แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
หากไม่ใช่เพราะเจ้านายของพวกเขาโดนยาพิษ แถมยังติดกับดักที่คนอื่นวางไว้ คงไม่มีทางยอมให้นางยำยีเช่นนี้

พวกเขาอยากจะช่วยเจ้านาย แต่จนปัญญาเพราะโดนยาพิษเช่นกัน ใจอยากช่วยแต่ไร้กำลัง

อีกฟากหนึ่งของทุ่งหญ้า ร่างทั้งร่างของเย่จิ่งหานไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจขยับเขยื้อน ทำได้เพียงถลึงตาจ้องกู้ชูหน่วน

"เจ้าลองแตะต้องข้าแม้แต่ปลายก้อยสิ"

"แตะแค่ปลายก้อยจะพอได้อย่างไร อย่างน้อยก็ต้องแตะทั้งตัว"

บางทีอาจเป็นเพราะดวงตาคู่นั้นของเขาเดือดพล่านมากเกินไป กู้ชูหน่วนถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมา จึงรีบกดจุดเขาเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน

"แค่ยืมร่างกายหรอกน่า เจ้าเองก็ไม่สึกหรอเสียหน่อย"

นางพูดอย่างไม่กระดากอาย แต่กลับทำเอาเย่จิ่งหานโมโหจนแทบลมจับ

ค่ำคืนต้องอันงดงาม

เย่จิ่งหานโกรธจนเส้นเอ็นปูดโปน

โธ่เว้ย เทพสงครามผู้ใหญ่อย่างเขา กลับถูกหญิงที่ไหนก็ไม่รู้ข่มเหงเสียได้

แต่ที่แค้นที่สุดก็คือ ตัวนางเองเสร็จสมแล้ว แต่ "น้องชาย" ของเขาไม่พอใจเป็นที่สุด ไฟราคะถูกนางโหมกระพือจนกระสับกระส่ายไปทั้งตัว แต่หญิงผู้นี้กลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย

กู้ชูหน่วนเหนื่อยอ่อนจนสั่นเครือไปทั้งร่าง

นางฉีกเสื้อตัวหนึ่งแล้วคลุมท่อนบนของเย่จิ่งหานเอาไว้ มองดูเย่จิ่งหานอดกลั้นไฟโกรธเอาไว้ ส่ายหน้าพลางวิจารณ์ "ลีลาแย่มาก ต้องปรับปรุง"

"แม่นี่ ข้าจะถลกหนังเจ้า หักกระดูกเจ้า กินเนื้อเจ้า ไม่เหลือศพให้เจ้าฝัง"

เสียงคำรามเดือดดาล สัตว์ป่าตกใจวิ่งหนี ชายชุดดำตัวสั่นระริก เจ้านายของพวกโมโหเข้าใจแล้วจริงๆ

กู้ชูหน่วนเกาใบหูที่สะเทือนจนอื้ออึง ในใจพลันหวาดกลัว

ผู้ชายคนนี้ มาดดีมีสง่าราศี ดูแล้วไม่ใช่คนธรรมดา นี่เธอคงไม่ได้เจอขอโหดเข้าให้หรอกนะ

ช่างเถอะ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว สู้หาทางหนีดีกว่า

นางตั้งท่าเตรียมพร้อมเผ่นหนี ทว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็วนกลับมา ใช้เลือดบนร่างของเย่จิ่งหาน ขีดเขียนอะไรบางอย่างบนเสื้อผืนสะอาด ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้โยนเสื้อลงตรงหน้าเขา

"เจ้าโดนยาพิษ ทำตามวิธีนี้ ถึงไม่อาจถอนพิษได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยยามอาการกำเริบทุกเดือนก็ไม่ต้องทรมานขนาดนี้ ข้าให้สูตรยาเจ้าแล้ว พวกเราไม่ติดค้างกัน วันหน้าอย่ามาทวงหนี้ข้าละ ต่อให้เจ้ามาทวง แม้ข้าจะยืนตรงหน้าเจ้า เจ้าคงมองไม่ออกว่าข้าหน้าตาเป็นอย่างไร"

สายตาพร่ามัว...

