ชีวิตรันทด น่าอเนจอนาถไม่มีใครเกิน ใบบัว!!เกิดมาอาภัพไม่พอ... ยังถูกยกให้เป็นบรรณนาการแก้ขัด...เพื่อขัดดอก...ที่ตัวเองไม่เกี่ยวข้อง... ซ้ำร้ายหล่อนยังเจอมหาเศรษฐีสุดหื่น! เขาใช้เธอคุ้มทุกบาททุกสตางค์ ให้พอกับที่ต้องรอ... แต่...บรรณาการครั้งนี้...มันคือทัณฑ์บรรณนาการที่แสนหวาน…ระอุร้อนไปด้วยไฟพิศวาส... รุ่มร้อนไปด้วยไฟปรารถนา...เมื่อบรรณาการครั้งนี้ฉุดหัวใจแข็งกระด้าง...จนอ่อนปวกเปียก... ฟาบรีช ดีคอร์เนอร์ เจ้าของคาสิโนสุดร่ำรวย ยอมแพ้โชคชะตา...เขาหวังครอบครองบรรณนาการที่ได้รับมาตลอดชั่วชีวิต...กักหล่อนไว้ในอ้อมกอด ร้อยรัดด้วยไฟรัก...ตราบนิจนิรันดร์
View Moreบทที่1.สาวน้อยผู้อาภัพ
บ้านสีขาวขนาดสองชั้น ปลูกติดริมถนนใหญ่ ประตูรั้วเป็นต้นไม้พุ่มหนา ด้านในเป็นกำแพงอิฐสีเข้มมีไว้ป้องกันโจรอีกชั้น เนื้อที่รอบบ้านมีอาณาเขตมากพอที่จะปลูกไม้ดอก และไม้ประดับได้ แต่ส่วนมากที่มองเห็นแออัดด้วยดอกไม้กอเล็กๆ เป็นส่วนใหญ่ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของพันเอกประพจน์ กับภรรยาคู่ทุกข์ นางแจ่มจันทร์ สุขแสวง ตัวภรรยาเปิดร้านขนมอบอยู่ในตลาด และลูกชายคนเล็กกำลังเป็นนักเรียนอยู่ในโรงเรียนนายร้อย ส่วนลูกสาวสุดสวย ชื่อพิศตรากำลังเป็นนักศึกษาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย คนสุดท้ายที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาบ้านหลังนี้ด้วย...คือเด็กสาววัยละอ่อน หน้าตาจิ้มลิ้ม ใบบัว สุขแสวง เด็กสาวที่เป็นกาฝาก ในสายตาของทุกคน...
และไม่มีชีวิตใคร...น่าเวทนาได้เท่ากับใบบัว สุขแสวง เด็กสาวที่เกิดมาอาภัพตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเติบใหญ่ บิดา มารดาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เธอเลยต้องมาอยู่ใต้การดูแลของลุง แต่...ก็ไม่ต่างอะไรกับคนใช้หรอก เมื่อตั้งแต่ลืมตา จนถึงนอนหลับในห้องเล็ก ที่ถูกสร้างขึ้นลวกๆ ต้องทำงานแลกข้าว แลกการได้ออกไปเรียนหนังสือนอกบ้าน เพราะเธอเป็นแค่กาฝากที่เพิ่มภาระให้กับเจ้าของบ้าน ลุงประพจน์เป็นพี่ชายของบิดาเธอ เป็นนายทหาร...มียศนายพันและกำลังจะเลื่อนขั้นเป็นนายพลในอีกไม่กี่ปี แจ่มจันทร์ภรรยาของท่าน เป็นแม่บ้าน แต่ก็มีกิจการร้านขนมเป็นของตัวเอง ใบบัวกลับจากโรงเรียน...ก็ต้องรีบกระวีกระวาด...สายตัวแทบขาดในแต่ละวัน เริ่มจากการทำความสะอาดบ้าน และรีบออกไปเป็นลูกมือทำขนมในร้าน ผิดกับบุตรสาว และบุตรชายของลุงกับป้า เขาใช้ชีวิตเหมือนลูกคุณหนูทั่วไป ไม่หยิบ ไม่แตะงานบ้านอะไรเลย แม้แต่แค่การรินน้ำดื่ม เธอจึงเป็นลูกไล่ให้พิศตรา แต่ใบบัวก็จำต้องทน เมื่อเธอไม่มีที่ไป
