แชร์

ตอนที่ 14 : บ้านใหม่ 1/2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-20 14:15:09

ตอนที่

[8]

บ้านใหม่

 ในครัวมีพวกเนื้อแห้ง ผลไม้แห้งและผักที่ตากแห้งเอาไว้จำนวนหนึ่ง รวมถึงข้าวสารและเครื่องปรุงที่จำเป็นก็มีครบ นางจึงได้รีบก่อไฟเพื่อหุงข้าว อาหารเที่ยงนี้นางจะทำแบบง่าย ๆ เช่น เนื้อแห้งผัดใส่ผักและไข่ตุ๋น อาหารสุดทำง่ายแต่อร่อยของโลกอนาคต ส่วนของหวานก็จะเป็นผลไม้แห้งตุ๋นใส่น้ำตาลแบบง่าย ๆ 

 ผ่านไปครึ่งชั่วยามอาหารทั้งหมดก็วางบนโต๊ะขนาดกลางเรียบร้อย

 เจ้าของบ้านต่างมองอาหารเหล่านั้นด้วยความสนใจ 

 หน้าตาของอาหารดูแล้วชวนน้ำลายสอนัก 

จื่อหรานและอ้ายมี่ช่วยกันเตรียมตะเกียบและข้าวขาวสองถ้วยให้ทั้งสองคน 

 หากแต่มีผู้หนึ่งนั่งลงอย่างรวดเร็วกับอีกผู้หนึ่งที่ยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น

 “ท่านยายไม่กินหรือเจ้าคะ” จื่อหรานถามผู้ที่ยืนอยู่ด้วยความสงสัย 

 “เอ่อคือ….” 

 “จี้ชง รีบนั่งลงเถิด นังหนูทั้งสองอุตส่าห์ทำอาหารให้กิน”

 “เอ่อ จะ เจ้าค่ะ” 

 หืม เจ้าค่ะเช่นนั้นหรือ 

 จื่อหรานมองทั้งคู่สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย 

 “จี้ชงคือบ่าวรับใช้ของข้า” ในที่สุดท่านยายที่นั่งอยู่ก็เอ่ยขึ้น 

 “ข้าเคยร่ำรวย มีบ่าวรับใช้มากมาย และจี้ชงคือบ่าวคนสนิท หากแต่ยามนี้…...” หญิงชรายังกล่าวไม่จบ จื่อหรานก็รีบนั่งลงแล้วกอบกุมมือของอีกฝ่ายไว้ “ท่านยายไม่ต้องเล่าแล้วเจ้าค่ะ อดีตก็คืออดีต เรามาสนใจแค่ปัจจุบันดีกว่า ชีวิตไม่สิ้นเราต้องสู้เจ้าค่ะ สักวันก็จะกลับมารุ่งเรืองได้เช่นเดิม ข้าเชื่อเช่นนั้น”

 “…..”

 หญิงชรากล่าวอันใดไม่ออก ได้แต่หันไปมองหน้าบ่าวที่อยู่ด้านข้าง 

 “ท่านยายกินข้าวเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดเสียก่อน” 

 “พวกเจ้าก็กินด้วยสิ เจ้าด้วยจี้ชง” 

 “เอ่อ จะดีหรือเจ้าคะ” สตรีชรานามจี้ชงยังคงเอ่ยถามเช่นเดิม

 “มีอันใดไม่ดี นั่งลงเถิด” จี้ชงนั่งลงหากแต่ไม่ได้ลงมือกินอาหาร หญิงชราหันไปกล่าวกับเด็กสาวทั้งสอง

 “พวกเจ้าออกไปข้างนอกสักครู่ก่อนได้หรือไม่ ข้ามีเรื่องพูดคุยกับ…นายหญิง หากเสร็จแล้วจะออกไปเรียก”

 จื่อหรานนั้นรู้สถานการณ์ยิ่งรีบดึงตัวอ้ายมี่ออกไปทันที 

 ทันทีที่เด็กสาวทั้งสองพ้นจากสายตาไปแล้ว จี้ชงก็หยิบบางอย่างออกจากแขนเสื้อ เป็นเข็มเงินเล่มหนึ่ง ก่อนจะใช้จิ้มลงไปในอาหารจานต่าง ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรจึงได้หันไปมองผู้เป็นนาย 

 “ไปเรียกพวกนางมาเถอะ”

 หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็นั่งกินอาหารร่วมกัน โดยที่ภายในหัวต่างก็มีความคิดของตน 

 “จื่อหรานไหนบอกข้ามาซิ ว่าเจ้าเป็นคุณหนูบ้านใดกัน เหตุใดจึงทำได้หลายอย่างเช่นนี้ ไม่สิ พวกเจ้ามาโผล่ที่บ้านข้าได้อย่างไร” หลังจากมื้ออาหารเที่ยงผ่านพ้นไป เซี่ยเถาจึงได้เอ่ยถามสตรีทั้งสองที่ตนเพิ่งได้พบกันในวันนี้ 

 จื่อหรานคิดคำนวณในหัวตั้งแต่ก่อนที่จะก้าวเท้าเข้ามาในเรือนแห่งนี้แล้วว่าจะตอบอย่างไร ใบหน้างดงามเศร้าสลดลงก่อนจะเล่าเรื่องราวของตนทั้งหมด โดยไม่ได้เอ่ยถึงตระกูลฉีแม้เพียงครึ่งคำ ด้วยคิดว่าตนจะค่อย ๆ เฉลยภายหลังจะดีกว่า 

 ปัง!

 “นี่พวกเขายังเป็นคนอยู่หรือไม่ กล้าทำกับบุตรสาวแท้ ๆ ได้อย่างไร เป็นถึงครอบครัวขุนนางใหญ่” ใบหน้าของหญิงชราสั่นไหวดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ แม้จะรู้ว่าจื่อหรานเล่าเรื่องราวไม่หมด แต่ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเค้าความจริงอย่างแน่นอน “แล้วต่อจากนี้พวกเจ้าจะเอาอย่างไรต่อ” 

 นี่เป็นคำถามที่จื่อหรานรอคอย “ท่านยาย ท่านจะว่าอันใดหรือไม่เจ้าคะ หากข้าและอ้ายมี่จะขออยู่ที่นี่ไปสักระยะ ข้าจะจ่ายค่าเช่าให้ท่านด้วย อีกทั้งพวกข้าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ช่วยท่านยายปลูกผัก ทำความสะอาด ทำอาหาร ทำทุกอย่างรับรองว่าจะไม่ทำตัวให้เป็นภาระแน่นอนเจ้าค่ะ ใช่หรือไม่อ้ายมี่” ว่าแล้วก็ส่งสายตาไปให้สาวรับใช้ 

“ใช่เจ้าค่ะ พวกเราจะช่วยท่านยายทุกอย่างเลยเจ้าค่ะ” อ้ายมี่ผงกศีรษะรัว ๆ 

 “เอ่อ….” สีหน้าของเซี่ยเถาสีแสดงถึงความลำบากใจ ด้านจี้ชงก็เช่นกัน 

 “ท่านยายไม่สะดวกหรือเจ้าคะ หรือเพราะนอกจากท่านยายยังมีผู้อื่นอยู่อีก” นั่นสินะอาจจะมีบุตรหลานของท่านยายอีก นางคิดน้อยไปจริง ๆ

 “เอ่อ มิใช่เช่นนั้น เฮ้อ เอาเถิด ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าอยู่ ส่วนค่าเช่าไม่ต้องจ่ายหรอก” แม้จะลำบากใจแต่สุดท้ายก็พยักหน้าตกลง 

 “จริงหรือเจ้าคะ!!” จื่อหรานยิ้มกว้าง ในที่สุดนางก็มีที่อยู่แล้ว นางจะได้ดำเนินแผนการต่าง ๆ ต่อไปได้เสียที

 “จริง และก็ที่จริงแล้วข้ามีบุตรชายสองคน แต่พวกเขาเอาแต่ทำงาน ไม่ว่างมาอยู่ด้วยกันหรอก ส่วนเหล่าหลาน ๆ พวกเขาต่างก็ยุ่งกับเรื่องของตนเองเช่นกัน นาน ๆ จะได้เจอกันที” หญิงชราพูดน้ำเสียงเรียบ หากแต่จื่อหรานกลับคิดไปว่าอีกฝ่ายกำลังเศร้าใจที่ถูกทิ้งให้อยู่กันตามลำพัง จึงได้จับมือของหญิงชราไว้อีกครั้ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า 

 “ต่อไปนี้ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านยายเองเจ้าค่ะ” 

 

 ห่างออกไปจากที่นี่หลายจุดทั่วทั้งแคว้นตี้ก็มีหลายคนเกิดอาการจามพร้อมกันจนจมูกแดงโดยไม่รู้สาเหตุ

