรอจัดการรัชทายาท หากวันนี้เป็นตัวจริงเสด็จมาคงลำบากแน่นอนชายฉกรรจ์ชุดดำกว่าร้อยคนเคลื่อนมายังโรงเตี๊ยม เมื่อมาถึงก็ปิดล้อม ส่วนนักฆ่าอีกกลุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงเตี๊ยมที่พักก่อนหน้าสามห้องก็เปิดประตูห้องออกมาทันทีที่ได้รับสัญญาณ ทุกคนสวมชุดนักรบของเผ่าเหลียง องครักษ์ของหยางเทียนหลงที่อยู่ในห้องต่างก็พยักหน้า หวังจิ่ว อารองขององค์ชายใหญ่เดินมายังด้านในโรงเตี๊ยม ก่อนจะเอ่ยถาม"มีคนออกไปข้างนอกหนึ่งคนกลับเข้ามาหรือยัง""เป็นค
หวงเหวินเทียนส่งมารดาเข้านอน เมื่อเรียบร้อยคนของรัชทายาทก็มารายงานเรื่องราว รัชทายาทตัวปลอมนั้นกำลังเดินทางกลับเมืองหลวง และคืนนี้จะมีการลงมืออีกครั้งจากฝ่ายตรงข้าม ครั้งนี้เขาจะรวบให้หมด หยางต่งเจ้ารอก่อนเถอะผ่านคืนนี้ไปข้าจะรับซิ่วเอ๋อร์กลับจวนอย่างเอิกเกริก ให้เจ้าได้รู้ว่าที่ผ่านมาเจ้าและมารดาของเจ้ากลับสกุลหวังไม่เคยควบคุมนางและใครได้เลย และเมื่อเจ้ารับรู้ว่าที่จริงแล้วนางเป็นคนของใคร ข้าจะให้เจ้ากระอักเลือดจนยกดาบไม่ขึ้นเชียวล่ะโรงเตี้ยมพเนจรยามอิ๋นรถม้าที่กำลังทะยานควบขี่มายังโรงเตี้ยม กระทั่งมาถึงคนขับรถม้าจึงไปเคาะเรียก ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูหลายครั้งทำให้เสี่ยวเอ้อที่งัวเงียๆจากการที่แอบงีบหลับก็ลืมตาขึ้นมา เมื่อตอนบ่ายมีคนมาเหมาโรงเตี้ยมที่ผ่านทางนี้จนหมด มีเพียงโรงเตี้ยมของเขาที่ไม่มีใครมาขอเหมา แขกก็น้อยได้มาเพิ่มอีกคนเถ้าแก่คงมีเงินจ่ายเงินเดือนของเขา จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็เดินไปเปิดประตูเพื่อต้อนรับคนที่มาพัก"มาแล้ว มาแล้ว เสี่ยวเอ้อเดินขยี้ตารัวๆก่อนจะตะโกนตอบกลับไป เมื่อเปิดประตูก็เห็นบุรุษสิบกว่าคน มีรถม้าคันใหญ่ เขาจึงถามออกไป"
ในเมืองหลวงตอนนี้กำลังมีการเฝ้าระวังคนของแคว้นเหลียงกับคนขององค์ชายใหญ่ จ้าวอันถูกปล่อยออกมาแล้ว ฮ่องเต้ลงโทษงดรับเบี้ยหวัดสามปี อีกทั้งลดขั้นจากอำมาตย์ฝ่ายซ้ายไปเป็นรองเจ้ากรมพิธีการ จ้าวอันป๋อเองก็แทบจะกระอักเลือด จวนถูกองครักษ์ควบคุมไปไหนไม่ได้ ตอนนี้ในห้องลับของจวน คนของแคว้นเหลียงกำลังนั่งหน้าดำคล้ำเจรจากับจ้าวอันและจ้าวอันป๋ออยู่"ตกลงอาวุธ..พวกท่านจะส่งมอบเมื่อใด""ทางเราถูกยึดไปหมด นายกองหม่าท่านรออีกสักนิดเถอะ""เสนาจ้าว แคว้นเหลียงของเราคงไม่รอแล้ว ข้าจะพากำลังเข้าเมืองหลวง พวกท่านก็เตรียมเปิดประตูเมืองรอด้วยเล่า"จ้าวอันป๋อกำมือแน่น หากไม่มีอาวุธต่อให้พวกเขามาได้ก็ใช่ว่าจะชนะ แต่ทางแคว้นเหลียงไม่เจรจาต่อ พวกเขานัดวันบุกเมืองหลวงเรียบร้อยก็กลับไป ส่วนองครักษ์ของวังหลวงแสร้งไม่รับรู้ว่าสกุลจ้าวมีคนแปลกหน้าเข้าออก พวกเขานำผักมาส่งทุกๆวันแต่ต้าฉินเป็นดินแดนแห่งการเพาะปลูก พื้นที่มิได้หนาวเย็นเช่นแคว้นเหลียง แต่สามคนนี้กลับใบหน้ากร้านลมจนเห็นชัด เหมือนกับคนที่อยู่กับอากาศหนาวมาตลอดชีวิตองครักษ์นายหนึ่งถึงเวลาเปลี่ยนเวรกับคนใหม่ เมื่ออกเวรก็ตรงไปตำหนัก