“บัว บัว...อีบัว! เอาน้ำเย็นๆ มาให้ฉันกินหน่อยสิย่ะ” เสียงตวาดที่ค่อยๆ ทวีความดังขึ้น เสียงแหลมปรี๊ดของ พิศตรา หรือคุณผิง ลูกสาวคนโตของลุงกับป้า เธอแผดเสียงก้องตะโกนเรียกใบบัว จนหญิงสาวต้องรีบละมือจากงานที่ตัวเองกำลังทำ “คุณผิงคงพึ่งกลับมาจากวิทยาลัยฯ” ใบบัวพูดกับตัวเองเสียงอ่อนๆ รีบกระวีกระวาดจัดเตรียมสิ่งที่เธอต้องการไปให้
“เบาๆ ก็ได้พี่ผิง...ยังไงบัวก็เป็นน้องเรานะ เรียกจิกหัวแบบนั้นน่ะ คนนอกได้ยินเขาจะว่าได้ว่าพี่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดี” พัฒนะ บุตรชายคนเล็กของแจ่มจันทร์แย้งเสียงขุ่น เขากำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหารมีความเมตตาให้กับใบบัวในระดับหนึ่ง
“หุบปากไปเลยนะตาพัฒ!...อีบัวนะ! ถ้าไม่กดมันไว้ มันลำพองตายเลยล่ะ โธ่เอ๋ย! หลานคุณพ่อ มีแต่ตัวมาแท้ๆ คุณแม่รับเลี้ยงไว้ก็บุญหัวแล้วล่ะย่ะ”
“ผมไม่เห็นบัวเขาจะเป็นแบบนั้นเลย พี่นั่นแหละ...ทำเหมือนบัวเป็นแค่คนใช้”
“มีแต่ตัวมาแบบนั้นน่ะ ทำงานแลกข้าวแลกน้ำให้เราแทนสิ” หญิงสาวยังไม่วายแย้ง “แกเองก็เถอะ... เห็นมองมันตาเป็นมัน หากคิดจะเอามันมาทำเมีย คุณแม่แหกอกแกแน่ตาพัฒ”
“บ้า! ใครจะไปคิดอะไรอกุศลพรรณนั้น ผมไม่ได้ตาต่ำขนาดนั้นหรอกน่าพี่ผิง...ข้างนอกนั่นมีแต่คนสวยๆ ให้เกลื่อนไปหมด ทำไมต้องมองเด็กกะโปโลอย่างบัวด้วยล่ะ”
“ดีแล้วล่ะ...แต่ถ้าแกจะแอบกินมัน...ก็ได้นะย่ะ แต่อย่าให้คุณแม่กับคุณพ่อรู้”
พิศตราพูดลอยๆ ใบบัวสะสวยไม่ใช่เล่น ผิวของหล่อนขาวนวลเป็นยองใย ผิวสีขาวเหลือง เหมือนมารดาที่เป็นคนเหนือแต่กลับละเอียดเนียนไม่ตกกระจนน่าเกลียด พิศตราแอบอิจฉาในใจลึกๆ ขนาดมันอยู่แต่ก้นครัว... กินแค่กับข้าวเหลือๆ มันยังผุดผาดบาดตาชวนมองได้ เธอเลยจัดงานหนักๆ ให้ทำ แถมเหยียดหยันด้วยคำพูดแดกดันทุกวัน ไม่รู้สึกกดดันหรือน้อยเนื้อต่ำใจก็ให้มันรู้ไปสิ และสิ่งที่เธอทำสำฤทธิ์ผล ใบบัวกลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่เผยอหน้าสู้เธอให้ระคายตา
“น้ำค่ะคุณผิง” หญิงสาววางแก้วน้ำเย็นเฉียบไว้ตรงด้านหน้าหญิงสาวโสภา แล้วค่อยๆ ถอยหลังไปยืนสงบอยู่ด้านหลัง
“อ้อยสร้อยอะไรอยู่ย่ะ ทำไมเพิ่งมา!” พิศตราตวาดแว๊ด! เธอรีบยกแก้วน้ำเย็นเฉียบขึ้นจิบ
“เปล่าค่ะ...บัวกำลังช่วยพี่อุ่นเตรียมมื้อเย็นอยู่ เสร็จนี่ก็จะรีบออกไปช่วยคุณป้าที่ร้านอีก” สาวน้อยอธิบายเสียงเรียบ
“ชิ! ตามสบายเธอย่ะ...อย่าลืมล่ะ...ชุดฉันน่ะ...รีดให้ด้วย” พิศตราโยนภาระทุกอย่างของตัวเอง ให้ใบบัวรับผิดชอบ เธอโฉบฉายไปวันๆ กรีดกรายทำตัวเป็นคุณหนู และใบบัวก็ต้องจำทน เมื่อไม่อยากให้คุณลุงร้อนหูเพราะคำพูดกระทบกระเทียบของภรรยา
“ค่ะ” เธอเตรียมจะเดินหนี เมื่อเสร็จธุระ ใบบัวรู้สึกว่าพัฒนะมองเธอแปลกๆ เธอเลยพยายามอยู่ห่างๆ เขา
“เดี๋ยวสิบัว...จะรีบไปไหน อยู่คุยกันก่อนสิ”
มือแข็งแรงเอื้อมมายุดแขนเอาไว้ เธอขืนตัวและค่อยๆ ปลดมือของชายหนุ่มออกไปแบบไม่ให้น่าเกลียด
“บัวมีงานต้องทำค่ะ...คุณพัฒมีอะไรจะใช้บัวไหมคะ?”
