“ครั้งหนึ่ง เธอเคยยืนข้างเขาในฐานะภรรยา แต่วันนี้ เธอยืนอยู่ข้างตัวเอง…ในฐานะผู้หญิงที่ไม่ต้องการใคร” “เธอไม่ได้รอการให้อภัย… เธอรอวันที่เขารู้ว่า การเสียเธอไป คือบทลงโทษที่โหดร้ายที่สุด”
View Moreตั้งแต่โบราณกาล มนุษย์ต่างยึดมั่นในความเชื่อ ความศรัทธา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เปรียบเสมือนแสงนำทางในยามมืดมน แม้กาลเวลาจะผันเปลี่ยนจากอดีตสู่ปัจจุบัน แต่ความศรัทธานั้นยังคงหยั่งรากลึกในหัวใจของผู้คน
ในสายตาของใครหลายคน "พระแม่ลักษมี" คือเทพีแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ และโชคลาภ ผู้เป็นที่เคารพบูชาอย่างมั่นคง
มะลิน หญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ ยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าของเดือนมีนาคม หน้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยผู้คน เธอมองแถวยาวเหยียดด้วยแววตาเปล่งประกาย
"ถึงแม้เธอจะเจออุปสรรค แต่ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี มันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น..." เสียงของหญิงชราผู้ขายดอกไม้กล่าวเบา ๆ ขณะมองมะลินด้วยสายตานิ่งลึก
"คะ? คุณยายว่าอะไรนะคะ? หนูได้ยินไม่ค่อยถนัด" มะลินเอ่ยถาม
แต่หญิงชราเงียบไป ไม่มีคำตอบ เธอเพียงแต่หันไปจัดของอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะหยิบดอกบัวสีชมพู 8 ดอก พวงมาลัยดอกมะลิ และธูปหอม 9 ดอก มายื่นให้
"จำไว้นะแม่หนู อยากได้สิ่งใด ต้องตั้งจิตให้มั่น อธิษฐานให้ชัดเจน บอกชื่อ วันเดือนปีเกิด และเล่าความตั้งใจเหมือนพูดกับญาติผู้ใหญ่"
"ขอบคุณค่ะ" มะลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้ในใจจะรู้สึกแปลกกับหญิงชราผู้นี้อยู่ไม่น้อย
ม่นานนัก ก็มาถึงคิวของมะลิน เธอวางของไหว้ในถาด แหงนมองเทวรูปของพระแม่ลักษมีอย่างสงบนิ่ง รำลึกถึงความศรัทธาอันมั่นคงของตน ก่อนจะหลับตาและเอ่ยคำอธิษฐาน
"พระแม่เจ้าขา หนูชื่อปัทมาวาตี วันเทียนเกิด 2 มกราคม 2544 ชื่อเล่นมะลิน หนูเชื่อในพระองค์มาตั้งแต่เด็ก วันนี้ หนูขอให้พระแม่เมตตา ประทานพรให้หนูได้เป็นนักเขียนเงินล้าน ขอให้ทุกตัวอักษรที่หนูเขียนออกมา มีแต่คนรักและรู้สึกถึงหัวใจของมัน"
"หากพรนี้สัมฤทธิผล ภายในเดือนนี้ หนูจะเดินทางไปกราบพระแม่ถึงถิ่นกำเนิด เพื่อแก้บน"
เธอที่กำลังจะปักธูปและวางดอกบัวสักการะ เสียงของใครคนหนึ่งที่กำลังขอพรอยู่ในขณะนั้นได้ดึงดูดความสนใจของมะลินให้หันไปตามเสียง
"ลูกมาขอผู้ชายที่ดีเป็นคู่ชีวิตค่ะ!!!"
