แชร์

บทที่ 2 ซื้อตำราเอาใจบุรุษ? (3/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-25 21:50:29

         “หากไม่อยากเก็บเอาไว้พวกเจ้าจะทำเช่นไรก็ตามใจ จะว่าไปนี่ก็เข้าเหมันต์แล้ว พวกเจ้าจะใช้ตำราพวกนี้สุมไฟก็ตามใจพวกเจ้าเถิด ข้าหาได้สนใจไม่” กล่าวจบนางก็โบกมือเป็นสัญญาณให้บ่าวรับใช้เดินจากมาพร้อมกัน

            คล้อยหลังสตรีร้ายกาจ คนที่ลอบมองอยู่ในเรือนก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ก่อนจะรินชาแล้วยกขึ้นจิบ

            “ข้าเพิ่งทราบว่าตนเองเป็นสตรีในดวงใจของน้องสาวเจ้า” เซี่ยอี้หานหรือคังอ๋องเอ่ยพลางยิ้มมุมปาก ยามที่พบกันที่ร้านตำราหาใช่เรื่องบังเอิญ เป็นเปี่ยวตี้[1]ขอให้เขาไปสอดส่องดูการกระทำของน้องสาวนอกไส้

            “หึ! ท่านอย่าได้คิดแต่งสตรีร้ายกาจเช่นนั้นเป็นพระชายาเด็ดขาด ข้ายังไม่อยากมีพี่สะใภ้นิสัยชั่วช้า” หมิงเลี่ยงรุ่ยกล่าว

            “ข้าว่านางน่าสนใจไม่น้อย” คังอ๋องกล่าวมุมปากพลันยกยิ้ม วาจาที่หมิงเจียวซือกล่าวเมื่อครู่ช่างแตกต่างจากที่นางเอ่ยที่ร้านตำรา

            บุรุษในดวงใจหรือ ช่างโป้ปดได้ไม่แนบเนียนเสียจริง หากนางพึงใจเขาจริง ยามพบเจอนางจะต้องเขินอายยามที่เขาเข้าไปสนทนา ทั้งยังต้องพยายามหาเรื่องสนทนาเพื่อรั้งให้เขาอยู่ด้วยนานขึ้น มิใช่พอเสร็จเรื่องก็รีบลากสาวใช้เดินหนีคล้ายกับเห็นเขาเป็นมารร้าย

            “ข้าให้ท่านไปสอดส่องดูนางแค่ครั้งเดียว มิใช่ท่านไปตกหลุมพรางนางมารผู้นั้นแล้วกระมัง”

            “ข้าดูออกง่ายเช่นนั้นเลยหรือ” กล่าวจบเซี่ยอี้หานก็หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเปลี่ยนไปสนทนาเรื่องอื่นแทน

            เมื่อคหบดีหมิงกลับถึงจวน เรื่องราวที่คุณชายใหญ่ถูกโบยอย่างหนักก็ถูกปิดเงียบเช่นเดิม ประกอบกับอาการของอีกฝ่ายดีขึ้นแล้ว เรื่องนี้จึงคล้ายจะเลือนหายไปกับสายลม

            “ท่านพ่อจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ”

            “พ่อ เอ่อ...” หมิงหลิวซีไม่รู้จะบอกบุตรสาวเช่นไร เพราะยามตนบอกว่าจะไปหาหมิงเลี่ยงรุ่ย นางเป็นต้องโวยวายไม่พอใจทุกครั้ง

            “ท่านพ่อไม่ได้กลับจวนนานคงคิดถึงพี่ใหญ่ใช่หรือไม่เจ้าคะ”

            “เจียวซือ พ่อก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน” แม้ที่ผ่านมาเขาจะดุด่าบุตรสาวที่ทำตัวร้ายกาจใส่พี่ชายคนโต แต่ทว่าเขาไม่เคยโกรธนางได้จริง ๆ เสียที

            “ที่ข้าถาม ข้าไม่ได้จะต่อว่าตัดพ้ออันใดกับท่านพ่อหรอกเจ้าค่ะ เพียงแต่หากท่านพ่อจะไปรับสำรับกับพี่ใหญ่ ข้าจะขอไปด้วยได้หรือไม่”

            “เจ้าน่ะหรือ อยากไปรับสำรับที่เรือนของพี่ชาย”