“เปล่า...แค่อยากถาม สบายดีไหม? เหนื่อยหรือเปล่า เห็นทำงานไม่หยุดเลย” พัฒนะก้มมองปลายนิ้วตัวเอง ผิวของใบบัวอุ่นซ่าน และมันทำให้เลือดหนุ่มระอุร้อน
“ชินแล้วค่ะ บัวสบายดี แค่นี้ใช่ไหมคะ บัวต้องรีบออกไปช่วยคุณป้าที่ร้านอีก”
ใบบัวรีบหาทางเลี่ยง เธอรู้สึกอึดอัดกับสายตาของชายหนุ่ม มันแวววาวแปลกๆ
พัฒนะมองตามใบบัวไปจนลับตา เขาหรี่ตาและคิดหาทางครอบครองใบบัวให้ได้ ผู้หญิงหัวอ่อนอย่างใบบัว หล่อนไม่มีที่ไป และคงไม่กล้าโวยวายหากพลาดท่า กลิ่นสาปสาวหอมกรุ่น... เธอสะอาดและเวอร์จิ้น เมื่อเขาและเธอเติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กัน หากใบบัวจะทดแทนคุณมารดาเขาด้วยพรหมจรรย์ มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี...
“บัว...พี่เตือนด้วยความหวังดีนะ อยู่ห่างๆ คุณพัฒไว้...มันอันตราย” อุ่นแม่บ้านสาวใหญ่วัย40กว่าๆ เธอสังเกตเห็นสายตาของลูกชายคนเล็กของบ้าน สายตาคู่นั้นวาววามแปลกๆ และมันไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กสาวใสซื่ออย่างใบบัว
“บัวรู้จ้ะพี่อุ่น...บัวระวังตัวอยู่ แต่...” เธอถอนใจเฮือกๆ ไม่รู้จะรอดได้สักกี่น้ำ เมื่อชายหนุ่มจ้องหาโอกาสกับเธอตลอด แถมที่พักก็ไม่ค่อยปลอดภัย
“เอ่อ...ไว้ผัวพี่กลับมาบ้าน จะให้เข้ามาซ่อมกลอนประตูให้บัวนะ มันร่องแร่งเต็มทนแล้วใช่ไหม?” เหมือนอุ่นมานั่งอยู่กลางใจหญิงสาว เธอเวทนาและเห็นใจ แต่ยื่นมือเข้าไปช่วยมากก็ไม่ได้ มันอาจจะสะเทือนถึงงานที่ตัวเองทำ เพราะยังต้องอาศัยบารมีของคุณนายแจ่มจันทร์เพื่อปากท้องตัวเองอยู่
“ขอบคุณค่ะพี่อุ่น” หญิงสาวเสก้มหน้า ความอึดอัดคับข้องใจแน่นอก ระบายให้ใครฟังก็ไม่ได้เมื่อเหมือนอยู่ตัวคนเดียว
“อืม...มีอะไรบอกพี่ล่ะ ช่วยได้ก็ต้องช่วยกันไป...” อุ่นพูดย้ำ เธอรู้ดีว่าใบบัวกดดันแค่ไหน แต่ทำได้ก็แค่ปลอบโยน
“ค่ะ” ใบบัวเงยหน้าขึ้น เธอยิ้มรับทั้งที่น้ำตาเอ่อคลอ
สองสาวทำงานของตัวเองเงียบๆ จนเสร็จหน้าที่ตัวเอง อุ่นล้างไม้ล้างมือเตรียมตัวกลับบ้านเมื่อหมดหน้าที่ แต่ใบบัวยังต้องรีบออกไปช่วยงานที่ร้านขนมของแจ่มจันทร์ หน้าที่ของเธอยังไม่สิ้นสุด เพื่อแลกกับการได้ไปเรียนในวันเสาร์ อาทิตย์ เธอต้องทำงานหนักเพิ่มอีกเท่าตัว โดยไม่ได้รับเงินเดือน มีแค่ที่กิน ที่นอนกับเศษเงินนิดหน่อยติดก้นกระเป๋าไปเรียน แต่เธอก็มานะทน จนเหลืออีกไม่เท่าไรเธอก็สามารถเรียนจบชั้นมัธยมปลาย...ในโรงเรียนเปิด ที่คนอยากเรียนแต่ไม่มีโอกาสใช้เป็นทางเลือก...
