แชร์

บทที่ 903

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“เดิมทีข้าก็ไม่ดีอะไร เพียงแต่เสด็จแม่คิดว่าข้าดีก็เท่านั้น ดูท่าแล้ว บางทีข้าอาจเหมาะกับการอยู่เพียงคนเดียว”

“อันที่จริงหลายปีที่ผ่านมาข้าอยู่คนเดียวก็ดีมากนัก เดิมทีก็ไม่ควรคาดหวังอะไร ที่ควรพยายามข้าก็พยายามแล้ว สรุปคือหากไม่สำเร็จก็ไม่เสียใจ”

ใบหน้าฉู่จวินถิงปรากฏรอยยิ้ม เสียงเรียบเฉยอย่างมาก เพียงแต่รอยยิ้มนั้นในสายตาของฮองเฮา ไม่ว่ามองอย่างไรก็คือกำลังฝืน

เหตุใดกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?

เดิมทีลู่หมิ่นฮุ่ยคิดว่าไม่เป็นไร ทว่าได้ฟังดูก็เริ่มเชื่อ ด้วยเงื่อนไขของแม่นางซ่ง เดิมทีก็ไม่จำเป็นต้องหาคู่ครองจริงๆ

“ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยพูดไปแล้ว แม่นางซ่งมีความสามารถถึงเพียงนี้ เจ้าจะต้องคว้าเอาไว้ให้ดีๆ เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้?”

“หลายปีมานี้เจ้าล้วนอยู่อย่างโดดเดี่ยว เดิมทีก็ไม่มีประสบการณ์เกี้ยวพาสตรี หนำซ้ำหน้าตายังเย็นชา ทำให้แม่นางตกใจกลัววิ่งหนีไปก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด”

“เจ้ารีบพูดเถอะ ใช่หรือไม่ว่าทะเลาะกันรุนแรง ยังมีทางแก้หรือไม่?”

ฉู่จวินถิงส่ายหน้าและพูดว่า “ท่านน้า ข้ารู้แต่ไหนแต่ไรมาท่านดีต่อข้ามาก เรื่องนี้ข้าพยายามจนถึงที่สุดแล้ว”

“นั่นจะได้อย่างไร? ได้ผู้ที่ทุกคนต่าง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1254    

    ญาติผู้พี่ช่วยนางไว้จริง ๆ หากเมื่อวานไม่ได้จัดงานเลี้ยงจวน แล้วญาติผู้พี่บังเอิญเห็นเข้า เกรงว่าอีกไม่นาน นางก็คงจะหมดแรงกู้สถานการณ์แล้ว “ว่ามาเถิด ทั้งหมดนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” สายตาของซ่งรั่วเจินจับจ้องไปที่ฉวีเซิน “เจ้าในฐานะผีหิวราคะตนหนึ่ง ถึงจะตายเพียงสองปี แต่ความยึดติดกลับลึกซึ้งไม่น้อย” “ตามหลักแล้ว จากสภาพแวดล้อมตอนที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ต่อให้จะล่อลวงก็คงจะล่อลวงสตรีชาวบ้าน คงไม่ล่อลวงคุณหนูตระกูลผู้ดี” นี่ไม่ใช่การแบ่งแยกชาติตระกูล แต่เป็นเพราะวิญญาณ แม้ว่าจะตายไปแล้ว สิ่งที่เขาคุ้นเคยก็ยังคงเป็นสภาพแวดล้อมที่เคยอาศัยอยู่มาก่อน สตรีที่หมายตาก็ย่อมต้องเป็นผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกันกับเขา ฉวีเซินมองซ่งรั่วเจินที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาแฝงไปด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขาไม่คาดคิดเลยว่าสตรีตรงหน้าจะตบะล้ำลึกถึงเพียงนี้ แค่เพียงยันต์หนึ่งแผ่นลวก ๆ ก็ทำให้เขากลับคืนร่างเดิมและกักขังไว้ที่นี่ จนขยับเขยื้อนไม่ได้เลย! ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าข้างกายกู้เจาย่วนมีคนเก่งกาจเช่นนี้อยู่ เขาคงไม่ลงมือกับนางแน่ ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ตัวเขาเองเกรงว่าจะ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1253    