ทอดมองแผ่นหลังที่เดินจากไปอย่างลิงโลด

ทุกคนตาพร่าจริงๆ

ชายชุดดำทั้งสองก้มหัวมุดต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทบไม่กล้ามองสีหน้าของเจ้านายตัวเอง

เย่จิ่งหานอ่านสูตรยา มุมปากกระตุก ดูเหมือนว่าไฟโกรธกำลังจะมอดไหม้เขาจนเป็๋นจุน

"หึ... หญิงผู้นี้ ความแค้นของพวกเราใหญ่หลวงนัก"

กู้ชูหน่วนเดินโงเงนเกือบจะล้มลงกับพื้น คงเป็นเพราะวิ่งอย่างบ้าคลั่ง วิ่งมานานระยะหนึ่งถึงได้หยุดพักโกยลมหายใจที่ริมลำธารสายหนึ่ง

ความทรงจำผุดขึ้นมาในหัว กู้ชูหน่วนถอนหายใจเงียบๆ

เธอถูกคนที่ไว้ใจที่สุดหักหลังระหว่างทำภารกิจ เสียชีวิตจากเหตุระเบิด ทว่าศพและวิญญาณกลับข้ามกาลเวลามาอยู่ในร่างของกู้ชูหน่วนที่ชื่อแซ่เดียวกัน

กู้ชูหน่วน คุณหนูสามแห่งจวนอัครเสนาบดี แม้จะเป็นลูกสายตรง ทว่าตั้งแต่เล็กกลับไม่เคยเป็นที่รัก

ว่ากันว่าท่านแม่ของนางเป็นน้องสาวบุญธรรมของฮ่องเต้พระองค์ก่อน เพราะท่านแม่รักท่านพ่อ ฮ่องเต้พระองค์ก่อนจึงประกาศราชโองการสองฉบับ ฉบับแรกพระราชทานสมรสให้กับท่านพ่อและท่านแม่ อีกฉบับหนึ่งสั่งให้คนรักคู่หมั้นคู่หมายของท่านพ่อปลิดชีวิตตัวเอง

ท่านพ่อโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของท่านแม่ หลังจากแต่งงานก็รับอนุภรรยามากมาย เฉยชากับท่านแม่ จนท้ายที่สุดท่านแม่จึงได้ตรอมใจตาย

ส่วนนางนั้นก็ได้กลายเป็นเหยื่อที่ถูกทุกคนหัวเราะเยาะและรังแก ยามอยู่ในจวนศักดิ์ของนางนั้นเทียบไม่ได้กับสาวใช้คนหนึ่งด้วยซ้ำ

แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ตอนนางเพิ่งจะคลอดออกมา ฮ่องเต้พระองค์ก่อนก็จองตัวนางให้เจ๋ออ๋องเสียแล้ว กลายเป็นเจ๋ออ๋องเฟยที่ถูกเลือกเป็นการภายใน

เพื่อที่จะได้แต่งงานกับเจ๋ออ๋อง เหล่าพี่สาวน้องสาวสายรองของนางต่างวางแผนร้ายให้นางแปดเปื้อนเพราะคนนอก หมายจะทำลายชื่อเสียงของนาง

เจ้าของร่างเดิมตายเพราะอะไร ความทรงจำในสมองเธอไม่ครบถ้วนสักเท่าไร รู้แต่เพียงว่าวิญญาณของเธอมาอยู่ในร่างนี้แล้ว

กู้ชูหน่วนกลอกตามองบน บ่นออกมาอย่างอดไม่ได้

ฮ่องเต้พระองค์ก่อนว่างจนไม่มีอะไรทำหรือยังไงนะ ว่างจนมาจับคู่ให้คนอื่นแบบนี้

เห็นว่ากันว่ากู้ชูหน่วนเป็นหญิงอัปลักษณ์ เธอก็อยากจะเห็นสักหน่อยว่าตัวเองขี้เหร่แค่ไหนกันเชียว

