หลังจากจัดการคนของจ้าวเฉิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เซียนก็เริ่มจัดการคัดกรองคน นางมาอยู่ที่นี่ต้องคัดคนที่ไว้ใจไม่ได้ออกไป ยุคโบราณคนมักหน้าเนื้อใจเสือ แม้ว่ายุคปัจจุบันที่นางจากมาจะมีพวกใส่หน้ากากเข้าหากัน แต่เรื่องวางแผนการกลับไม่อาจล้ำลึกเช่นคนโบราณได้เลย
เมื่อคัดกรองแล้ว ก็ปรากฏว่ามีแม่บ้านที่ไม่อาจไว้ใจได้อีกสองคน เรื่องนี้ดูไม่ยากคนไม่เคยมีพอมีขึ้นมาก็อยากอวด ป้าฝางมีสัญญาขายตัวเดิมทีไม่มีเงินเดือนแต่กลับมีกำไลสวมใส่ วงนั้นน่าจะไม่ต่ำกว่าสามตำลึง สาวใช้เรือนซักล้างยิ่งแล้วใหญ่ งานต่ำสุดที่ไม่มีใครอยากทำกลับมีปิ่นเงินราคาสองตำลึงเช่นกัน ส่วนคนที่เหลือก็ทำงานปกติ นางยังไม่จัดการ รอราชโองการมาถึงก่อนนางจะตัดรากถอนโคนต้นไม้พิษเหล่านี้ให้เกลี้ยง
"ฉลาดเสียด้วยเลือกใช้คนที่ไม่มีใครคาดคิด หึ สกุลจ้าวปัญหาภัยแล้งที่พวกเจ้าแก้ไม่ได้ข้าจะทำให้สกุลจ้าวของพวกเจ้าต้องกลืนเลือดตนเองเชียวล่ะ"
เมื่อวาดแบบกังหันวิดน้ำเรียบร้อยเซียวอี้เซียนก็เข้านอน นางวาดแบบแยกกัน หากไม่ใช่นางต่อให้ใครได้ไปก็ไม่อาจสร้างออกมาได้ ชิ้นส่วนการคำนวณกว้างยาว ความสูงของฐานนางแยกเป็นส่วนๆเอาไว้กันผิดพลาด เด็กน้อยเสี่ยวฮวาหลับไปแล้ว น้ำลายไหลย้อยมุมปากเชียว
เซียวอี้เซียนห่มผ้าให้สาวใช้ตนเอง นางให้เสี่ยวฮวามานอนด้วยข้างล่างของเตียงเอาผ้านวมผืนหนามาปูให้ เสี่ยวฮวาชอบที่สุดที่ได้นอนกับคุณหนู สองนายบ่าวหลับไปแล้ว วันพรุ่งนี้คงมีเรื่องให้ปวดหัวอีกแน่นอน จ้าวอันป๋อเสียหน้าเพียงนั้นไม่มีวันปล่อยนางไปแน่ๆ
ดรุณีน้อยไม่รู้เลยว่าหลังจากนางหลับไปแล้ว ปรากฏร่างสูงของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งมานั่งมองนางอยู่เกือบครึ่งคืน หยางเทียนหลงนั่งมองนางที่กำลังนอนหลับ เขาได้รับข่าวว่าจ้าวอันป๋อคิดทำร้ายนาง จึงให้คนไปดักรอคนของจ้าวอันป๋อเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเองก็มานั่งอยู่ในห้องนี้
เซียวอี้เซียนนอนตัวเกร็งนางมิได้หลับ แม้จะรับรู้ว่าในห้องมีคนแต่นางกลับนอนนิ่ง มีเพียงลมหายใจที่แรงขึ้น หยางเทียนหลงจึงเอ่ยออกมา
"คุณหนูเซียวเจ้าไม่ได้หลับ แปลว่ายาที่ถูกพ่นเอาไว้ทำอันใดเจ้าไม่ได้ ข้าเป็นห่วงเจ้าเสียเที่ยวแล้ว"
เซียวอี้เซียนลุกขึ้นมองหน้าเขา แต่แสงสลัวของดวงจันทร์สว่างไม่พอ นางได้กลิ่นยาสลบแต่แรกแล้วจึงหาทางแก้ อยู่ในโรงพยาบาลมาทั้งชีวิตอยู่กับกลิ่นยาทุกวันนางจึงจมูกไว เซียวอี้เซียนเอ่ยถามคนตรงหน้า
