Share

ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70
ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70
Penulis: พี่สาวตระกูลหลี่

บทนำ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-28 14:47:43

‘ลูก? มองเห็นแม่'

วิญญาณโปร่งแสงของหลินลู่เสียนหันเหมาจากชายวัยกลางคนที่เป็นสามีของเธอ ที่ตายจากกันนานกว่า 20 ปี มองไปยังบุตรสาวที่ไม่เคยได้เลี้ยงดูเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามเข้มแข็ง

‘พี่หยาง…ถิงเออร์’

ความปวดร้าวเสียใจราวกับวิญญาณถูกฉีกกระชากถาโถมเข้ามา สองแขนโปร่งแสงพยายามเอื้อมออกไปรั้งกอดสามีและลูก

มีแต่ความว่างเปล่าในอ้อมแขน

หลินลู่เสียนร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ แต่ไร้เสียงให้ใครได้ยิน

พอเริ่มทำใจได้รู้ว่าลูกสาวมีความพิเศษสามารถมองเห็นพลังงานวิญญาณได้จากหยกจักรพรรดิ์สีแดงที่เธอสวมให้ก่อนตายตอนคลอดลูก

“แม่คะหนูไม่ได้ยินเสียง แต่หนูสามารถอ่านปากได้ แม่มีอะไรจะพูดกับพ่อไหมคะ”

‘พี่หยางคิดถึงพี่จัง ที่รัก ไหนดูสิยิ่งอายุมากยิ่งคมสันหล่อเหลาสมเป็นสามีฉันจริง ๆ’ นิ้วชี้เรียวโปร่งแสงยื่นออกไปปัดผ่านปลายคางของสามี ยื่นหน้าไปหอมแก้มซ้ายขวา ไม่ได้สนใจสายตาบุตรสาวที่มองตาค้าง

หลินลู่เสียนยักไหล่ข้างหนึ่ง

‘ช่วยไม่ได้นะ แม่คิดถึงพ่อ ไม่ได้เจอกันตั้ง 22 ปี ลูกก็ทนเอาหน่อย'

จากนั้นความเกรงใจก็ไม่มีอยู่ในคำศัพท์ของเธอ ใช้ลูกสาวเป็นสื่อในการป้อยอสามี สลับกับให้ลูกสาวเล่าประสบการณ์ชีวิตหลังจากเธอตาย

'หลี่ซีซวนไอ้ลูกเต่าบัดซบ!’

วิญญาณคุณแม่สบถสาบานด้วยความเจ็บแค้น ไม่คิดว่าลูกสาวจะถูกหมอที่มาตีสนิทกับเธอในโรงพยาบาลลักพาตัวไปเลี้ยงทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ สามีก็หนีตายไปอยู่เซี่ยงก่าง

‘นังฟางผิง นังเพื่อนทรยศ คิดฮุบสมบัติตระกูลหลินงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!'

เธอไม่คิดว่าสาเหตุการตายของตัวเองจะมีอะไรมากกว่าการโดนหญิงร้ายชายเลวผลักจนตกเลือดต้องคลอดก่อนกำหนด

เธอถูกฆาตกรรมโดยเจตนา!

พวกมันว่าจ้างพยาบาลสลับยาห้ามเลือดกับยาละลายลิ่มเลือด พอเลือดไม่หยุดไหลเธอจึงตกเลือดจนตายหลังคลอดลูก

ฟางผิงและหลินอี้จวิน ฉันจะตามจองเวรแกไปทุกชาติฉันสาบาน!