“ไงบัว นั่งเงียบเชียว?” เสียงร้องทักขณะที่เธอพึ่งทำงานเสร็จ
“พี่กันสวัสดีค่ะ บัวกำลังออกไปที่ร้านพอดีเลย... เดี๋ยวบัวขึ้นไปตามคุณผิงให้นะคะ เธอกลับมาแล้วค่ะ”
กัน ชยังกูร สส อนาคตไกล เขาเป็นหนุ่มไฟแรง พื้นฐานทางบ้านดี เลยเข้านอกออกในบ้านสุขแสวงได้เพราะประตูบ้านนี้เปิดตอนรับเขาตลอดเวลา ความใจดีของกันเผื่อแผ่มายังเธอด้วย เขาเป็นตัวตั้งตัวตีที่ทำให้เธอได้เรียนต่อ แม้คุณนายแจ่มจันทร์จะพยายามค้าน
“เดี๋ยวบัว!...ไม่ต้องหรอก พี่แค่แวะมาหาบัว อยากมาบอกข่าวดีน่ะ มหาลัยที่บัวคิดจะเรียนต่อ เปิดรับสมัครนักศึกษาพอดี บัวสนใจจะลงเรียนเลยไหมล่ะ?...แค่มีเวลาอ่านหนังสือแค่นั้นเอง...บัวทำได้พี่รู้” เรื่องอ่านหนังสือใบบัวไม่เกี่ยง เธอชอบอ่านหนังสือทุกประเภท และกระตือรือร้นที่จะเรียนต่อให้สูงๆ ติดที่ไม่มีเงินนี่สิ รายจ่ายแบบจำกัดจำเขี่ย อดออมหลายเดือนกว่าจะได้เงินครบ เธอกลัวเกิดเหตุฉุกเฉินจนไม่มีเงินลงเรียนในปีการศึกษาต่อไป
“บัว...เอ่อ...”
“พี่รู้...พี่เลยหาทางช่วย มีคนรวยหลายคนอยู่ในตำบลเดียวกันกับบัว พี่จะออกหน้าขอทุนให้บัวเอง...”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น เธอยิ้มสดใส จนกันตาพร่า จากแรกเริ่มเขามองเธอเป็นเฉกเช่นน้องสาว เวลานี้ความรู้สึกเขาเปลี่ยนไป แม้ใบบัวจะจนยากแค้น...แต่นิสัยของเธอน่าคบ เป็นคนมีความทะเยอทะยาน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจกับทุกคน เป็นคนมองโลกในแง่ดี แม้จะถูกกดจนแทบจมดิน ในคราแรกๆ เขามาบ้านสุขแสวงเพราะติดพันพิศตรา แต่ยิ่งนานวันความรู้สึกของเขากับหล่อนยิ่งจืดจางลง พิศตราเป็นคนเห็นแก่ตัวและเจ้าเล่ห์ จนกันไม่คิดว่าถนนความรักจะไปกันได้รอด เมื่อเขาต้องทำงานรับใช้ชุมชน การมีหลังบ้านจิตใจคับแคบมันจึงไม่เหมาะสมสักเท่าไร
“ขอบคุณค่ะพี่กัน ขอบคุณๆ” ชายหนุ่มวางมือบนศีรษะของใบบัว เขาสงสารเธอและเริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกอย่างอื่น มันแทรกปนรวมอยู่ในความรู้สึกของตัวเองอีกด้วย...
“ทำอะไรกัน!” เสียงตวาดแวดๆ กับร่างระหงของพิศตราโผล่เข้ามาในสายตาของกัน ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจช้าๆ เริ่มเบื่อหน่ายพฤติกรรมของหล่อนหนักขึ้นทุกวัน
หญิงสาวเดินนวยนาดลงมาจากบันได พร้อมกับจ้องมองมาที่ใบบัวกับกันตาเขม็ง เธอรู้สึกว่ากันเปลี่ยนไป...เขาไม่ค่อยมาหาเธอ พอโทร. หาก็อ้างตลอดว่างานยุ่ง แต่กลับมีเวลาแวะมาคุยกับอีเด็กก้นครัวที่บ้านเธอแทบทุกวัน!