ผ้าคลุมหน้าถูกแหวกออก มองภาพสะท้อนบนธารน้ำใส กู้ชูหน่วนแทบจะอ้วกออกมา

"เชี่ย ขี้เหร่เกินไปไหมเนี่ย"

ทุกอนูใบหน้าของเธอมีแต่สิว เหมือนกับทิวเขาอย่างไรอย่างนั้น แทบจะไม่มีตรงไหนดูได้เลย น่าเกลียดน่ากลัว

อาจเป็นเพราะหน้าตาขี้เหร่เกินไป เจ้าของร่างเดิมถึงได้ทาแป้งหนาเตอะ ทาจนขาววอกไปทั้งหน้า

กู้ชูหน่วนอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก

หน้าตาแบบนี้ ใครจะเป็นมิตรกับนาง

กู้ชูหน่วนลูบใบหน้าขี้ริ้วขี้เหร่ของตัวเอง มุมปากบางพลันยกยิ้มร้ายกาจทั้งยังบ้าคลั่งออกมา

ที่แท้เป็นเพราะโดนวางยาพิษนี่เอง หึ...

รังแกนาง เหยียดหยามนาง ทำร้ายร่างกายนาง ทำร้ายจิตใจนาง นางจะเอาคืนเป็นร้อยเป็นพันเท่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กู้ชุนหน่วนจะไม่ใช่กู้ชูหน่วนที่ยอมใครรังแกได้ตามใจอีกต่อไป

เมื่อกลับมาถึงจวนก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว

บรรยากาศในจวนอัครเสนาบดีอันกว้างใหญ่แปลกประหลาด ปกคลุมไปด้วยความเคร่งเครียด เหล่าบ่าวรับใช้ที่ชอบมาหาเรื่องนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันกลับคร้านจะสนใจนาง

ชิวเอ๋อร์ สาวใช้คนสนิทของนางวิ่งกระวีกระวาดเข้ามา ร่างทั้งร่างสั่นเครือ "คุณหนูเจ้าคะ เหตุใดถึงเพิ่งกลับมา นายท่านรอคุณหนูที่โถงหลักเจ้าค่ะ"

"อ๋อ เข้าใจแล้ว" กู้ชูหน่วนโยนดอกหญ้าที่คาบอยู่ในปากทิ้ง อ้าปากหาววอด เดินเอื่อยเฉื่อยไปยังโถงหลัก

ชิวเอ๋อร์รีบขวางนางเอาไว้ ร้อนรนจนขอบตาแดงก่ำ "คุณหนูเจ้าคะ นายท่านโมโหมาก คุณหนูห้าบอกว่าคุณหนูวางแผนทำร้ายนาง นายท่านโกรธสุดขีด คงไม่ปล่อยคุณหนูไปง่ายๆ แน่นอน พวกเรารีบคิดหาวิธีกันดีกว่าเจ้าค่ะ"

ชิวเอ๋อร์คือสาวใช้ข้างกายของนาง ติดตามนางมาตั้งแต่เด็ก ทั้งสองคนพึ่งพากันและกันในจวนแห่งนี้ เรียกได้ว่าคือคนที่ใกล้ชิดที่สุดในจวนของเจ้าของร่างเดิม

กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น เอ่ยเสียงเย่อหยิ่ง "ใครจะปล่อยใครกันแน่ก็ยังไม่รู้"

ชิวเอ๋อร์ชะงักไป

คุณหนูของนางผีเข้าหรือไร? เหตุใดถึงได้บ้าดีเดือนเช่นนี้

เดิมตั้งใจว่าจะเตือนคุณหนูไว้ก่อนสักหน่อย แต่พอเห็นกู้ชูหน่วนเดินเข้าไปในโถง ชิวเอ๋อร์จึงจำต้องรีบตามไป

