แชร์

ตอนที่ 4 สุราเป็นเหตุ

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-02 17:46:51

ยามเช้ามาเยือน แสงตะวันสาดส่องแรงกล้า

หมิงเยว่สะลึมสะลือขยับร่างกายไปมา ฉับพลันนั้นกลับรู้สึกเมื่อยขบและปวดร้าวที่กลางลำตัว

หือ...

หญิงสาวมุ่นคิ้ว ขยับขาอีกที ความรู้สึกปวดหนึบตรงส่วนสงวนยิ่งเด่นชัด นางเบิกตาโพลง ลุกขึ้นนั่งทันใด

“โอ๊ย!”

ช่วงล่างยิ่งเจ็บแปลบจนหลุดอุทานเสียงแหบ ยังรู้สึกได้ถึงของเหลวกรุ่นคาว ไหลหยาดจากต้นขา

หมิงเยว่เปิดผ้าห่มออก เห็นร่างตนเองที่เปล่าเปลือยมีรอยจุมพิตเต็มไปหมดและหยดเลือดพรหมจรรย์แดงชาดบาดตาเปรอะเปื้อนผสานกับน้ำคาวสีขาวขุ่น

“หา?”

พอเหลือกตามองไปเบื้องหน้า ยังเห็นบุรุษร่างใหญ่นอนเปลือยเปล่าเคียงข้าง

“หยางเจี้ยน!”

เสียงพลั่กเกิดขึ้น ตามด้วยเสียงของหนักตกกระทบพื้นดังตุ้บ

ร่างใหญ่ถูกเท้าเล็กถีบกระเด็นจนตกเตียง

“อ่า...”

หยางเจี้ยนถึงกับสร่างเมาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา

เขาลุกขึ้นนั่ง หันมองขวับ

เห็นฝ่าเท้าเปลือยเล็กน่ารักเต็มสองตาบนเตียงนอน

“เจ้า...เจ้ากล้าถีบข้า”

หยางเจี้ยนมองสตรีบนเตียงด้วยดวงตาพร้อมพ่นไฟ

หมิงเยว่ที่เพียรรักษาพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ยิ่งชีพเพื่อฝึกฝนเพลงดาบในชาติที่แล้วให้รู้สึกถึงการสูญเสียและสิ้นหวังครั้งใหญ่อย่างแท้จริงในชาตินี้

“ท่าน...ท่านขืนใจข้า...”

นางโอดครวญน่าสงสาร หอบผ้าห่มคลุมกายแน่น ร้องไห้อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

หยางเจี้ยนลุกขึ้นยืนตระหง่านหว่างคิ้วขมวดเข้ม ใบหน้าบึ้งตึง เขาเอ่ยเสียงเครียด

“มิใช่เป็นเจ้าเองที่เรียกร้องทั้งคืนหรือไร?”

“ว่า...ว่าอะไรนะ?”

หมิงเยว่กัดปากเบิกตากว้าง หยางเจี้ยนเดินมานั่งลงบนขอบเตียงด้วยสีหน้าถมึงทึงดำคล้ำไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง

เขากำลังรู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มลงมาตรงหน้ายิ่งกว่าสตรีผู้กำลังร่ำไห้เสียอีก

เมื่อคืนแม้เมามายแต่เขาก็จำได้ นางขึ้นนั่งบนตักเขา ขบกัดติ่งหู ซุกไซ้ซอกคอของเขาอย่างดุดันยั่วเย้ามอมเมา เขาเองที่เริ่มคิดได้ว่าไม่ควรเสียใจกับสตรีที่ตายไปแล้วผู้นั้น จึงตามใจและจัดให้สตรีตรงหน้าอย่างเต็มที่ เต็มอารมณ์

เพราะถึงอย่างไรนางก็คือภรรยาของเขา เป็นสตรีที่มองอย่างไรก็นุ่มนวลชวนถนอม และที่สำคัญนางยังตบแต่งให้เขาอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม

การที่เขาคิดถึงสตรีอื่นเป็นเรื่องไม่สมควรนัก

ทั้งๆ ที่นางครวญครางกรีดร้องอย่างสุขสมปานนั้น แต่นางกลับกล่าวหาเขา คำว่าขืนใจช่างบาดหูนัก!

