หลังจากจัดการคนของจ้าวเฉิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เซียนก็เริ่มจัดการคัดกรองคน นางมาอยู่ที่นี่ต้องคัดคนที่ไว้ใจไม่ได้ออกไป ยุคโบราณคนมักหน้าเนื้อใจเสือ แม้ว่ายุคปัจจุบันที่นางจากมาจะมีพวกใส่หน้ากากเข้าหากัน แต่เรื่องวางแผนการกลับไม่อาจล้ำลึกเช่นคนโบราณได้เลย
เมื่อคัดกรองแล้ว ก็ปรากฏว่ามีแม่บ้านที่ไม่อาจไว้ใจได้อีกสองคน เรื่องนี้ดูไม่ยากคนไม่เคยมีพอมีขึ้นมาก็อยากอวด ป้าฝางมีสัญญาขายตัวเดิมทีไม่มีเงินเดือนแต่กลับมีกำไลสวมใส่ วงนั้นน่าจะไม่ต่ำกว่าสามตำลึง สาวใช้เรือนซักล้างยิ่งแล้วใหญ่ งานต่ำสุดที่ไม่มีใครอยากทำกลับมีปิ่นเงินราคาสองตำลึงเช่นกัน ส่วนคนที่เหลือก็ทำงานปกติ นางยังไม่จัดการ รอราชโองการมาถึงก่อนนางจะตัดรากถอนโคนต้นไม้พิษเหล่านี้ให้เกลี้ยง
"ฉลาดเสียด้วยเลือกใช้คนที่ไม่มีใครคาดคิด หึ สกุลจ้าวปัญหาภัยแล้งที่พวกเจ้าแก้ไม่ได้ข้าจะทำให้สกุลจ้าวของพวกเจ้าต้องกลืนเลือดตนเองเชียวล่ะ"
เมื่อวาดแบบกังหันวิดน้ำเรียบร้อยเซียวอี้เซียนก็เข้านอน นางวาดแบบแยกกัน หากไม่ใช่นางต่อให้ใครได้ไปก็ไม่อาจสร้างออกมาได้ ชิ้นส่วนการคำนวณกว้างยาว ความสูงของฐานนางแยกเป็นส่วนๆเอาไว้กันผิดพลาด เด็กน้อยเสี่ยวฮวาหลับไปแล้ว น้ำลายไหลย้อยมุมปากเชียว
เซียวอี้เซียนห่มผ้าให้สาวใช้ตนเอง นางให้เสี่ยวฮวามานอนด้วยข้างล่างของเตียงเอาผ้านวมผืนหนามาปูให้ เสี่ยวฮวาชอบที่สุดที่ได้นอนกับคุณหนู สองนายบ่าวหลับไปแล้ว วันพรุ่งนี้คงมีเรื่องให้ปวดหัวอีกแน่นอน จ้าวอันป๋อเสียหน้าเพียงนั้นไม่มีวันปล่อยนางไปแน่ๆ
ดรุณีน้อยไม่รู้เลยว่าหลังจากนางหลับไปแล้ว ปรากฏร่างสูงของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งมานั่งมองนางอยู่เกือบครึ่งคืน หยางเทียนหลงนั่งมองนางที่กำลังนอนหลับ เขาได้รับข่าวว่าจ้าวอันป๋อคิดทำร้ายนาง จึงให้คนไปดักรอคนของจ้าวอันป๋อเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเองก็มานั่งอยู่ในห้องนี้
เซียวอี้เซียนนอนตัวเกร็งนางมิได้หลับ แม้จะรับรู้ว่าในห้องมีคนแต่นางกลับนอนนิ่ง มีเพียงลมหายใจที่แรงขึ้น หยางเทียนหลงจึงเอ่ยออกมา
"คุณหนูเซียวเจ้าไม่ได้หลับ แปลว่ายาที่ถูกพ่นเอาไว้ทำอันใดเจ้าไม่ได้ ข้าเป็นห่วงเจ้าเสียเที่ยวแล้ว"
เซียวอี้เซียนลุกขึ้นมองหน้าเขา แต่แสงสลัวของดวงจันทร์สว่างไม่พอ นางได้กลิ่นยาสลบแต่แรกแล้วจึงหาทางแก้ อยู่ในโรงพยาบาลมาทั้งชีวิตอยู่กับกลิ่นยาทุกวันนางจึงจมูกไว เซียวอี้เซียนเอ่ยถามคนตรงหน้า