เสียงของสตรีผู้หนึ่งดังมาจากด้านหลัง จางลี่เฟยและเซียวอี้เซียนกับฉีฮุ่ยหมินหันไปพร้อมกัน สตรีในชุดทหารเดินเข้ามาหร้อมกับเอ่ยกับจางลี่เฟย ด้านหลังนางมีเด็กสาวอีกคนวัยน่าจะสิบเจ็ดสิบแปดเดินตามหลงมา หลานซิ่วเอ๋อร์รีบวิ่งไปเกาะแขนนางทันทีก่อนจะเอ่ย"พี่ใหญ่ท่านมาแล้ว ไหนท่านบอกว่าอีกหลายวันไงเจ้าคะ""ทำไม ไม่อยากให้พี่กลับมาเช่นนั้นหรือ""ไอ้โย่ว เปล่าสักหน่อยข้าคิดท่านมากจริงๆนะเจ้าคะ คิดถึงน่ะ คิดถึง ชายแดนมีอะไรน่าอยู่กัน ท่านชอบตัดหัวศัตรูมากกว่าคิดถึงน้องสาวอย่างข้าหรือ แม่ทัพฮวน สามปีมานี่ข้าคิดถึงท่านแทบบ้า"หลานซิ่วเอ๋อร์อ้อนพี่สาวทันที หลานฮวนลูบศีรษะหลานซิ่วเอ๋อร์ด้วยกิริยาอ่อนโยน บรรยากาศอบอุ่น จากนั้นก็หันไปหาเซียวอี้เซียนและฉีฮุ่ยหมิ่นก่อนจะคำนับ"หม่อมฉันหลานฮวนถวายพระพรไท่จื่อเฟย ถวายพระพรพระยาชาเซียวเพคะ""คุณหนูใหญ่ ไม่เจอท่านสามปีดูงามสง่าขึ้นมากนัก ว่าแต่ท่านเอ่อ..."ฉีฮุ่ยหมิ่นเอ่ยกับหลานฮวน ส่วนเซียวอี้เซียนนอกจากวิ่งตามจ้าวเฉิงก็มิได้รู้จักคุณหนูจวนอื่นแต่อย่างใดจึงพยักหน้ารับเท่านั้น หลานฮวนหันไปหาน้องสาวก่อนจะเอ่ย"ไม่เจอสามปี ซิ่วเอ๋อร์ข
เซียวอี้เซียนยามนี้ยืนสงบนิ่งอยู่ ด้านหน้าเป็นเนินดินที่นางนำเสื้อผ้าของเวียวอร้เซียนคนเดิมมาฝังเอาไว้ ป้ายหลุมศพแกะสลักจากหินอ่อน เขียนว่า สถานที่พักผ่อนของเซียวอี้เซียนผู้เป็นที่รัก มารดาและท่านย่าของนางกลับไปแล้วหลังจากเซ่นไหว้เรียบร้อย เซียวอี้เซียยืนสงบนิ่ง นางปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วดูเหมือนเซียวอี้เซียนคนนั้นคงยอมจากไปแล้ว เสี่ยวฮวามองไปยังร่างบางก็อดสงสัยไม่ได้ พระชายานึกอย่างไรจึงสร้างหลุมศพตนเอง ฉีฮุ่ยหมิ่นเดินมาแตะไหล่บางก่อนจะเอ่ย"เซี่ยนเซี่ยน สบายใจหรือยัง""เพคะหม่อมฉันรู้สึกดีเหมือนได้เกิดใหม่จริงๆ ว่าแต่พี่ฮุ่ยหมิ่นได้ยินว่าคนๆนั้นบาดเจ็บไม่น้อย"ฉีฮุ่ยหมิ่นถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า คนๆนั้นที่เซียวอี้เซียนกล่าวถึงก็คือคนที่ปลอมเป็นหยางเฟยหยางไปตรวจงานที่เมืองตงซาน เขาถูกลอบสังหารถึงสามครั้ง คนของสกุลหวังคงร้อนใจแล้ว ทั้งสี่คนเดินมาจนถึงด้านหลังของอารามก็พบกับคนๆหนึ่ง เซี่ยวอี้เซียนไม่อยากเสียเวลาจึงพากันเดินหนี เสี่ยวฮวากับซีซีเองก็เดินตามเจ้านายของตน กระทั่งเสียงของสาวใช้คนหนึ่งดังขึ้น"บังอาจ...เห็นพระสนมแล้วเหตุใดไม่เคารพ เด็กๆจับพวก