ยามกู้ชูหน่วนเข้ามา กลางโถงก็มีคนยืนเต็มไปหมด

คนที่อยู่หน้าสุดคือท่านพ่อของนาง อัครเสนาบดีกู้ ยามนี้สีหน้าเขาถมึงทึง จ้องนางอย่างไม่สบอารมณ์

ข้างกายอัครเสนาบดีกู้ยังมี ฮูหยินใหญ่ อี๋เหนียงสาม อี๋เหนียงห้า รวมถึงบรรดาพี่สาวน้องสาวจากทั้งสายหลักและสายรอง พร้อมหน้าพร้อมตา

กู้ชูหลันที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเห็นนางเขาก็พลันเดือดขึ้นมา กล่าวโทษในทันที "ท่านพ่อ นางเจ้าค่ะ นางคือคนวางแผนทำร้ายข้า นางหลอกล่อให้ข้าไปที่วัดร้างนั่น"

กู้ชูหน่วนหน้าเจื่อน ราวกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่ตื่นกลัว นางเอ่ยเสียงลนลาน "น้องสาว ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดเรื่องอะไร เมื่อวานมิใช่เจ้าหรอกหรือที่บอกให้เข้าไปที่วัดร้าง? หรือว่าเจ้าโกรธที่ข้าไม่ได้ไป?"

"เมื่อวานเป็นวันครบรอบวันตายของท่านแม่ข้า หลายวันก่อนท่านแม่เข้าฝันข้า บอกว่านางอยากเจอข้า ข้าจึงไปไหว้แม่ข้าที่วัดอวิ๋นชิงก่อนหน้านั้น คิดไม่ถึงเลยว่าพอข้าไปที่วัดร้าง รอแล้วรอเล่าเจ้าก็ยังไม่มา ข้าถึงได้กลับเสียก่อน น้องสาว เจ้าอย่าได้โกรธพี่เลย วันหน้าพี่จะไม่สายอีกแล้ว"

กู้ชูหลันเดือดพล่านจนใบหน้าเหยเก

นางแพศยานี่ โกหกหน้าด้านๆ เป็นกับเขาตั้งแต่เมื่อใด?

"เจ้าต่างหากที่วางแผนทำร้ายข้า เจ้าเป็นกรอกเมามายพันกาลให้ข้ากิน"

กู้ชูหน่วนมองทุกคนอย่างมึนงง เอ่ยเสียงพึมพำ "เมามายพันกาลคือสิ่งใดหรือเจ้าคะ?"

กู้ชูหลันใบ้กิน มุมปากขยับแต่ไม่รู้จะตอบโต้เช่นไร

เมามายพันกาลนั้นมิได้หาซื้อได้ง่ายๆ หากตามจะตามสืบสาวก็เป็นเรื่องวุ่นวายอยู่เหมือนกัน

อาจเป็นเพราะเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของกู้ชูหลัน กู้ชูหน่วนจึงรีบเอ่ยสมทบอีกประโยค "อ๋อ...ใช่แล้ว ข้าเป็นคนกรอกเมามายพันกาลใส่ปากน้องสาวเอง ข้าเองก็ดื่มเช่นกัน รสชาติดียิ่งนัก ท่านพ่อลองดื่มไหมเจ้าคะ ข้าจะเตรียมให้ท่านสักจอก"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 585

