ตะวัน อิทธิพล พัชรสินธิ์ุ ปีสี่ คณะวิศวะ 187/60 หนุ่มวิศวะต่างจัดหวัด ที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพเพราะความชอบของตัวเอง นิสัยเป็นคนสนุกสนาน รักสนุก เป็นที่รักของเพื่อนทุกคน คาเทียร์ กชมน ธนหิรัญกิจ ปีสาม คณะบริหาร 163/47 ลูกสาวคนสวยของคิณกับขวัญตา ภายนอกเป็นลุคลูกคุณหนู ผู้ชายตามจีบเป็นขบวนรถไฟ แต่ยังไม่เจอคนที่ใช่ เลยปฏิเสธด้วยท่าทางสวย ๆ นิสัย เป็นคนรักเพื่อน สนุกสนาน ไม่ชอบผู้ชายที่เรียนวิศวะเพราะคิดว่าเถื่อน คำโปรย เพราะความผิดพลาดในคืนนั้น ทำให้เปลี่ยนความสัมพันธ์ของเขาและเธอที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้ไปตลอดกาล “เธอมันนิสัยไม่ดี ได้ฉันแล้วคิดจะทิ้ง ผู้หญิงดี ๆ เขาไม่ทำกันหรอก” “ถ้าฉันมันผู้หญิงไม่ดี พี่ก็อย่ามายุ่งกับฉันสิ” “เรามาไกลเกินกว่าที่จะพูดคำนั้นแล้ว ไปตกลงกันดี ๆ ดีกว่า” "ได้กันแล้ว พี่ต้องทำตัวเบอร์นี้เลยเหรอ" "เบอร์ไหน?"เขายักคิ้วกวนเธอ"เบอร์ตองหรือเปล่า"
View More“รถเป็นอะไรครับ คุณหนูคาเทียร์”
ตะวันเดินลงมาจากคณะเห็นน้องสาวของเพื่อนกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ตรงรถของตัวเอง นึกแปลกใจที่เธอมาจอดรถไกลถึงที่นี่ “จะเป็นอะไร มันก็ไม่เกี่ยวกับพี่ไหมคะ”คาเทียร์ตวัดสายตามองแรงเพื่อนของพี่ชายที่เดินหน้าทะเล้นเข้ามาใกล้ รู้ว่าเธอไม่ชอบเขาก็ชอบมาตอแยเธอทุกครั้งที่เจอหน้า “ฉันก็แค่หวังดี เห็นเธอเป็นน้องสาวไอ้เตอร์หรอกนะ” “ไม่ต้องค่ะ เรื่องแค่นี้ฉันจัดการเองได้”แม้ปากจะพูดแบบนั้นออกไป ทั้งที่ในใจเธอยังไม่รู้เลยว่าทำไมรถที่เมื่อเช้าขับมาดี ๆ ถึงได้มาเสียตอนนี้ เธอพยายามสตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด “จัดการได้ก็ดี งั้นฉันไปล่ะ แต่ก่อนไปจะบอกอะไรให้นะ ตอนนี้หกโมงกว่าแล้ว เธอน่าจะต้องอยู่ตรงนี้คนเดียวนะ” ใบหน้าสวยหันมองตามที่เขาบอก ก็พบว่าแทบไม่มีนักศึกษาหลงเหลืออยู่เลย เพราะเธอเสียเวลาอยู่ตรงนี้จนไม่สนใจเวลาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว พลันใบหน้าเธอก็ค่อยถอดสีลงเรื่อย ๆ ยอมรับว่ากลัวบรรยากาศแบบนี้ มันวังเวงยังไงก็ไม่รู้ คนตัวสูงที่ยืนยกยิ้มมุมปากมองอาการของคนตัวเล็กที่กำลังหันมองซ้ายขวาอย่างระแวง เขาทำทีเป็นจะเดินหันหลังไปยังรถช็อปเปอร์คันใหญ่ของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ห่างจากรถของเธอ “ดะ เดี๋ยวสิ”เสียงหวานเอ่ยเรียกเขาเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มอย่างชอบใจที่ทำให้เธอต้องขอความช่วยเหลือจากเขาได้ ก่อนจะหันไปมองหน้าเธอที่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้า คายไม่ออก “หืม?”