Home / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

Share

บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

last update Last Updated: 2025-06-24 23:10:40

เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก

'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 

'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' 

เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ 

ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขา

ลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่ศึกษาเรื่องเข้าหอร่วมรักเพื่อเอาใจเขา

วันต่อมาลู่มู่เฉินยังคงไปทำรักษาตัวแต่เช้าเช่นเดิม ในขณะที่อาหงยังคงตื่นไปฝึกมารยาทกับเหล่ามาม่าได้เป็นปกติ ไม่รู้ว่าอาหงใช้ชีวิตมาอย่างไรนางจึงหักห้ามตัวเองไม่ให้ขี้เกียจตื่นสายได้เช่นนั้น แต่หลี่เฟิ่งเซียนไม่ได้ตามไปดูสามีขึ้นรถม้าของสาวน้อยชุดขาว ไม่รู้ว่าอาหงตื่นไปเมื่อไหร่ เพราะนางแทบตื่นไม่ไหวจนกระทั่งเลยยามเว่ยไปแล้ว นางถึงตื่นขึ้นมาเรียกหายู่ยี่ ยู่ยี่เองก็ขี้เกียจพึ่งตื่นเช่นกัน เมื่อคืน นางก็ต้องนั่งรอจนสองสาวหลับคาโต๊ะนางถึงจะได้หลับ ช่างทรมานนางยิ่ง ตื่นมานางจึงบ่นคุณหนูใหญ่แทบจะตลอด

หลี่เฟิ่งเซียนตื่นมาด้วยความอ่อนเพลียและทรมาน นางนั่งกินข้าวไปด้วยก็ต้องฟังยู่ยี่บ่นไปด้วย นางพยายามไม่สนใจยกมือขึ้นเป็นเชิงไล่ แต่ยู่ยี่กลับยกอาหารที่เต็มไปด้วยยาบำรุงจานแล้วจานเล่าให้นาง อ้างว่าบำรุงนั่น บำรุงนี่ ต่อไปถึงเวลานอนคุณหนูใหญ่จะได้นอนหลับได้สบาย

กระทั่งฟ้ามืดอีกครั้ง เลยเข้าสู่ยามโหย่ว หลังจากไล่ยู่ยี่ให้ไปพักได้แล้ว หลี่เฟิ่งเซียนก็มานั่งหลบอยู่ชานเรือนแอบเฝ้ารอสามี เพราะคิดถึงเขาแต่ไม่กล้าไปรอที่ประตูหน้า นางเห็นพวกสาวใช้ต่างซุบซิบ ส่งเสียงวี้ดว้ายเบาๆกันอย่างสนุกสนาน และรีบวิ่งไปดูบางสิ่งอย่าง นางเกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นจึงไปดูบ้าง

ที่หน้าประตูจวน รถม้าที่นางคุ้นเคยจอดรออยู่ด้านนอก แต่สาวน้อยในชุดขาวกำลังพยุงลู่มู่เฉินเข้ามาในจวน เข้าค้อมหลังคล้ายเดินตัวตรงไม่ได้ สาวน้อยผู้นั้นกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเขา ก่อนจะหันไปสั่งการพ่อบ้านจวนแม่ทัพอย่างสนิทสนม พูดไปชี้นิ้วไป พ่อบ้านก็ผงกหัวรับคำอย่างนอบน้อม

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกโกรธอย่างไม่มีเหตุผล ไหน้ำส้มในใจนางถูกทุ่มแตกใบแล้วใบเล่า นางพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้วิ่งไปจิกหัวหญิงสาวผู้นั้น

“หลีกทาง” นางสั่งพวกสาวใช้ที่กำลังมุงดู

“ไม่มีสิ่งใดทำกันแล้วหรือถึงได้มาทำตัวเป็นสุนัขจับหนูอยู่ที่นี่” ฟังผิวเผินคล้ายหลี่เฟิ่งเซียนกำลังด่าเหล่าสาวใช้ แต่ในใจนางแล้วต้องการว่ากระทบหญิงแพศยาผู้นั้น 