ความอยากรู้อยากเห็นจึงบังเกิดเธอแอบชำเลืองมองในกระดาษของหญิงที่ยืนเยื้องอยู่ด้านออกไปไม่ไกลมากนัก
"ขอคู่ชีวิตอย่างนั้นเหรอ!!!"บนกระดาษของหญิงคนนั้นได้เขียนว่า"ขอผู้ชายที่ดีเป็นคู่ชีวิต"พร้อมบอกรูปร่างหน้าตานิสัยยาวเหยียดหนึ่งหน้ากระดาษ ความอยากรู้มีอะไรบ้างเธอจึงอ่านตามทีละข้อ
"ลูกขอผู้ชายที่ดีมาเป็นคู่ชีวิต ความสูง 178 หุ่นดี มีกล้าม ผิวไม่ขาวไม่ดำ หน้าตาหล่อคมเข้ม สุขุม ตาคมกริบเหมือนเหยี่ยว รวย นิสัยตามนี้ค่ะ "
ทันทีที่อ่านจบมะลินได้แต่คิดในใจ
"พี่สาวนี่มันเป็นพระเอกในนิยายชัด ๆ "
ข้อหนึ่ง เป็นคนมีความเป็นผู้นำแต่ตามใจลูกทุกอย่าง
ข้อสอง เป็นคนรักครอบครัว
ข้อสาม พูดเพราะน่ารักแค่กับหนู
ข้อสี่ ใจดีกับหนูมากๆ
ข้อห้า เป็นคนฉลาด
ข้อหก ขยัน ทำงานเก่ง
ข้อเจ็ด ขี้อ้อน
ข้อแปด ภายนอกดูสุขุมแต่คลั่งรักลูก
ข้อเก้า ติดลูกกว่าทุกสิ่ง
ข้อสิบที่สำคัญไม่ว่าในอนาคตจะมีผู้หญิงเข้ามาพัวพันมากแค่ไหน รักแค่ลูก หลงแค่ลูก และลืมรักเก่าทั้งหมด
"ขอให้เจอในเร็ววันนะคะ"
ทันใดนั้น ลมแรงพัดผ่านมา แสงแดดที่เคยจ้ากลับมืดหม่นลง เมฆดำบดบังท้องฟ้า ผู้คนรอบข้างเริ่มวิ่งหลบฝนอย่างโกลาหล แต่เมื่อมะลินปักธูปลงในกระถาง กลับเกิดสิ่งประหลาด แสงแดดสาดส่องอีกครั้ง พายุสงบลง ราวกับไม่มีพายุเกิดขึ้นเลย
มะลินยิ้มบาง ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะวูบดับ เธอเป็นลมล้มลงโดยไม่รู้ตัว...
...
เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้น หญิงชราขายดอกไม้กำลังนวดมือเธอเบา ๆ
"ตื่นแล้วหรือแม่หนู ฝันดีใช่ไหมล่ะ"
"หนูเป็นลม... แต่คุณยายรู้ได้ไงว่าหนูฝันดี?"
หญิงชราเพียงยิ้ม ไม่ตอบอะไร นอกจากเอ่ยปริศนาทิ้งท้ายว่า
"ถ้าอยากรู้ อีกไม่นานก็จะเข้าใจเอง"
...
หลังจากนั้นไม่นาน มะลินโทรหาแม่ด้วยความคาใจ เธอเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง รวมถึงความฝันประหลาดที่คล้ายจริง
"แม่จ๋า ตอนหนูเป็นลม หนูได้ยินเสียงผู้หญิงเรียก หนูรู้สึกอบอุ่นมากเลย เหมือนแม่ แต่ไม่ใช่แม่"
เสียงของมะลินสั่นคลอด้วยความประทับใจ
"แม่อยู่กับลูกเสมอนะ" ประโยคในความฝันยังคงดังกึกก้องในใจมะลิน
แม่เริ่มเล่าความจริงบางอย่างที่เธอไม่เคยเปิดเผยมาก่อน
...
ย้อนไปเมื่อ 24 ปีก่อน
เสียงทะเลาะของคู่สามีภรรยาดังลั่น สามีที่เคยอบอุ่นกลับเย็นชา เขามีภรรยาน้อย และกล้าขอให้ภรรยายอมรับความสัมพันธ์นี้อย่างหน้าตาเฉย
ความโกรธแค้นทำให้หญิงตั้งครรภ์ผลักเขาออกไป และเกิดอุบัติเหตุล้มจนเลือดไหล เธอกำลังจะเสียลูก!