หยางเจี้ยนรู้สึกโกรธมาก!

บุรุษผู้องอาจหยิ่งทะนง ยึดมั่นคุณธรรมสูงส่งยิ่งชีพ เคยถูกตราหน้าเยี่ยงนี้ที่ใด?

หยางเจี้ยนให้รู้สึกถึงการถูกหยามเกียรติอย่างที่สุด

บุรุษเช่นเขาเคยต้องงอนง้อขอขึ้นเตียงกับสตรีที่ใด? มิใช่ว่ามีหญิงงามมากมายหมายเสนอตัวให้เขาทุกวันหรือไร?

แม่ทัพหนุ่มให้รู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาด

เขาหงุดหงิดอย่างมาก

รู้สึกคล้ายม้าศึกตัวโตผงาดกล้าที่ถูกหนูตัวเล็กๆ มองว่าเป็นแค่หมูโสโครกตัวหนึ่งที่หิวโหยหื่นกระหายกินไม่เลือก

สาเหตุที่หยางเจี้ยนรู้สึกต่อเรื่องนี้ค่อนข้างรุนแรง ล้วนเป็นเพราะเขาไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวมั่วราคะกับใคร

ความร้อนแรงที่มอบให้คือสิ่งหวงแหนอย่างยิ่ง

การที่ภรรยาไม่รู้ดินฟ้านางนี้ถีบเขาตกจากเตียง ทั้งยังชี้หน้าด่าทอว่าถูกเขาขืนใจ

นั่นจึงนับว่าเป็นการล่วงเกินกันอย่างที่สุด

สำหรับหยางเจี้ยน สิ่งหนึ่งที่ผู้คนล้วนกล่าวขานถึง คือผู้ใดก็ตามหากล่วงเกินคนอย่างเขาผู้นี้ ย่อมไม่มีจุดจบที่ดี

เตรียมตัวรับชะตากรรมจากมัจจุราชเถอะ!

ทว่าเพราะอีกฝ่ายเป็นเพียงสตรี ทั้งยังเป็นภรรยาซึ่งได้มาจากสมรสพระราชทาน ร่างสูงจึงมองร่างเล็กปราดหนึ่งด้วยแววตาอำมหิต เพียงคาดโทษจดบัญชีแค้นไว้ในใจ ก่อนผุดลุกขึ้นอย่างปั้นปึ่งเย็นชา หยิบเสื้อผ้ามาสวมลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องหอไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

ทิ้งร่างเล็กให้มองตามอย่างเหลอหลา เรียวคิ้วเหนือดวงตาขมวดแน่น ภายในใจกำลังนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา

เอ่อ...หรือว่า...

ในห้วงภวังค์ นางเสมือนเห็นร่างระหงของตนเองปีนขึ้นไปนั่งบนตักหนาแกร่งของหยางเจี้ยนอย่างทุลักทุเล

เรียวแขนกระหวัดโอบรอบลำคอเขาอย่างอาจหาญ โน้มใบหน้าคมคายเข้าหา แล้วบดจูบอย่างบ้าคลั่ง

“...”

นางเป็นฝ่ายบดขยี้กลีบปากเขาก่อนจริงๆ ด้วย

จากนั้นก็กัดติ่งหู ซุกไซ้ซอกคอ พลางปลอบประโลมพึมพึมอย่างขวัญกล้า ‘ท่านอย่าได้เสียใจไปเลยที่ต้องแต่งงานกับข้า มาเถิด สตรีเช่นข้าย่อมมีดีเหนือใคร’

หมิงเยว่สะดุ้งกับความทรงจำเฮือกหนึ่งแล้วคิดต่อ

ก่อนร่วมหอลงโลงนางยังไม่ลืมสั่งให้เขามองแค่นางก่อนกระชากเสื้อผ้าชุดเจ้าบ่าวของเขาออกจากร่างอย่างแรง สีแดงปลิวว่อนทั่วห้อง

เมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจกรุ่นร้อนและเสียงคำรามแหบต่ำจากเขา นางก็ยิ่งหื่นกระหาย เสื้อผ้าของนางและของเขาหลุดร่วงไปจนหมดสิ้นเมื่อใดไม่ทราบได้

ใครเป็นผู้ถอดชั้นในออกไปก็ไม่อาจรับรู้

นางจำได้ว่าแค่กระชากเสื้อเจ้าบ่าวตัวนอก

เมื่อคืน บนตักแข็งอุ่น นางรู้สึกได้ถึงตัวตนร้อนผ่าวของเขาสัมผัสตรงท้องน้อยของนางอย่างเร้าอารมณ์มาก

ไม่นานสองเราก็รวมร่างร่วมประสานขับลำนำ บรรยากาศในห้องหอเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ได้ยินเพียงเสียงเคลื่อนกายเสียดสีกับเสียงหอบครางสอดประสาน

เขากระชับเอวคอดขยับเอวสอบโยกบั้นท้ายชักนำ ส่วนนางก็ไม่นำพาอะไรแล้วทั้งนั้น เพียงแหงนหน้ากอดรัดบดเบียดอกอิ่มนุ่มนิ่มกับแผ่นอกแข็งแกร่งของเขาอย่างคนต้องการไออุ่นไม่รู้จักจบสิ้น

เขาจ้องหน้าแดงเรื่อของนาง มองลึกเข้ามาในแววตา นางจ้องมองโครงหน้าชัดเจนของเขา เห็นแค่ดวงตาร้อนแรงแสนเปี่ยมเสน่ห์ทรงพลังคู่นั้น มองสิ่งอื่นใดไม่เห็นแล้วทั้งสิ้น เขากอบกุมสะโพกกลมมนไว้แน่น ตรึงเต็มฝ่ามือร้อนกรุ่น เคล้นคลึงอย่างดุดันก่อนจับเอวคอดของนางแล้วยกขึ้นจากเก้าอี้ริมโต๊ะในท่วงท่าที่ยังผสานเป็นหนึ่ง จากนั้นก็จับนางกดลงบนเตียงนอน ปลายลิ้นร้อนลากไล้วนเวียนบนยอดถัน

เนินอกของนางชูชัน ในขณะที่บางส่วนของเขาก็เหยียดผงาดตั้งชันเช่นกัน

ท่ามกลางความมืดสลัวเลือนราง ท่อนขาของนางถูกเขาแยกออกจากกัน ท่วงท่าสองเรานั้นน่าอายอย่างที่สุด สองมือของนางจับท่อนแขนเปี่ยมกล้ามเนื้อทรงพลังของเขาไว้แน่น ส่วนเขาก็คุมจังหวะเร่าร้อนตอกตรึงอย่างยาวนาน

เพราะสุราเป็นเหตุโดยแท้ หมิงเยว่พึงสังเกตได้...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย3

    รุ่งอรุณมาเยือนหลิวไท่หยางทำทีกวาดใบไม้ที่เกลื่อนลาน หมายรอให้ซิงเยว่จัดการธุระส่วนตัวในยามเช้าเสร็จสิ้น กระทั่งเดินออกมานั่งรับแสงแดดริมระเบียง เขาจึงรีบเดินมาชักชวน“คุณหนู วันนี้อากาศดียิ่งนัก ไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดีหรือไม่?”การออกกำลังแขนขาย่อมผ่อนคลายความตึงเครียด บรรเทาอาการอึดอัดกระสับกระส่ายจากการนอนไม่หลับ หลังจากนั้นค่อยกลับมาหลับยามกลางวันให้สบายตัวชายหนุ่มคิดในใจมิได้เอ่ยออกไป ทว่าซิงเยว่กลับเข้าใจได้โดยง่ายน่าแปลกนักที่บุรุษผู้หนึ่งจะเข้าใจผู้อื่นได้ดีปานนี้ หากเสี่ยวชางมีภรรยา นางผู้นั้นย่อมต้องเป็นสตรีที่มีโชค การได้บุรุษแสนดีมาครองย่อมเปรียบเสมือนได้ครองใต้หล้าซิงเยว่เริ่มคิดเรื่อยเปื่อยไปไกลเมื่อหลุดจากภวังค์เลื่อนเปื้อน นางก็พยักหน้ายิ้มๆ ให้กับบุรุษแสนดีที่จะมีภรรยาเป็นสตรีครองใต้หล้าหญิงสาวลุกขึ้นยืน “ไปกันเถิด เสี่ยวชาง”นางหันมาพยักหน้าอีกทาง “ตงอิง เจ้าเฝ้าเรือนเตรียมอาหารเช้าแล้วกัน”ตงอิงยอบกายรับคำไม่อิดเอื้อน “เจ้าค่ะ”หลิวไท่หยางปรารถนาเข้าไปโอบกระชับบ่าเล็กๆ แล้วจับมือนางเดินเล่นด้วยกันอย่างปลอบประโลมเหลือเกินแต่จนใจที่ทำไม่ได้เพราะยามนี้เขาเป็นเพ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย2