"พี่ชาย..ข้ารู้ว่าท่านมิได้มาร้าย ว่าแต่ท่านมาในห้องข้าได้อย่างไร"
"ข้าได้ข่าวไม่ดีมาว่ามีคนจะมาทำร้ายเจ้า"
"ท่านเป็นผู้ใดกันเจ้าคะ เหตุใดถึงรู้เรื่องนี้"
"ข้าเป็นองครักษ์ ข้าคือคนที่ฝ่าบาทส่งมาคุ้มครองเจ้า คุณหนูเซียวขออย่าได้กังวลใจ"
"อืม..หากท่านอยากทำร้ายข้า ท่านคงลงมือไปแล้ว ว่าแต่เข้าห้องสตรีเกรงว่าจะไม่ควร รบกวนท่านออกไปเถอะ ด้านหลังเรือนข้ามีห้องว่างไปนั่งเฝ้าที่ห้องนั้นเถิด มีหมอนกับผ้าห่มอยู่สำหรับรับแขก แต่จวนเซียวไร้แขกมาเยี่ยมเยือนนานมากแล้ว อาจอับชื้นไปสักหน่อย"
หยางเทียนหลงอมยิ้มในความมืด สตรีตรงหน้าไม่หวาดกลัวเขาทั้งที่เขาเป็นคนแปลกหน้า อีกทั้งนั่งเจรจากับเขาเสียอีก แต่ประโยคต่อมาทำให้เขาถึงกับต้องมองนางใหม่
"องครักษ์ท่านนี้ เราเคยเจอกันมาก่อนข้าจำเสียงท่านได้ เป็นถึงองครักษ์เงินทองคงมีไม่น้อย ปิ่นเล่มนั้นท่านยังค้างข้าอยู่สี่สิบห้าตำลึง บวกดอกเบี้ยอีกห้าตำลึงรบกวนท่านจ่ายข้าด้วย ไม่ทราบท่านแม่ของท่านพอใจของขวัญวันเกิดจากบุตรชายหรือไม่เล่า"
หยางเทียนหลงหันกลับมามองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียง ฉลาดอะไรเยี่ยงนี้กันนะ นางจำกระทั่งเสียงของเขาได้ พระชายาคนนี้อย่างไรเขาก็ต้องแต่ง ยอมให้เป็นของคนอื่นไม่ได้ นางคือของเขาคนเดียวเท่านั้น หยางเทียนหลงปลดถุงเงินออกจากเอวส่งให้นางก่อนจะเอ่ย
"ข้าเพิ่มดอกเบี้ยให้เจ้าอีกเป็นห้าร้อยตำลึง พอใจหรือไม่คุณหนูเซียว"
"ไม่ล่ะ ..ข้าต้องการเท่าที่ข้าควรได้ พี่ชายท่านนี้ท่านไปได้แล้ว หากมีคนมาเห็นท่านเดินออกจากห้องข้าจะไม่ดี ท่านย่าของข้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นางรับอะไรที่รุนแรงสะเทือนจิตใจอีกไม่ไหวแล้ว"
หยางเทียนหลวงรับถุงเงินกลับมาก่อนจะล้วงเอาตั๋วเงินห้าสิบตำลึงส่งให้นาง คนตัวสูงออกไปจากห้องแล้ว เซียวอี้เซียนนอนคิดหาทางทำห้องให้มิดชิดปลอดภัยกว่านี้ เขามาตอนไหนเมื่อไหร่นางไม่รู้เลย คนยุคโบราณนี้เหมือนผีจริงๆเชียว
ยามเหมาเสี่ยวฮวาน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมกับเก็บห่มพับผ้าเรียบร้อย ก็ไปที่ครัวเล็กต้มน้ำให้คุณหนูของตนเอง วันนี้เซียวอี้เซียนใส่ชุดสีชมพูหวาน ชายกระโปรงปักดอกไม้สีขาวเล็กๆรอบชาย ปิ่นแมลงปอตัวน้อยที่เสียบแซมมวยผมที่เกล้าต่ำทำให้นางดูงดงามเย้ายวน ใบหน้าหวานดวงหน้าที่เรียวเล็กดวงตาสุกใสราวผลซิ่งหากประคองด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวก็คงหมด