    ซี้ดดด... ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกมา คนทั้งสำนักบัณฑิตหลวงต่างก็พากันลนลาน พวกเขารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว นับประสาอะไรกับแปดปีสิบปี หากต้องรอเป็นสิบปี เช่นนั้นผมคงได้ขาวกันก่อนแน่ "หานอ๋องเฟย หากท่านหิว ท่านก็หาอะไรกินก่อน หากเหนื่อย ก็นอนพักสักงีบ แต่สิบปีมันนานเกินไป พวกข้าได้รอจนว้าวุ่นใจเป็นแน่" "นั่นน่ะสิ หากอ่านเรื่องนี้ไม่จบ ข้าคงค้างคาใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เฝ้ารอให้ท่านเขียนต่อ" กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ คนเหล่านี้ เห็นนางเป็นนักเขียนนิยายไปแล้วหรืออย่งไร นางว่างขนาดที่มีเวลามาเขียนนิยายให้พวกเขาอ่านกันหรืออย่างไร บัณฑิตหนึ่งในนั้นพูดด้วยความร้อนรน "ปิ่นระย้าด้ามนั้นของอาจารย์ซ่างกวานประณีตงดงาม หยกก็ยังเป็นของชั้นดี หรือว่าท่านไม่อยากได้ที่หนึ่ง ไม่อยากได้ปิ่นระย้าผีเสื้อหยกขาวแล้วหรือ" "ข้าอยากรักษาชีวิตข้าไว้มากกว่า" ทั้งสำนักบัณฑิตหลวงเสียงดังระงม บ้างก็เตือนกู้ชูหน่วน บ้างก็ส่งข้าวส่งน้ำมาให้กู้ชูหน่วน บ้างก็ตัดพ้อหานอ๋องและฮ่องเต้เย่ หากไม่ใช่เพราะพวกเขา มีหรือที่กู้ชูหน่วนจะหยุดเขียน ยังมีบางคนที่คอยวิเคราะห์เนื้อหาตอนต่อไป ซ่าง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 584

    ณ สำนักบัณฑิตหลวง กู้ชูหน่วนเขียนตั้งแต่เช้ายันค่ำ แล้วก็เขียนต่อตั้งแต่ค่ำยันเช้า เขียนจนปวดระบมไปทั้งแขน ข้างหูมีเสียงกระซิบกระซาบ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นไม่หยุด ทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยเร่งให้นางเขียนเร็วๆ กู้ชูหน่วนโมโห โยนพู่กันขนสัตว์ในมือทิ้ง "รอดูเฉยๆก็เลยไม่เหนื่อยกันใช่หรือไม่ หากพวกเจ้าเร็วนัก เช่นนั้นก็มาเขียนเองเลย" "หานอ๋องเฟย เป็นเพราะท่านเขียนดีเกินไป พวกเราอ่านแล้วก็อดรู้สึกค้างคางใจไม่ได้ อยากจะอ่านทั้งหมดให้จบ" กู้ชูหน่วนร้อนจนต้องถกแขนเสื้อ คนพวกนี้มุงล้อมนางทั่วทุกทิศ อยากให้นางหายใจไม่ออกหรืออย่างไร "อยากให้ข้าเขียนต่อละก็ พวกเจ้าทุกคนถอยหลังไปคนละยี่สิบก้าว ห้ามเข้าใกล้ข้าอีก" หากไม่ใช่เพราะอยากได้ปิ่นระย้า นางไม่มีทางทนจนถึงตอนนี้ ทุกคนต่างก็ไม่ยอมถอย หากถอยหลังไป พอนางเขียนสิ่งใด พวกเขาก็จะมองไม่เห็น แต่หากพวกเขาไม่ถอยไป ก็กลัวกู้ชูหน่วนจะโมโห แล้วเลิกเขียนไปกะทันหัน ถึงเวลานั้นจะเสียหายหนักกว่าเดิม ทำได้เพียงแค่ถอยไปพร้อมกัน ในระหว่างที่กู้ชูหน่วนกำลังไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ชิงเฟิงพลันปรากฏตัวขึ้นปุบปับ เขาทำความเคารพ แล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 583