ดวงตาเมล็ดซิ่งกลมโตของหลินลู่เสียนยิ่งฟังยิ่งดุร้ายดำมืดด้วยโทสะแผดเผา อยากจะบีบคอหญิงชั่วชายโฉด แต่จนใจด้วยสองมือตอนนี้เป็นเพียงอากาศบางเบาในโลกใบนี้

‘ตาแก่หยาง…อย่าได้คิดเอาคนไปถ่วงทะเลเชียว ทำอะไรคิดถึงลูกให้มาก’ หลินลู่เสียนรีบปรามสามีท่าทางดุร้ายเย่อหยิ่ง เพราะเห็นแววตากระหายเลือดอย่างไม่ปิดบัง

ตานี่ ถ้าไม่ห้ามปรามคงคิดไปแก้แค้นให้เธอแบบที่ว่า

หลินลู่เสียนมองสองพ่อลูกด้วยสายตาอ่อนโยน

‘ดีแล้ว ได้เจอทั้งสองคนก่อนจากไป'

“คุณแม่… ใกล้จะได้เวลา…จากไปแล้ว”

“ไม่ ไม่ ไม่!!!”

“อย่าเพิ่งจากไปเลย! อยู่กับพี่กับลูกก่อน’ หลินลู่เสียนเหม่อมองสามีที่ร่ำร้องเรียกหาเธอด้วยสายตาเจ็บปวดอาวร

เสียดายวาสนามีน้อย ได้รักกันเพียง 3 ปี

ก็ต้องพรากจากกันชั่วชีวิตเสียแล้ว

‘แม่ฝากดูแลพ่อ ดูแลตัวเองให้ดีนะลูกรัก'

ร่างโปร่งแสงค่อย ๆ บางเบาสลายไปราวกับหมอกควัน

‘ลาก่อน’

เฮือก!

เปลือกตาบางใสวาวดุจไข่มุกกระพริบปริบ สมองยังคงงุนงงไม่มีสติรับรู้รอบตัว ในหูยังอื้ออึงเสียงภายนอกไม่ได้ผ่านเข้ามาในโสตประสาท

‘ที่นี่? ที่ไหนกัน?’

ไม่ใช่ว่าเธอตายไปแล้ว? เพิ่งจะบอกลาลูกสาวกับสามีแล้วก็ภาพตัด?

หลินลู่เสียนค่อย ๆ กลอกตามองรอบตัว เพดานสีน้ำตาลขมุกขมัวที่อยู่ใกล้สายตา ไหนจะเริ่มรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าไม่สบายตัว

พรึ่บ!

เธอลุกนั่งด้วยความตกใจ ตาโตเบิกกว้างหันมองรอบตัว พลางคิดว่าไหงโลกหลังความตายดูเหมือนรถไฟตู้นอน 2 ชั้น ตอนเธอเป็นยุวชนปัญญาชนที่ถูกส่งไปยังหมู่บ้านทงจิวขนาดนี้

“รอยขีด 3 ขีด วันที่ 3 ที่อยู่บนรถไฟ”

ราวกับหนังภาพฉายซ้ำฉากเดิม หลินลู่เสียนทบทวนแล้วเหมือนนึกอะไรออก เธอรีบปีนลงจากที่นอนชั้นบน ตู้นอนแต่ละตู้มี 4 เตียงแบ่งเป็นบนล่าง ถ้าเปิดประตูเลื่อนนี้ออกไปก็จะเจอ…

“จับหัวขโมยไว้! ไอ้หน้าแหลมเสื้อน้ำเงินมันล้วงกระเป๋า”

พลั่ก!

“โอ๊ย!”

เรือนร่างบอบบางของเด็กสาวที่ก้าวขาออกมาจากตู้นอนปะทะเข้าร่างกายแข็ง ๆ สูงใหญ่อุดมมัดกล้ามของเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้าอย่างจัง

หลินลู่เสียนล้มทับลงบนตักแข็ง ที่คนด้านล่างเอาตัวมารองรับเธอไว้ ศอกเธอทิ่มลงข้างเอวของเขาจนเจ็บจุก ทำให้พลาดโอกาสที่เขาจะไล่จับหัวขโมยได้ทัน

“เวรเอ๊ย! นี่ยัยบ้าเดินทะเล่อทะล่าออกมาทำไมเวลานี้วะ!” เสียงทุ้มแตกของเด็กหนุ่มตะคอกคนบนตัก

