“แล้วนั่นนายจะไปไหนทิน” ภูวเดชถามเมื่อจู่ๆ ทินภัทรก็ลุกขึ้นและทำท่าเหมือนจะเดินลงไปชั้นล่าง
“ก็จะไปทำความรู้จักกับเธอคนนั้นหน่อยไงล่ะ”
“เฮ้ยนายกำลังจะแต่งงานนะ” อรรณพร้องห้าม
“กำลังจะแต่งไม่ใช่แต่งตอนนี้สักหน่อย ก่อนจะแต่งงานก็อยากจะหาความสุขใส่ตัวบ้าง ผู้หญิงคนนั้นน่ะสเปกของฉันเลยนะ”
“แค่ทำความรู้จักก่อนก็พอนะอย่าเพิ่งลากขึ้นเตียงล่ะ” ภูวเดชตะโกนไล่หลัง
“เออน่าดูท่าทางแล้วเธอก็คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก คืนนี้ก็อาจจะทำความรู้จักกันก่อนแต่คืนต่อไปมันก็ไม่แน่นะ” เขาพูดก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่างซึ่งตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังนั่งดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ตามลำพัง
“ขอผมนั่งด้วยคนนะครับ”
“เชิญค่ะ” หญิงสาวหันมายิ้มอย่างเป็นมิตร
“มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ” ชายหนุ่มแกล้งถามทั้งที่รู้แล้วว่าเธอมากับเพื่อนกลุ่มใหญ่แต่ตอนนี้เพื่อนของเธอกำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานอยู่กับฟลอร์ของร้าน
“มากับเพื่อนค่ะ นั่นไงคะพวกเขากำลังเต้นกันอยู่เลย”
“แล้วทำไมคุณไม่ไปเต้นกับเขาล่ะ”
“ฉันไม่ถนัดเต้นเท่าไหร่คะ ถนัดนั่งดูมากกว่า คุณล่ะคะมาคนเดียวเหรอ”
“ผมมากับเพื่อนครับพวกผมนั่งกันอยู่โซนวีไอพีชั้นสองคุณอยากขึ้นไปนั่งกับพวกเราไหมล่ะ”
“ไม่ดีกว่าค่ะฉันมากับเพื่อน ถ้าฉันหายไปพวกเขาจะต้องสงสัยกันแน่ๆ”
“คุณมาเที่ยวที่นี่บ่อยเหรอครับ”
“ไม่หรอกค่ะ นานๆ ถึงจะรวมกลุ่มกันมาทีคุณคงมาเที่ยวบ่อยใช่มั้ย”
“ก็ประมาณหนึ่งตามประสาผู้ชายนั่นแหละ จะเป็นไรไหมถ้าผมจะถามชื่อคุณ”
“ฉันชื่อชัญญ่าค่ะ คุณล่ะ”
“ผมชื่อทินครับยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณชัญญ่า”
“เช่นกันค่ะ ถ้าฉันจะแทนชื่อตัวเองว่าชัญญ่าจะได้ไหมคะเพราะปกติก็เรียกแทนตัวเองกับเพื่อนๆ แบบนี้”
“ไม่เลยผมว่าถ้าแทนตัวเองด้วยชื่อมันก็ดูเป็นกันเองดีนะ ผมอยากชวนคุณไปนั่งคุยกันที่อื่นเพราะที่นี่เสียงเพลงดังมากสะดวกไหม” ทินภัทรรู้สึกถูกชะตาและอยากจะทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้นเพราะรู้สึกว่าเธอคุยเป็นธรรมาชาติมาก
“คืนนี้ชัญญ่าคงไม่สะดวกเท่าไหร่ค่ะ ชัญญ่ามากับเพื่อนก็คงต้องกลับพร้อมกับเพื่อนๆ ค่ะ”
“คุณพูดว่าคืนนี้มากับเพื่อนที่งั้นก็หมายความว่าถ้าเป็นคืนอื่นที่ไม่ได้มากับเพื่อนคุณก็สะดวกที่จะออกไปฟังเพลงกับผมใช่มั้ย”
“ก็ต้องดูก่อนค่ะว่าตอนที่คุณชวนชัญญ่าว่างหรือเปล่า”
“ขอโทษนะครับคุณชัญญ่าทำงานอะไรผมขอถามได้ไหม”
“ชัญญ่าช่วยกิจการของครอบครัวค่ะ เป็นธุรกิจเล็กๆ แล้วคุณทินล่ะคะ”
“ผมก็ทำกิจการของครอบครัวเหมือนกันครับทำพวกอสังหา”
“อสังหาเหรอคะ มีพวกคอนโดแนะนำบ้างไหม ชัญญ่าสนใจอยากจะซื้อคอนโดค่ะแต่ก็ไม่รู้จักใครที่นี่ เพื่อนๆ ก็ไม่ใครทำงานทางด้านนี้ คุณทินพอจะมีคอนโดดีๆ แนะนำหน่อยไหมคะ”
“มีครับ แต่คุยกันในนี้คงไม่สะดวกเอาเป็นว่าเรานัดคุยกันข้างนอกดีมั้ย”