ยามเฉินสองคนนายบ่าวเดินออกมาจากห้องก่อนจะไปคารวะท่านพ่อและไปหาท่านย่าอีกด้วย เซียวอี้เซียนเจอกับหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานนางคารวะผู้อาวุโสก่อนจะเอ่ยถาม
"ท่านปู่เจ้าคะ อาการท่านย่าเป็นเช่นไรบ้าง ส่วนอาการของท่านพ่อเล่าเจ้าคะ"
"อืม..ย่าเจ้าขอเพียงไม่มีเรื่องสะเทือนใจอีกก็นับว่าดีแล้ว ส่วนบิดาเจ้านั้นขับพิษยาปลุกกำหนัดหมดแล้ว เพียงแต่ยังคงลุกไม่ไหวน่ะ"
"เซี่ยนเซี่ยนขอบพระคุณท่านปู่ซุนมากนะเจ้าคะ หากไม่ได้ท่านข้าอาจเสียคนที่รักไปถึงสองคนเลยทีเดียว"
"เจ้าอย่าเกรงใจเลย หากมิใช่เพราะเจ้าหวังพึ่งคนอื่นมากเกินไปจนเหตุการณ์ล่วงเลยก็ไม่ลำบากเช่นนี้ เซี่ยนเซี่ยน ตาดีใจที่ในที่สุดสายเลือดสกุลเซียวก็คือสายเลือดสกุลเซียว ปู่ของเจ้าเซียวหานจากชาวนาขาเปื้อนโคลน เป็นเด็กฝึกงานอยู่โรงไม้ มเป็นคนงานทำงานให้กรมโยธา จนได้เป็นถึงเจ้ากรมทุกอย่างได้มาด้วยความสามารถมิใช่อาศัยโชคช่วยหรือแรงสนับสนุนจากผู้ใด บิดาเจ้าร่างกายอ่อนแอแต่กลับมีปัญญา สองคนพ่อลูกร่วมใจในต้าฉินใครจะกล้าต่อว่าสกุลเซียวเป็นเพียงสกุลเล็กๆที่ไม่สำคัญอีก จากนี้ไปจงเดินตามรอยปู่เจ้าเถอะ ไม่มีขาคู่ใดเดินได้มั่นคงเท่ากับขาเจ้าเอง"
"เซี่ยนเซี่ยนจะจำไว้เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านตาเจิ้นหนานที่เตือนสติ จากนี้ไป ข้าจะเอาความรู้ที่ท่านปู่เคยสอนมากอบกู้สกุลเซียวให้รุ่งเรือง ทำให้ยืนอยู่แถวหน้าแม้ว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งไม่ได้แต่ก็จะให้อยู่หนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง"
"ดีๆๆ เห็นเจ้ามุ่งมั่นเช่นนี้ข้าที่เป็นสหายของปู่เจ้าก็ดีใจแทนเขา เสี่ยวฮวาเด็กคนนั้นฉลาดรอบรู้ ข้าเอ่ยไม่กี่คำนางก็จำได้ ข้าอายุปูนนี้แล้วหากได้คนมาสืบทอดวิชาแพทย์ก็คงตายตาหลับ"
ท่านตาเจิ้นหนานจะรับเสี่ยวฮวาเป็นลูกศิษย์หรือเจ้าคะ เสี่ยวฮวายังไม่ขอบคุณอีก"
สาวน้อยทำหน้างงเมื่อคุณหนูของตนหันมาบอก แต่ก็กล่าวขอบคุณผู้อาวุโสตรงหน้า ที่ผ่านมาคุณหนูมักสอนนางเขียนหนังสือจนนางอ่านออกเขียนได้ หากได้เรียนวิชาแพทย์ ท่านยายที่ป่วยบ่อยๆก็จะได้ไม่ต้องทรมาน
"เสี่ยวฮวาขอบคุณหมอเทวดาเจ้าค่ะ แต่ว่าแล้วคุณหนูจะทำเช่นไรเจ้าคะ"
"อย่าห่วงข้าเลย เจ้าไปเรียนกับท่านตาพอเรียนจบก็มาเป็นหมอประจำจวนให้ข้าไง"
