ลำแขนแกร่งช้อนอุ้มร่างบางไปวางที่เตียงนอนใหญ่ พีรพัฒน์รู้สึกเหนื่อยล้าพอสมควร เขาเดินเข้าไปอาบน้ำ และนุ่งเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกมานั่งที่ขอบเตียงนอน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมง และเขาเหนื่อยจนเผลอหลับไปตอนไหน เขารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องดังลั่นห้อง
(กรี๊ดดดดด!) “เชี่ย! ฉิบหายแล้ว” ตอนที่ 9 แต่งหรือไม่แต่ง? (พรึ่บ) มือหนาผลักศรีษะเล็กออกห่าง แล้วกระชับผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่ายัยตัวแสบนอนดิ้นท่าไหน ถึงได้มาซุกใบหน้าลงตรงจุดกลางกลายของเขา “ยัยบ้า! จะร้องทำไมวะ ทำอย่างกับไม่เคยเห็น” อลิสารีบกระโดดลงจากเตียงนอนไปหยุดยืนที่หน้าประตูห้องน้ำ “ถ้าฉันเคยเห็น ฉันจะตกใจเหรอ ไอ้บ้า!” “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่เคยเห็น อย่ามาทำเป็นแอ๊บ” “นายไม่เชื่อก็เรื่องของนายสิ แล้วนี่ ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนนายแอบข่มขืนฉันแล้วนะ จริงหรือเปล่า นายข่มขืนฉันใช่ไหม ไอ้โรคจิต!” (พรึ่บ) (ตุ๊บตุ๊บตุ๊บ) “ไอ้คนฉวยโอกาส) “โอ๊ย! ยัยบ้า หยุด” ร่างเล็กกระโดดขึ้นไปบนเตียงนอนอีกครั้ง ก่อนจะใช้กำปั้นเล็กทุบที่ลำตัวของหมอพีรพัฒน์รัวๆ “บอกให้หยุด!” (พรึ่บ) “ว้าย!” ร่างเล็กถูกเหวี่ยงลงไปนอนราบที่กลางเตียงใหญ่ ร่างแกร่งขึ้นทาบทับ สองมือหนารวบรัดข้อมือเล็กตึงไว้เหนือศรีษะ “เธอนี่มันบ้าจริงๆ ไม่ใช่บ้าเล่นๆ หยุดกล่าวหาว่าฉันข่มขืนลวนลามเธอได้แล้ว ฉันไม่ได้ทำ แต่ถ้าเธอยังปากมาก พูดว่าฉันข่มขืนเธออีก ฉันจะทำจริงๆ ลองดูไหม” “อ๊ายยย! ยะ...อย่า” หมอพีรพัฒน์แสร้งโนมหน้าลงไปซุกไซร้ข้างซอกคอขาว อลิสาถึงกับร้องเสียงหลง “ฉะ...ฉันไม่ว่านายอีกแล้ว พอได้แล้ว อ๊าย! ปล่อย” “หึ คิดว่าจะแน่ จำใส่สมองไว้ ฉันไม่เคยทำอะไรเธอ ฉันออกจากห้องน้ำก็เผลอหลับไป และฉันก็ไม่คิดที่จะทำอะไรเธอด้วย แต่ถ้าหากเธอยังปากดี และไม่ยอมยกเลิกเรื่องงานแต่ง ฉันจะปล้ำเธอจริงๆ ลองดูไหม!” “มะ...ไม่ ไม่เอา” “หรือจะเอา ลองดูไหม เอาแล้วก็ต่างคนต่างไป คงสนุก” “ก็บอกว่าไม่ไง ปล่อยฉันได้แล้ว นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย” (ครืดครืดครืด) ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ร่างสูงก้าวลงจากเตียงทันที เมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาที่วางอยู่โซฟาดังขึ้น “ครับคุณแม่” นิ้วหนากดรับสายทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่โทรมาคือมารดา “พัฒน์ ลูกอยู่ที่ไหน ลูกพาน้องชมพู่ไปทานข้าวตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น แล้วทำไมถึงไม่พาน้องกลับบ้าน น้องอยู่กับพัฒน์หรือเปล่า คุณน้าชมจันทร์โทรหาน้องไม่ติด ตอนนี้น้าเขาเป็นห่วงน้องมาก” คุณนายพิมพ์พรรณถามลูกชายด้วยน้ำเสียงค่อนข้างกังวล “ตอนนี้ชมพู่อยู่ที่โรงพยาบาลกับผมครับคุณแม่ เมื่อวานผมไปทานข้าวกับน้อง แล้วมีเคสผ่าคลอดด่วน ผมก็เลยรีบมาที่โรงพยาบาล กว่าจะผ่าคลอดเสร็จก็ปาไปตีหนึ่งแล้ว ผมให้น้องนอนรอที่ห้อง ผมเห็นน้องหลับ ก็เลยไม่อยากปลุกกลางดึกน่ะครับ คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะครับ แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก ผมไม่ได้ลวนลามน้อง หรือทำอะไรเกินเลยแน่นอน ผมจะไปตรวจดูอาการทารกก่อน แล้วจะพาน้องไปส่งที่บ้านเองครับ” หมอพีระพัฒน์ร่ายยาว อธิบายความจริงให้มารดาของเขาเข้าใจ “อ๋อ แบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย งั้นคงต้องรีบจัดงานแต่งแล้วล่ะ พัฒน์พาน้องชมพู่ออกจากบ้านข้ามคืน ผู้ใหญ่ฝ่ายนั้นเขาจะคิดว่าพัฒน์ฉวยโอกาสหรือเปล่า” “แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเกินเลยนะครับ คุณแม่ถามชมพู่ดูก็ได้” “ถึงไม่ได้ทำมันก็ดูไม่ดี พาลูกสาวเขาออกจากบ้านข้ามคืน ไม่รู้แหละ ลูกผู้ชายตัวจริงต้องมีความรับผิดชอบ” “รู้แล้วครับคุณแม่ ผมจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง แต่ถ้าวันหนึ่งน้องปฏิเสธผม น้องไม่อยากแต่งงาน เราก็ไม่ควรไปบังคับน้องใช่ไหมครับ” “ใช่ ถ้าน้องไม่ชอบพัฒน์ หรือรู้สึกอึดอัด แม่ก็จะไม่บังคับ จะปล่อยให้น้องชมพู่เขาตัดสินใจเอง” “ตามนั้นครับ” “อย่าลืมบอกน้องโทรหาน้าชมด้วยล่ะ ป่านนี้คงเป็นห่วงลูกสาวแย่เลย” “ครับ” หมอพีรพัฒน์กดวางสาย พร้อมกับถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงหันหน้ามาหาคนที่กำลังนั่งอยู่ขอบเตียง “ทำไมเธอไม่โทรบอกนะชมว่าเธอนอนที่นี่ ผู้ใหญ่เขาจะคิดยังไงที่ฉันพาเธอออกจากบ้านข้ามคืนแบบนี้” นัยน์ตาคมจ้องมองใบหน้าหญิงสาวด้วยความรู้สึกหลากหลาย “ทำไม นายกลัวว่าแม่ของฉันจะให้มารับผิดชอบด้วยการแต่งงานล่ะสิ” อลิสาถามกลับ “มันก็ใช่ แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรเกินเลย เธอก็รู้ แค่เรื่องที่ผู้ใหญ่จะให้เราแต่งงานกัน ฉันก็ปวดหัวมากพออยู่แล้ว ถ้าต้องให้ฉันมารับผิดชอบชีวิตเธอจริงๆ และเราต้องแต่งงานกันจริงๆ เธอคิดเอาแล้วกันว่าฉันจะปวดหัวขนาดไหน” เขาพูดออกมาด้วยความรู้สึกค่อนข้างกังวล “ถ้าต้องแต่งงานกับฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ นายคิดหรือว่าฉันจะเอานายเป็นผัว” “ไม่เอาก็ดี แต่ปกติผู้หญิงต่างก็อยากได้ฉันเป็นผัวทั้งนั้น ฉันกลัวว่าเธอจะคิดเหมือนผู้หญิงคนอื่นไง” “ฮ่าๆๆ” อลิสาถึงกับหัวเราะเสียงดัง เมื่อได้ยินสิ่งที่หมอพีรพัฒน์พูดออกมา “หัวเราะทำไมวะ” “นายนี่มันหลงตัวเองจริงๆเลยนะ คิดว่าผู้หญิงทั้งโลกจะอยากได้นายเป็นผัวหรือไง หนึ่งในนั้นต้องไม่ใช่ฉัน ต่อให้บนโลกใบนี้มีนายแค่คนเดียว ฉันก็ไม่ขอมีผัวดีกว่า” “หึ คิดแบบนั้นก็ดี ฉันก็ไม่อยากได้เธอเป็นเมียเหมือนกัน ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันสวยแต่รูป ถ้าจูบก็คงไม่หอมหรอก ไม่อยู่ในสายตาของฉันด้วยซ้ำ” “นายชักจะดูถูกฉันมากไปแล้วนะ นายก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉันเลยสักนิด ฉันจะกลับบ้านแล้ว” อลิสากระชากกระเป๋าสะพายข้างที่วางอยู่บนโต๊ะกระจก เตรียมตัวจะเดินออกจากห้อง มือหนาเอื้อมไปคว้าข้อมือเล็กรั้งไว้ทันที “เธอจะไปไหน” “ก็บอกว่าจะกลับบ้าน หูแตกหรือไง” “จะกลับได้ยังไง ฉันยังไม่อาบน้ำ ให้ฉันอาบน้ำใส่เสื้อผ้าก่อน ฉันจะไปส่ง” “แล้วทำไมต้องไปส่งด้วย คนเกลียดกันมันไม่จำเป็นต้องไปส่งหรอก ไม่ต้องกลัว ฉันจะบอกผู้ใหญ่ว่าฉันไม่อยากแต่งงานกับนาย งานแต่งระหว่างเราจะไม่มีทางเกิดขึ้น” “ก็ดี ทำให้ได้เหมือนที่พูดแล้วกัน รออยู่ตรงนี้ ฉันจะไปอาบน้ำ แล้วจะไปส่งเธอ ฉันเป็นคนพาเธอออกมา ฉันก็ต้องไปส่ง” “งั้นก็รีบอาบสิ” รถสปอร์ตหรูคันสีน้ำเงินขับเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่ อลิสาเตรียมจะก้าวขาลงจากรถ “เดี๋ยว!” “อะไรอีกล่ะ” “ถ้าแม่ของเธอให้ฉันรับผิดชอบเรื่องที่ฉันพาเธอออกจากบ้านข้ามวันข้ามคืน เธอจะปฏิเสธหรือเปล่า” “ถามทำไมอีก” “ถามเพื่อความมั่นใจไง เธอต้องปฏิเสธเข้าใจไหม ต้องไม่มีงานแต่งเกิดขึ้นระหว่างเรา แต่ถ้าเธอยังจะยอมให้มีงานแต่งเกิดขึ้น และคิดที่จะมาเป็นเมียของฉัน ฉันจะจับเธอปล้ำแล้วก็เขี่ยทิ้ง ฉันจะฟันเธอแล้วก็ทิ้ง หรือไม่ฉันก็จะเอาผู้หญิงของฉันเข้ามานอนบนเตียงเดียวกันกับเธอ” “เมื่อไหร่จะหยุดพูดสักที ฉันบอกว่าฉันไม่เอานายไง จะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้ง นายจำไว้นะ ฉันก็ไม่มีวันเอานายเป็นผัวเหมือนกันนั่นแหละ เลิกฟุ้งซ่านเลิกออกคำสั่ง เลิกข่มขู่ให้ฉันกลัวได้แล้ว” (ปัง!) อลิสาลงจากรถแล้วปิดประตูเสียงดัง จากนั้นจึงเดินกระแทกเท้าเข้าไปในบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด “สวัสดีครับคุณน้า ผมมาส่งน้องชมพู่ครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ผมพาน้องไปข้ามวันข้ามคืนแบบไม่ได้โทรบอก