เธอร้องไห้ ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลูกในท้องปลอดภัย และในความมืดนั้น เธอเห็นแสงแห่งพระแม่ลักษมีชัดเจน เธออธิษฐานว่า หากลูกปลอดภัย จะขอถวายชื่อลูกเป็นชื่อของพระแม่
ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ทันทีที่อธิษฐาน การจราจรที่ติดขัดเปิดทาง รถพาเธอไปถึงโรงพยาบาลได้ทันเวลา
หญิงสาวคนนั้นให้กำเนิดลูกหญิงที่แข็งแรงในไม่กี่สัปดาห์ถัดมา เธอตั้งชื่อว่า ปัทมาวาตี ความหมาย(เธอแห่งดอกบัว) ชื่อเล่น มะลิน จากคำว่า "ลักษมี" และดอกมะลิที่เคยใช้กราบพระแม่
...
เรื่องราวที่เริ่มต้นจากคำอธิษฐานในวันนั้น... กำลังจะกลายเป็นโชคชะตาที่เปลี่ยนชีวิตมะลินไปตลอดกาล
บรรยากาศหรูหรา ท่ามกลางแสงไฟและเสียงดนตรีไพเราะ สะท้อนประกายเพชรจากชุดส่าหรีและแลงก้าของภรรยาเศรษฐีทั้งหลาย แขกชายคือเจ้าของกิจการใหญ่ ส่วนภรรยาส่วนมากคือสาวไทยหน้าตาดี ที่กลายเป็น "สะใภ้แขก" ผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงค่ำคืนนี้จึงเหมือน “วันรวมสะใภ้ไทย” โดยไม่ต้องตั้งชื่อให้อลังการ และแล้ว...ในมุมหนึ่งของห้อง เสียงหวานแต่แฝงความเย่อหยิ่งเอ่ยขึ้น หญิงสาวรุ่นพี่ในชุดปักเลื่อมอลังการเดินเข้ามาหามะลิน ยิ้มด้วยแววตาเหนือกว่า"สามีของน้องทำงานอะไรหรือจ๊ะ?""ได้ยินข่าวว่าไปอยู่ทางโน้น...ลำบากมาเลยใช่ไหม ขายของขลัง ขายขนมอะไรสักอย่าง""กลับมาอยู่นี่ก็ดีแล้วจ้ะ พี่จะช่วยอุดหนุน" มะลินยิ้มบาง นิ่งก่อนตอบเสียงเรียบ "ใช่ค่ะ ลำบากมาก ต้องตื่นแต่เช้า ทำอาหาร คอยปรนนิบัติแม่สามี"เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย รุ่นพี่ยิ้มหยัน กลบเกลื่อนความอึดอัด"น่าสงสารเสียจริงน้องสาว" "บริษัทของสามีพี่นะ ทำงานกับบริษัทของคุณอิคชาน...เขาถึงไม่เคยปล่อยให้พี่ลำบาก"มะลินพยักหน้าเบา ๆ แล้วกล่าวสุภาพ "ดีจังเลยค่ะ...ขอตัวก่อนนะคะ"เธอหมุนตัวจากมาในชุดเดรสยาวสีเบจระยับ ผ้าคลุมไหล่บางเบาแนบกับแผ่นหลังตรงสง่าบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้
อิคชานเดินเข้ามาหาเธอที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกของห้องนอนเขา น้ำเสียงนิ่ง แต่เจือความตั้งใจชัดเจน“สิงนาท เตรียมเช็คให้คุณนาย” เลขาหนุ่มหยิบซองเช็คขึ้นมาแล้ววางลงต่อหน้ามะลิน“ผมให้คุณ 200 ล้าน” เสียงของอิคชานยังคงเรียบสงบ แต่สายตาจับจ้องมาที่เธอ“แต่...หักที่คุณไม่กลับมาในตอนแรก 20 ล้าน”“หักที่คุณปกปิดเรื่องลูก ทำให้ผมพลาดโอกาสดูแลเขาหนึ่งปี 30 ล้าน”มะลินนั่งนิ่ง นึกในใจ ‘ไม่เป็นไร ยังเหลืออยู่’แต่เขายังพูดต่อ“หักที่คุณยกลูกให้ผมแค่คนเดียว”“ถ้าผมไม่รู้ความจริง...