    “ตั้งสติให้ดี อย่าตกใจกลัวไป” ขณะที่ซ่งรั่วเจินเปิดตาทิพย์แทนทั้งสอง ก็เอ่ยเตือนขึ้นประโยคหนึ่งว่า บนโลกนี้ นอกจากผู้ที่มีพรสวรรค์พิเศษ ย่อมไม่อาจมองเห็นวิญญาณได้ ตาทิพย์นั้น สำหรับใครหลายคนแล้ว ไม่มีเป็นเรื่องที่ดีเสียกว่า เพราะเมื่อมีตาทิพย์ แต่กลับไม่มีวิธีรับมือกับวิญญาณได้อย่างเหมาะสม เช่นนั้นชีวิตก็จะตกอยู่ในความหวาดกลัวไม่รู้จบ เมื่อกู้ฮวนเอ๋อร์และกู้เจาย่วนได้ยินว่าตาทิพย์ ในใจก็สะดุ้งวาบ และมีความสงสัยใคร่รู้ไม่น้อย พวกนางอยากรู้จริง ๆ ว่าโลกหลังจากที่ได้ใช้ตาทิพย์แล้วจะเป็นเช่นไร โลกตรงหน้าราวกับมีการเปลี่ยนแปลงในพริบตา นอกจากทิวทัศน์ที่เห็นเป็นปกติแล้ว พวกนางยังสามารถมองเห็นพลังวิญญาณที่ไหลเวียนอยู่ระหว่างฟ้าดินได้อีกด้วย สีของพลังวิญญาณนี้ต่างกันออกไป ส่วนสุสานตรงหน้ากลับแผ่พลังงานมืดออกมาเป็นสาย ๆ กู้ฮวนเอ๋อร์หันไปมองทางกู้เจาย่วนด้วยความสงสัย เป็นดั่งที่คิด บนร่างของอีกฝ่าย นางเห็นพลังงานมืดสายหนึ่ง ก็เข้าใจไอมรณะที่ญาติผู้พี่พูดถึงก่อนหน้านี้ทันที ไม่คิดว่าจะชัดเจนถึงเพียงนี้! “ตาทิพย์นี่มันน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว!” กู้ฮวนเอ๋อร์อดไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1252    

    ซ่งรั่วเจินชะงักเล็กน้อย ก่อนหน้านี้แค่ได้ยินท่านป้าสะใภ้ใหญ่พูดว่าเขามีผู้มีพระคุณช่วยชีวิตคนหนึ่ง แต่นอกจากการตอบแทนบุญคุณนั้นแล้ว ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องอื่นใด สรุปแล้วเจ้าหมอนี่ยังมีอนุอีกคนงั้นหรือ? “ก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเจียงเย่นั่นละ ข้าเองก็ได้ยินจากเจาย่วนพูดวันนี้ เจาย่วนบอกว่าสตรีนางนั้นตั้งใจวิ่งมาบอกว่านางกับเจียงเย่มีสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากันแล้ว หวังว่าเจาย่วนจะยินยอมรับนางไว้” กู้ฮวนเอ๋อร์เบะปาก “ข้าว่านะ สตรีนางนั้นเจ้าเล่ห์นัก ถ้าเป็นสตรีใสซื่อจริง ๆ ละก็ อย่าว่าแต่จะสมสู่กันโดยไม่มีผู้ใหญ่รับรู้เลย ยิ่งไม่มีทางเป็นฝ่ายมาหาเจาย่วนเพื่อพูดเรื่องนี้เองหรอก” “นี่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีอะไร เอ่ยขึ้นมาก็น่าอับอาย นางอยากให้เจาย่วนอนุญาตให้นางเข้าจวนที่ใดกัน อยากทำลายงานแต่งของเจาย่วนกับเจียงเย่ชัด ๆ” ซ่งรั่วเจินก็เพิ่งเข้าใจ และพบว่าเรื่องนี้แตกต่างจากที่ท่านป้าสะใภ้ใหญ่เล่าไว้อย่างชัดเจน “วันนี้ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ก็เคยพูดเรื่องนี้กับข้า บอกว่าเจียงเย่ซาบซึ้งในบุญคุณที่ช่วยเหลือชาวบ้านของถงซู จึงมอบเงินให้นางก้อนหนึ่ง ให้นางไปตามหาญาติของตนที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1251    

    เดิมทีจิตใจของกู้เจาย่วนย่ำแย่จนถึงที่สุดแล้ว ที่จริงตลอดเวลาที่ผ่านมา จิตใจของนางล้วนย่ำแย่มาตลอด จากจิตใจที่เปี่ยมด้วยความยินดีเฝ้ารอให้เจียงเย่กลับมา จนแม่นางถงบอกนางว่า ระหว่างพวกเขามีสัมพันธ์ฉันผัวเมียกันมาเนิ่นนานแล้ว เจียงเย่เป็นคนที่นางเก็บไว้ในใจมาตลอดหลายปีเช่นนี้ ไม่เคยคิดเลยว่า จะมีวันที่เขาทรยศนาง ก่อนแต่งงานก็เลี้ยงอนุไว้ ถึงขั้นยังคิดจะปิดบังนาง ปิดบังทั้งตระกูลกู้มาตลอด นางหลั่งน้ำตาอย่างเงียบงันเพราะเหตุนี้ เดิมทีอยากจะไปคุยกับฮวนเอ๋อร์ ทว่าเห็นค่ายทหารเกิดเรื่อง ฮวนเอ๋อร์เป็นห่วงอวิ๋นอ๋องอยู่ทั้งวัน นางจึงมิอาจเอ่ยปากได้ ทำได้เพียงครุ่นคิดเงียบ ๆ อยู่ผู้เดียว เพียงแต่ นางยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด ความปรารถนาทั้งหมดล้วนกลายเป็นภาพลวงตา นางถึงขั้นอยากจะหลบไป ไม่ต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างอีก บังเอิญที่ในเวลาเช่นนี้ นางได้พบกับฉวีเซินในความฝันพอดี เขาสุภาพอ่อนโยน ทำให้รู้สึกราวกับได้อาบสายลมฤดูใบไม้ผลิ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความอดทนในการรับฟังความทุกข์และความกลัดกลุ้มของนาง นางค่อย ๆ ถลำลึกลงไปในความอ่อนโยนเช่นนี้ รู้สึกราวกับว่าบุรุษผู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1250  