คิ้วสูงเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม เห็นริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น “รถฉันสตาร์ทไม่ติด ช่วยดูให้หน่อย”คาเทียร์กลั้นใจพูดออกไป ใจจริงไม่อยากขอความช่วยเหลือจากเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อเธอก็ไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้คนเดียว ก็ต้องกัดฟันให้เขาช่วยเธอก่อน “พูดเพราะ ๆ เป็นไหม จะขอความช่วยเหลือคนอื่นเขาต้องพูดยังไงนะ”เขาแกล้งเอียงใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้เธอ จนคนตัวเล็กสะดุ้งถอยออกห่างจากเขาแทบไม่ทัน คาเทียร์พยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ“พี่ช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะ” ตะวันระบายยิ้มอย่างชอบใจ ก่อนจะเดินผิวปากไปขึ้นรถของเธอและลองสตาร์ทดู โดยมีคนตัวเล็กยืนมองอยู่นอกรถ เธอเห็นเขาสตาร์ทหลายครั้งแต่ก็ไม่ติด ก่อนจะเดินลงมาเปิดฝากระโปรงด้านหน้ารถดู ปรากฎว่ามีควันพวยพุ่งออกมาจนเขาต้องสะบัดหน้าหนี “หม้อน้ำแห้ง ขับรถอะไรของเธอไม่รู้จักเช็คบ้าง” “เมื่อเช้ายังดี ๆ อยู่เลย” “จอดทิ้งไว้ที่นี่แหละ โทรหาช่างให้มาลากไป” “…..” “แล้วเธอจะกลับยังไง?”นั่นแหละคือปัญหา คุณหนูแบบเธอเคยใช้บริการรถสาธารณะเสียที่ไหน แต่จะให้เอ่ยปากขอช่วยเขาอีก ก็ไม่กล้า เลยได้แต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่แบบนั้น จนคนตัวสูงจับอาการได้ เขายักคิ้วล้อเลียนอาการของเธอ “ตกลงเอายังไง ใกล้ค่ำแล้วด้วย” “ฉะ ฉันขอกลับด้วยได้หรือเปล่า…คะ” “แต่รถฉันเป็นมอไซค์นะ เธอนั่งได้เหรอ”เขากวาดสายตามองเธอหัวจรดเท้า ดวงตากลมโตหันมองมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขา แล้วก้มมองสภาพตัวเองตามสายตาของเขา เธออยู่ในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นผ่าข้างขึ้นมา แบบนี้ถ้าต้องไปซ้อนมอไซค์อะไร ๆ คงจะโผล่ออกมา แต่ทว่าจู่ ๆ ตะวันก็ถอดเสื้อช็อปตัวใหญ่ของตัวเองมาผูกเอวเธอไว้ ความใกล้ชิดแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ใจดวงน้อยของเธอเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อผูกเสื้อกับเอวเธอเสร็จ เขาก็เดินนำไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา ก่อนจะขึ้นไปคร่อมและหันหน้ามามองเธอ“ขึ้นมาสิ” ขาเรียวเหยียบตรงที่พักเท้า เธอพยายามจะไม่จับตัวเขา แต่ทว่าเธอไม่เคยนั่งรถแบบนี้มาก่อน มันเลยดูเก้ ๆ กัง ๆ จนได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากคนตัวสูง “ถ้าเธอไม่จับไหล่ฉัน ชาตินี้เธอก็ขึ้นรถคันนี้ไม่ได้หรอก” สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ความอวดเก่งของตัวเอง เอามือไปจับไหล่ของเขาเอาไว้ แล้วขึ้นไปนั่งท่าหันเอียงข้าง เพราะเธอใส่กระโปรงจะให้นั่งคร่อมไปเลยคงไม่สะดวก เมื่อเห็นว่าเธอนั่งได้ที่แล้ว เขาก็ดึงมือเล็กของเธอมาโอบเอวเขาเอาไว้ ทีแรกคาเทียร์ก็ขัดขืนแต่เขาใช้แรงที่มีมากกว่าดึงเธอมากอดเอวเขาได้สำเร็จ แล้วหยิบหมวกกันน็อคมาใส่ ก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไปทันที เพราะความแรงของรถทำให้ร่างเล็กของเธอขยับไปติดกับแผ่นหลังหนาของคนตัวสูง ร่างกายด้านหน้าของเธอแนบไปทุกสัดส่วนกับหลังของเขา แทบไม่เหลือช่องว่างให้แม้แต่มดสักตัวลอดผ่านไปได้ ตะวันต้องขบกรามเข้าหากันแน่น ถึงจะไม่อยากคิดเรื่องลามกตอนนี้ แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้นั่งซ้อนท้ายเขาแบบนี้มาก่อน ถึงเขาจะแซวผู้หญิงไปทั่ว แต่ได้ลึกซึ้งจริง ๆ มีเพียงไม่กี่คน การได้ใกล้ชิดกับคาเทียร์ตอนนี้ ทำให้ใจแกร่งของเขาเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ สัมผัสนุ่มนิ่มชิดแผ่นหลังของเขา ไม่บอกก็รู้ว่ามันคืออะไร จะว่าเขาคิดลามกก็ได้แต่เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อเธอมีของดีมากกว่าที่ตาเห็น ส่วนคาเทียร์ต้องนั่งตัวเกร็ง เธอไม่กล้าขยับตัวหนีไปไหน ได้แต่กอดเอวเขาแน่นขึ้นไปอีก เพราะความเร็วที่เขาขับ ทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่หายใจ จนรถติดไฟแดงถึงรู้สึกหายใจได้โล่งมากขึ้น “ขับช้า ๆ หน่อยได้ไหม ฉันกลัว” “ที่กอดฉันแน่นขนาดนี้ เพราะกลัวเหรอ” “ก็ใช่นะสิ ไม่งั้นฉันไม่กอดพี่หรอก อย่าสำคัญตัวเองไปหน่อยเลย“ “หึ เธอยังไม่บอกเลยว่าให้ฉันไปส่งที่ไหน" คาเทียร์ขยับใบหน้าสวยเข้าไปใกล้เขา ถึงจะมีหมวกกันน็อคขวางอยู่ แต่มันก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดี"คอนโดฉันที่พี่เคยไปกับพี่เตอร์" เขาพยักหน้า ที่จริงเขารู้อยู่แล้วว่าต้องไปส่งเธอที่ไหน เขาเคยไปคอนโดของสามสาวหลายครั้งแล้ว แต่แค่อยากแกล้งเธอเท่านั้น ช็อปเปอร์คันหรูจอดสนิทที่หน้าคอนโดของคาเทียร์ มือเล็กรีบผละออกจากเอวแกร่งทันที เธอใช้มือจับตรงไหล่คนขับ แล้วกระโดดลงจากรถ เอามือลูบผมตัวเองที่ไม่ต้องมองก็พอจะเดาสภาพได้ว่ามันฟูขนาดไหน "ขอบคุณที่มาส่งค่ะ" "เรื่องรถฉันจะโทรหาช่างที่รู้จักให้ วันสองวันก็น่าจะเสร็จ" "...." "มีอะไรอีก?" เขาเห็นเธอยืนมองหน้าเขาไม่ไปไหนสักที เหมือนมีเรื่องจะพูดอะไรกับเขาแต่ไม่กล้า "…..” “ถ้าไม่มีอะไรพูด ฉันจะไปแล้วนะ” “แล้วฉันจะติดต่อพี่ได้ยังไง หากว่ารถซ่อมเสร็จแล้ว” ตะวันมองใบหน้าสวยของคนถาม เขารู้ว่าเธอคงไม่คิดอยากได้ช่องทางการติดต่อของเขาเพราะพิศวาสเขาหรอก เธอเป็นลูกคุณหนูที่คาแรคเตอร์ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ชอบผู้ชายแบบเขาแน่ ๆ แต่ไม่รู้เพราะอะไรเมื่อเธอพูดประโยคนี้เขาถึงได้รู้สึกใจเต้นตึกตักขึ้นมา “ฉันจะให้ช่างโทรหาเธอ” “แล้วพี่มีเบอร์ฉันหรือไง” “หรือให้พี่ชายเธอจัดการดีไหม ฉันจะบอกให้”“ซี้ด แน่นมากเลยเมียจ๋า พี่เสียวมากเลยเมีย อ๊าสส” คาเทียร์นอนหลับตาพริ้ม ซึมซับความเสียวซ่านที่กำลังแผ่ขยายไปทั่ว ร่างกายแดงเถือกจากความเสียวซ่าน เสียงความชื้นแฉะตรงที่กำลังเสียดสีกันรุนแรงปลุกอารมณ์เธอได้อย่างดี ขาเรียวอ้าออกกว้าง ยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบของเขาเอาไว้ มือเล็กจิกเกร็งตรงแผ่นหลังแน่นของคนเป็นสามี หัวสมองเริ่มขาวโพลนเมื่อความกระสันพุ่งสูงจนถึงขีดสุด คนตัวสูงยังคงกระแทกเข้าออกอยู่แบบนั้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มือหนายกขึ้นบีบเค้นอกอวบที่กวัดแกว่งตามแรงกระแทกไปมา ตั้งแต่มีลูกเต้าอวบของคาเทียร์ก็เหมือนจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก บีบเต็มไม้เต็มมือไปหมด “อ๊าส เทียร์ไม่ไหวแล้ว”คนเป็นเมียร้องออกมาก่อนที่จะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาเพราะทนความเสียวซ่านไม่ไหว ร่องรักเธอบีบรัดเอ็นร้อนของเขาแทบขาด "ซี้ด~ ตอดพี่แรงมากเลยเมีย"คนตัวสูงส่งเสียงครางกระเส่ารีบเร่งสาวสะโพกรัวเร็วไม่กี่นาทีก็ตามเธอขึ้นสวรรค์ไปติด ๆ “อึก อ๊าสส”น้ำรักขาวขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาจากลำรัก ก่อนที่ร่างสูงจะทิ้งตัวลงกอดก่ายกับเมียโดยไม่ได้ถอนแก่นกายออก คาเทียร์นอนหายใจรวยรินเหมือนคนขาดอากาศหายใจ“พี่กระแทกเองแท้ ๆ แต
นิ้วเรียวยาวของสามีหนุ่มสะกิดเมียรักยิก ๆ เมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเล็กหลับไปแล้ว“เดี๋ยวพี่อุ้มลูกไปนอนอีกห้อง” ตะวันบอกเสียงเบา พร้อมกับยกลูกสาวคนเล็กเข้าสู่อ้อมกอด นึกภาวนาในใจขอให้คืนนี้ตังเมนอนหลับสนิทจนถึงเช้าด้วยเถิด ท่าทางของคนตัวสูงสร้างความขบขันให้กับคาเทียร์ยิ่งนัก เพราะเขาทำทุกอย่างด้วยความเบามือ คงจะกลัวลูกสาวจะตื่นขึ้นมาร้องไห้งอแงเสียก่อน “ดูพี่จะมุ่งมั่นมากเลยนะคะ”หญิงสาวว่ากระแหนะกระแหนเขา “พี่อยากได้ตังค์หนึ่งพัน”คาเทียร์หลุดขำพรืดออกมาทันที ไม่คิดว่าที่เขาจริงจังเพราะอยากได้เงินหนึ่งพันเหมือนปากว่า คงเพราะอดยากปากแห้งมานานมากกว่า แต่ทว่าเธอต้องคิดผิดเมื่อทิ้งตัวลงนอน ตะวันก็ขึ้นมาทาบทับร่างเล็กของเธอทันที ก่อนจะจ้องหน้าเธอจริงจัง “ตกลงราคากันก่อนนะเมีย ถ้าพี่ทำให้เมียประทับใจต้องทิปพี่หนัก ๆ นะ” “นี่พี่ร้อนเงินหรือไง?” “ตอนนี้เมียพี่รวยกว่าพี่แล้ว แค่หมื่นสองหมื่นคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”เขาแกล้งว่าเย้า พร้อมกับมือหนาที่สัมผัสเรือนร่างแสนสวยของคนเป็นภรรยา ขนาดว่ามีลูกสองคนแล้ว แต่รูปร่างของเมียเขายังสมบูรณ์แบบเหมือนเดิมทุกอย่าง อีกทั้งยังรู้สึกอวบอิ่ม มีน้ำมีนวลกว่าเดิมด