“บัวขอตัวนะพี่กัน คุณผิง...ได้เวลาออกไปทำงานที่ร้านแล้วล่ะค่ะ” รังสีอำมหิตแผ่ออกมาจากตัวพิศตรา จนใบบัวต้องรีบฉากหลบ ไม่อย่างนั้นเธอเป็นต้องร้อนหู
“บัวๆ อย่าลืมนะ” กันยื้อไว้ เขาย้ำและต้องการคำตอบ
“ค่ะ บัวไม่ลืม...ขอบคุณนะคะ” เธอตอบเสียงแผ่วๆ รีบก้มหน้าหลบสายตากราดเกรี้ยวของพิศตราแทบไม่ทัน เธอรีบเดินตัวงอหนีไป จูงจักยานเก่าๆ และรีบปั่นหนีไปก่อนที่ไฟพิโรธของพิศตราจะลุกโพลง
“พี่กัน...คุยอะไรกับอี...บัวคะ!!” หญิงสาวรีบกลืนคำพูดจิกหัวใบบัวไว้ เมื่อกันตวัดสายตาขุ่นๆ หันมามองเธอ
ชิ! แตะไม่ได้เลยนะ ไม่รู้ติดใจอะไรหนักหนา...หญิงสาวคิดในใจฉุนๆ
“เปล่า... แค่แวะมาบอกบัว มหาลัยฯ ใกล้เปิด ให้บัวเขาไปสมัครเรียนก่อน เดี๋ยวจะเสียโอกาส”
“โอ้ย! ให้มันเรียนทำไมนักหนาคะ...เปลืองเงินเปลืองทอง...ทุกวันนี้ก็เปลืองข้าวเปลืองน้ำจะแย่ แค่กาฝาก ทำสะเออะ!” พิศตราตวาดแว๊ด! สนับสนุนกันเข้าไป ไม่รู้ใบบัวมีอะไรดีหนักหนา ทำไมมีแต่คนรุมรักหล่อน ไม่เว้นแม้แต่กันว่าที่แฟนของเธอ
“ผิง! ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน หากเขาสามารถไปถึง บัวไม่ได้หัวขี้เลื่อยนะ ออกจะเรียนดีด้วย จบ กศน. ด้วยเกรดที่ผิงเห็นยังต้องอึ้ง...หากเรียนตามปกติ ผิงคงได้อายบัวนั่นแหละ” กันแย้ง ใบบัวมีสิทธิ์ที่จะฝัน ความจริงหากใบบัวได้เงินเดือนเหมือนคนงานคนอื่นของคุณนายแจ่มจันทร์ เธอจะไม่ขัดสนเลยเพราะเป็นคนอดออม แต่นี่เธอทำงานได้ก็แค่ที่ซุกหัวนอน กับอาหาร3 มื้อ ที่ก็ไม่ได้ดีเท่าไรด้วย!! เขาไม่อยากก้าวก่ายมากนัก เมื่อมันเป็นเรื่องภายในครอบครัว และใบบัวไม่เคยป่าวประกาศเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเอง
พิศตราตัวสั่น! กันไม่สมควรเอาอีเด็กก้นครัวนั่นมาเปรียบกับเธอ เธอคือบุตรสาวนายทหารใหญ่ ไม่ใช่เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่อย่างใบบัว
“คนอย่างอี...บัวไม่มีทางดีกว่าผิงหรอกค่ะ มันคนละชั้นกัน”
หญิงสาวยังคงยิ่งผยองและยังคงอวดดี แม้สิ่งที่เธอพยายามจะอวดเบ่ง แทบมองหาความดีไม่เจอเลย กันส่ายศีรษะ... เขาควรคิดใหม่ใช่ไหม? เกี่ยวกับเรื่องของพิศตรากับตัวเอง เขาจึงเริ่มเว้นระยะ ทำตัวห่างเหินและค่อยๆ ทิ้งช่วงห่างแบบเนียนๆ หล่อนคงจะรู้ตัวได้เอง เมื่อหล่อนเย่อหยิ่งจะตายไป ไม่ช้าพิศตราคงหาคนมาแทนที่เขาได้เองนั่นแหละ
“พี่ขอตัวนะผิง...ยังมีงานค้างอยู่อีกเยอะ” เมื่อธุระจบ เขาก็เตรียมตัวชิ่ง
“อะไรกันคะ? เราไม่ได้คุยกันมาหลายวันแล้วนะคะพี่กัน...หมู่นี้พี่กันห่างเหินผิงไปมาก รู้ตัวบ้างหรือเปล่าคะ?...แล้วถ้าหากผิงมีคนใหม่...พี่กันจะมาว่าผิงปันใจไมได้นะคะ” เธอพยายามรั้งกันไว้ แต่ก็ไม่วายแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาเสียอีก
“พี่งานยุ่งน่ะ แต่...ผิงเห็นคนอื่นดีกว่า พี่ก็ตามใจผิงนะ” กันตอบแกนๆ หากมีคนตาบอดหลงเข้ามาหาพิศตราสิ เขาจะได้ตีปีกดีใจ จะได้เลิกราแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น เมื่อเขาคงต้องแวะมาบ้านสุขแสวงอีกบ่อยๆ ในอนาคต แต่ไม่ได้มาเพื่อพิศตรา
“พี่กันพูดอย่างนี้ หมายความว่าไงคะ!!”
กันหน้าเคร่ง เขาอธิบายเสียงอ่อนๆ “พี่ก็แค่อยากให้ผิงเข้าใจ...หากพี่ดีไม่พอสำหรับผิง พี่ก็พร้อมจะหลีกทางให้ คนที่ดีกว่า และคู่ควรกับผิง”
“พี่มีงานรออยู่ ไว้ค่อยคุยกันนะ” ชายหนุ่มรีบตัดบท เขาเสียเวลาคุยกับพิศตรานานเกินไป เพราะหากหล่อนอาละวาด เขาคงไม่คิดที่จะทนกับความเอาแต่ใจของเธอ เมื่อก่อน...เขามองเห็นมันเป็นแค่มารยาที่น่ารักน่าใคร่ แต่พอนานวันเข้ามันก็ก่อเกิดเป็นความรำคาญ
“อ๋อ...ผิงเข้าใจแล้วคะ” หญิงสาวกัดฟันกรอดๆ การห่างเหินเป็นการบอกลาอ้อมๆ แต่เธอไม่มีวันที่จะให้เขารู้ว่าเธอเสียใจเด็ดขาด อยากจบ! ก็ดี เธอจะได้หาคนใหม่ที่ดีกว่า แล้วเธอจะควงมาเย้ยให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้ไร้ค่าจนไม่มีคนอื่นมองเห็น...