คนอะไรไม่คิดรักหยกถนอมบุบผา

อยู่ใกล้แค่นี้ตะโกนมาได้หูเกือบแตก…

หลินลู่เสียนคิดอย่างมีน้ำโห รีบขยับลุกขึ้นยืน แสร้งไม่ทันระวังใช้หัวรองเท้าผ้าใบเหยียบบนข้อขาแข็งแรงไม่เบานัก จนคนโดนเหยียบอุทานออกมา

“นี่เธอ!” ดวงตาดอกท้อมีเสน่ห์ของชายหนุ่มถลึงใส่

พอยืนได้มั่นคงดีแล้ว หลินลู่เสียนก็เหยียดหลังตรง ผมเผ้าที่กระเซิงปรกหน้าถูกเรียวนิ้วปัดออกจนเผยดวงหน้าหวานละมุนรูปไข่ จมูกเล็กเชิดปลาย เรียวปากอวบอิ่มแดงเรื่อรูปกระจับ ดวงตาเมล็ดซิ่งกลมโตกระจ่างใสแวววาว

ชายบนพื้นนั่งอึ้งเบิกตามองค้าง หัวใจเต้นผิดจังหวะจนต้องยกมือขึ้นลูบแผ่วเบา

หลินลู่เสียนใจแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ภายนอกเชิดคางเอามือเท้าเอวข้างหนึ่งอย่างถือดี ใช้สายตาเหลือบมองด้านล่าง

“ชั้นทำไม คนจะไปห้องน้ำไม่ให้ออกจากห้องจะให้นั่งยองบนเตียงรึไง อีกอย่างนี่รถไฟไม่ใช่ทุ่งดอกไม้ให้นายมาวิ่งเล่น ชนคนไม่มีขอโทษสักคำ ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ห๊ะ!”

เด็กสาวตะโกนตอบโต้แววตาวาวราวกับแม่เสือ ขัดกับใบหน้างดงามอ่อนหวาน จนคนถูกต่อว่ามึนงง “ขอโทษ” ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

หลินลู่เสียนเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งด้วยใจเต้นแรง เกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้โผเข้ากอดคนหน้าหล่อคมเข้มที่ดูอ่อนเยาว์กว่าที่เห็นก่อนวิญญาณเธอจากมา

ดวงตากลมมีร่องรอยอารมณ์พยายามกลั้นน้ำตาจนหางตาแดงเรื่อ ดูบอบบางน่าทนุถนอมขัดกับท่าทางแม่เสือเมื่อครู่

‘หรือเธอจะเจ็บมาก แต่ทำเป็นเข้มแข็ง'

ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกผิด เพราะพอเขายืนเต็มความสูงแล้วตัวเด็กสาวสูงแค่หัวไหล่เขาเท่านั้น

“พี่จื้อหยางจับหัวขโมยได้แล้ว!” ก่อนทั้งสองจะได้ตอบโต้อะไรมากกว่านี้ มีเสียงตะโกนของเด็กหนุ่มอีกคนพร้อมตัวคนเดินมา

เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกจื้อหยางอ้าปากแล้วหุบลง

“อาเฉิง! ได้ของคืนรึยัง” เขารีบหันหน้าหนีเอามือเกาจมูกเก้อ ๆ ตะโกนเสียงดังกลบเกลื่อนความรู้สึกแปลก ๆ

มันมีทั้งอารมณ์ดีใจ โหยหาตีตื้นขึ้นมา

ทั้งที่เขามั่นใจว่าไม่รู้จักหรือเห็นหน้าค่าตาเธอมาก่อน

“ไป๋จื้อหยางแกจะไปคิดอะไรให้ปวดหัว คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ”

….

เสียเมื่อไหร่!!!