พวกเขา พี่น้อง รีวานกับไมร่า คงต้องแยกจากกัน!”“หัก 100 ล้าน”มะลินคำนวณในใจทันที‘เหลือ 50 ล้าน...’‘ไม่เป็นไร เอาเงินตัวเองเพิ่มอีกสิบล้านก็ยังดี’ขณะนั้น ภาและติกำลังเลือกแบบคอนโด อิคชานซื้อให้ขอบคุณช่วยเลี้ยงลูก และเพราะพวกเขาอิคชานถึงได้ครอบครัวคืนมาสิงนาทวางแบบตัวอย่างคอนโดไว้ตรงหน้า ทั้งสองเลือกแบบอย่างเกรงใจ ถึงอย่างไรนั้นก็หลานเลี้ยงด้วยความรักและต่อไปนี้หลานทั้งสองไม่ขาดพ่ออีกแล้วอิคชานรับเช็คจากสิงนาทเพื่อจะเซ็นชื่อแต่เขาชะงัก เมื่อเห็นตัวเลขบนเช็ค เขามองสิงนาท“ฉันบอกว่า ‘หัก’ นายก็หักจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”
เช้าวันถัดมาแสงแดดสีอ่อนลอดผ่านกระจกใสของล็อบบี้รีสอร์ตอย่างสงบ มะลินก้าวเข้ามาในฐานะผู้จัดงาน ตรวจสอบความเรียบร้อยรอบสุดท้ายแต่สิ่งที่เธอไม่คิดว่าจะเจอคือ...เขา อิคชานยืนรออยู่ตรงทางเดินหลักยังคงใส่ชุดเรียบ สุขุม แววตานิ่ง...แต่ไม่เหมือนเมื่อวาน"มะลิน" เสียงเรียกที่ดังขึ้นชัดเจนพร้อมกับการคว้าแขนเธอเบา ๆ มะลินสะบัดหลุดก่อนจะหันมาเงียบ ๆ"กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเถอะนะ"น้ำเสียงของเขาไม่ได้ออกคำสั่ง...แต่เต็มไปด้วยการอ้อนวอน มะลินสบตาเขา นิ่งเฉียบ"ไม่ค่ะ""คุณจะหาแม่ใหม่ให้ลูกฉันไม่ใช่เหรอ?" คำพูดนั้นเหมือนดึงเขากลับไปเจ็บซ้ำในเวลาถัดมา...“พี่มะลินคะ...บริษัทเงินทุนยกเลิกค่ะ” เสียงเลขาสาวทำให้มะลินชะงักไปชั่วขณะปลายนิ้วที่กำลังเปิดสคริปต์งานสั่นเล็กน้อย “ยกเลิก?” เธอถามเสียงเบา “เขาไม่อยากมีปัญหากับ...คุณอิคชานค่ะ”โครงการอนิเมะของเธอ ที่เพิ่งเริ่มลงมือทำได้ไม่ถึงครึ่ง ถูกถอนเงินทุนกลางทางมะลินนิ่งไป ไม่พูด ดวงตาจับจ้องตัวเลขในแผนงบประมาณหกสิบล้าน ไม่ใช่จำนวนที่เธอจ่ายไม่ไหว แต่เป็นเงินที่ควรถูก “ลงทุน” ไม่ใช่ “เดิมพัน” เงินติดตัวจากวันเดินออกจากมันดาลิน...สองร้อยล้าน แต่
เสียงลมหายใจของทั้งสองคนหนักแน่นเกินกว่าคำพูดใดจะกลบได้ อิคชานนั่งมองลูก ราวกับเด็กได้ของเล่นที่โปรดปราน...“ลูกอยู่กับผม..." เขาเอ่ยเสียงต่ำมะลินเม้มปากแน่น หัวใจเธอบีบตัวเหมือนกำลังถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็น“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง...?” เขาหันมาสบตาเธอดวงตาแดงก่ำ ความผิดหวังแล่นวาบไปทั่ว“ที่ท้องโดยไม่บอก ที่เลี้ยงเขามาตลอดโดยไม่ให้ผมรู้...”