“พี่ขอตัวนะผิง”
กันรีบเดินหนี เพราะอีกไม่นานหรอกพิศตราคงอาละวาด ดีนะที่ใบบัวออกไปนอกบ้านแล้ว ไม่อย่างนั้นผู้หญิงน่าสงสารอย่างใบบัวคงถูกพิศตราลากเอามาเป็นกระโถน...
“กรี๊ดๆ”
กันส่ายศีรษะ เขาทันได้ยินเสียงกรีดร้องของพิศตราก่อนที่ประตูรถยนต์จะปิดงับลง ครอบครัวอบอุ่น มีพ่อ แม่ ครบ แต่ก็ไม่สามารถปลูกสร้างนิสัยดีๆ ให้กับบุตรหลานได้ หากคนในครอบครัวไม่ได้ดูแลซึ่งกันและกัน หลายครอบครัวที่พ่อ แม่รังแกบุตร เขาปลูกฝังค่าสำนึกผิดๆ ให้บุตรหลาน จนเติบโตขึ้นมาเป็นภาระสังคม เพราะคนจำพวกนี้มักจะแสดงความเห็นแก่ตัว ของตัวเองในทุกที่ และทุกโอกาส...
“เบาพี่ผิง พี่กันเขาเปิดแน่บไปแล้วเห็นไหม ไอ้เสียงกรี๊ดๆ นี่ผมขอได้ไหม? ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบหรอก”
พัฒนะโผล่หน้าออกมามอง เขาเอ่ยเตือนพี่สาวด้วยความหวังดี
“ไอ้พัฒ!! แกชอบอีเด็กนั่นใช่ไหม?” พิศตราตาลุกวาว เธอหรี่ตาลงเมื่อนึกอะไรๆ สนุกๆ ขึ้นมาได้ ให้น้องชายจัดการรวบหัวรวบหางอีกเด็กใบบัว...ดูสิจะยังมีใครสนใจมันอีกไหม ถ้าเหลือแค่กากเดนจากคนอื่น!
“พี่ผิงพูดอะไร? ไร้สาระน่า” ชายหนุ่มพุดปัดๆ เขารีบก้มหน้าหลบ
“ฉันเป็นพี่แก ทำไมฉันจะไม่รู้...เดี๋ยวฉันจะหาทางช่วยแกเอง...ให้แกฟัดอีบัวให้หนำใจ!”
ริมฝีปากสีสดแสยะยิ้ม เธออยากเห็นมันถูกกดจมดิน จนไม่มีหน้ามาเสนอให้เธอเห็น จนรู้สึกเจ็บใจเช่นนี้ เธอรู้ว่ากันเปลี่ยนไป เพราะ ใบบัว!
พัฒนะนิ่งเงียบ เขาไม่ปฏิเสธหรือตอบรับ ชายหนุ่มคิดในใจครึ้มๆ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังไงใบบัวก็เป็นแค่เด็กในบ้าน แม้จะเป็นญาติทางคุณพ่อ แต่ก็ไม่เห็นท่านใส่ใจ หากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ มารดาคงไม่ปล่อยให้เขาถูกทำโทษ และใบบัวเองก็สวยไม่ใช่เล่น เขาชอบแอบมองเวลาที่หญิงสาวเผลอตัว ใต้เสื้อยืดตัวหลวมๆ นั่น ใบบัวซ่อนทุกสิ่งที่ผู้ชายปรารถนาไว้ อาจจะสวยกว่าพี่สาวเขาด้วยซ้ำ เพียงแต่ใบบัวไม่เคยเปิดเผย
แต่เขารู้...