"พี่ชาย..ข้ารู้ว่าท่านมิได้มาร้าย ว่าแต่ท่านมาในห้องข้าได้อย่างไร"
"ข้าได้ข่าวไม่ดีมาว่ามีคนจะมาทำร้ายเจ้า"
"ท่านเป็นผู้ใดกันเจ้าคะ เหตุใดถึงรู้เรื่องนี้"
"ข้าเป็นองครักษ์ ข้าคือคนที่ฝ่าบาทส่งมาคุ้มครองเจ้า คุณหนูเซียวขออย่าได้กังวลใจ"
"อืม..หากท่านอยากทำร้ายข้า ท่านคงลงมือไปแล้ว ว่าแต่เข้าห้องสตรีเกรงว่าจะไม่ควร รบกวนท่านออกไปเถอะ ด้านหลังเรือนข้ามีห้องว่างไปนั่งเฝ้าที่ห้องนั้นเถิด มีหมอนกับผ้าห่มอยู่สำหรับรับแขก แต่จวนเซียวไร้แขกมาเยี่ยมเยือนนานมากแล้ว อาจอับชื้นไปสักหน่อย"
หยางเทียนหลงอมยิ้มในความมืด สตรีตรงหน้าไม่หวาดกลัวเขาทั้งที่เขาเป็นคนแปลกหน้า อีกทั้งนั่งเจรจากับเขาเสียอีก แต่ประโยคต่อมาทำให้เขาถึงกับต้องมองนางใหม่
"องครักษ์ท่านนี้ เราเคยเจอกันมาก่อนข้าจำเสียงท่านได้ เป็นถึงองครักษ์เงินทองคงมีไม่น้อย ปิ่นเล่มนั้นท่านยังค้างข้าอยู่สี่สิบห้าตำลึง บวกดอกเบี้ยอีกห้าตำลึงรบกวนท่านจ่ายข้าด้วย ไม่ทราบท่านแม่ของท่านพอใจของขวัญวันเกิดจากบุตรชายหรือไม่เล่า"
หยางเทียนหลงหันกลับมามองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียง ฉลาดอะไรเยี่ยงนี้กันนะ นางจำกระทั่งเสียงของเขาได้ พระชายาคนนี้อย่างไรเขาก็ต้องแต่ง ยอมให้เป็นของคนอื่นไม่ได้ นางคือของเขาคนเดียวเท่านั้น หยางเทียนหลงปลดถุงเงินออกจากเอวส่งให้นางก่อนจะเอ่ย
"ข้าเพิ่มดอกเบี้ยให้เจ้าอีกเป็นห้าร้อยตำลึง พอใจหรือไม่คุณหนูเซียว"
"ไม่ล่ะ ..ข้าต้องการเท่าที่ข้าควรได้ พี่ชายท่านนี้ท่านไปได้แล้ว หากมีคนมาเห็นท่านเดินออกจากห้องข้าจะไม่ดี ท่านย่าของข้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นางรับอะไรที่รุนแรงสะเทือนจิตใจอีกไม่ไหวแล้ว"
หยางเทียนหลวงรับถุงเงินกลับมาก่อนจะล้วงเอาตั๋วเงินห้าสิบตำลึงส่งให้นาง คนตัวสูงออกไปจากห้องแล้ว เซียวอี้เซียนนอนคิดหาทางทำห้องให้มิดชิดปลอดภัยกว่านี้ เขามาตอนไหนเมื่อไหร่นางไม่รู้เลย คนยุคโบราณนี้เหมือนผีจริงๆเชียว
ยามเหมาเสี่ยวฮวาน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมกับเก็บห่มพับผ้าเรียบร้อย ก็ไปที่ครัวเล็กต้มน้ำให้คุณหนูของตนเอง วันนี้เซียวอี้เซียนใส่ชุดสีชมพูหวาน ชายกระโปรงปักดอกไม้สีขาวเล็กๆรอบชาย ปิ่นแมลงปอตัวน้อยที่เสียบแซมมวยผมที่เกล้าต่ำทำให้นางดูงดงามเย้ายวน ใบหน้าหวานดวงหน้าที่เรียวเล็กดวงตาสุกใสราวผลซิ่งหากประคองด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวก็คงหมด