“ผมเป็นพ่อนะ...” น้ำเสียงเขาแตกพร่า “ผมควรมีสิทธิ์ดูแลเขาเหมือนคุณ...”เธอนิ่งไม่ใช่เพราะไม่มีอะไรจะพูดแต่เพราะพูดออกไป...จะเจ็บยิ่งกว่ากลั้นไว้อิคชานกัดฟัน สบตาเธอแน่น “คุณใจร้ายมาก มะลิน…”เพียงประโยคนั้น เธอก็หลุดขำเบา ๆ ในลำคอ น้ำเสียงนั้นไม่ได้หัวเราะ แต่มันคือความปวดร้าวที่พรั่งพรู“ฉันใจร้ายเหรอคะ?”เธอเงยหน้าขึ้น สบตาเขาอย่างไม่หลบ“แล้วตอนที่คุณทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนในบ้านหลังนั้นล่ะ?”“ฉันออกมาก็เพราะคุณผลักไส” “คุณทำให้ฉันกลายเป็นอากาศธาตุ ทั้งที่ฉัน...เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูกคุณ”ทั้งที่หลาย ๆ ครั้งฉันอยากบอกคุณ... มือกำแน่น เธอสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามกักอารมณ์ไม่ให้สั่น“ช่างเถอะ...คุณเป็นคนสุขุม รอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วน” “ลูกอยู่กับคุณ เข
แสงไฟบนเวทีหลักสาดส่องทั่วฮอลล์หรูของรีสอร์ตกลางหุบเขา สถานที่จัดงานประกวดนิยายประจำปีของ "ต้นตะวันใหญ่" สำนักพิมพ์อันดับหนึ่งของประเทศมะลินยืนอยู่ริมเวที สวมชุดเดรสสีดำสนิท กระโปรงจีบหน้าเข้ารูปเผยเรียวขาได้รูป การแต่งหน้าเน้นผิวเนียนเปล่งปลั่ง กับริมฝีปากสีแดงไวน์ขับความสง่างามราวกับนางพญาแววตาเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ หนึ่งปีก่อน เธอคือผู้หญิงที่ยืนบนเวทีนี้ในฐานะนักเขียนดาวรุ่ง แต่หลังจากวันนั้น—เธอกลายเป็นนักเขียนเร้นกายไม่มีใครเคยเห็นหน้าเธออีกเลย มีเพียงผลงานที่พูดแทนตัวตน บทนิยายของเธอถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างซีรีส์ดังนับสิบ ทั้งยังได้รับโอกาสกำกับ และร่วมแสดงเองในบทแม่ผู้ทรงพลังระหว่างทำงาน เธอกระเตงลูกแฝดวัยสิบเดือนไปด้วย พร้อมน้องสาวและน้องชายที่ช่วยดูแลเสมอ“พี่มะลินคะ! แย่แล้วค่ะ!” เสียงของทีมงานสาวดังลั่นขณะวิ่งมาหาเธออย่างร้อนรน“กรรมการอีกท่านรถชนค่ะ มาไม่ได้แน่นอนแล้ว…” “ต้องเป็นพี่แล้วล่ะค่ะ”มะลินถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้า “ได้ค่ะ”...เสียงพิธีกรบนเวทีประกาศดังกึกก้อง ฮอลล์ทั้งห้องเต็มไปด้วยนักเขียนรุ่นใหม่และแฟนนิยายตัวยง“ขอเชิญพบกับคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน
อิคชานยืนนิ่งอยู่กลางเวที เสียงไวโอลินจางหาย กลายเป็นความเงียบที่ดังที่สุดในค่ำคืนนั้นเธอเดินจากไปอีกครั้ง ในจังหวะที่เขาคิดว่า...เขาอาจจะได้ยื้อไว้สักวินาที สายตาของผู้คนค่อย ๆ เปลี่ยนจากชื่นชม...เป็นสงสัยแต่เขาไม่แคร์ ไม่เห็นใคร เขาเห็นแค่เธอ...ในชุดแลงก้าที่ไกลออกไปทุกที “มะลิน...” เขาไม่พูดออกมาแต่ชื่อเธอ...ก้องอยู่ในใจ ชื่อเดิม เสียงเดิม ความรู้สึกเดิม ที่เขาพยายามฝังกลบมันมาตลอดหนึ่งปีและในคืนนี้...มันตื่นขึ้นพร้อมกลิ่นหอมที่เธอทิ้งไว้...หลังเวทีมะลินก้มหน้า เช็ดน้ำตาออกจากหางตา แต่เธอไม่ร้องไห้ เธอแค่เหนื่อย เธอไม่รู้ว่ากลิ่นหอมที่เธอเคยรัก จะกลายเป็นกลิ่นที่กรีดหัวใจเธอขนาดนี้ ไม่รู้ว่าท่ามกลางแขกนับร้อย สายตาของคน ๆ เดียว...ยังมีอำนาจทำให้เธอสั่นได้ขนาดนี้“พี่มะลิน”เสียงจากเลขาสาว "รีวานและไมร่าหลับแล้วค่ะ น้องสาวพี่ กับน้องชายพี่ดูอยู่รีสอร์ตข้างๆ ตามที่พี่สั่งค่ะ” มะลินพยักหน้าเบา ๆ เดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับ เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อย้อนกลับเธอแค่...ทำหน้าที่...ห้องทำงานส่วนตัวของอิคชาน คืนนั้น ไฟในห้องติดเพียงแค่โคมข้างโต๊ะ อิคชานนั่งอยู่คนเดียว มือยังคงกำแก้วเหล้า
ริมชานเดินผ่านทางเดินหินข้างล็อบบี้แสงแดดยามสายสะท้อนใบไม้ไหว เขาก้าวอย่างรีบร้อนเมื่อเห็นเงาสองร่างที่ยืนตรงเคาน์เตอร์ไม่ผิดแน่…พี่ชายเขา กับ...เธอ คำพูดเย็นชาที่อิคชานกล่าวกับมะลินเมื่อครู่นั้น ไม่ต่างจากมีดที่ฟันลึกลงกลางอากาศ ริมชานยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลหลังมะลินเดินจากไป ริมชานก็ตรงเข้ามาหาพี่ชายทันที “ทำไมพี่ต้องทำแบบนั้นกับพี่สะใภ้?”อิคชานไม่หันมา ยังคงยืนมองออกไปที่สวนด้านนอก“พี่ไม่คิดเหรอ...ว่ามันรุนแรงเกินไป?”ไม่มีคำตอบ“พี่รู้ไหม...พี่ใจร้ายกับเธอขนาดไหน? เสียงของริมชานเริ่มสั่น แต่ไม่ใช่จากโกรธ จากเสียใจแทน...ผู้หญิงคนหนึ่ง“พี่คิดว่าผมไม่รู้ใช่ไหม ว่าหัวใจพี่...มีเธออยู่เต็มไปหมด”อิคชานยังไม่พูดแต่ริมชานไม่หยุด “อย่าปฏิเสธเลยพี่ เธออยู่ในแววตาพี่ แม้ตอนที่พี่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ” ริมชานยิ้มเศร้า ก่อนพูดต่อ“ผมเป็นเชฟนะพี่ ผู้คนบินมาจากทั่วโลกเพื่อทานอาหารของผมแต่รู้ไหม...ตอนผมทำไข่เจียวให้พี่กิน มันไม่อร่อยเลย” เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างเจ็บแสบ“ไม่ใช่เพราะฝีมือผมไม่ดี แต่เพราะใจพี่...มันป่วย พี่กินอะไรไม่ได้หรอก ในเมื่อพี่ไม่ให้อภัยตัวเอง พี่มีความสุข