 “มีผู้ใดกำลังนินทาพวกเราอยู่หรือไม่”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนพิเศษ 2 : ถูกกลั่นแกล้ง

    ตอนพิเศษ[2]พร้อมหน้าพร้อมตา วันเวลาผันผ่านไปนานหลายปีหากแต่แคว้นตี้ยังมีแต่ความสงบสุข ไร้ซึ่งความวุ่นวาย นอกจากนั้นยามนี้ยังกลายเป็นผู้นำในด้านสมุนไพรหายากและล้ำค่าอีก เซี่ยจื่อหรานกลายเป็นที่ปรึกษาพิเศษของสำนักหมอหลวง ไม่ว่าหัวขาวหัวดำต่างเรียกนางว่า ‘ท่านอาจารย์’ แทบทั้งสิ้น แม้ไม่อยากจะรับแต่ก็ต้องรับไว้ ไทเฮากล่าวว่าลับหลังนางพวกเขาก็เรียกขานนางว่าท่านอาจารย์อยู่ดี สู้ทำให้กลายเป็นที่ประจักษ์กันไปเลย ผู้ใดจะคิดว่าสตรีอายุน้อยจะมีความรู้แตกฉานในด้านสมุนไพรเช่นนี้ ทั้งสามารถนำสมุนไพรเหล่านั้นมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดได้ด้วยผู้ใดได้กินก็ล้วนแต่ติดใจ หากแต่มีโอกาสได้กินน้อยนัก เพราะชินอ๋องซื่อจื่อหวงภรรยายิ่งกว่าสิ่งใด คงมีแต่ชินอ๋องซื่อจื่อและเชื้อพระวงศ์ที่สนิทกระมังถึงจะได้กินฝีมือของท่านอาจารย์เซี่ย และก็เป็นจริงดังนั้น วันนี้เป็นวันจะเข้าคืนวันขึ้นปีใหม่ ทุกคนตกลงกันว่าจะมารวมตัวกันและเฉลิมฉลองปีใหม่กันที่เรือนซิ่งฝู ดังนั้นเซี่ยจื่อหรานจึงต้องเตรียมอาหารที่ทุกคนลงความเห็นว่าอร่อยหาที่ใดเทียม อาหารที่ว่าก็คือ ไก่ผัดเซียงเหมา นอกจากนั้นยังมีปลาผัดกันเจียง (ขิง) เนื้อแกะตุ๋นส

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนพิเศษ 1 : ถูกกลั่นแกล้ง

    ตอนพิเศษ[1]ถูกกลั่นแกล้ง สองขาแข็งแกร่งก้าวไปอย่างมั่นคงไม่มีซวนเซเลยแม้แต่น้อยแม้จะดื่มสุรามงคลเข้าไปเพียงใดก็ตาม ค่ำคืนนี้เขาจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับสตรีในดวงใจแล้วจะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร ทว่ายิ่งเร่งรีบเหตุใดปลายทางก็ยิ่งห่างไกล หรือว่าเขากำลังตื่นเต้นเกินไป จึงรู้สึกว่าทุกอย่างเชื่องช้าไปเสียหมด แต่สุดท้ายก็สามารถพาตนเองไปอยู่ที่หน้าห้องที่ประดับตกแต่งด้วยผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในขณะที่มือหนากำลังจะเอื้อมมือไปเปิดบานประตู จู่ ๆ องครักษ์ก็มารายงานว่าฝ่าบาทมีรับสั่งให้เขาไปทำภารกิจเร่งด่วนในคืนนี้ หากเป็นวันทั่วไปเขาก็คงไปโดยไม่อิดออด แต่คืนนี้เป็นคืนสำคัญของเขา คิดได้อย่างเดียวว่านี่ต้องเป็นการกลั่นแกล้งจากเสด็จลุงเป็นแน่ ไม่สิ อาจจะมีเสด็จย่าเข้าร่วมด้วย “ข้าไม่ไป” ชายหนุ่มปฏิเสธเตรียมจะเปิดประตูเข้าห้องหออีกครั้ง “เอ่อ ฝ่าบาทรับสั่งว่าหากซื่อจื่อไม่ไปจะทำการโยกย้ายพระองค์ไปประจำการที่แดนใต้ตั้งแต่คืนนี้โดยไม่ให้ฮูหยินติดตามไปด้วยขอรับ” “ฮึ่ม นี่มันเกินไปจริง ๆ” ชินอ๋องซื่อจื่อเสวี่ยจิ้นกัดฟันกรอดแม้จะรู้สึกขัดใจเพียงใด แต่สุดท้ายก็ต้องไป มาดูกันว่าเสด็จลุงจะกลั่นแกล้