    "หากพระชายาเขียนตามแบบฉบับนี้และเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องกลับมาที่จวนหานอ๋องอีก" "ขอรับ…" ชิงเฟิงรับคำสั่งด้วยใบหน้าสลด ตั้งแต่ที่พระชายาเข้ามาในจวนอ๋อง เขาก็ไม่เคยได้มีชีวิตที่สงบสุขเลยสักวัน เจี้ยงเสวี่ยรีบโพล่งออกมา "นายท่าน ข้าน้อยจะรีบไปบอกให้เรือนชาลฟ้าดำเนินการสืบหาก่อน" ไม่รอเย่จิ่งหานตอบตกลง เจี้ยงเสวี่ยก็แผ่นแน่บออกไปทันที ชิงเฟิงได้แต่นิ่งอึ้ง เหตุใดเขาถึงได้ลืมวิธีนี้ไปอีกแล้ว ต่อไปเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพระชายา เขาก็จะรีบเปิดแน่บไป ทิ้งปัญหาไว้ให้กับเจี้ยงเสวี่ยบ้าง ณ คฤหาสน์หลังหนึ่งในเมืองหนานเฉิง นิ้วเรียวขาวดุจหยกของหัวหน้าเผ่าหมอ ปลายนิ้ววาดผ่านเรื่องสั้นหน้าแล้วหน้าเล่า ใบหน้าที่ร้ายกาจมุ่นคิ้วเป็นระยะ บ้างก็อมยิ้ม บ้างก็เสียใจ อารมณ์เปลี่ยนแปลงไปตามเนื้อหา ในที่สุดเขาก็อ่านจนจบ เขาขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่พอใจ "ที่เหลือเล่า" "นายท่าน บ่าวรับใช้ยังไม่ส่งมา คงใกล้มาถึงแล้ว" “จะช้าเกินไปหรือเปล่า ในเมื่อเดินช้าเช่นนี้ จะเก็บขาเขาไว้ทำไม ตัดทิ้ง แล้วส่งผู้ที่รวดเร็วกว่าไป” "ขอรับ" เซวี่ยซาปาดเหงื่อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 582

    ต้องรู้ก่อนว่านางเอกหยางฉู่รั่วไม่เพียงแต่มีสัมพันธ์กับเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อ ยังมีสัมพันธ์กับพระรองเฟิงหลิง ที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีสัมพันธ์กับเฟิงหลิงบนเตียงของฉู่หนิงเฉินอีกด้วย เขียนให้ฉู่หนิงเฉินไร้ประโยชน์ขนาดนี้ นายท่านของพวกเขาเป็นถึงผู้ใด ฉู่หนิงเฉินจะเทียบได้อย่างไร เย่จิ่งหานรู้สึกว่าชิงเฟิงพูดถูก แต่ก็เหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง ระหว่างที่มองตัวหนังสือเหล่านั้น เขาก็พึมพำกับตัวเอง "นางใช้หยางฉู่รั่วเป็นร่างสมมติของตัวเอง จงใจจะให้ข้าอ่านเรื่องนี้ ให้ข้ารู้ว่านางต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ให้ข้าทะนุถนอมนางหน่อยเช่นนั้นหรือ" ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยกระตุกมุมปาก หยางฉู่รั่วตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง อ่อนแอบอบบาง พระชายาของพวกเขาใช่ผู้ที่ใจดีอ่อนแอ ปล่อยให้คนรังแกได้เสียเมื่อไหร่ แต่ไหนแต่ไรมาก็มีแต่พระชายารังแกผู้อื่น ยังไม่เคยเห็นผู้ใดจะทำให้พระชายาเสียเปรียบได้ แม้แต่นายท่านของพวกเขาก็ถูกพระชายาควบคุมบงการครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่มีวิธีต่อกรกับนางเลยสักนิด "พวกเจ้าว่า เฟิงหลิงในเรื่องที่พระชายาเขียนคือผู้ใด หัวหน้าเผ่าหมอหรือว่าเซียวอวี่เชียน?" "เรื่องนี้...นายท่าน ไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 581