ห้าปีผ่านไปเซียวอี้เซียนมาอยู่ที่ต้าฉินได้เจ็ดปีแล้ว ยามนี้นางมีบุตรชายสี่คนบุตรสาวสามคน เด็กทั้งเจ็ดคนล้วนเป็นเด็กเฉลียวฉลาด นางคลอดทุกครั้งได้ลูกแฝดทั้งสองครั้ง คุณตาบอกว่าเดิมทีคุณตามีคู่แฝด แต่เนื่องจากป่วยด้วยโรคเดียวกันกับเซียวอี้เซียนจึงจากไปก่อนวัย นางจึงไม่เคยเห็นหน้าเขา แต่หยางหมิงเฉิงบุตรชายคนรองมีส่วนคล้ายคุณตาเล็กเมื่อชาติที่แล้วมากนักคุณตาของนางบอกมาฮ่องเต้ประกาศราชโองการอีกห้าปีจะสละราชสมบัติให้รัชทายาทขึ้นครองราชย์ ต้าฉีเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ แคว้นรอบๆ กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง ไร้สงคราม ราษฎรล้วนมีแต่ความสุข พระราชามีความสามารถ ขุนนางซื่อสัตย์รักแผ่นดินรัชทายาททรงมีโอรสสามพระธิดาสอง ลู่เสวียนมีบุตรชายสองบุตรสาวสาม จินฝานมีบุตรชายสามคนบุตรสาวสองคน หลิวหย่งมีบุตรชายสามคนไม่มีบุตรสาว ซึ่งเขาเสียดายยิ่งนัก วันนี้ทุกคนมารวมกันที่ตำหนักหย่งฉือเพื่อช่วยกันทำขนมไหว้พระจันทร์ ค่ำคืนนี้จะไหว้พระจันทร์ที่ตำหนักหย่งฉือ ทุกคนผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมายย่อมผู้พันกันเป็นธรรมดา หยางเทียนหลงนั่งคุยกับสหายทุกคน"เขื่อนห้าแห่งสร้างเสร็จแล้ว เรือกลไฟพร้อมติดปืนใหญ่จำนวนยี่สิบลำก็สร้างเส
หยางเทียนหลงทำครัวที่ครัวเล็กที่ตำหนักตนเอง ไม่นานอาหารหลานอย่างก็พร้อมสำหรับเขากับนาง ใบหน้าเปื้อนเขม่าเตาไฟทำเอาเซียวอี้เซียนยิ้มน้อยๆก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้เขา จากนั้นก็คีบอาหารป้อนสามี เด็กทั้งสามยังคงหลับเพราะเพิ่งดื่มนมไปก่อนหน้า เมื่อเรียบร้อยสาวใช้ก้มาเก็บโต๊ะ หยางเทียนหลงนั่งพิงหัวเตียงเซียวอี้เซียนนั่งพิงอกแกร่งของเขา มือหนากอดเอวนางเอาไว้ หยางเทียนหลงปรึกษากับนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"อีกสิบวันก็ครบเดือนพี่จะจัดงานให้ลูกของเรา แต่ว่าน้องๆเจ้าก็ครบเดือนเช่นกัน เจ้าว่าพวกเราจัดพร้อมกันเลยดีไหม""ขุนนางจะอึดอัดเอานะเพคะ พวกเขาต้องไปทั้งสองที่ในวันเดียวกัน ให้ท่านแม่กับท่านพ่อจัดก่อน อีกสักครึ่งเดือนเราค่อยหาฤกษ์มงคลจัดดีไหมเพคะ แต่ว่าตอนที่คลอดของขวัญมากมายนัก ตอนงานครบเดือนไม่รับของขวัญนะเพคะ ราษฎรยังคงอดอยากบางพื้นที่ เงินทองที่เอามาซื้อของขวัญเอาใจพวกเราบางทีอาจรีดไถภาษีมาจากชาวบ้านก็ได้ แม้จะกวาดล้างขุนนางไม่ซื่อไปไม่น้อย แต่ก็มิได้หมายความว่าจะไม่มีขึ้นมาอีก และเพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นเอาความสนิทสนมมาอ้างภายหลังเพคะ""เมียพี่ฉลาดยิ่งนัก ว่าแต่ก่อนไปพี่จำได้ว่าเจ้าบอกว่ากล