    กู้เจาย่วนสีหน้าเต็มไปด้วยความซับซ้อน ยังคงไม่กล้าเชื่อเหมือนเคย “นะ…นี่มันเหลือเชื่อเกินไป ข้าเห็นเขาทุกวัน ผีที่ไหนจะสามารถทำถึงขั้นนี้ได้?” เมื่อก่อนนางคิดมาตลอดว่าเรื่องผีสางเป็นแค่นิทาน แค่ฟังไว้ก็เท่านั้น ไม่มีทางเป็นจริงไปได้แน่ แต่บัดนี้คนที่เจอผีหลอกเข้าจัง ๆ กลับเป็นนางเสียได้! “เจ้าคงเผลอรับเอาอะไรบางอย่างมาจากเขากระมังถึงได้มีสายใยเชื่อมโยงกับตัวเขา” “อันที่จริงก็มีหลายคนที่เคยประสบพบเจอเรื่องทำนองนี้มาเหมือนกับเจ้า พบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมายในความฝัน แต่โดยส่วนมากพอวันรุ่งขึ้นตื่นเช้ามาก็จะลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปจนหมด จึงไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับชีวิต” “แต่ทว่า…ในกรณีของเจ้าซึ่งจดจำทุกอย่างได้ชัดเจน มิหนำซ้ำยังถึงขั้นตั้งใจไปตามหา ซึ่งแบบนั้นก็เข้าทางเขาเต็มเปา” กู้เจาย่วนเงียบไปนานครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “ญาติผู้พี่ หากไม่ได้ท่านยื่นมือมาช่วยเหลือ หากเมื่อวานท่านไม่ได้ขอให้ท่านแม่มอบยันต์คุ้มภัยนี้ไว้กับข้า ผลลัพธ์สุดท้ายของข้าจะลงเอยเช่นไรหรือ?” หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาพูดเรื่องนี้กับนาง แน่นอนว่านางไม่มีวันเชื่อว่าเป็นความจริงอย่างเด็ดขาด เพียงแต่ นางกระจ่างแจ้งในควา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1249  

    พอได้ยินคำพูดของซ่งรั่วเจิน กู้ฮวนเอ๋อร์และกู้เจาย่วนหันกลับไปมองอีกครั้ง เห็นเพียงสายหมอกสีเขียวจาง ๆ ระลอกหนึ่งพาดผ่านไป จุดที่เคยเป็นเรือนในตอนแรกบัดนี้หายสาบสูญไปแล้ว และสิ่งที่ปรากฏกลับกลายเป็นสุสานขึ้นมาแทน เสี้ยวพริบตาที่เห็นสุสานนี้ กู้ฮวนเอ๋อร์กรีดร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “กรี๊ด!” นางรีบหนีไปหลบหลังซ่งรั่วเจินทันที แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด วันนี้นางยอมเสียสละเอาชีวิตมาเสี่ยงตายเพื่ออยู่กับเจาย่วน ใช้ความกล้าทั้งหมดที่มีไปแล้วจริง ๆ แววตาของกู้เจาย่วนสะท้อนประกายเหลือเชื่อออกมา “เรือนมันหายไปได้อย่างไร?” “พวกเจ้าลองดูให้ละเอียดอีกครั้งสิ” ซ่งรั่วเจินพูดอีกครั้ง กู้ฮวนเอ๋อร์พินิจมองสุสานตรงหน้าอย่างละเอียด จนกระทั่งค้นพบอักษรที่เขียนไว้บนป้ายหลุมศพ ก็หันขวับไปมองกู้เจาย่วนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “หลุมศพของฉวีเซิน?” กู้เจาย่วนเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก หัวใจเหมือนถูกคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้นางแยกไม่ออกว่าภาพตรงหน้าคือความจริงหรือว่าเป็นความฝัน “จะเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร? นี่คือวิชาพรางตาหรือ? อยู่ดี ๆ เรือนจะกลายเป็นสุสานได้อย่างไร?” กู้ฮ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status