            “เจ้าค่ะ ข้าไม่คิดกลั่นแกล้งพี่ใหญ่อีกแล้วเจ้าค่ะ ยามนี้ข้าก็ใกล้จะปักปิ่นแล้ว อีกไม่นานก็คงจะต้องออกเรือน ส่วนพี่ใหญ่ที่เป็นบุตรชายก็จะกลายเป็นทายาทสืบทอดตระกูลหมิงและกิจการของท่านพ่อต่อ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าหากข้าทำดีกับพี่ใหญ่บ้าง ยามออกเรือนไปแล้วฝั่งตระกูลสามีทำไม่ดีกับข้า พี่ใหญ่จะได้ช่วยออกหน้าปกป้องข้าบ้าง”

            “ซือเอ๋อร์” หมิงหลิวซีมองบุตรสาวด้วยสายตาเอ็นดู หากบุตรทั้งสามรักใคร่กัน เขาที่เป็นบิดามีหรือจะไม่ยินดี

            “อีกอย่างข้าไม่อยากให้ท่านแม่มองพี่ใหญ่เป็นศัตรูเพราะข้าอีกแล้วเจ้าค่ะ ยามข้าออกเรือนไปข้าจะได้ไม่ต้องกังวลว่าพี่ใหญ่จะทำไม่ดีกับท่านแม่ที่แก่เฒ่าไป”

            “เจ้าทำดีแล้วซือเอ๋อร์ พ่อดีใจที่เจ้าคิดได้”

            “เช่นนั้นท่านพ่อจะอนุญาตให้ข้าไปรับสำรับที่เรือนพี่ใหญ่ด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ”

            “เหตุใดจะไม่ได้เล่า” คหบดีหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปที่เรือนท้ายจวนพร้อมกับบุตรสาว

           

            หมิงเลี่ยงรุ่ยคล้ายจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนที่ต้องเอ่ยเรียกว่าบิดามาพร้อมกับใคร ใบหน้าที่เรียบเฉยอยู่แล้วยิ่งฉายชัดถึงความเย็นชา ห่างเหิน

            “เลี่ยงรุ่ย เจ้าคงไม่ว่าใช่หรือไม่ ที่วันนี้น้องสาวเจ้าอยากมารับสำรับกับเจ้าด้วย”

            “...” เขาไม่ตอบแต่จ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย ยากจะหยั่งถึงอารมณ์ของเจ้าตัว

            “ซือเอ๋อร์ เจ้ามีเรื่องอยากบอกกล่าวพี่ชายไม่ใช่หรือ” สิ้นเสียงของบิดา สตรีที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังบิดาโผล่หน้ามาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยปากบอกคำที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าจะต้องจับตามองสตรีผู้นี้

            “พี่ใหญ่เจ้าคะ ก่อนหน้านี้ข้ายังเล็กนัก อาจจะทำหลายสิ่งลงไปโดยไม่รู้ความ ข้าขอโทษเจ้าค่ะที่เคยกลั่นแกล้งท่าน ใส่ร้ายจนทำให้ท่านถูกท่านแม่ลงโทษ แต่หากท่านจะโกรธก็ให้โกรธข้าเพียงผู้เดียวอย่าได้โกรธเคืองท่านแม่ของข้าเลยนะเจ้าคะ” นางก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะรีบเอ่ยคำที่หัดท่องมาทั้งคืน

            ‘ข้าลงทุนทำถึงเช่นนี้ ท่านก็ลดความโกรธแค้นที่มีต่อตระกูลหมิงลงบ้างเถิด สักเล็กน้อยก็ยังดี’

            “เลี่ยงรุ่ยที่ผ่านมาน้องยังไร้เดียงสานัก จึงกระทำตนไม่เหมาะสมหลายอย่าง พ่อหวังว่าเจ้าจะพอลดโทสะที่น้องเคยทำไม่ดีเอาไว้ลงบ้าง” หมิงหลิวซีทราบดีว่าที่ผ่านมาบุตรสาวกระทำต่อบุตรชายเช่นไร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอ่ยขอให้อีกฝ่ายให้อภัย ขอเพียงลดโทสะที่มีในใจลงบ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี

            อย่างไรในภายหน้าหากสิ้นบิดาเช่นตน เขาก็หวังว่าบุตรชายผู้นี้จะสามารถดูแลน้องสาวได้

            “รับสำรับเถิดขอรับท่านพ่อ ข้าหิวแล้ว” หมิงเลี่ยงรุ่ยใช้วิธีหลีกเลี่ยงแทน นางมารผู้นี้กลั่นแกล้งและใส่ร้ายเขาจนถูกลงโทษมานานเกือบแปดปี เขาคงไม่สามารถคลายความระแวงเพียงแค่อีกฝ่ายเอ่ยคำว่า ‘ขอโทษ’ หรอก