หลังจากที่เซียวอี้เซียนคลอดบุตรฝาแฝดนางจำได้ว่าเซียวอี้เซียนคนเดิมมาเกิดเป็นบุตรสาวของนาง หลังจากสามวันนางก็ลืมเลือนเรื่องนี้ไปง่ายดายราวกับว่าก่อนหน้าไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งจวนเซียวและตำหนักหย่งฉือต่างก็มีแม่นมเพิ่มมาไม่น้อยเพื่อให้เพียงพอต่อการเลี้ยงดูทารกวันนี้ต้องขึ้นสำรวจแล้ว เพราะเลื่อนมาจากเดิมสี่วันแล้ว ฮ่องเต้เสด็จมาที่ตำหนักเพื่อเยี่ยมหลานสะใภ้ ยังมีไทเฮาเสด็จตามมาด้วย หยางเทียนหลงออกมารับเสด็จทั้งสองพระองค์ ฮ่องเต้ดำเนินเข้าไปเยี่ยม แม้ว่าห้องอยู่เดือนสตรีจะไม่สมควรแต่นางคือสตรีที่คุณต่อแผ่นดิน หลายๆอย่างที่ทำให้ราษฎรต้าฉินมีกินมีใช้ก็เป็นนางที่ทำให้กำเนิดขึ้นมาฮ่องเต้หยิบหยกที่รับสั่งให้ช่างหลวงแกะสลักเป็นพิเศษ หยกเป็นสีสองสีด้านในแกะสลักรูปมังกรเล็กแปดตัวอยู่ภายใต้มังกรตัวใหญ่ ว่ากันว่าหยกพิเศษนี้แม้แต่องค์ชายหรือองค์หญิงยังไม่อาจได้รับ มีเพียงรัชทายาทหยางเฟยหยางและพระโอรสองค์โตของรัชทายาทหยางเต๋ดูแลมิง และองค์ชายแปดเห็นยางก็อหยวนเท่านั้น"ตั้งชื่อหรือยังเล่าหลงเอ๋อร์""หลานรอเสด็จลุงพระราชทานให้พ่ะย่ะค่ะ""คนโตชื่อหยางหมิงเจี๋ยที่แปลว่าผู้ฉลาดและโดดเด่น คนรองชื่อหยางหมิงเฉ
ร่างสูงไปแล้ว เฉียวมู่หลานอุ้มเวินสือห่าวไปนั่งเล่นหน้าเรือนเผื่อทั้งสองพระองค์มีรับสั่งใช้งาน ส่วนหยางเทียนหลงเมื่อมาถึงก็เปิดประตูอย่างเบามือ ร่างอุ้ยอ้ายนอนหลับลมหายใจสม่ำเสมอ แต่บางครั้งก็เหมือนจะนิ่วหน้า ร่างสูงรีบเดินไปดู เขาสังเกตเห็นนางกำมือจิกผ้าห่มแน่น ส่งเสียงครางเบาๆ"อื้อ อ๊า"เหงื่อเม็ดโตไหลออกทั่วใบหน้า หยางเทียนหลงปลุกนางเบาๆ"เซี่ยนเซี่ยน...เป็นอะไรไปฝันร้ายหรือ ตื่นเถอะพี่อยู่นี่"เซียวอี้เซียนลืมตาก่อนจะเอ่ยเสียงแหบพร่า"พี่เทียนหลง...หม่อมฉัน จะ เจ็บท้อง อ๊าาา มะ ไม่ไหว"หยางเทียนหลงเอาผ้าห่มออกก่อนจะเห็นเตียงเปียกชุ่ม เซียวอี้เซียนมองหน้าเขาก่อนจะเอ่ย"น้ำคร่ำแตกแล้ว เรียกหมอตำแยเถอะเพคะ อื้อ จะ เจ็บจัง""ได้ๆๆ เด็กดีอดทนหน่อยนะ มู่หลานเรียกหมอตำแยมา พระชายาจะคลอดแล้ว""เพคะ หม่อมฉันจะรีบไป อาห่าวอยู่ตรงนี้อย่าไปไหน ข้าจะไปตามท่านหมอมาดูพระชายา""ขอรับท่านแม่""เด็กดี"เฉียวมู่หลานรีบไปตามหมอตำแย ไม่นานหมอตำแยก็ไปรวมกันที่เรือนท่านอ๋อง ตอนนี้พระชายาหลินที่ไปเข้าเฝ้าไทเฮามารถม้าเพิ่งมาถึงจวนรู้ข่าวก็รีบไปที่ตำหนักเล็กของบุตรชายทันที เสียงดังมาจากด้านใน นางเห็นหวงซื