    หากเป็นเยี่ยงนี้ เช่นนั้นนางขอปฏิเสธที่จะเขียน แล้วคิดหาหนทางอื่นเพื่อให้ได้ปิ่นระย้าหยกขาวมาครองดีกว่า อาจเพราะสายตาของนางดูแน่วแน่เกินไป น้ำเสียงของซ่างกวานฉู่จึงอ่อนลงมาเล็กน้อย "เช่นนั้นก็ทั้งเมืองหลวงแล้วกัน ห้ามต่อรองอีก ไม่เช่นนั้นจะยึดรางวัลคืน" "อีกอย่าง ต้องเขียนเรื่องด้วยความตั้งใจ ห้ามจบแบบขอไปที ไม่เช่นนั้นรางวัลก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน" กู้ชูหน่วนได้แต่กัดฟันตอบรับ "ได้" ช่างเถอะ เพื่อปิ่นระย้าหยกขาว นางจะสู้สุดแรง วันนี้ทั้งวัน กู้ชูหน่วนเร่งมือเขียนเรื่องด้วยความรวดเร็วที่สำนักบัณฑิตหลวง เพราะเรื่องที่นางแต่งยอดเยี่ยมยิ่งนัก เหล่าบัณฑิตล้วนแต่ถูกดึงดูดจนติดหนึบ บัณฑิตคนอื่นๆ ต่างก็เขียนต่อไม่ได้แล้ว แม้แต่กู้ชูอวิ๋นเองก็เขียนต่อไม่ได้ ทุกคนล้อมวงดูนางเขียน มีบางคนถึงขนาดที่คัดลอกทุกตัวอักษรที่กู้ชูหน่วนเขียน เพื่อส่งไปให้คนในครอบครัวของตนอ่าน ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนเขียนเสร็จหนึ่งแผ่น จะมีคนเก็บรวบรวมเพื่อนำให้ไปอาจารย์ซ่างกวานอ่านโดยเฉพาะ นานๆ ทีอาจารย์ซ่างกวานจะอยู่โต้รุ่งไม่ยอมกลับ เขานั่งอยู่ในห้องเรียนตลอด เพื่อรอต้นฉบับของกู้ชูหน่วน ก่อนหน้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 580

    ทุกคนล้วนแต่รู้สึกดึงดูดจนดึงสติกลับมาไม่ได้ไปชั่วขณะ บ้างก็น้ำตารื้น ปาดน้ำตาไม่หยุด พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น "เรื่องที่หานอ๋องเฟยเขียนช่างอนาถยิ่งนัก นางเอกเดิมเป็นที่รักของทุกคน แต่เมื่อผลัดเปลี่ยนรัชกาล ก็ถูกพาตัวเข้าวังไปทรมานตั้งแต่สิบขวบ ทั้งยังต้องคลอดลูกชายของทรราชอย่างเซวียนหยวนจิ่นเจ๋ออีก ตอนที่นางถูกรังแกเพิ่งจะอายุได้สิบขวบ เรื่องโหดร้ายทารุณเช่นนั้น เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อทำลงได้อย่างไร" "ข้าคิดว่าพี่ชายทั้งเจ็ดของนางเอกหยางฉู่รั่วช่างน่าเวทนายิ่งนัก ทุกคนล้วนแต่มีความสามารถโดดเด่น เก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋น แต่กลับต้องตายอย่างทรมาน อีกทั้งตระกูลหยางทั้งตระกูล เป็นตระกูลที่จงรักภักดีแท้ๆ เซวียนหยวนจิ่นเจ๋อช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก" "ไม่ ที่น่าเวทนาที่สุดคือลูกชายของหยางฉู่รั่ว เดิมทีเขาควรเป็นรัชทายาท แต่เพราะเซวียนหยวนจิ่นเจ๋อไม่ยอมรับเขา ถึงได้มีชีวิตที่เทียบไม่ได้กับกระทั่งข้าทาสในวังหลวง ตั้งแต่เกิดออกมาก็ต้องอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ต้องทนหิวและหนาวเหน็บทุกวันคืน แต่เขาก็ไม่เคยตัดพ้อ เก็บของกินไว้ให้หยางฉู่รั่วทุกครั้ง เด็กคนนี้ ช่างรู้เดียงสาจนทำให้คนสงสารจับใจ" "นั่นน่ะสิ เขาถูก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status