“ได้ค่ะ แต่ช่วงกลางวันชัญญ่าไม่สะดวกนะคะเพราะต้องทำงานค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเป็นช่วงเย็นดีไหมผมก็เลิกงานพอดีเราจะได้มีเวลาคุยกันแบบไม่เร่งรีบ”
“ก็ดีนะคะ แล้วคุณจะนัดไปเจอที่ไหนคะ”
“เป็นร้านอาหารดีไหม จะได้ทานอาหารเย็นด้วยกัน ชัญญ่าอยากไปทานร้านไหนล่ะ”
“ชัญญ่าไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารเลยค่ะ ชัญญ่าเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นานถ้ายังไงรบกวนคุณทินร้านแนะนำอาหารไทยอร่อยๆ แล้วเรานั่งคุยกันเรื่องคอนโดดีไหม”
“ตกลงตามนั้นครับแล้วผมจะติดต่อคุณได้ยังไงล่ะ”
“แอดไลน์สิคะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาจากนั้นทั้งสองก็แอดไลน์กันก่อนที่เธอจะขอตัวไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อส่วนทินภัทรก็กลับขึ้นไปหาเพื่อนที่อยู่ด้านบน
“ทำไมกลับขึ้นมาล่ะ ปกติคุณทินภัทรสุดหล่อเวลาไปคุยกับผู้หญิงก็จะพากันออกไปต่อที่อื่นไม่ใช่เหรอ”
“ก็อยากพาไปนะภู แต่เธอบอกว่ามากับเพื่อนก็เลยนัดเจอกันวันอื่นนะ”
“นี่จะจริงจังเลยเหรอทิน” อรรณพถามเพราะรู้ว่าอีกไม่นานชายหนุ่มก็ต้องแต่งงานตามพินัยกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สมบัติมากมายขนาดนั้นถ้าหากเป็นตัวเขาก็คงต้องยอมทำตามพินัยกรรมไปก่อน
“ก็อยากจะจริงจังนะ ฉันได้คุยกับเธอแค่แป๊บเดียวก็รู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คุยสนุกเปิดเผยดีแล้วก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศด้วย”
“นายจะจริงจังกับใครไม่ได้นะทินอย่าลืมว่านายจะต้องแต่งงานกับหลานของคุณอำนาจ”
“รู้แล้วการแต่งงานมันคือหน้าที่แต่คนเรามันก็ต้องหาความสุขใส่ตัวบ้างไม่ใช่เหรอ”
“นี่นายคิดจะมีเมียน้อยตั้งแต่ยังไม่ได้แต่งงานเลยเหรอวะ”
“ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะภูแต่พอนายพูดขึ้นมาฉันก็คิดว่า ถ้าฉันแอบคบเธออย่าเงียบๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะผู้หญิงคนนั้นก็คงจะแต่งงานไปตามหน้าที่เหมือนกัน”
“ฉันละสงสารผู้หญิงที่จะแต่งงานกับนายจริงๆ ขนาดยังไม่แต่งงานนายยังมอบตำแหน่งเมียหลวงไว้ให้เธอแล้ว”
“ก็ในพินัยกรรมไม่ได้ระบุไว้นี่ว่าห้ามฉันมีคนอื่น ฉันจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ได้”
“แต่ถ้านายมัวแต่เอากระสุนจริงไปยิงเป้าปลอมแล้วเมื่อไหร่นายจะมีลูก อย่าลืมนะทินว่าถ้าไม่มีลูกต้องแต่งงานกับหลานของคุณอำนาจนานถึงห้าปี”
“ไม่ลืมหรอกน่า ฉันก็แค่อยากหาความสุขให้กับตัวเองบ้างแต่ถ้าเธอทนไม่ไหวขอหย่าก็น่าจะดีนะ”
“แล้วนายจะเลือกวิธีไหนเพื่อรับมรดกล่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันถ้าเลือกวิธีมีลูกกับผู้หญิงคนนั้นระยะเวลาก็คงไม่นานแต่จะเลือกแต่ถ้าจะให้รอถึงห้าปีฉันก็คงทรมานมากๆ แน่เลย ฉันว่าทางที่ดีที่สุดคือทำให้เธอขอหย่า”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้คิ้วของทินภัทรก็ขมวดเข้าหากันชายหนุ่มยังหาทางออกกับตัวเองไม่ได้เลยว่าจะเลือกของทางไหนแต่ทางที่เขาคิดว่าน่าสนใจที่สุดก็คือทำนิสัยแย่ๆ เพื่อให้เธอขอหย่า