    จูซิ่วตวัดแขโอบลำคอซ่งเสวียนชิงเพื่อมิให้เขาผละจากไป ดวงตาของนางเว้าวอน แอ่นอกชิดอกของเขาอย่างเย้ายวนชวนหวาบหวิว โน้มใบหน้าประทับจุมพิต รำพันยามแนบกลีบปากคลอเคลีย“แม้ข้ามิใช่พี่โม่เหลียน แต่ข้าไม่เคยโกรธท่าน ไม่เลย ...ข้ารักท่าน ขอแค่ท่านรักข้า รักเพียงข้า...”ดวงตาคมเข้มทอประกายวูบไหว หัวใจในโพรงอกด้านซ้ายเต้นในจังหวะไม่ช้า ทั้งสั่นไหวอย่างรุนแรง ประหนึ่งหนุ่มน้อยได้เจอปีศาจสาวจอมล่อลวงให้ตกบ่วงห้วงมายาแบบกะทันหัน ทั้งกิริยาหวิวซ่านและคำพร่ำรำพันแว่วหวาน และยามนี้สองร่างเปล่าเปลือยกำลังกอดเกยอยู่ในท่วงท่าหมิ่นเหม่หวามไหว ไหนเลยยังต้องคิดยั้งใจอันใด ซ่งเสวียนชิงจึงก้มหน้าพรมจูบจูซิ่วอย่างดุดัน จับอีกฝ่ายแยกขาพร้อมเคลื่อนกายขยับเป็นจังหวะวสันต์ ก่อนจะตอกตรึงลึกซึ้งถึงอารมณ์อันเร่าร้อนม่านเตียงพลิ้วไหว เคล้าเสียงกระเส่าครวญคราง เปลวเทียนวูบไว สาดส่องภาพวาดสตรีบนโต๊ะเนิ่นนาน...เรือนหนึ่งเสพสมสุขสันต์ ทว่าอีกเรือนหนึ่งนั้นกลับเห็นเงาร่างเลือนรางของคู่รักในม่านฝันแม้เป็นเพียงภาพฝันและเลือนรางปานนั้น หากแต่กลับทุกข์ระทมเด่นชัดในห้วงคะนึงนิทรานางทำราตรีนี้ยังคงทรมาน.