แสงแดดอ่อนทอดผ่านม่านหมอกจางของยามเช้า สะท้อนกระทบผิวน้ำจากบ่อประดับกลางลานอย่างนุ่มนวลเสียงนกร้องประสานกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ถูกจัดแต่งกระจายอยู่ทุกมุม สร้างบรรยากาศของงานแต่งงานอย่างสมบูรณ์แบบภายใต้ซุ้มผ้าขาวที่ตั้งรับแขกในสวนเจ้าสาวเศรษฐีสาวใต้เจ้าของโรงแรมดังในภาคใต้ วัย 45 ปี นั่งยิ้มละมุนเคียงข้างเจ้าบ่าวอินเดียวัย 55 ที่ใบหน้ายังคงสง่างามแม้กาลเวลาจะผ่านไปกับแขกอีกสองคน หนึ่งคือ ธัน นักธุรกิจหนุ่มเชื้อสายอินเดียวัยกลางคนที่กำลังดูจริงจังกับมือถือในมือและอีกคน... อิคชาน ชายผู้เป็นเจ้าของโรงแรมหรูแห่งนี้ กำลังนั่งเงียบราวกับไม่ได้อยู่ในฉากที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทันใดนั้น...เสียงส้นสูงกระทบพื้นเป็นจังหวะเบา ๆทุกคนหันไปตามเสียงและสิ่งที่เห็น…ทำให้เวลารอบตัวแทบหยุดเคลื่อนไหวมะลินาง…ในเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวปาดไหล่ กางเกงยีนเอวสูงทรงขาม้าเข้ารูป รองเท้าเปิดส้นส้นสูงสีดำผมยาวไฮไลต์น้ำตาลทองลอนสวยถึงกลางหลัง รับกับผิวเนียนที่เปล่งประกายในแสงเช้ากลิ่นน้ำหอมบางเบาที่ลอยตามลม ทำเอาอิคชานนิ่งงันหัวใจเขา...เต้นผิดจังหวะทันทีที่กลิ่นนั้นแตะปลายจมูก“มะลินจ๋า ทางนี้!” เจ้าสาวร้องเรียกเสี
เช้าวันหนึ่งในปลายเดือน…แสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านหน้าต่างไม่ได้ทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นเลย มะลินยืนอยู่หน้าประตูห้องนอน ถืออาหารเช้าที่เพิ่งลงมือทำเองกับมือเสียงฝีเท้าของเขาดังแผ่วลงบันได เขา“ฉันทำข้าวต้มหมูไว้ค่ะ ใส่เห็ดหอมแบบที่คุณชอบ…” เสียงของเธอเรียบ…เบา…แต่เต็มไปด้วยความตั้งใจอิคชานยื่นกล่องเพชรในมือให้สิงนาท "เอาไปให้กิตา เมื่อคืนฉันซื้อให้เธอแต่เธอลืม"เขาไม่อมงเธอแม้แต่น้อย ไม่มีคำตอบเดินผ่านไปเหมือนเธอคืออากาศมะลินยืนนิ่ง มองแผ่นหลังเขาเดินจากไป เธอไม่ชอบอะไรที่ไม่ชัดเจน จึงไปขวางทางเขา"หลบไป"เสียงเข้มห้าว"มาคุยกันหน่อย"มะลินพูดด้วยเสียงนุ้มเรียบ"ไม่คุย ไม่มีอะไรต้องคุย หลบไป "ใบหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงตวาท"ไม่ค่ะ" แขนทั้งสองมะลินถูกกำแน่น สายตาไร้แววของความรัก มีแต่ความเกียจชัง"ฟังนะมะลินฉันไม่อยากพูดหรือสัมผัสผู้หญิงที่คิดแต่จะไปจากฉันและเธอเป็นต้นเหตุแม่ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเธอ อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉัน!!!"เธอแตกสลายเจ็บเกินจะลุกไหว แต่มีสิ่งหนึ่งดึงเธอให้เข้มแข็ง ลูก เธอต้องมีความสุขพวกเขาจะได้เกิดมาพร้อมเสียงหัวเราะ ข้าวต้มร้อน ๆ ที่ตั้งใจทำด้วยมือเดียว…ถูกเทลงถังขยะโ
Comments