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 48 : จบอย่างที่ควรจะเป็น 1/2 ตอนจบ

    ตอนที่[30]จบอย่างที่ควรจะเป็นภาพทุกอย่างตัดกลับไปที่ฉีจื่อหรานยังคงเป็นทารกน้อยครานี้เสิ่นเจียงร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ นั่นสิ นางเป็นแม่แบบใดกัน อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน กว่าจะคลอดออกมา จื่อหรานในยามเป็นทารกก็น่ารักน่าชังยิ่ง นางทำกับเด็กที่ไร้เดียงสาเช่นนั้นได้อย่างไร สวรรค์ลงโทษแล้ว เป็นนาง นางเป็นมารดาที่ชั่วช้า เหล่าคนตระกูลฉีเริ่มรู้แล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการกระทำที่ตนได้กระทำกับฉีจื่อหรานอย่างโหดร้ายในชาติก่อน ชาตินี้ก็ยังกระทำซ้ำรอบเดิมอีก ไม่แปลกที่จะได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกายและใจเช่นนี้ บัดนี้ความรู้สึกโกรธแค้น ความรู้สึกไม่เข้าใจ ไม่ยินยอมได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกผิดมาจากใจจริง “หรานเออร์พวกเราขอโทษเจ้า โปรดให้อภัยพวกเราด้วย”เหล่าผู้ที่รับหน้าที่คุมตัวตระกูลฉีไปส่งที่แดนเหนือ รีบลงมาจากรถม้าเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ไม่นานพวกเขาก็ต้องถอนหายใจออกมาเพราะยามนี้เบื้องหน้าปรากฏเพียงร่างไร้วิญญาณของพ่อแม่ลูกตระกูลฉีเท่านั้น ใบหน้าของพวกเขายังมีคราบน้ำตาติดอยู่มากมายราวกับคนที่ร้องไห้ด้วยความทรมานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยเฉพาะคนผู้หนึ่งที

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 47 : จบอย่างที่ควรจะเป็น 1/1

    ตอนที่[30]จบอย่างที่ควรจะเป็น “เหตุใดจึงแต่งงานกันไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” ยามนี้ชินอ๋องซื่อจื่อเสวี่ยจิ้นกำลังเอ่ยถามพระอัยยิกาพร้อมทั้งมีสีหน้าบึ้งตึงด้วยไม่พอใจอย่างยิ่งยวด “ย่าอนุญาตให้คบหากันนั่นก็ที่สุดแล้ว แล้วนี่เพิ่งคบกันได้หนึ่งเดือนจะแต่งงานกันเลยได้อย่างไร เวลาน้อยไป หรานเออร์หลานย่า ย่าไม่ยอมให้คบผู้ใดเพียงแค่ผิวเผินแน่นอน” เซี่ยไทเฮาว่าพลางดึงหลานสาวให้ไปอยู่ด้านหลังตน “แล้วหลานมิใช่หลานของเสด็จย่าเช่นเดียวกันหรือ อีกอย่างหลานหาใช่คนชั่วร้ายอันใด จะให้รอไปถึงเมื่อใดกัน เสด็จย่าอย่าใจร้ายกับหลานเลย” ว่าแล้วพลางส่งสายตาที่น่าสงสารไปให้คนรักที่อยู่ด้านหลังผู้เป็นย่า หวังว่านางจะเห็นใจเขาและช่วยพูดกับเสด็จย่า หากแต่นางกลับมีเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ และไม่กล่าวอันใดอีก “ระยะเวลาไม่กำหนด แต่หากซื่อจื่อทำให้ย่าเห็นว่าเจ้าสามารถดูแลหรานเออร์ได้ดี เมื่อนั้นย่าจะอนุญาตเอง” “โธ่ แล้วหากว่ากว่าจะเป็นที่ถูกใจเสด็จย่ามันก็ผ่านไปหลายปีแล้วเล่า” “หลายปีก็หลายปีสิ ซื่อจื่อรอไม่ไหวหรือ เช่นนั้นย่าจะได้ให้หรานเออร์ไปแต่งกับผู้อื่นที่ความอดทนมีมากกว่า” “ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!! เฮ้อ เช่นนั้น รอก็ร