เป็นการขับรถมาเที่ยวทั้งครอบครัวเป็นครั้งแรก ยอมรับว่าไม่ค่อยได้พาคาเทียร์ไปเที่ยวที่ไหนหลังจากแต่งงานกัน เพราะพอแต่งงานได้ไม่กี่เดือนเธอก็ท้องไต้ฝุ่นและแพ้ท้องอย่างหนัก พอแพ้ไปได้ประมาณสี่เดือนคาเทียร์ก็หายแพ้ แล้วกลายเป็นเขาแทนที่แพ้ต่อจากเธอ ทำให้ช่วงนั้นต้องให้คนเป็นพ่อเข้าไปทำงานแทนเขาทุกวัน กว่าเขาจะอาการดีขึ้น ก็ตอนที่คาเทียร์เกือบคลอดแล้ว “พี่จองที่พักแล้วเหรอคะ” “จองแล้ว ลองเปิดดูในโทรศัพท์สิ ว่าชอบหรือเปล่า” คาเทียร์หยิบโทรศัพท์เขาขึ้นมาเปิดดู ดวงตาคู่สวยก็เบิกโพลงทันที เพราะเป็นที่พักที่เธอเคยให้เขาดูว่าอยากไปพักที่นี่ แล้วเขาก็ไม่เคยลืมเลย เธอเลยต้องให้รางวัลเขาด้วยการหอมแก้มเอาใจเขาสักหน่อย ส่วนลูกลิงสองตัวที่ไม่ได้เห็นฉากสวีทของพ่อกับแม่เพราะกำลังหลับอยู่คาร์ซีทด้านหลังทั้งสองคน แต่ถึงลูกจะอยู่เธอก็ชอบแสดงความรักกับตะวันอยู่แล้ว เพราะอยากให้ลูกรู้ว่าพ่อกับแม่รักกันแค่ไหน “เทียร์รักพี่”นั่นไง...เมียเขาถ้าทำอะไรถูกใจ คำบอกรักแบบนี้ วันนี้ทั้งวันเขาจะได้ยินจนเอียนไปเลย “เมื่อเช้ายังโกรธพี่อยู่เลย พอมาเที่ยวเท่านั้นแหละ มีความสำคัญเฉย” “ไม่จริงค่ะ พี่มีความสำคัญกับเท
“พี่ตะวัน พี่ตะวัน”เสียงเรียกของคาเทียร์ดังออกมาจากในครัว ตอนนี้เธอกำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับลูกทั้งสองคนก่อนไปโรงเรียนและคนเป็นสามีที่จะเข้าไปในไร่หลังจากไปส่งลูกที่โรงเรียน “อะไรคาเทียร์” “พี่มัวทำอะไรอยู่ ไปช่วยลูกแต่งตัวหน่อยสิ วันนี้เทียร์ตื่นสายทำไม่ทันเลยค่ะ” “แม่ช่วยอยู่ เดี๋ยวพี่ช่วยเทียร์ดีกว่า”แม่ที่ตะวันเรียกก็คือแม่สามีของเธอ ตอนนี้เธอและตะวันแต่งงานกันมาหกปีแล้ว มีลูกด้วยกันสองคน เป็นลูกชายคนโตชื่อไต้ฝุ่นอายุห้าขวบ ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อตังเมอายุสามขวบ และใช่เธอทำหมันทันทีหลังคลอดตังเม เพราะตะวันเป็นคนบอกหมอให้ทำ ถึงจะเป็นการผ่าคลอดแต่เธอก็เจ็บแผลมาก หลังออกจากโรงพยาบาลเธอแทบจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพราะขยับตัวไม่ได้ นอนร้องไห้หาแม่ทุกวัน ตะวันต้องโทรให้แม่ของเธอมาอยู่เป็นเพื่อนจนแผลเธอดีขึ้น เป็นแบบนี้ทั้งสองท้อง จนตะวันต้องบอกหมอว่าให้ทำหมันเธอทันที เพราะเขาสงสารแม่ยายที่ต้องมาเฝ้าลูกสาวจนไม่ได้ทำอะไร “วันนี้พี่ต้องเข้าไปในเมืองนะ น่าจะกลับเย็น ๆ” “เมื่อวานพี่ก็เพิ่งไป ยังไม่เสร็จอีกเหรอคะ”คาเทียร์เริ่มมีอาการที่ทุกคนรู้กันคืออาการหึงหวงผัวจนเกินเหตุ ทุกวันนี้ตะวั