ผมติดเคสผ่าคลอดด่วนสองรายน่ะครับ กว่าจะผ่าคลอดเสร็จก็ดึกมาก ผมเห็นว่าน้องชมพู่หลับไปแล้ว ผมไม่กล้าปลุก เลยปล่อยให้น้องหลับจนถึงเช้าน่ะครับ แต่คุณน้าไม่ต้องกังวลนะครับ ผมไม่ได้ล่วงเกินหรือทำอะไรน้องในเชิงที่ไม่ให้เกียรติ” “หมอพัฒน์ไม่ต้องกังวลว่าน้าจะคิดไปแบบนั้น พี่พิมพ์โทรมาบอกน้าแล้ว แต่น้าต้องตำหนิลูกสาว ทำไมแม่โทรไม่ติด ชมพู่!” คุณนายชมจันทร์ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงดุ จนลูกสาวสะดุ้งเล็กน้อย “พู่ดูซีรีย์เกาหลีจนแบตหมดแล้วหลับไปค่ะคุณแม่ พู่ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกคุณแม่” อลิสาตอบคำถามมารดาพร้อมกับทำหน้าเศร้าเหมือนเด็กที่กลัวแม่ตี “แม่บอกพู่หลายครั้งแล้ว อย่าดูให้มันมากซีรี่ย์เกาหลีซีรีย์จีน ถ้ามีครั้งต่อไป พู่ต้องโทรบอกแม่ เข้าใจไหม” “เข้าใจค่ะ พู่ขอไปอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนนะคะ เหมือนจะไม่สบาย สวัสดีค่ะพี่พัฒน์ ขับรถกลับบ้านดีๆนะคะ” “ครับ” อลิสาไหว้หมอพีรพัฒน์ด้วยความนอบน้อม เขาเผลอยิ้มออกมาในขณะที่ยัยตัวแสบรีบวิ่งขึ้นบันไดไป หมอพีรพัฒน์รู้สึกโล่งใจ เมื่อคุณนายชมจันทร์ไม่ได้ติดใจเรื่องที่เขาพาอลิสาออกจากบ้านข้ามวันข้ามคืน แต่กลับเป็นมารดาของเขาที่จะให้รับผิดชอบเรื่องนี้ “ไม่รู้แหละ พัฒน์เป็นผู้ชาย พัฒน์ต้องรับผิดชอบด้วยการไปสู่ขอหนูชมพู่ให้เร็วที่สุด” คุณนายพิมพ์พรรณยื่นคำขาดกับลูกชาย “คุณแม่! ไหนบอกว่าจะให้ผมกับน้องศึกษาดูใจกันไปก่อนไงล่ะครับ” “แต่พัฒน์พาน้องออกมาแบบนั้น มันดูไม่ดี เตรียมตัวไปบ้านคุณน้าชมจันทร์อาทิตย์นี้ แม่จะไปสู่ขอน้องชมพู่ให้พัฒน์ ส่วนเรื่องที่น้องจะปฏิเสธหรือตอบรับ ก็ให้เป็นการตัดสินใจของน้องชมพู่ก็แล้วกัน” ระยะเวลาหลายวันที่หมอพีรพัฒน์รู้สึกเคร่งเครียด เขาทั้งโทรทั้งส่งข้อความไปในไลน์ของอลิสา เพื่อให้เธอจำสิ่งที่ตกลงกันไว้ เช้าวันอาทิตย์ ในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังนั่งพูดคุยกัน พีรพัฒน์ขออนุญาตชวนอลิสาไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้หลังบ้าน “ฉันหวังว่าเธอจะปฏิเสธงานแต่งระหว่างเรานะ อย่าคิดตุกติก” “นายนี่มันบ้าไปแล้วหรือไง พูดกันแค่ครั้งเดียวก็น่าจะเข้าใจแล้ว ประสาท ใครมันจะไปอยากได้นายเป็นผัววะ หลงตัวเอง” “ไม่รู้ล่ะ ฉันแค่อยากจะย้ำเตือนเธอไว้ เธอควรจะยุติทุกอย่างในวันนี้ ฉันและเธอจะได้ไม่ต้องมาเจอกันอีก เธอก็เกลียดฉัน ฉันก็ไม่ชอบขี้หน้าเธอ ให้ฉันเอาเธอเป็นเมียฉันก็เอาไม่ลงหรอก ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด ถ้าไม่อยากโดนฟันแล้วทิ้งก็ปฏิเสธงานแต่งซะ” “นายจำคำของฉันไว้นะ เราต่างก็ไม่ชอบขี้หน้ากัน ฉันไม่มีวันเอานายมาเป็นผัว จำไว้ และอย่าพูดซ้ำซาก” อลิสาเดินกระแทกเท้ากลับเข้ามาภายในห้องรับแขก ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ทำให้เธอโมโหได้ขนาดนี้นะ คนอย่างอลิสาน่ะหรือจะยอมให้ใครมาบังคับหรือข่มขู่ได้ ต้องเล่นเกมกันสักหน่อยแล้วกัน “มากันแล้วเหรอลูก เราเข้าเรื่องกันเลยนะ วันนี้ป้าจะมาคุยเรื่องงานแต่งระหว่างหนูชมพู่และหมอพัฒน์ ป้าเห็นว่าลูกชายของป้าและหนูชมพู่ค่อนข้างเข้ากันได้ดี หนูชมพู่คงไม่รังเกียจลูกชายป้าใช่ไหมลูก” คุณนายพิมพ์พรรณถามว่าที่ลูกสะใภ้ “ไม่รังเกียจค่ะ พี่พัฒน์เป็นผู้ชายที่สุภาพและใจดีกับพู่มากเลยค่ะ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและนอบน้อม “แล้วหนูชมพู่จะขัดข้องไหม ถ้าป้าจะจัดงานแต่งระหว่างหนูและหมอพัฒน์ในอีกสองเดือนข้างหน้า” ทุกคนต่างมองมาที่อลิสา โดยเฉพาะหมอพีรพัฒน์ ที่จ้องมองใบหน้าสวยหวานด้วยความรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง “พู่ไม่ขัดข้องค่ะ พู่จะแต่งงานกับพี่พัฒน์ แต่งภายในเดือนนี้เลยยิ่งดีค่ะ” “!” หมอพีรพัฒน์ถึงกับตกใจจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่คิดว่าเธอจะกลับคำพูดแบบนี้ อลิสายักคิ้วพร้อมกับยิ้มเยาะอย่างท้าทาย เขายังคงนั่งนิ่งกำหมัดแน่น “ผมขอชวนน้องชมพู่ไปเดินเล่นอีกครั้งได้ไหมครับ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น หลังจากที่อลิสาตอบตกลงเรื่องแต่งงาน “พู่ไม่อยากออกไปข้างนอกแล้วค่ะพี่พัฒน์ อากาศร้อน พู่ว่าเราคุยกันตรงนี้นะคะ พู่อยากรักษาผิวพรรณไม่ให้ดำคล้ำ เดี๋ยววันงานพู่จะไม่สวย “นั่นน่ะสิ แม่เห็นด้วยกับน้องนะ เรื่องฤกษ์แต่งงานเป็นเดือนหน้า แม่ดูไว้หมดแล้ว พัฒน์หาเวลาว่างพาน้องไปลองชุดแต่งงานแล้วกันนะลูก “ครับคุณแม่” เขามองหน้าว่าที่เจ้าสาวด้วยอารมณ์เดือดดาล ในขณะที่อลิสาเอาแต่ยิ้มเยาะอย่างท้าทาย ---------------------------------- เอาแล้วไง น้องชมพู่ตกลงจะแต่งงานกับหมอพัฒน์ น้องจะมาแผนไหนอีกละเนี่ย บอกเลยว่าน้องพู่แสบจริงๆ หมอพัฒน์จะเอายังไงล่ะเนี่ย ตอนหน้าสนุกยิ่งขึ้น ฝากกดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊ารถบ้านสุดหรูคันใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ขับเคลื่อนไปตามเส้นทางสายเหนือ และไปหยุดจอดภายในสนามหญ้ากว้างขวาง ในอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ สนามหญ้าแบบลานกว้างขนาดห้าไร่ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นลำไย ต้นมะม่วง และต้นชมพู่ทับทิมจันทร์ที่กำลังออกผลดกเต็มต้น ทุกคนพากันลงจากรถบ้าน ขณะที่หมอพีรพัฒน์อุ้มลูกชายตัวน้อย และมีผ้าอ้อมผืนสีขาวพาดบ่า “อากาศดีจังเลยนะคะ”อลิสาพูดพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอด และหลับตาพริ้ม มือข้างขวาจับที่มือน้อยๆของลูกสาว“ว้าว! บ้านสวยจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพิริสาชี้นิ้วไปยังบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง ที่ดูสวยงามและใหญ่โต ซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถบ้านเพียงสองร้อยเมตร“เราจะพักกันที่นี่เหรอคะ”อลิสาถามสามีของเธอ“น่าจะใช่นะครับ”หมอพีรพัฒน์ตอบกลับ“เราจะพักที่นี่ และบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อซื้อไว้เมื่อไม่นาน พ่อซื้อเป็นของขวัญให้หลานสาวกับหลานชายน่ะ”เจ้าสัวชาญชัยบอกลูกสาว และทุกๆคนก็ได้ยินสิ่งที่เขาบอก“ว่าไงนะคะคุณพ่อ”“คุณชาญ คุณพูดจริงๆเหรอคะ ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าคุณมาซื้อที่ดินพร้อมบ้านที่เชียงใหม่”คุณยายชมจันทร์ถามสามีด้วยความงุนงงสงสัย“ถ้าบอกก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์น่ะสิ ตั้งแต่หน
(ก๊อก ก๊อก ก๊อก)เสียงเคาะประตูเบาๆก่อนที่จะมีคนเปิดเข้ามาในช่วงเช้าของวันต่อมา อลิสาถึงกับตกใจ เมื่อเห็นบุคคลที่กำลังเดินตรงเข้าหาเธอตอนพิเศษ 4“สวัสดีค่ะ คุณชมพู่”อลิสายังคงแสดงสีหน้างุนงง และตกใจพอสมควร เมื่อคนที่เข้ามาหาเธอภายในห้อง คือหมออรอุษา ผู้หญิงที่เคยทำตัวสนิทใกล้ชิดกับสามีของเธอเมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่ครั้งนั้น จนอลิสาลืมไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมหน้าตาของหมออรอุษา และเรื่องราวเก่าๆก็เข้ามาวนเวียนในสมองของเธออีกครั้ง “คุณมาทำไมคะ”อลิสาถามแพทย์หญิงที่ยืนมองเธอกำลังอุ้มลูกน้อยแนบอก“ฉันเจอหมอพัฒน์ในร้านสวัสดิการด้านล่างน่ะค่ะ หมอพัฒน์บอกว่าคุณชมพู่เพิ่งคลอดลูกคนที่สอง ฉันก็เลยอยากมาเยี่ยม ลูกชายคุณชมพู่น่ารักจังเลยนะคะ”หมออรอุษาพูดพร้อมกับมองดูใบหน้าทารกที่กำลังหลับปุ๋ยในอ้อมแขนของมารดา“คุณย้ายไปจากโรงพยาบาลนี้แล้วไม่ใช่หรือคะ หรือฉันเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”อลิสาถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ฉันย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลแถวชลบุรีน่ะค่ะ แต่ก็มาที่นี่เกือบทุกอาทิตย์”อลิสารู้สึกไม่ค่อยชอบใจกับประโยคที่หมอสาวพูดออกมา“ทำไมคุณยังมาที่นี่อีกล่ะคะ ฉันคิดว่าคุณไม