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 29 โดดเดี่ยวเดียวดาย1

    ค่ำคืนอากาศเย็นเยียบ บุรุษร่างใหญ่นั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวเงียบๆ แววตาจับจ้องเพียงสิ่งหนึ่งเนิ่นนานภายในห้องหนังสือ มีแสงเทียนนวลลออส่องสะท้อนภาพวาดของสตรีงดงามวางอยู่บนโต๊ะ ฝ่ามือหยาบกร้านของซ่งเสวียนชิงลูบไล้อย่างคิดถึง หวนคะนึงโหยหามิสร่างซา“โม่เหลียน ในที่สุดข้าก็ได้บุตรสาวของเรากลับมา ข้าดูแลนางอย่างดี” เขาแค่นยิ้ม “เจ้าอย่าโกรธข้าอีกเลย เลิกโกรธข้าเสียที...ข้ารักเจ้าถึงเพียงนี้...โม่เหลียน...”เปลือกตาหนักอึ้งของบุรุษค่อยๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้า นานครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาใหม่อีกครา จอกเหล้าถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เป็นอยู่เช่นนี้หลายครั้งหลายครา“ท่านพี่...” สุ้มเสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้างกาย ซ่งเสวียนชิงจึงปรายตามองแต่แล้วเขาพลันชะงักวูบหนึ่ง เท้ามือกับพนักเก้าอี้เพื่อพยุงตัวลุกขึ้น สองตาเหม่อมองเจ้าของเสียงหวานนิ่งงัน“เหลียนเอ๋อร์”รอยยิ้มสตรีแข็งค้าง ทว่าชั่วแวบเดียวเท่านั้นกลับปรับให้ริมฝีปากสีแดงเรื่อแย้มยิ้มเฉิดฉันอ่อนโยนดุจเดิมส่งผลให้ผู้มองรับรู้ได้ว่ากลีบปากภายใต้รอยยิ้มนี้ นุ่มหวานปานใด “เหลียนเอ๋อร์ เจ้ากลับมาหาข้าแล้ว...”ซ่งเสวียนชิงตวัดแขนโอบรัดเจ้าของรอย

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น4

    ซิงเยว่ยังไม่เดินเข้าไป เพียงยืนมองภาพเบื้องหน้าด้วยกิริยานิ่งเงียบภาพที่สะท้อนเข้าสู่ม่านตาคือบิดานั่งยิ้มในหน้า แววตาอบอุ่นมากล้น เขาก้มมองบุตรสาวผู้น่ารักน่าชังอย่างเอื้อเอ็นดูสุดหัวใจ ส่วนมารดานั่งพะเน้าพะนอลูบหลังเบาๆ กล่าวสนับสนุนบุตรสาวทุกวาจาเป็นภาพของครอบครัวรักใคร่ปรองดองอย่างแท้จริงซ่งหลันจวิ้นยังไม่มา คงกำลังอาบน้ำผลัดอาภรณ์ทว่าเพียงสามคนพ่อแม่ลูกนี้ก็เพียงพอแล้วถึงกระแสความรักที่ท่วมท้น“ท่านพ่อ นี่คือหยกพกที่พี่หย่งปินมอบให้ข้าเจ้าค่ะ”ซ่งหลันอวี้ส่งเสียงกังวานใสไม่ขาดสายพร้อมล้วงเอาหยกเนื้อดีขึ้นมาโอ้อวดแก่สายตาบิดาเป็นหยกพกพาประจำกายของหย่งปินจริงๆหญิงสาวกล่าวอีกว่า “พี่หย่งปินบอกว่าภายหน้าจะมีข้าเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว พวกท่านเป็นพยานนะ หากมีสตรีใดกล้าสานสัมพันธ์กับเขา ต้องช่วยกันขับไล่ไปให้ไกล”จูซิ่วเห็นเช่นนั้นรีบส่งเสริม “สองคนนี้สนิทสนมกันตั้งแต่เด็ก เผยท่าทีต่อกันชัดเจน เห็นทีคงต้องหมั้นหมายกันเสียแล้วกระมัง ท่านพี่คิดเห็นอย่างไรเจ้าคะ?”ซ่งเสวียนชิงพยักหน้ายิ้ม กล่าวคำว่าดีๆ ติดกันซ่งหลันอวี้เปลี่ยนท่าทีจากสดใสเป็นกระเง้ากระงอด “ท่านแม่ แต่พี่ซิงหลานมักจ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น3