ไป๋จื้อหยาง ยืนมองเด็กสาวที่เขาชนบนรถไฟตาค้าง เกือบยกนิ้วชี้ใส่ เธอกำลังยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าหัวหน้ากองพลชุมชนหมู่บ้านทงจิว มีข้าวของกองใหญ่อยู่รอบตัวชนิดที่ต้องสงสัยว่าแบกมายังไงไหว

'บังเอิญขนาดนี้เลย'

หลินลู่เสียนแอบมองเด็กหนุ่มคุ้นใจทางหางตา มุมปากยกยิ้มบางเบา ในเมื่อทุกอย่างเหมือนกับที่เธอจำได้ไม่มีผิดเพี้ยน นับว่านี่เป็นโอกาสดีที่เธอไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนมอบให้

แต่เธอเชื่อแล้วว่า… ตัวเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

“เหตุการณ์ทุกอย่างแม้แต่คำพูดยังเหมือนเดิมทุกคำ”

เธอยังมีความทรงจำทั้งหมดจนถึงวันที่ตายจากไปเพียงลำพังในโรงพยาบาลอีก 5 ปีข้างหน้า

‘ในเมื่อฉันกลับมาแล้ว ชะตาร้ายที่ประสบในชีวิตก่อน ฉันจะแก้ไขมันเอง'

แต่ก่อนอื่น…คงต้องต้อนหมาน้อยเข้ากรงเสียก่อน

เธอแอบมองไปยังเด็กหนุ่มตัวโตอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ปะทะเข้ากับสายตาดอกท้อหวานที่ลอบมองมาอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองสะดุ้งรีบหันหนีใบหูร้อนผ่าว

น่าอายชะมัด!

จะทำเป็นยืนเชิด ๆ สวย ๆ ให้เขามาจีบเหมือนก่อนดี หรือควรแสดงท่าทีบ้างเพื่อกระตุ้น?

เหมือนคิดสิ่งใดได้ ดวงตางามวาววาบมุมปากมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ไป๋จื่อหยาง…สามีที่รัก นายเสร็จฉันแน่!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70   ตอนที่ 5 เอกสารรับผิด (2)

    หลินลู่เสียนกับซุนลี่จวนเดินถือห่อผ้าไปทางเขตบ้านเรือนของชุมชน มากันสองคนจึงไม่ได้ให้พวกไป๋จื้อหยางตามมา ยิ่งมีเรื่องถังหู่ที่คนทั้งหมู่บ้านคงรู้กันหมดแล้วคงไม่มีใครกล้าทำอะไรในช่วงนี้ยุวชนหญิงทั้งสองที่กำลังเดินข้ามสะพานไม้ไปทางฝั่งบ้านเรือนชุมชน มีชาวบ้านมองตามทั้งแบบตั้งใจและแบบลอบมอง“คนนั้นใช่ไหมที่เพิ่งมาก็มีแต่เรื่อง”“อยู่ให้ห่าง ๆ เข้าไว้ เธอไม่ลงแปลงนา”“จริงเหรอ! ไม่มีแต้มจะเอาอะไรไปแลกข้าวแลกคูปอง”ป้าสะใภ้ที่นั่งซักผ้าริมลำธารหันมองอย่างรู้กัน สายตามีแววดูถูกดูแคลน“ตัวขาวนุ่มนิ่มแบบนี้ มือไม้อ่อนทำงานหนักไม่ไหวแน่”“ก็คงหาผู้ชายพึ่งพานั่นล่ะ บ้านไหนมีลูกชายระวังให้ดีจะมีปลิงมาเกาะ”“แต่ฉันได้ยินว่าเขากินข้าวหม้อรวมกับยุวชนชายที่มาใหม่อีก 2 คนนะ” มีคนแย้งออกมาบ้างสิ่งที่ป้าสะใภ้พวกนี้สุมหัวนินทาหลินลู่เสียนไม่ได้ยิน พอเดินข้ามสะพานไป เจอกับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านกำลังเล่นกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ก็ไม่เชิงเล่น…เด็กบางคนหาเก็บผักตามริมน้ำ แต่ละคนมีตะกร้าสานสะพายหลัง“พวกเธอ มีใครรู้จักบ้านป้าฉีไหม” หลินลู่เสียนมุ่งตรงไปถามเด็ก ๆ ส่วนใหญ่หันมองเธอระแวดระวัง แล้วเดินหนีไปให้ห่างจากเธ

  • ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70   ตอนที่ 5 เอกสารรับผิด (1)

    ไป๋จื้อหยางมองชายที่ซุกตัวหลบในห้องปล่อยให้คนในบ้านออกหน้าแทนด้วยสายตาดูถูก“แก…ถ้าไม่รีบออกไปได้เจอดีแน่!”ถังหู่ทำท่าดุร้ายเมื่อเห็นคนเข้ามาเป็นเพียงเด็กหนุ่มยุวชนแค่คนเดียว‘ฮึ! ก็แค่ไอ้เด็กหน้าขาวจากในเมือง'“ฉันออกแน่ แต่แกก็ต้องออกไปด้วย”ไป๋จื้อหยางยิ้มเหี้ยม เอื้อมมือไปจับไหล่ถังหู่กดไว้ น้ำหนักมือทำอีกฝ่ายตกตะลึงรีบปัดป้อง ส่งหมัดหวังจะซัดหน้าหล่อคมของเด็กหนุ่มยุวชน ไป๋จื้อหยางโยกเพียงท่อนบนก็หลบพ้น เขาที่ฝึกการต่อสู้กับทหารปลดประจำการมาตั้งแต่เด็ก ไม่เห็นหมัดของอันธพาลประจำหมู่บ้านอยู่ในสายตาปลายศอกพับแล้วกระแทกเข้าลิ้นปี่ ถังหู่จุกจนสำรอกน้ำย่อยปนน้ำลายหนืด ตัวงอเป็นกุ้งแต่ไม่ทันได้หายเจ็บก็ถูกไป๋จื้อหยางลากคอไปโยนกลางลานบ้านที่ชุลมุน“ปล่อยนะ! ปล่อยสิวะ!” ถังหู่ด้วยความจุกจึงไม่มีแรงพอจะดิ้นให้หลุดฉือเหว่ยเฉิงยกนิ้วให้สหายรัก เรื่องใช้แรงและการต่อสู้ไป๋จื้อหยางแทบไม่เคยเสียเปรียบ“ถังหู่ออกมาแล้ว ทุกคนหยุดมือ!” ไป๋จื้อหยางตะโกนเสียงดังแล้วเดินไปยืนข้างหลินลู่เสียน“ยุวชนหลินมาดูหน่อยครับว่าใช่คนนี้หรือเปล่า” หัวหน้าฉางรีบมองหาคนแล้วเอ่ยเร่ง“คนนี้แหละค่ะ ที่มาดักหน้าฉัน

  • ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70   ตอนที่ 4 พบคนพาลในทางแคบ (2)

    หลินลู่เสียนถูกป้าสะใภ้ลากมาถึงบ้านพักยุวชน เรียกว่าลากคงไม่ถูกเธอเต็มใจที่จะตามมาต่างหาก มาที่หมู่บ้านสองวัน เกิดเหตุไม่เว้นสามเวลาถ้ามาร้องทุกข์เองมีหวังโดนเขม่น“เกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว วุ่นวายกันเสียจริง” หัวหน้าฉางที่กำลังคุมงานสร้างรั้วดูจะเริ่มอารมณ์ไม่ดี“ยัยหนูยุวชนถูกถังหู่ทำตัวอันธพาลใส่ เรื่องนี้ไม่ใช่เล่น ๆ นะหัวหน้าฉาง” ฉีเหยียนเหมยออกหน้าหน้าตาคร่ำเครียด“ห๊า! เป็นไงมาไงเล่ามาให้หมดสิ” หัวหน้าฉางเริ่มตกใจ ปกติถังหู่แม้ไม่เป็นโล้เป็นพาย เกียจคร้านการงาน มีเรื่องขัดใจกับคนในหมู่บ้าน แต่ยังไม่ถึงขั้นทำเรื่องร้ายแรงมาก่อน“ฉันไม่รู้ว่าเป็นใครนะคะ ตอนเดินสำรวจหมู่บ้านเขามาดักหน้า พูดจา…” หลินลู่เสียนเล่าเหตุการณ์อีกรอบ พอดีกับที่ไป๋จื้อหยางและฉือเหว่ยเฉิงเดินมาเพื่อกินมื้อเช้าได้ยินเข้าพอดีสองหนุ่มท่าทางโกรธเกรี้ยว…ยุวชนรุ่นเก่าก็เปิดประตูรับฟัง เธอแอบเห็นคงฮุ่ยฉิงกับโจวอิงไท่แอบทำหน้าเสียดายที่เธอไม่เป็นไร“พี่ลู่เสียน! เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ซุนลี่จวนตกใจหน้าซีดรีบจับตัวเธอหมุนไปมา“ถังหู่นี่ชักจะหนักข้อขึ้นทุกวัน ใครมีลูกสาวต้องให้รเสียงตัวไว้บ้าง”“หัวหน้าฉางจะเอาไง ครั้งนี้

  • ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70   ตอนที่ 4 พบคนพาลในทางแคบ (1)

    7 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น“ยุวชนหลิน ยุวชนซุน ตื่นหรือยังครับ” หัวหน้าฉางที่นัด แนะเวลากันไว้มาตรงเวลา เขามาพร้อมชายชาวบ้านหลากหลายอายุทั้งหมดสิบคน“สวัสดีค่ะ น้าเขย ผู้อาวุโสทุกคน เข้ามาเลยค่ะ มาดื่มน้ำก่อนแล้วค่อยเริ่มงานนะคะ” หลินลู่เสียนทักทุกคนสุภาพแม้ไม่ได้ทำตัวสนิทสนมแต่ก็ไม่ได้เชิดใส่ซุนลี่จวนยื่นแก้วสังกะสีที่เติมน้ำต้มอุ่น ๆ ให้เวียนกันดื่มอบอุ่นร่างกายทีละคน“ไปเริ่มกันเลย จะให้ล้อมจากตรงไหนครับ”“หัวหน้าฉางคะ ล้อมในส่วนที่เป็นเขตของบ้านพวกฉันกับบ้านหลังเก่าน่ะค่ะ ฉันก็ไม่แน่ใจพื้นที่รบกวนหัวหน้าชี้จุดแบ่งเขตให้ดูหน่อยได้ไหมคะ”“ในพื้นที่บ้านพักยุวชนไม่ได้แบ่งเขตชัดเจนหรอกครับ งั้นเอาเป็นตรงกลางระหว่างบ้านยุวชนโจวกับหลังนี้แล้วกันครับ” บ้านที่สร้างให้ยุวชนอยู่ก็แบ่งพื้นที่ของส่วนกลางหมู่บ้านมา มันเลยไม่มีจุดแบ่งเขต เขาจึงชี้ ๆ ไปตรงกลางระหว่างสองหลัง“เอาตามนั้นได้เลยค่ะ” หลินลู่เสียนก็ไม่เรื่องมากหรือคิดอยากได้ที่เพิ่ม“สหายหลินต้องสร้างรั้วกั้นกันชัดเจนเลยเหรอคะ ทำแบบนี้เหมือนรังเกียจพวกเราเลยนะคะ?” โจวอิงไท่เปิดประตูหลังข้าง ๆ ออกมากัดปากหน้าตาซีดเซียวดูไม่สบายใจชาวบ้านที่ม

  • ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70   ตอนที่ 3 การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม (2)