            อีกอย่างเขายังไม่วางใจหรอก สตรีที่ทำตัวร้ายกาจมานานเกือบแปดปี จู่ ๆ จะเปลี่ยนตนเองไปเป็นคนดีได้จริง ๆ หรือ ดังนั้นเขาจึงต้องคอยจับตามอง

            “อืม” หมิงหลิวซีตอบรับ ก่อนจะหันไปมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจ แต่เอาเถิดเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง หากมันไม่ร้ายแรงเกินไป บิดาเช่นเขาก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว

            “เจ้าไม่กินข้าวหรือ” หมิงเลี่ยงรุ่ยเอ่ยถามสตรีที่ยังคงยืนก้มหน้าด้วยน้ำเสียงราบเรียบยากคาดเดาอารมณ์

            “กินเจ้าค่ะ ขอบคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วง” หมิงเจียวซือที่ควรจะสลดเมื่อคำขอโทษถูกเมิน กลับตอบรับด้วยรอยยิ้มแฝงความออดอ้อนให้พี่ชายต่างมารดา

[1] ลูกพี่ลูกน้องฝ่ายแม่ที่เป็นผู้ชายและอายุน้อยกว่า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกพี่ชาย!   บทที่ 6 สัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างพี่น้อง (2/4)

    “หากจะให้นุ่มจนแทบไม่ต้องเคี้ยวบ่าวคิดว่าน่าจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วยามเจ้าค่ะ เห็นท่านลุงพ่อครัวกล่าวว่ายิ่งเคี่ยวนานน้ำแกงยิ่งหอมหวานเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นข้าจะเก็บเห็ดเอง เจ้าไปต้มกระดูกหมูรอข้า” “จะดีหรือเจ้าคะ” “หรือเจ้าจะให้ข้าที่ก่อไฟยังไม่เป็นไปทำกันเล่า” “คุณหนูแค่ไปแจ้งท่านลุงพ่อครัว” “เจ้าลืมแล้วหรือวันนี้ท่านลุงอู๋ขอออกไปดูมารดาที่ป่วย ใกล้เวลารับสำรับเย็นถึงจะกลับมา” “บ่าวลืมไปเลยเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นเจ้าจงรีบไปที่ครัวแล้วต้

  • บุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกพี่ชาย!   บทที่ 6 สัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างพี่น้อง (1/4)

    6 สัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างพี่น้อง ทันทีที่กลับถึงจวนหยวนลี่หมิงหรือที่ผู้อื่นเข้าใจว่าเขาคือคุณชายตระกูลหมิง หมิงเลี่ยงรุ่ยก็ลอบเข้าเรือนของน้องสาวนอกไส้ เนื่องจากช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเขาลอบเข้ามาสังเกตนางอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงหาตัวนางได้ไม่ยาก ‘วันนี

  • บุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกพี่ชาย!   บทที่ 5 ขอทำดีอยู่ห่าง ๆ 2 (6/6)

    “ไม่ดีกว่า...เจ้าค่ะ ข้าให้หลินถงไปส่งก็ได้” หากเขาไปด้วย นางก็อดหนีกลับจวนก่อนน่ะสิ “เช่นนั้นรีบไปรีบกลับ” “เจ้าค่ะ” หมิงเจียวซือลุกขึ้นยืนอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับสาวใช้คนสนิท ห้องที่ฝูหว่านอิ๋งเลือกเป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัว เมื่อนางออกจากห้องมาคนที่อยู่ภายในห้องก็ไม่มีทางทราบแล้วว่านางเลี้ยวไปทางใด แต่เมื่อจะถึงทางแยกเลี้ยวไปห้องปลดทุกข์ นางก็เดินเลี้ยวไปที่ทางลงไปด้านล่าง “คุณหนู...” หลินถงกำลังจะเอ่ยบอกคุณหนูว่าเลี้ยวผิดทาง แต่ถูกคุณหนูยกนิ้วชี้แตะบริเวณปากเป็นเชิงให้เงียบ ก่อนจะชี้ไปยังทางออก

  • บุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกพี่ชาย!   บทที่ 5 ขอทำดีอยู่ห่าง ๆ 2 (5/6)