    เรือนซิงเยว่หญิงสาวกลับเรือนมาออกแบบกลไกใช้ยิงขนาดเล็ก เหมาะสำหรับเด็กไว้ยิงไม่ต่างจากธนูคันใหญ่และหน้าไม้ สิ่งนี้มีช่องเก็บลูกดอกเล็กๆ บรรจุติดกับกลไก เพียงยึดให้มั่นแล้วพลิกมือจนเกิดเสียงดังกริ๊ก ลูกดอกคล้ายธนูจะเข้าสลัก ยิงได้ไกลในเสี้ยวเวลา“ข้าจะทำให้หลันจวิ้น”หญิงสาวบอกเสี่ยวชางผู้เป็นลูกมือประกอบกลไกตามคำสั่ง ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะในเรือน ขะมักเขม้นกับกลไกนี้“ดูเจ้าเชี่ยวชาญยิ่งนัก เคยประกอบกลไกหรือ?”ซิงเยว่ถามเสี่ยวชางที่มีท่าทางปราดเปรื่องเหลือเกิน มองประเมินภาพแบบร่างกลไกของนางเพียงแค่ชั่วครู่เดียว กลับประกอบออกมาได้อย่างคล่องแคล่วสมบูรณ์แบบหลิวไท่หยางแทบทำไม้ปักมือตนเองขณะเผลอไผลแสดงความสามารถของตนออกไป ทว่าพริบตาก็ยกยิ้มโง่งม แล้วกล่าวเยี่ยงคนเขลาว่า “เมื่อก่อนตอนยังเป็นเด็กชาย ไม่มีข้าวกิน ข้าจึงชอบเข้าป่าล่าสัตว์ ชอบการยิงนกตกปลา เคยทำกับดักมากมายขอรับ”แท้จริงกลไกเยี่ยงนี้ในกาลก่อนล้วนเป็นเขาเองที่เพียรศึกษาแล้วนำมาสอนนางเพื่อเพิ่มการจู่โจมยามปล้นชิง ซิงเยว่ยามนั้นชอบมาก นางนำไปดัดแปลงอย่างชาญฉลาด ทว่ามิได้ทำเพื่อการปล้นชิง หากแต่กลับทำแล้วนำไปขาย จากนั้นก็เรียก

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 28 รักใคร่อบอุ่น2

    เขาผู้นี้คือเสี่ยวชางหย่งปินถอนหายใจเฮือก นึกชังกับบ่าวชายคนสนิทของคุณหนูใหญ่เหลือเกิน แต่จนใจที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะผู้นี้คือคนโปรดของนางชายหนุ่มเบี่ยงตัวเลี่ยงออกหลบเจ้าท่อนไม้ยักษ์ เพื่อยื่นใบหน้าขาวๆ ของตนให้พ้นใบหน้าดำทะมึนของอีกคน ทว่าทำอยู่นานล้วนไร้ผล คนสูงสองคนจึงยืนประจันหน้ากัน หลิวไท่หยางไม่มีทางยอมให้บุรุษใดเกี้ยวพาซิงเยว่ทั้งนั้น ส่วนหย่งปินเองก็ไม่ยอมให้ใครขัดขวางทางรักของตนเช่นกัน ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอสตรีถูกใจเช่นนี้บุรุษแค่นเสียงลอดไรฟันใส่หน้ากันในระยะเผาขน“เจ้าทาสชั้นต่ำ หลบไป!” หย่งปินมองเหยียดหลิวไท่หยางแค่นเสียงเย็นชา “ข้าไม่ปล่อยคนถ่อยเข้าใกล้นางแน่!”“เจ้าว่าใครถ่อย?”“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามักแสดงท่าทีกับซ่งหลันอวี้” น้ำเสียงหลิวไท่หยางเจือกระแสเหยียดหยันแววตาเยียบเย็น “มีแต่คนถ่อยเท่านั้นที่ทำพี่น้องต้องแย่งชิง ช่างไร้ยางอาย!”“เจ้า!” หย่งปินยิ่งเดือดดาล เขายิ้มเยาะ “พี่น้องแย่งชิงแล้วอย่างไร ข้าย่อมดูแลได้ดีทั้งหมด ทุกคน!”หลิวไท่หยางหรี่ตา สุ้มเสียงหยาบกระด้างมากขึ้น “คิดอยากเลี้ยงดูสตรีทั้งเมืองก็เรื่องของเจ้า แต่ต้องไม่ใช่คุณหนูของข้า ไสห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status