    สองหนุ่มยุวชนใหม่เดินกลับบ้านพัก“อาเฉิงเราเดินสำรวจหมู่บ้านกันสักรอบ จะได้รู้ทางหนีทีไล่” ไป๋จื้อหยางเก็บเอาคำพูดทั้งหมดที่ได้ยินจากหลินลู่เสียนมาคิด เขาคงต้องเตรียมตัวอะไรไว้บ้าง ดีกว่าอยู่ไปแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้“ดีเหมือนกันนะพี่” ฉือเหว่ยเฉิงเห็นด้วยอย่างยิ่งหมู่บ้านทงจิวเป็นหมู่บ้านที่เน้นทางด้านเกษตรกรรมเหมือนกับหมู่บ้านอื่น ผลผลิตในแต่ละปีก็พอเพียงให้คนในหมู่บ้านพอกินไม่ถึงกับอดอยากทางเข้าหมู่บ้านเป็นถนนดินขนาดกว้างให้เกวียนวัวสวนกันได้ มีรถแทรกเตอร์ของกองพลซึ่งดีกว่าหลายหมู่บ้าน การลงแปลงนาก็อาศัยรถนี่ในการพลิกหน้าดินแหล่งน้ำของหมู่บ้านอยู่เยื้องไปทางเหนือของแปลงนารวม เป็นธารน้ำที่ไหลมาจากภูเขา“ทางเดินหมู่บ้านทำไว้รอบแปลงนารวม ส่วนบ้านคนก็อยู่อีกฟากของทางเดิน” ไป๋จื้อหยางนั่งขีดเส้นบนพื้นด้วยกิ่งไม้ เป็นแผนที่คร่าว ๆ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน“ทางเดินเข้าหมู่บ้านด้านหน้าฝั่งหนึ่งเป็นป่าหญ้าขึ้นสูง”“อือ…ตรงนี้เป็นทางขึ้นเขา พวกร้านสหกรณ์หมู่บ้าน ตึกอำนวยการราชการจะอยู่ทางเข้าหมู่บ้าน แล้วก็บ้านหัวหน้าฉาง”“เราจะลงมือคืนนี้เลยหรือเปล่าพี่” ฉือเหว่ยเฉิงวงกลมบนดิน 2 จุด ที่เขาคิดว่าลง

  • ข้ามภพเปลี่ยนชะตาร้ายยุค70   ตอนที่ 3 การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม? (1)

    “เรื่องเริ่มจากเสบียงที่หมู่บ้านปันมาให้พวกเรา”หลินลู่เสียนหยุดเล่าปรายตามองไปทางโจวอิงไท่ที่ทำหน้าตาอ้อนวอนอย่างน่าสงสารส่งไปให้ไป๋จื้อหยาง‘เหอะ! นังชาเขียว ทำหน้าให้ใครดูกัน'“เรามาแวะเอาเสบียงที่ผู้ดูแลฟาน แต่น้ำหนักเสบียงไม่ตรงกับของหัวหน้าฉาง เลยเดินมาดูน้ำหนักที่โจวอิงไท่จดไว้ตามคำบอกของสหายฟานบังเอิญป้าสะใภ้ท่านนี้บุกรุกเข้ามาในเขตเรือน แล้วจู่ ๆ ก็เข้าไปดึงของออกจากมือสหายโจว โวยวายว่าสหายฟานและพวกขโมย จากนั้นก็หอบของจะชิ่งหนี สหายไป๋กลัวของหายถึงได้รีบร้อนจับคอเสื้อ แล้วคุณป้าก็ร้องโวยวายตามที่เห็นกันนี่ล่ะค่ะ” หลินลู่เสียนเล่าแบบเป็นกลางไม่ตกหล่นทั้งมีรายละเอียดครบ หัวหน้าฉางค่อนข้างพอใจนิสัยตรงไปตรงมาไม่เล่นลิ้นนี้ชาวบ้านจับความผิดปกติได้เสบียงน้ำหนักไม่ตรงกัน เป็นไปได้ยังไง!หมู่บ้านมีการประชุมชัดเจนว่าจะปันเสบียงสำรองของหมู่บ้านให้ยุวชนใหม่เท่าไหร่ แถมยังนำมาชั่งต่อหน้าลูกบ้านแล้วปิดถุง ถ้าไม่มีการเปิดนำออกน้ำหนักไม่มีทางขาด“หัวหน้าฉางเป็นความผิดของผมเองครับ ไม่ทันดูให้ดีหยิบเสบียงส่วนของพวกผมสลับกับของยุวชนใหม่ มารู้ตัวตอนเปิดกระสอบไปแล้ว ผมเขินในความผิดพลาดเล็กน้อ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status