    “ขออภัยนะเจ้าคะที่ข้าเสียมารยาทเอ่ยแทรก แต่ตัวข้านั้นที่เป็นน้องสาวของพี่ใหญ่ ฟังจากคุณหนูฝูเล่า ท่านกับพี่ใหญ่ดูเหมือนจะมีวาสนาต่อกันนะเจ้าคะ” นางกล่าวพร้อมกับพยายามดึงรั้งชายอาภรณ์ของตนคืนมา แต่พี่ชายต่างมารดาที่เปลี่ยนเป็นคนเกเรตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ไม่ยอมปล่อยมือ ทั้งยังมองนางด้วยสายตาดุอีก “คุณหนูรองหมิงช่างเป็นคนตรงไปตรงมา” คุณหนูตระกูลฝูกล่าวพลางก้มหน้าเล็กน้อยคล้ายเขินอาย “เมื่อครู่ข้าเห็นเจ้ารีบกลับเรือนไม่ใช่หรือ จะรอช้าอยู่ไย รีบไปกันได้แล้ว” พี่ชายนิสัยแย่กล่าวพร้อมกับกระตุกชายอาภรณ์นางอย่างแรงคล้ายกับส่งสัญญาณให้นางพยักหน้าตอบรับ “ยังเจ้าค่ะ นี่ก็ใกล้ยามอู่ (11.00-12.59) ข้าเริ่มรู้สึกหิวแล้วอยากจะหาอาหารเลิศรสกินก่อนแล้วค่อยกลับ” “เช่นนั

  • บุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกพี่ชาย!   บทที่ 5 ขอทำดีอยู่ห่าง ๆ 2 (4/6)

    ‘เรื่องอันใดข้าจะหยุด’ นางคิดก่อนจะเอื้อมไปจับมือสาวใช้คนสนิทให้เดินไปด้วยกัน ซึ่งหลินถงก็คล้ายจะเข้าใจจึงทำตามที่คุณหนูต้องการอย่างเงียบ ๆ ไม่เอ่ยวาจา “คุณหนูรองหมิงเจ้าคะ ได้โปรดหยุดสนทนากับข้าก่อนเจ้าค่ะ” ‘ไม่ ข้าไม่หยุด’ นางไม่สนใจด้วยว่าคนที่ส่งเสียงเรียกจะเป็นใคร “คุณหนูรองหมิงเจียวซือ ท่านได้ยินข้าหรือไม่เจ้าคะ” ‘ไม่ได้ยิน อ๊ะ! นั่นพี่ใหญ่ ข้าทำกรรมอันใดไว้ ข้างหน้าก็เป็นพี่ชายตัวเอง ข้างหลังก็เป็นคนที่กำลังเริ่มจองเวรข้า’ เมื่อรีบเลี้ยวไปอีกทางแต่เห็นพี่ชายต่างมารดายืนอยู่ นางจึงรีบเลี้ยวเข้าตรอกแคบไปแทน “ตรอกนั้นเป็นทางตัน เข้าไปแล้วต้องออกทางเดิม” เสียงทุ้มของบุรุษดั

  • บุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกพี่ชาย!   บทที่ 5 ขอทำดีอยู่ห่าง ๆ 2 (3/6)

    ‘ในเมื่อเจ้าเปลี่ยนแปลงตน ข้าก็จะเปลี่ยนแปลงตนเองเช่นกัน’ หากต่อจากนี้นางทำดีกับเขา เขาก็จะดีตอบแทนนางเช่นกัน แต่ทว่าหลังจากนั้นหยวนลี่หมิงกลับไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนั้นเป็นปี เพราะหมิงเจียวซือหายหน้าไปตามที่บอกจริง ๆ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งจ้องมองไปนอกโรงเตี๊ยมที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนซึ่งมารอต้อนรับคังอ๋องที่ไปรบกับชนเผ่าทะเลทรายและได้รับชัยชนะกลับมาและหากนางไม่ได้รับจดหมายทวงสัญญาเป็นการส่วนตัวนางก็คงไม่มาอยู่ที่นี่ในตอนนี้หรอก ตอนนั้นที่นัดกันไปจิบน้ำชาที่โรงเตี๊ยมปินฉาน คังอ๋องคล้ายอยากให้คุณหนูในชนชั้นสูงทั้งหลายเห็นว่ามากับนาง แน่นอนว่าเย็นวันเดียวกันข่าวลือก็แพร่ไปอย่างรวดเร็วว่าคังอ๋องนั้นใกล้ชิดสนิทสนมกับบุตรสาวคหบดีผู้หนึ่ง แต่น่าเสียดายงานของนางยังไม่ทันได้เสร็จลุล่วง เขาก็ได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้นำทัพหล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status