สามปีต่อมา“วันนี้น้องพรีมใส่ชุดอะไรคะ คุณพ่อขา”เสียงน้อยๆของเด็กหญิงพิริสา เอ่ยถามบิดาหลังจากที่เธอตื่นนอนตอนเช้า“วันนี้น้องพรีมต้องใส่ชุดพละนะครับ วันนี้คือวันพุธ”เขานำเสื้อผ้าของลูกสาว ที่เขาเพิ่งจะรีดเสร็จ มาแขวนไว้นอกตู้เสื้อผ้า“น้องพรีมต้องใส่ชุดนี้ไปโรงเรียนใช่ไหมคะ”นิ้วน้อยๆชี้ไปยังชุด พี่บิดาเพิ่งจะรีดเสร็จ“ใช่แล้วครับ แต่ตอนนี้น้องพรีมต้องไปอาบน้ำแปรงฟันนะครับ”“ได้เลยค่ะ คุณพ่อขา”(พรึ่บ)ลำแข็งแกร่งโอบอุ้มลูกสาวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ก่อนไปโรงเรียน“คุณพ่อคุณแม่ขา ตอนเย็นอย่าลืมพาน้องพรีมไปทานไอศครีมนะคะ”เด็กหญิงตัวน้อยบอกบิดามารดา ขณะที่พวกเขามาส่งเธอในโรงเรียน“ได้เลยค่ะ ลูกสาวแม่ แต่วันนี้น้องพรีมต้องตั้งใจเรียนนะคะ”อลิสาพูดกับลูกสาว“น้องพรีมตั้งใจเรียนทุกวันอยู่แล้วค่ะคุณแม่”“เก่งมากค่ะ”“เก่งที่สุดเลยครับ”สองสามีภรรยาเอ่ยชื่นชมลูกสาว “น้องพรีมไปเรียนแล้วนะคะ บ๊ายบายค่ะ คุณพ่อคุณแม่”(ฟอดดดด/ฟอดดดด)สองสามีภรรยาโน้มลงไปหอมแก้มน้อยๆคนละข้างอย่างอ่อนโยน เด็กหญิงตัวน้อยโบกมือให้บิดามารดาก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของห้องเรียน“เหนื่อยไหมครับที่รัก พี่รู้สึ
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ 2 NC20+ในแต่ละวัน พีรพัฒน์ใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูกสาวตัวน้อยตลอดเวลา“หม่ำๆนะครับ วันนี้คุณพ่อทำอาหารมื้อแรกให้น้องพรีมหม่ำ ลองดูนะครับ คุณพ่อจะฝึกให้น้องพรีมทานอาหาร น้องพรีมครบหกเดือนแล้วครับ”เขาใช้ช้อนตักอาหารป้อนลูกสาวตัวน้อย ในขณะที่อลิสาทำหน้าที่อุ้มลูกนั่งตัก(แผล็บ)ลิ้นน้อยๆปาดเลียอาหารอ่อนที่เป็นเหมือนโจ๊ก “ดูสิคะพี่พัฒน์ ลูกคงจะชอบนะคะ เหมือนแกกำลังขออีก”“หม่ำๆนะครับ เก่งมากครับ คนเก่งของคุณพ่อ”“อ้อ แอ้”เด็กหญิง พิริสา ส่งเสียงตอบโต้คนเป็นพ่อทันที เหมือนกับว่าเธอฟังรู้เรื่องเสียอย่างนั้น“อยากไปเดินเล่นหน้าบ้านใช่ไหมครับ”“แอ้”“งั้นน้องพรีมต้องหม่ำๆ ก่อนนะครับ เก่งจังเลย”หลังจากที่เขาป้อนอาหารครั้งแรกให้ลูกสาว เด็กน้อยจ้ำม่ำก็แสดงท่าทางดีใจ ที่บิดาพาออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน นับตั้งแต่วันที่อลิสากลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ในทุกๆวันคือความสุขของเธอ เธอได้รับการดูแลและใส่ใจจากสามีราวกับเจ้าหญิง“พี่พัฒน์คะ พู่มีเรื่องอยากจะบอกพี่พัฒน์ค่ะ”น้ำเสียงหวานกล่าวกับสามีที่กำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน“ว่ามาสิครับที่รัก”เขาตอบกลับพร้อมกับแสดงสีหน