งานหมั้นระหว่างตะวันกับคาเทียร์ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายและเพื่อนสนิทของทั้งคู่เท่านั้นที่มาร่วมงาน โดยคิณและขวัญตาบอกว่าเอาไว้ค่อยจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่ทีเดียว ตอนนี้พิธีการก็ถึงตอนที่ทั้งคู่สวมแหวนให้กัน โดยตะวันสวมแหวนให้เจ้าสาวเสร็จแล้ว คาเทียร์ก็ก้มลงกราบบนตักตะวันทันที เป็นภาพที่ทำให้เพื่อนฝั่งฝ่ายชายส่งเสียงโห่ร้องออกมา “สวมแหวนให้พี่เขาสิลูก”ขวัญตานั่งคอยกำกับพิธีการทุกอย่างให้ทั้งตะวันและคาเทียร์รู้ เมื่อขวัญตาสวมแหวนให้ตะวันเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็ทำท่าจะก้มกราบลงบนตักคาเทียร์ จนขวัญตาต้องห้ามเอาไว้ “ผู้ชายไม่ต้องกราบ”ขวัญตากลั้นขำแทบไม่อยู่ อีกทั้งเพื่อนทั้งสองฝ่ายก็พากันหัวเราะออกมาทันทีอย่างชอบใจ รวมถึงตัวคาเทียร์ด้วย เมื่อสวมแหวนกันเสร็จ ทั้งคู่ก็คลานเข่าเข้าไปขอพรผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย โดยเริ่มจากฝ่ายตะวันก่อน “นี่แค่เริ่มต้นนะ แม่อยากให้ลูกทั้งสองคนประคับประคองความรักกันไปนาน ๆ นะ จนถึงวันที่ได้แต่งงานกัน”จินตนาอวยพรทั้งคู่น้ำตาก็ผุดซึมออกมา ไม่คิดว่าลูกชายของเธอจะโตขนาดนี้แล้ว “พ่อยินดีต้อนรับหนูนะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ”วิบูลย์พ่อของตะวันอ
คาเทียร์กลับคอนโดทันทีหลังจากจัดการเรื่องพลอยเสร็จ เธอโทรบอกพี่ชายให้จัดการทุกอย่างให้และคิดว่าตอนนี้ตะวันก็น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้ใจร้ายแต่ต้องทำเพื่อรักษาศักดิ์ศรีและความปลอดภัยของตัวเอง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะกลับมาคิดว่าเธอเป็นต้นเหตุของเรื่องพวกนี้หรือเปล่า... “อยู่คนเดียวมืด ๆ ทำไมไม่เปิดไฟ” ตะวันหลังจากรู้เรื่องนี้ ก็รีบกลับมาทันที เขารู้ว่าแม้ภายนอกคาเทียร์จะดูเหมือนเข้มแข็ง แต่ที่จริงแล้วเธออ่อนแอมาก และก็คิดไม่ผิด เมื่อกลับมาถึงแล้วเห็นหญิงสาวนอนร้องไห้อยู่ในห้องนอน “ไม่ต้องร้องนะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” “ฮึก ฮึก เทียร์ทำผิดอะไร ทำไมเพื่อนต้องทำแบบนั้นกับเทียร์ด้วย”มือหนาของตะวันลูบหัวปลอบใจเธออย่างเอ็นดู เขาเข้าใจเธอทุกอย่าง และเข้าใจสิ่งที่เธอเป็นมาตลอด คาเทียร์ไม่ได้ผิด เขาไม่เคยเห็นเธอให้ความหวังใคร อันที่จริงเธอไม่สมควรเจอเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำ “เทียร์ไม่ผิด คนทำต่างหากที่ผิด ไม่ต้องโทษตัวเองนะ” “ฮึก ฮึก ฮือ พะ พี่เคยเกลียดเทียร์หรือเปล่า”ชายหนุ่มยกตัวเธอขึ้นมา เอานิ้วเรียวปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดตรงดวงตาคู่สวย เขาไม่ชอบเวลาเห็นเธอร้องไห้เลย มันทำให้
Comments