ยามเฉินสองคนนายบ่าวเดินออกมาจากห้องก่อนจะไปคารวะท่านพ่อและไปหาท่านย่าอีกด้วย เซียวอี้เซียนเจอกับหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานนางคารวะผู้อาวุโสก่อนจะเอ่ยถาม
"ท่านปู่เจ้าคะ อาการท่านย่าเป็นเช่นไรบ้าง ส่วนอาการของท่านพ่อเล่าเจ้าคะ"
"อืม..ย่าเจ้าขอเพียงไม่มีเรื่องสะเทือนใจอีกก็นับว่าดีแล้ว ส่วนบิดาเจ้านั้นขับพิษยาปลุกกำหนัดหมดแล้ว เพียงแต่ยังคงลุกไม่ไหวน่ะ"
"เซี่ยนเซี่ยนขอบพระคุณท่านปู่ซุนมากนะเจ้าคะ หากไม่ได้ท่านข้าอาจเสียคนที่รักไปถึงสองคนเลยทีเดียว"
"เจ้าอย่าเกรงใจเลย หากมิใช่เพราะเจ้าหวังพึ่งคนอื่นมากเกินไปจนเหตุการณ์ล่วงเลยก็ไม่ลำบากเช่นนี้ เซี่ยนเซี่ยน ตาดีใจที่ในที่สุดสายเลือดสกุลเซียวก็คือสายเลือดสกุลเซียว ปู่ของเจ้าเซียวหานจากชาวนาขาเปื้อนโคลน เป็นเด็กฝึกงานอยู่โรงไม้ มเป็นคนงานทำงานให้กรมโยธา จนได้เป็นถึงเจ้ากรมทุกอย่างได้มาด้วยความสามารถมิใช่อาศัยโชคช่วยหรือแรงสนับสนุนจากผู้ใด บิดาเจ้าร่างกายอ่อนแอแต่กลับมีปัญญา สองคนพ่อลูกร่วมใจในต้าฉินใครจะกล้าต่อว่าสกุลเซียวเป็นเพียงสกุลเล็กๆที่ไม่สำคัญอีก จากนี้ไปจงเดินตามรอยปู่เจ้าเถอะ ไม่มีขาคู่ใดเดินได้มั่นคงเท่ากับขาเจ้าเอง"
"เซี่ยนเซี่ยนจะจำไว้เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านตาเจิ้นหนานที่เตือนสติ จากนี้ไป ข้าจะเอาความรู้ที่ท่านปู่เคยสอนมากอบกู้สกุลเซียวให้รุ่งเรือง ทำให้ยืนอยู่แถวหน้าแม้ว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งไม่ได้แต่ก็จะให้อยู่หนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง"
"ดีๆๆ เห็นเจ้ามุ่งมั่นเช่นนี้ข้าที่เป็นสหายของปู่เจ้าก็ดีใจแทนเขา เสี่ยวฮวาเด็กคนนั้นฉลาดรอบรู้ ข้าเอ่ยไม่กี่คำนางก็จำได้ ข้าอายุปูนนี้แล้วหากได้คนมาสืบทอดวิชาแพทย์ก็คงตายตาหลับ"
ท่านตาเจิ้นหนานจะรับเสี่ยวฮวาเป็นลูกศิษย์หรือเจ้าคะ เสี่ยวฮวายังไม่ขอบคุณอีก"
สาวน้อยทำหน้างงเมื่อคุณหนูของตนหันมาบอก แต่ก็กล่าวขอบคุณผู้อาวุโสตรงหน้า ที่ผ่านมาคุณหนูมักสอนนางเขียนหนังสือจนนางอ่านออกเขียนได้ หากได้เรียนวิชาแพทย์ ท่านยายที่ป่วยบ่อยๆก็จะได้ไม่ต้องทรมาน
"เสี่ยวฮวาขอบคุณหมอเทวดาเจ้าค่ะ แต่ว่าแล้วคุณหนูจะทำเช่นไรเจ้าคะ"
"อย่าห่วงข้าเลย เจ้าไปเรียนกับท่านตาพอเรียนจบก็มาเป็นหมอประจำจวนให้ข้าไง"