หลังจากสถาปนามู่กุ้ยเฟยเป็นฮองเฮาเรียบร้อยสามวันต่อมาก็ได้เวลาปล่อยบอลลูยขึ้นฟ้าเพื่อสำรวจต้าฉิน หยางเทียนหลง รัชทายาท เซียวหาน เซียวหง และหวงเหวินเทียนต่างก็ขึ้นไปด้วยกันแต่อยู่คนละกระเช้า ทางด้านฮ่องเต้ทรงขึ้นกระเช้าเดียวกับหลานชาย เนื่องจากหากผิดพลาดหยางเทียนหลงถือว่ามีฝีมือดีที่สุดชายป่าตะวันตกของเมืองหลวง สถานที่สร้างบอลลูนวันนี้ทุกคนมารวมตัวกันเพียบพร้อม ค่ำนี้จะปล่อยบอลลูนขึ้น ทางด้านสามีทั้งหลายจะกลับไปหาฮูหยินของตนก่อน เพราะว่าอาจจะใช้เวลาบนนั้นประมาณครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย หากบินแล้วไร้อุปสรรค ก็จะเริ่มสำรวจแคว้นอื่นๆเช่นกัน เพื่อร่างแผนที่ให้ได้เปรียบทางสมรภูมิในอนาคต หากเกิดศึกสงครามอีกย่อมเฝ้าระวังแผ่นดินต้าฉินได้ดีกว่าเดิมทั้งหมดกลับจวนตนเอง รอยามโหย่วจะออกเดินทางพร้อมกับฮ่องเต้ หยางเทียนหลงแวะส่งพ่อตาและท่านปู่ของเซียวอี้เซียนเรียบร้อยก็รีบกลับตำหนักหย่งฉือ เหมือนเมื่อเช้านางจะลุกไม่ไหว เขาไม่อยากไปยามนี้เลยแต่กำหนดการมาแล้ว อีกอย่างนางเพิ่งแปดเดือนครึ่งยังไม่น่าคลอดในช่วงเวลานี้ แต่มารดานางกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อหยางเทียนหลงมาส่งพ่อตาและท่านพ่อของเขาปรากฏว่าในจวนสา
เฉียวมู่หลานรอคนของหาไห่เหลานำวัตถุดิบมาส่ง ใครจะรู้ว่าท่านย่าของนางกับบิดาจะพาชาวบ้านมามากมาย พวกเขาตรงมาฉุดกระชากนางเพื่อบังคับนางให้กลับไปแต่งงาน เฉียวมู่หลานขัดขืน คนเฝ้าประตูเข้าห้ามแต่พวกเขากลับรุมทำร้าย องครักษ์ของจวนจึงมาขัดขวาง"พวกเจ้าเห็นจวนอ๋องเป็นสถานที่จะมาก่อเรื่องได้เช่นนั้นหรือ""พวกเรามิได้มาก่อเรื่องท่านทหาร แต่ข้ามาตามหลานสาวไปแต่งงาน นางอายุยี่สิบห้าแล้วยังไม่ออกเรือนจะทำให้บานเฉียวเราลำบากไปด้วย""ท่านย่า ท่านขายข้าให้หวังต้าซานสิบตำลึงมิใช่ข้าไม่รู้ ข้าไม่แต่งปล่อยข้านะ ท่านพ่อท่านยังเป็นคนหรือไม่ถึงขายลูกสาวตนเอง โอ๊ย"เพี๊ยะ!! เฉียวมู่หลานถูกบิดาตบ หน้าก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างไร้เยื่อไย"เดิมก็เป็นแค่ของไร้ค่า จะมาโวยวายทำไมกลับบ้านนางตัวดี""หยุดมือ..ที่นี่จวนอ๋องกลับไปให้หมด"องครักษ์ตวาดแต่คนสกุลเฉียวไม่ยอม เฉียวมู่หลานจึงควักสัญญาขายตัวออกมาแล้วเอ่ยตอบกลับไป"ข้าขายตนเองแล้ว หากอยากแต่งข้าก็ให้หวังต้าซานเอาเงินมาไถ่ตัวข้าสามสิบตำลึง"แม่เฒ่าเฉียวถึงกับหน้าแดงเพราะความโมโห ก่อนจะพุ่งเข้ามาใช้ไม้เท้าฟาดที่หลานสาว ปึก!! ปึก!! ปึก!! เฉียวมู่หลานหลับตายอมรับไม้เท้