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 46 : ต้นตอของโรคระบาด 1/2

    ตอนที่[29]ต้นตอของโรคระบาด ใช้เวลากว่าแรมเดือนกว่าที่นางจะสามารถจัดการธุระสำคัญทั้งหมดเสร็จสิ้น หลังจากที่เหตุการณ์อันตรายผ่านพ้นไป ไทเฮาจึงได้ชวนเชื้อพระวงศ์ไปพักผ่อนที่ตำหนักซินหยานอีกครา แม้อากาศจะเริ่มเหน็บหนาวแล้วแต่ยังสามารถเดินทางออกไปได้อยู่ ยามนี้ที่นั่นคงงดงามไม่น้อย “จื่อหราน รอบนี้เราไปปีนเก็บผลไม้กันมาเยอะ ๆ อย่าให้พี่ใหญ่จับได้” ท่านหญิงเสวี่ยเร่อมากระซิบข้างหูนางด้วยความซุกซนเช่นเคย นั่นสินะ ผลไม้หลายอย่างที่เติบโตในอากาศหนาวคงกำลังออกผลผลิตเต็มต้น หากแต่สิ่งที่นางตื่นเต้นนั้นมิใช่แค่การเก็บผลไม้เหล่านั้นอย่างเดียว หากแต่เป็นสิ่งที่คนผู้นั้นกล่าวว่ามีบางอย่างจะพูดคุยกับนาง “หรานเออร์ พี่มีบางอย่างจะพูดคุยกับเจ้า” เพียงแค่ถึงตำหนัก เขาก็ไม่รอช้าที่ลากนางเข้าไปในป่า ในป่าที่เป็นป่าจริง ๆ หาใช่สวนบุปผาที่สวยงามแต่อย่างใด ลากมาอย่างรวดเร็วและไกลชนิดที่ว่าเสวี่ยเร่อตามไม่ทันกันเลยทีเดียว พร้อมทั้งคำเรียกขานที่เปลี่ยนไปทั้งหมด “เจ้าหนาวหรือไม่” เขาว่าพร้อมถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้นางโดยไม่รอคำตอบ แต่เขาควรจะถามว่าเหนื่อยหรือไม่ก่อนสิ ก็เล่นลากกันมาไกลเช่นนี้ “เจ้า

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 45 : ต้นตอของโรคระบาด 1/1

    ตอนที่[29]ต้นตอของโรคระบาด โทษของตระกูลฉีสามารถทำให้ร้ายแรงไปจนถึงขั้นประหารชีวิตเฉกเช่นองค์ชายห้าได้ แต่เพราะนางอยากให้พวกเขาได้ลิ้มรสความสิ้นหวังและการถูกทอดทิ้งว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่สามารถกลับบ้านและกลับมาสู่จุดเดิมที่เคยอยู่ ตกต่ำไร้คนเหลียวแล แบบนั้นคงจะเจ็บแสบกว่าการประหารและลิ้มรสความเจ็บปวดเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ที่จริงแล้วตระกูลฉีไม่ได้ฉลาดล้ำโดยการไปร่วมมือวางแผนการกับองค์ชายห้าถึงเพียงนั้น แต่เพราะพวกเขาถูกหลอกใช้ ว่าจะมอบยารักษาให้รวมถึงช่วยแก้แค้นหากพวกเขาสามารถเผาที่เก็บยาสมุนไพรของนางได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น เพราะสมุนไพรทั้งหมดนางเก็บเอาไว้ที่เรือนที่ถูกสร้างขึ้นใกล้กันกับเรือนซิ่งฝู แต่เมื่อลงมือทำแล้วก็ต้องรับผลของการกระทำ ชีวิตหลังจากนี้ของพวกเขาจะเป็นเช่นไรก็แล้วแต่โชคชะตากำหนดก็แล้วกัน ด้านองค์ชายห้าผู้ที่เป็นต้นเหตุและต้นตอของความวุ่นวายในเมืองหลวงที่เกิดขึ้นมาตลอดหลายวัน และเป็นคลื่นใต้น้ำในราชสำนักมาหลายปีก็ถูกจับกุมตัวและถูกสั่งโทษประหารเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวเริ่มต้นที่องค์ชายห้าผู้ที่มักวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แท้จริงกลั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status