“ถ้าคิดไม่ออกว่าจะเลือกวิธีไหนก็ลงไปปรึกษาหลวงพ่อดูสิ” ภูวเดชแนะนำให้ชายหนุ่มไปปรึกษาบิดาของเขาซึ่งตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ที่วัดในต่างจังหวัด
“ฉันไม่อยากเอาเรื่องเครียดไปรบกวนหลวงพ่อหรอก หลวงพ่อท่านตัดจากทางโลกไปนานแล้ว”
“นั่นสินะฉันก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย แต่ไม่ว่านายจะตัดสินใจเลือกทางไหนก็ขอให้เป็นทางที่นายมีความสุขก็แล้วกันนะ”
“ฉันจะมีความสุขได้ยังไงวะในเมื่อฉันถูกบังคับแต่งงาน”
“เอาน่าอย่างน้อยมันก็มีความสุขนิดหนึ่งหนทางข้างหน้ามันคือสมบัติของคุณปู่นะคิดไว้แบบนี้สิจะได้สบายใจขึ้น”
“ฉันจะพยายามคิดแบบนี้ก็แล้วกันนะ”
ทินภัทรถอนหายใจอย่างหนักเมื่อสายจากบ้านยังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับ“พี่ทินอยู่ไหนคะ” เสียงหวานที่ดังมาจากปลายสายทำให้เขารู้สึกตกใจจนตัวชา“ชัญญ่าเหรอ”“ค่ะ พี่ทินอยู่ที่ไหนทำไมไม่กลับบ้านมีประชุมด่วนหรือออกไปกับลูกค้าคะ” หญิงสาวถามเขาออกมาเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอกับเขาไม่ได้คุยกันเลยตลอดทั้งวัน“ชัญญ่าจริงๆ ใช่ไหม”“พี่ทินถามอะไรแปลกๆ คะหรือจำเสียงชัญญ่าไม่ได้ น่าน้อยใจจังเลยนะคะ”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ชัญญ่าแล้วโทรศัพท์ของชัญญ่าไปไหน”“ชัญญ่าลืมกระเป๋าไว้บนรถเมล์ค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลงมาจากรถเมล์แล้ว พอกลับมาที่บ้านคุณย่ากับพี่ทินก็ไม่อยู่ นี่ก็เพิ่งจัดการโทรอายัดบัตรเครดิตและเปลี่ยนรหัสผ่านพวก Facebook กับไอจีเพิ่งเสร็จ แล้วพี่ทินล่ะคะอยู่ไหนทำอะไรอยู่”“ชัญญ่าพี่ดีใจมากๆ เลยพี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ไปตามนัดขอโทษจริงๆ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชัญญ่ารู้ว่าพี่ทินอาจจะงานยุ่ง”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่โกรธหรอกค่ะแค่น้อยใจนิดหน่อยที่พี่เงียบหายไปไม่โทรมาบอกชัญญ่าเลยว่าตัวเองไม่ว่าง พี่ทินตอบชัญญ่ามาก่อนได้ไหมว่าตอนนี้พี่ทินอยู่ที่ไหน”“พี่อยู่ที่โรงพยาบาล”“อะไรนะ พ
เสียงหวอของรถกู้ภัยดังมาก่อนที่ตัวรถจะมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อรถจอดสนิทพนักงานของโรงพยาบาลก็รีบตรงไปเปิดประตูด้านหลังด้านในเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดถูกเข็นลงมาจากรถกู้ภัย จากนั้นร่างของเธอก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกย้ายขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล พนักงานที่มากับรถกู้ภัยก็รายงานอาการเบื้องต้นให้กับคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินอย่างคร่าวๆ ก่อนจะขอตัวออกมา“ชีพจรอ่อนมากหายใจลำบากเตรียมอุปกรณ์สอดท่อและแจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมเลือดไว้ด้วยนะ คนเจ็บเสียเลือดมาก เรียกเอกซเรย์เคลื่อนที่มาด้วยบริเวณขาน่าจะหักมีหมอออร์โธฯไหมเรียกให้เขาตามไปดูคนไข้ที่ห้องผ่าตัดด้วยนะ” คุณหมอประจำแผนกสั่งงานกับทั้งพยาบาลและหมอรุ่นน้องอีกให้ “ครับ / ค่ะ”“คนเจ็บมีญาติไหม”“ไม่มีเลยค่ะกู้ ภัยบอกว่าข้างตัวเธอมีแต่กระเป๋าใบนี้ตกอยู่”“ค้นกระเป๋าหาหาหลักฐานแล้วประสานงานกับญาติด่วนนะ”“ค่ะหมอ”“หมอคะตอนนี้คลำชีพจรไม่ได้แล้วค่ะ”“ขึ้นปั๊มเลย” คุณหมอหันมาสั่งหมอรุ่นน้องให้ขึ้นไปปั๊มหัวใจคนเจ็บส่วนตัวเขาเองกำลังสอดท่อช่วยหายใจอยู่ขณะที่กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตหญิ
การได้อยู่กับคนรักในทุกๆ วันมันทำให้เวลาผ่านไปเร็วมากตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่มญชุ์ชัญญาและทินภัทรจดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์หญิงสาวได้ให้ทนายเตรียมเอกสารการหย่าไว้ให้เรียบร้อยเธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าใส่ซองสีน้ำตาลและจะส่งให้ทินภัทร์เซ็นที่บริษัทหลังจากไปทำงานที่บริษัทของสามีได้ห้าเดือนมญชุ์ชัญญาก็กลับมาช่วยงานมารดาที่ร้านทองเหมือนอย่างเคยเนื่องจากเลขาของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับทินภัทรหญิงสาวไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่เธอปรึกษากับคุณย่าอรุณีแล้วเพราะเธออยากจะคืนสมบัติทุกอย่างให้กับชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะจดทะเบียนสมรสกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณย่าอรุณีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มญชุ์ชัญญาก็ยืนยันว่าอยากจะทำแบบนั้นเพราะอยากคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทินภัทรเธออยากใช้ชีวิตกับเขาเหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันจริงๆ ไม่ได้รั้งกันไว้ด้วยพินัยกรรม ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาได้เธอจะเปิดใจและยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรักให้แก่กันด้วยใจจริง แต่เรื่องนี้มันก็ยังคาใจหญิงสาวอยู่ หญิงสาวคิดว่าหลังจากหย่าจากเขาและจดทะเบียนกับเขาครั้งใหม่เธอกับเขาจะใ
ทินภัทรขับรถพามญชุ์ชัญญามายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งตั้งแต่แต่งงานเขาก็เคยพาเธอมาค้างที่นี่อยู่สองสามครั้งเมื่อประตูห้องปิดลงทินภัทรก็รวบตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนมือก็รีบถอดชุดของหญิงสาวออก มือเล็กของมญชุ์ชัญญาก็แกะกระดุมเสื้อของเขาออกเช่นกัน ร่างเปลือยเปลาสกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าประตูห้องก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอุ้มเธอมาวางบนโซฟาเขาผละจูบออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วจูบพรมไปทั้งซอกคอขาวเนียน สูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด มือใหญ่ฟอนเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มอย่างไม่ปรานี เสียงหวานครางอยู่ในลำคอกับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของคนรัก เธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณอกอิ่มแอ่นเข้าหาริมฝีปากร้อน กายสาวเบียดเข้าหากายแกร่ง เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอเมื่อทินภัทรใชฟันครูดเบาๆ บนเนินอกอิ่มสร้างความวาบหวามเสียวซ่านจนหญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของทั้งสองเป็นตัวกระตุ้นให้สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ตื่นตัวขึ้นมา เขาดูดดุนเม็ดเชอร์รี่สีสดเข้าปากจนพอใจก็จับเท้าของหญิงสาวไปวางบนโซฟาแยกเข่าทั้งสองข้างแยกจากกันจนกว้าง“อื้อ.....”มญชุ์ชัญญาครางกระเส่าเมื่อปากก้มลงดูดรวบกลีบกุหล