ตอนที่ 29 ตอนพิเศษNC20+“มาครับ เอาเท้ามาแช่น้ำอุ่นก่อน พี่จะนวดให้ จะได้ผ่อนคลาย”น้ำเสียงทุ้มบอกภรรยาสาว เขาทำแบบนี้สัปดาห์ละสองครั้ง กะละมังที่มีน้ำถูกวางที่พื้น อลิสานั่งบนโซฟา หย่อนเท้าลงในกะละมัง มือหนาชะโลมน้ำใส่เท้าเล็ก แล้วใช้มือนวดฝ่าเท้าให้ภรรยาเบาๆ ดวงตากลมโตมองการกระทำของสามีด้วยความรู้สึกรักและผูกพัน เขาทำแบบนี้กับเธออย่างอ่อนโยน นับตั้งแต่วันที่อลิสากลับมาอยู่ที่บ้านกับสามี เขาปรนนิบัติดูแลเธอเรากับเจ้าหญิง “โอ๊ย!”“เป็นอะไรครับ”พีรพัฒน์ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเสียงภรรยาสาวอุทานออกมาเหมือนเธอกำลังเจ็บ“พี่นวดแรงไปหรือครับ พี่ขอโทษนะ”“พู่จะ...เจ็บท้องค่ะ อื๊อ โอ๊ย พี่พัฒน์ช่วยพู่ด้วย”“ใจเย็นๆนะครับ พี่จะพาไปที่โรงพยาบาล ป้าจินดาครับ ช่วยถือของที่ผมเตรียมไว้ไปใส่ไว้ในรถให้ด้วยนะครับ น้องชมพู่เจ็บท้องจะคลอดแล้ว”“ค่ะ ได้ค่ะ”ป้าจินดาที่กำลังนำดอกไม้มาใส่แจกันตั้งโต๊ะ รีบเดินเข้าไปที่ห้องของเจ้านาย และนำตะกร้าที่หมอพีระพัฒน์เตรียมไว้ ไปใส่ไว้ในรถของเขาทันทีร่างแกร่งคอยประคองภรรยาสาวขึ้นนั่งบนรถเข็น แล้วพาเธอไปที่รถทันที”ไปครับ พี่จะพาไปโรงพยาบาล น้องชมพู่ไม่ต้องกลัวนะครั
ตอนที่ 27 นานแค่ไหนก็รอได้ทั้งสองเดินทางมาถึงตลาดน้ำอัมพวาในช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ มือหนาสอดประสานกับมือเล็กไว้แน่น มันเป็นครั้งแรกของอลิสาและหมอพีรพัฒน์ ที่ได้มาเดินในตลาดแบบนี้ เขาคอยสังเกตภรรยาคนสวย ที่ในเวลานี้เอาแต่มองร้านนั้นร้านนี้ด้วยท่าทางตื่นเต้น ผู้คนมากมายต่างพากันมาเที่ยวในวันหยุด “พี่พัฒน์คะ ดูนั่นสิคะ น้ำตาลสดอัมพวา น่าทานมากเลยค่ะ”นิ้วเรียวชี้ไปยังร้านขายน้ำตาลสด แบบใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นแก้ว“ซื้อสักแก้วดีไหมครับ ลองชิมดูก่อน ถ้าอร่อยค่อยซื้อไปฝากพ่อคุณแม่”“ค่ะ พู่อยากลองดู อยากรู้ว่ารสชาติของน้ำตาลสดแท้ร้อยเปอร์เซ็นเป็นแบบไหน”เขาเดินจูงมือคนตัวเล็กไปหยุดยืนหน้าร้านขายน้ำตาลสด “เอาน้ำตาลสดหนึ่งแก้วครับ”พีรพัฒน์บอกแม่ค้าวัยกลางคน“ได้ค่ะคุณลูกค้า”แม่ค้าคนดังกล่าวตักน้ำแข็งใส่กระบอกไม้ไผ่ จากนั้นจึงเทน้ำตาลสดจากขวดลงในกระบอกไม้ไผ่ มือหนารับกระบอกน้ำตาลสดจากแม่ค้าส่งให้ภรรยาคนสวย อริสานำน้ำตาลสดขึ้นมาดูด“อื๊อ อร่อยจังเลยค่ะพี่พัฒน์ หอมมาก ชิมดูสิคะ”เธอยื่นกระบอกน้ำตาลสดพร้อมกับจับที่หลอดดูดจ่อริมฝีปากหนา พีรพัฒน์ดูดน้ำตาลสดที่ภรรยาสาวเป็นคนป้อน อย่างเอร็ดอร่อย“ต