ยามเฉินรถม้าเตรียมพร้อมแล้ว นักโทษกบฏและนักฆ่าของแคว้นเหลียงถูกตัดสินโทษให้ตัดศีรษะก่อนจะขุดหลุมขนาดใหญ่เพื่อจุดไฟเผาร่างและกลบฝัง ลู่เสวียนมีหน้าที่ดูแลการลงโทษครั้งนี้เมื่อรถม้าพร้อมก็ถึงเวลาเอาองค์ชายใหญ่ที่สวมชุดนักโทษของราชสำนักใส่ในกรงไม้ก่อนจะยกขึ้นเกวียน ฮ่องเต้เสด็จขึ้นบนรถม้า อย่างไรก็เป็นบุตรจะฆ่าทิ้งคงทำใจไม่ได้ กองทัพกิเลนของหยางเทียนหลงควบคุมตัวของเขากว่าสามร้อยคนยังมีกองทัพมังกรของฮ่องเต้อีกสามร้อยคน หย่งอันโหวจะมาพบกับฮ่องเต้และหนิงอ๋องที่ระหว่างทางคนของสกุลจ้าวและสกุลหวังที่อายุต่ำกว่าสิบปีถูกเนรเทศไปชายแดนเหนือ ซึ่งเป็นดินแดนรกร้างกันดาร คนที่อายุมากกว่าถูกใช้ให้ไปทำงานในเหมืองเหล็กทางด้านดินแดนใต้ เหมืองที่ไร้ทางออก มีไว้สำหรับนักโทษอุกฉกรรจ์ ส่วนผู้นำตระกูลถูกคุมตัวไว้รอฝ่าบาทตัดสินโทษที่เมืองหลวง หยางต่งนั่งสงบนิ่งเขาไม่เคยเป็นลูกรัก แต่ไหนแต่ไรทรงมีแต่หยางเฟยหยาง เพราะเสด็จพ่อทรงรักเซียวฮองเฮายิ่งนัก กระทั่งนางจากไปก็ไม่ยอมให้ผู้ใดมาแทนที่ของนาง"เสด็จพ่อ..ทรงประหารลูกเถอะพ่ะย่ะค่ะ"หยางเทียนฮั่วหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงของบุตรชายร้องขอความตาย เขาถอนหายใจก่อนจะเ
หยางต่งหันกลับมาก่อนจะทรุดลงทันที เบื้องหน้ามีหยางเทียนหลง ลู่เสวียนและพระบิดาหรือ ทรงประชวรมิใช่หรอื แล้วมาที่กันดารแห่งนี้ไๆด้อย่างไร"สะ สะ เสด็จพ่อ ล่ะ ลูกไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อทรงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร""มาได้อย่างไรหรือ คงต้องขอบใจท่านตาของเจ้า เพียรพยายามมาหลายปีดึงขุนนางละโมบมาเป็นพวกมากมาย ทำให้ข้าได้ตัดรากถอนโถนครั้งใหญ่ หลงเอ๋อร์ข้ายกไอ้คนเนรคุณนี้ยกให้เจ้าจัดการ""กระหม่อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ"หยางเทียนหลงเดินไปหาองค์ชายใหญ่ก่อนจะยิ้มให้เขาแล้วเอ่ยออกมา"เจ้าเดิมทีควรสุขสบาย รัชทายาทไม่เคยคิดแค้นในใจ ปกติรักพี่น้อง หากไม่ใช่เจ้าเชื่อฟังมารดาจอมทะเยอทะยาน และท่านตามักใหญ่ใฝ่สูงของเจ้า เพื่ออยากเป็นใหญ่ในใต้หล้าคงไม่ก่อเรื่องเลวร้ายเช่นนี้หรอกนะหยางต่ง""ฮึ ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ ทั้งหมดเป็นเจ้าที่วางกับดักข้า หยางเทียนหลงเจ้าฉลาดแล้วอย่างไร เจ้ามัวแต่มาเล่นแมวจับหนูกับข้า ป่านนี้พระชายาแสนดีของเจ้าคงกลายเป็นผีเฝ้าอารามเรียบร้อยแล้ว ข้าส่งคนไปให้เล่นสนุกกับนาง เจ้าว่ายามที่มีคนอยู่บนร่างอรชรนั่น และกลางหว่างขามีคนกำลังชำเรานางนั้นนางจะเสียวซ่านจนร้องขอบุรุษ