หลี่เฟิ่งเซียนเชิดหน้าขึ้น มองด้วยสายตาเรียบเฉยไปยังหญิงสาวชุดขาว 

‘ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้ เจ้ายังประคองเขาราวกับไข่ในหิน ทั้งยังมาสั่งพ่อบ้านของจวนข้าราวกับสั่งคนในบ้านเจ้า เจ้าคิดจะเอาอย่างไร’ หลี่เฟิ่งเซียนก่นด่าในใจ ส่งสายตาไม่เป็นมิตร

อีกฝ่ายเมื่อเห็นหลี่เฟิ่งเซียนแล้วก็ใช่ว่าจะรู้สึกผิด แต่กลับจ้องตาหลี่เฟิ่งเซียนกลับไม่ได้หวาดกลัวนาง

“คงเป็นเจ้าสินะ คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่ผู้เลื่องลือ” 

“ใช่ ข้าเอง เจ้าคือผู้ใด” หลี่เฟิ่งเซียนแทบจะกัดฟันตอบ

สาวน้อยในชุดขาวผลักลู่มู่เฉินจนเขาแทบล้ม ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนางยังประคับประคองเขาอย่างดี โชคดีที่พ่อบ้านรีบไปรับตัวเขาเอาไว้ เขาจึงไม่ได้ล้มตรงนั้น แต่ลู่มู่เฉินก็เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมมองสองสาว

หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าอีกฝ่ายสูงไม่เท่านาง ทั้งที่หญิงแพศยานั่นเขย่งเท้าขึ้นมาเพื่อจ้องตานางแล้ว แต่นางยังต้องก้มหน้ามอง หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกชนะ ยิ้มมุมปากน้อยๆ หญิงสาวชุดขาวแสดงความไม่พอใจออกมาชัดเจน

“เฮอะ” สาวน้อยคนนั้นส่งเสียงอย่างโกรธเคือง สะบัดหน้าหนี และรีบเดินออกไปจากจวนทันที หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าหญิงแพศยานั่นยังดุคนขับรถม้าของนางไปหลายคำด้วย

“เฮอะ” หลี่เฟิ่งเซียนจึงส่งเสียงตอบกลับไปเช่นนั้นด้วย แต่พอนางหันมา กลับเห็นว่าลู่มู่เฉินส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปบอกเสียงเบาให้พ่อบ้านพาเขาไปพักได้แล้ว ปล่อยให้นางตกใจชะงักตัวแข็งอยู่ที่นั่นคนเดียว

นางไม่แน่ใจว่าตัวเองเดินไปถึงห้องของท่านย่าได้อย่างไร รู้แต่ว่าเมื่อไปถึงแล้วนางก็ปล่อยน้ำตาไหลร้องไห้โฮเรากับเด็กน้อย ท่านย่าถามอย่างไรนางก็ตอบไม่ได้ เอาแต่ร้องไห้พูดไม่รู้เรื่อง

สุดท้ายท่านย่าได้รับรู้เรื่องราวจากสาวใช้แทน ท่านย่าเห็นว่าเรื่องนี้หลานสาวตัวดีทำไม่ถูก อย่างไรผู้มาก็เป็นแขก ทั้งยังอุตส่าห์ใจดีมาส่งลู่มู่เฉินที่กำลังป่วยให้ด้วย การด่าเขาว่าเป็นสุนัขไล่จับหนูออกจะแรงเกินไป ท่านย่าจึงสั่งให้หลี่เฟิ่งเซียนไปขอโทษลู่มู่เฉิน

หลี่เฟิ่งเซียนคราแรกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ทั้งยังน้อยใจที่ท่านย่าไม่เข้าข้างนาง ใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาอาจต่อว่านางเช่นเดียวกับท่านย่า เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะชอบพอกับสตรีในชุดขาวผู้นั้น ในเมื่อเขายิ้มให้นางตั้งหลายครั้งแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนไม่อยากช้ำใจมากไปกว่านี้ นางจึงตั้งใจจะไม่ไปคุยกับลู่มู่เฉิน 

 

 


[1] นมวัวสด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status