กลับมาจากฮันนีมูนครั้งนี้โลกทั้งใบของมญชุ์ชัญญากลายเป็นสีชมพู หญิงสาวเข้ามาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของทินภัทร แม้จะทำงานยังไม่ค่อยคล่องแต่เธอก็พยายามเรียนรู้จากพี่กัญญาหรือพี่แก้วที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหญิงสาวต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อนที่เลขาของเขาจะลาคลอด“พี่แก้วคะเอกสารตรงนี้ชัญญ่าเรียงถูกแล้วหรือเปล่าคะ”“ถูกแล้วน้องชัญญ่าเรียนรู้งานได้เร็วมากๆ แบบนี้พี่น่าจะลาคลอดได้อย่างสบายใจ”“พี่แก้วแค่ลาคลอดนะคะไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเพลินแล้วไม่กลับมาทำงานล่ะ” มญชุ์ชัญญารีบบอกเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มาทำงานเป็นเลขาของทินภัทรอีก“ถ้าพี่ไม่กลับมาจริงๆ ล่ะ” กัญญาถามภรรยาของเจ้านายที่สอนงานจนตอนนี้เริ่มสนิทกันมากแล้ว“ไม่ได้นะคะพี่แก้ว ชัญญ่าไม่ถนัดงานแบบนี้เลย”“แต่พี่ว่าชัญญ่าก็ทำได้ดีนะ”“พี่แก้วแกล้งชมชัญญ่าเพราะรู้ว่าชัญญ่าเป็นภรรยาพี่ทินหรือเปล่า”“เปล่าเลยพี่ไม่ได้แกล้งชมพี่พูดทุกอย่างไปตามเนื้อผ้า”“พี่แก้วรำคาญไหมคะที่ชัญญ่าชอบถามพี่แก้วบ่อยๆ” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจมากแต่ถ้าไม่ถามก็กลัวว่าจะทำงานไม่เรียบร้อยและปัญหาจะตามมาถ้าหากพี่กัญญาลาคลอดไปแล้ว“ไม่หรอกที่ชัญญ่าถามพี่เพราะช
คำสารภาพรับที่ออกมาจากปากของทั้งสองมันเหมือนเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำลงบนกองเพลิงแห่งตัณหาทินภัทรก้มลงจูบเธออย่างเร่าร้อนก่อนจะใช้เข่าดันเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากลงบนกลีบกุหลาบให้น้ำหวานอาบทั่วปลายหยักแล้วกดแก่นกายเข้ามาหาเธอทีเดียวจนสุดความยาว“อ๊ะ!....”หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าทินภัทรจะกระแทกเข้ามาพรวดเดียว แต่เธอก็รับความใหญ่โตของเขาไว้ได้ทั้งหมด“อ่า...ตอดแน่นจัง”“ก็ชัญญ่าเสียวของพี่ทินทั้งใหญ่ทั้งยาว”“ชอบหรือเปล่า”“ถ้าตอบว่าชอบมันจะน่าเกลียดเกินไปไหม”“ไม่น่าเกลียดเลยพี่ชอบกินของชัญญ่าพี่ยังพูดตรงๆ พี่ก็อยากรู้ว่าชัญญ่าชอบน้องชายของพี่บ้างหรือเปล่า”“ชอบค่ะพี่ทิน พี่ทินสัญญากับชัญญ่าได้ไหมว่าจากนี้จะมีแค่ชัญญ่าคนเดียวจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงอื่น”“พี่ไม่สัญญาแต่พี่สาบานเลยนะว่าจากนี้พี่จะมีชัญญ่าเป็นเมียคนเดียว จะทำให้ชัญญ่ามีความสุขแบบนี้คนเดียว”ชายหนุ่มพูดขณะที่สะโพกก็เริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอิ่ม หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงหวานครางชื่อเขาไม่ขาดปากเมื่อปลายท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดอ่อนไหว ปากร