บทที่21.ตอนพิเศษ...ของใบบัวเป็นความสำเร็จที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับใบบัว...เกือบสี่ปีที่เธอภาคเพียร โดยมีฟาบริชเป็นคนคอยให้กำลังใจ เธอต้องเรียนหนักกว่าคนอื่นๆ เมื่อเธอต้องเริ่มต้นที่ภาษา แต่ไม่เคยทำให้คนสู้ชีวิตอย่างใบบัวท้อถอย...การเรียนเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของเธอ มันอยู่ในความคิดของใบบัวตลอดเวลา แม้จะมองดูริบหรี่เหลือแสน... ไม่มีอะไรสายไปหากเราขยันและอดทน...และหลังความเพียรพยายาม นั่นคือการประสบความสำเร็จ!! ฟาบริชยืนยิ้ม ในอ้อมแขนของเขามีเด็กชายอายุสามปีกว่าๆ เด็กชายฟาฮาน สายใยระหว่างเขากับใบบัว แม่บรรณการแสนสวย เด็กสาวนัยน์ตาเศร้าสลดเมื่อแรกเห็น...วันนี้หล่อนกลายเป็นภรรยาของเขา เป็นผู้หญิงที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามานั่งอยู่ในหัวใจ ไม่เคยมีเสียงต่อว่า มีแต่ความอดทนและจำยอม เขาแพ้หล่อน...แพ้ความดีของหล่อนอย่างหมดรูป ไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะมี ‘ครอบครัว’ ไม่เคยคิดฝัน ว่าตัวเองจะพบเจอกับคำว่า...ความรัก...
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เคลื่อนฝ่ามือขยับเคล้นคลึงเนินอกอวบอัด บีบบี้ขยี้ขยำด้วยความเมามัน ลากไล้ปลายนิ้วชี้กรีดตามผิวกายเรียบลื่น ตามผิวเนียนชื้นเหงื่อ ดูดซึมความหอมหวานของทรวงงาม ในขณะที่ร่างกายก็เสียดสีไม่หยุด...เสียงลมหายใจหอบโยนดังกึกก้อง เดเนียลไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน เขาร้อนเป็นไฟ ปานน้ำเดือดคลั่กๆ บนเตา เขาอยากมอบรสรักหวานหอม ให้พิทีเซียได้รู้จัก อยากแนบสนิทกับเธอทุกสัดส่วน จนตัวเองยังรู้สึกตระหนก“แค่เธอคนเดียวเท่านั้นพิชชี่” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแหบปร่า หญิงสาวอ้าปากพะงาบๆ เธอไม่ได้ตอบ เพราะกำลังหัวหมุนกับความรัญจวน จนเผลอครางกระเส่าเสียงแห้งๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเสียดเสียว ที่แผ่ซ่านไปตามผิวกาย เธอหรี่ตามองเดเนียล แววตาของพิทีเซียฉ่ำพราวเต็มไปด้วยไอปรารถนา“อย่าทำแบบนี้” แม้จะรู้ว่าไม่มีทางหยุดยั้งเขาได้ แต่พิทีเซียก็ยังพยายามเดเนียลตอบเสียงปร่า “อย่าห้ามฉันเลย...เธอก็รู้นี่ว่าเราควรเป็นแบบนี้ในสักวันหนึ่ง ไม่ใช่วันนี้... ก็ต้องเป็นพรุ่งนี้”อารมณ์หนุ่มกำล
“ปากเสีย!” หญิงสาวแก้เก้อให้ตัวเอง เธอบ่นว่าเขาเบาๆ แล้วจึงรีบลุกขึ้นเพื่อเดินหนี “อ้าว! ยังไม่ตอบ จะรีบไปไหนอีกล่ะ” เดเนียลยิ้มเต็มหน้า เขาตะโกนตามหลัง แล้วจึงเดินตาม “ถามบ้าๆ นี่เวลาเท่าไรแล้ว? ฉันก็ต้องไปทำงานสิ” พิทีเซียตอบ เธอไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ เธอกลัวตัวเองจะเพลี่ยงพล้ำ “เหรอออ...นึกว่ากลัว” ชายหนุ่มหยอด เขาสนุกทุกนาที นึกดีใจที่เจ้านายจับโยนมาหาหญิงสาว ที่สำคัญมันคงถึงเวลาของตัวเองแล้วสินะ... ถึงเวลามีความสุขอย่างแท้จริง กับคนที่ถูกใจ “ทำไมฉันต้องกลัวนายด้วยเหอะ!” มีเสียงเถียงกลับ มุมปากอิ่มเต็มมีรอยยิ้มนิดๆ...เธอมีคู่ปรับฝีมือทัดเทียมกัน จนทำให้มี