เสียงโต้เถียงในตลาดดึงดูดผู้คนมากมายมาตรงที่พวกเขายืนอยู่ เมื่อร่างสูงของหยางเทียนตี้ก้าวลงมา ตามด้วยร่างของชายชราอีกสองคนก็ทำเอาชาวบ้านตาค้าง ก่อนจะมีคนอนึ่งเอ่ยออกไป"ตะ ตะ ใต้เท้าเซียวหาน ใต้เท้ายังไม่ตาย พวกเราใต้เท้ายังไม่ตาย"เฮๆๆๆๆ เสียงชาวบ้านโห่ร้องด้วยความยินดี ใครบ้างไม่รู้ว่าใต้เท้าเซียวนั้นเป็นคนดีเพียงใด หากบ้านใครถูกภัยพิบัติ พายุถล่มก็จะส่งช่างหลวงมาดูแลทันที หยางเทียนตี้เดินมาด้านหน้าตบไหล่บุตรชายเบาๆ"หย่งเอ๋อร์ เจ้าควรมีมารยาท อย่างไรก็เป็นผู้อาวุโส แม้จะไม่น่าเคารพเท่าไหร่ แต่เพราะเกิดก่อนและอยูมานานควรให้ความสำคัญบ้าง ท่านว่าไหมท่านเสนาซ้าย"จ้าวอันป๋อยังตะลึงอยู่ เซียวหานรอดตายไม่พอ คนที่ยืนข้างๆคือหมอเทวซุนเหอหนาน ได้ยินว่าจวนเซียวมีหมอแซ่ซุนหนึ่งคนแต่เพราะเขาคนนั้นชื่อซุนเจิ้นหนาน จ้าวอันป๋อเลยไม่สนใจ ดูท่าคนที่สามารถชุบชีวิตเซียวหานให้ฟื้นได้คงมีแค่หัตถ์เทวะซุนเหอหนานแล้วยิ่งไปกว่านั้น รถม้าที่เพิ่งเข้ามาเปิดม่านออกก่อนจะมีเสียงดังตามมา"ถวายพระพรเสด็จอา""ฮุ่ยหมิ่นถวายพระพรท่านชินอ๋องเพคะ""รัชทายาท ท่านรีบกลับเถอะชายาของท่านได้ยินว่านางแพ้ท้อง ยามนี้ไทเฮาร้
ด้านเมืองหลวงยามนี้เกิดกระแสข่าวว่าเมืองหลวงกำลังจะจมน้ำ ชาวบ้านต่างแตกตื่น จ้าวอันและจ้าวอันป๋ยังคงให้คนปล่อยข่าวต่อเนื่อง ทางด้านขอทานในเมืองก็ประโคมข่าวว่าเขื่อนกั้นน้ำกำลังก่อสร้าง สามารถรับน้ำได้มากและยังช่วยให้ราษฎรมีนำทำการเกษตรอีกด้วยจ้าวเฉิงที่ออกจากบ้านมาได้หลายวันแล้วเมื่อมาถึงตลาดผู้คนก็ซุบซิบกัน บางคนเอ่ยถึงเรื่องสถานการณ์น้ำ บางคนกำลังวิจารณ์คุณชายสกุลจ้าว จ้าวเฉิงได้ยินขอทานน้อยเอ่ยก็เงี่ยหูฟัง"นี่ท่ายาย ท่านป้าทุกท่าน ข้ารู้มาว่าราชสำนักกำลังสร้างเขื่อนเหนือเมืองหลวงไปสามร้อยลี้ ตอนนี้กำลังสร้างขอรับ""สร้างเขื่อนคืออะไรหรือเจ้าขอทานน้อย"เด็กที่โตที่สุดเดินมาข้างหน้าก่อนจะยื่นชามบิ่นไปด้านหน้าให้กับหญิงวัยกลางคนก่อนจะเอ่ย"พี่สาวท่านนี้...ข้าไม่ขอมากแค่ค่าน้ำชาค่าแป้งแผ่นก็พอขอรับ แล้วข้าจะบอกสิ่งที่ข้ารู้มาทุกอย่าง""ไอ้หยา...เจ้าขอทานตัวน้อยนี่ช่างรู้ความ ข้าไม่ได้เห็นแก่ที่เจ้ายกยอข้าหรอกนะ เอาไปๆสิบอีแปะข้าให้เจ้า มาๆเล่ามา""พี่สาวท่านนี้อย่าใจร้อนสิขอรับ ท่านต้องให้โอกาสพี่สาวพี่ชายท่านอื่นด้วย มีใครจะให้เพิ่มไหมขอรับ พี่น้องของข้ามากนัก ยังมีอีกหลายคนที่พ่อแม