บทที่20.บรรณาการแสนหวานพิทิเซียชี้มือไปที่โทรศัพท์ประจำห้อง...มีรายการอาหารพร้อมกับร้านเจ้าประจำที่เธอฝากท้องด้วย เธอไม่มีเวลาจะมาทำกับข้าวกับปลา ไม่มีความเป็นกุลสัตรี เป็นผู้หญิงแกร่งที่ทำงานเป็นหลัก ไม่นิยมอยู่หน้าเตาไฟเดเนียลก็ยังอมลิ้นเหมือนเดิม เขาไม่ได้ตอบ และหญิงสาวก็รีบชิ่งหนี เมื่อมันอันตรายกับตัวเอง เกินกว่าที่จะอยู่ใกล้ๆ หากเขาบ้าเลือดขึ้นมาอีก เธออาจจะเสียมากกว่าจูบ!!หญิงสาวใช้เวลาส่วนตัวในห้องที่ล็อกประตูแน่นหนา เธออาบน้ำและใส่เสื้อผ้าให้รัดกุมกว่าเก่า ไม่เปิดโอกาสให้เดเนียลได้มีโอกาสมองฟรีๆ เหมือนเมื่อเช้าเด็ดขาด...กางเกงวอร์ม เสื้อแขนยาว...แทนชุดนอนสุดหวิว ที่นิยมใส่ก่อนนอน วันนี้พิทีเซียงด เพราะมันไม่ปลอดภัยหากมีเดเนียลอยู่ในห้องหับลับตาคนด้วยเมื่อเปิดประตูห้องนอนออกมา เธอได้กลิ่นหอมๆ ของอาหารมื้อเย็น และกลิ่นนั้นเหมือนกำลังกวักมือเรียกหญิงสาวสูดกลิ่น ไล่ดมตามกลิ่นมา จมูกพะเยิบพะยาบ...จนกระทั่งถึงส่วนครัว...ที่หยากไย่น่าจะเกาะ เพราะเธอไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ นอกจากเข้ามาหาน้ำเย็นๆ ดื่มแก้กระหายพิทีเ
บทที่19.พรหมลิขิตเปิดตาฉับ! ดวงตาสบกันจังๆ เขามองต่ำลงมาที่หว่างอกของพิทีเซีย เป็นความสะเพร่าของตัวเองที่โน้มตัวลงใกล้ขนาดนี้ จนเดเนียลมองเพลินไปสิ กับหน้าอกหน้าใจของตัวเองที่แทบจะใส่พานถวายผิวแก้มของพิทีเซียขึ้นสีจัด เธอมองเห็นสายตาวาววับของเดเนียลนั้นจับจ้องอยู่ที่ใด...เธอยืดตัวขึ้น หมุนตัวเดินหนี โดยไม่พูดอะไรอีกเลยปัง!เสียงประตูห้องถูกกระแทกแรงๆ มันปิดงับลงและปิดกันสายตาร้อนแรงของเดเนียลเช่นกัน...“โอ้ย! อยากจะบ้า...ฉันจะต้องทนอยู่ร่วมห้องกับผู้ชายอันตรายแบบนั้นเหรอ?”พิทีเซียกระแทกเสียงพูด มือเธอทุบพวงมาลัยรถยนต์ แทนการกระแทกหน้าเดเนียล ผู้ชายอันตรายที่หล่อล่ำ พอๆ กับกัปตันอเมริกา พระเอกขวัญใจของมวลมหาประชาชนจากทั่วโลก...เดเนียลแพ้คริส อีแวนส์แค่ความดัง นอกนั้นนะเหรอ...พอสูสีกันเชียวแหละ และเธอแพ้ทางเขา เธอควรทำยังไงดี...ควรจะตั้งรับยังไง? ที่จะทำให้ตัวเองปลอดภัยจากภัยคุกคาม ที่มาในรูปร่างของผู้ชายสุดหล่อ...ใบหน้าของพิทีเซียยังคงบึ้งตึง แม้จะถึงเวลาทำงาน...เธอนั่งเหม่อ เมื่อในหัวต
บทที่18.พิเศษ...เดเนียลบอดี้การ์ดหัวใจตายด้าน...“ว้าย! อย่าเข้ามานะ ฉันไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลย...ห้ามนายขยับเข้ามา...อย่างเด็ดขาด!!”เดเนียลกรอกตาขึ้นๆ ลงๆ เขาหรือจะสนเสียงร้องห้าม เมื่อหน้าที่ครั้งนี้ของเขาคือการดูแลอารักขา พิทีเซียอย่างใกล้ชิด ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของหล่อน บอดี้การ์ดที่ถูกอัปเปหิมา...เมื่อฟาบริชเจ้านายไม่ต้องการส่วนเกินชายหนุ่มเดินอาดๆ ไปหาหล่อนอย่างหน้าทน แก้วหูของเขาก็แทบจะแตก!! เพราะเสียงร้องกรี๊ดๆ ของน้องสาวเจ้านาย พิทีเซีย ดีคอร์เนอร์ ไม้เบื่อไม้เมาของเขา ยัยผู้หญิงเรื่องมากสุดพยศ“กรี๊ดดดดดด!!”เจ้าหล่อนกรี๊ดเสียงดังคับห้อง ดวงตาคมเฉี่ยวมองเขาตาลุกโพลง เมื่อเห็นดังนั้น... เดเนียลจึงตัดสินใจกระโจนเข้าใส่...พอถึงตัวหล่อนได้...ก็รีบเอามืออุดปากหล่อนเสียเลย…“เงียบ!” เสียงเหี้ยมและแสนจะดุดัน จากผู้ชายหน้าตาคุ้นๆแต่คิดหรือว่าพิทีเซียจะสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ เขี้ยวคมๆ ของหล่อนก็งับลงมาบนฝ่ามือของเขาอย่างไร้ความปราณี ฟันคมๆ นั่นขย้ำลงมา
Comments