ทั้งสองคนทูลลากลับไปแล้ว เซียวอี้เซียนเองก็รีบเข้าห้อง นางล้มตัวนอนก่อนจะคิดถึงคำพูดของท่านปู่ซุนก่อนออกเดินทางมาอารามไท่อิน"เจ้าไม่ร่วมหอกับท่านอ๋องเพราะกังวลใช่หรือไม่""ท่านปู่ ข้าเกรงว่าหากคลอดบุตรแล้วจะมีปัญหาตามมาเจ้าค่ะ""อืม เจ้านับว่ารอบคอบยิ่งนัก แต่ยามนี้พิษในตัวเจ้าถูกล้างออกหมดแล้ว หากเจ้าต้องการมีทายาทให้หนิงอ๋องก็สามารถทำได้แล้ว""ขอให้เรื่องปราบกบฏ องค์ชายใหญ่กับสกุลจ้าวเรียบร้อยก่อนเจ้าค่ะ ท่านปู่ซุนสตรีคลอดบุตรเหมือนก้าวขาลงนรกข้างหนึ่ง ท่านไม่ห่วงข้ากลับห่วงแต่ท่านอ๋อง ท่านเป็นเพื่อนท่านปู่ของข้าหรือเป็นเพื่อนท่านอ๋องกันแน่เจ้าคะ"ซุนเจิ้นหนานลูบเคราก่อนจะหัวเราะและเดินจากไป เซียวอี้เซียนไม่รู้ว่าเขาคืออาจารย์ของสามี นอกจากบิดานางที่เพิ่งรู้และชินอ๋องบิดาของเขากับน้องชายบุญธรรมอย่างหลิวหย่งกับลู่เสวียน นอกนั้นล้วนเป็นความลับ ซุนเจิ้นหนานมาอยู่สกุลเซียวอยู่นานนับปี ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาคือหมอเทวะซุนเหอหนาน หัตถ์เทวดาที่สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้ทางด้านโรงเตี้ยมหยางเทียนหลงรอคอยหยางต่งมารับศีรษะของรัชทายาทอยู่ ไอ้น้องเลวคนนี้ไม่เห็นแก่สายเลือดคิดจะชิงบัลลังก์ยังพอ
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยเซียวอี้เซียนก็รอฟังข่าวจากหยางเทียนหลง ไม่นานนางก็ได้รับข่าวว่าทางนั้นก็เรียบร้อยดี เหลือเพียงรอให้แมลงติดกับแมงมุมเท่านั้น เซียวอี้เซียนกำลังนั่งวาดแบบแปลนในการสร้างรางน้ำสำหรับการเกษตรอยู่ เสี่ยวฮวาก็วิ่งกระหืดกระหอบมาหานางเอ่ยละล่ำละลัก"พระชายาเพคะ แฮ่กๆๆๆ พระชายาคุณหนูหลิวนาง นางกำลังจะคลอดแล้วเพคะ""จริงหรือ แล้วมีใครไปตามหมอตำแยหรือยัง""ตามแล้วเพคะ ว่าแต่จะให้ตามคุณชายใหญ่หรือไม่เพคะ"เซียวอี้เซียนส่ายหน้า หลิวต่งกำลังไปทำงานสำคัญจะให้มากังวลเรื่องน้องสาวคงไม่ได้ นางจึงบอกเสี่ยวฮวาว่าอย่าเอะอะ นางจะไปดูเอง จากนั้นก็ตามเสี่ยวฮวาออกไปอารามที่หลิวเย่วอยู่นั้น ซ่อนเร้นจากผู้คน ที่ทำเช่นนี้เพราะนางคือจุดอ่อนสกุลหลิว ขอเพียงช่วยนางเอาไว้ได้ จ้าวอันป๋อและหวังคุณก็ไม่มีทางเล่นงานสกุลหลิวได้ เสียงร้องดังออกมาจากด้านใน"อ๊ายยย จะ เจ็บ ข้าเจ็บจังแม่นมหลิน""คุณหนูหลิว ท่านทนหน่อยนะเจ้าคะ ปากมดลูกท่านเปิดแล้วรอแค่เปิดจนหมด ท่านก็จะสามารถคลอดออกมาได้แล้วเจ้าค่ะ""ฮือๆๆๆ ข้าเจ็บเหลือเกิน ท่านพี่ ท่านปู่ ท่านพ่อ เย่วเอ๋อร์คิดถึงพวกท่าน ฮือๆๆ ข้าไม่ควรหลงเชื่อค