บ่ายวันเสาร์ที่บ้านของคุณย่าอรุณีกำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมอาหารเพื่อต้อนรับครอบครัวของคุณปู่อำนาจ คุณย่าเป็นคนลงมาดูแลแม่ครัวและเด็กรับใช้ในการทำอาหารด้วยตัวเอง
เมื่อถึงเวลานัดรถตู้คันใหญ่ของครอบครัวปู่อำนาจก็มาจอดที่หน้าบ้าน ย่าอรุณีรีบเดินออกไปต้อนด้วยความดีใจเพราะนานแล้วที่ไม่เจอกับครอบครัวเพื่อนสนิทของสามี
“สวัสดีค่ะคุณอำนาจ”
“สวัสดีครับคุณอรุณีสบายดีนะครับ”
“ค่ะฉันสบายดี คุณอำนาจกับุณประไพล่ะคะ”
“ก็เรื่อยๆ ตามประสาคนแก่”
“สวัสดีครับคุณปู่ คุณย่า คุณอา” ทินภัทรยกมือไหว้ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนที่เดินลงมาจากรถ
“สวัสดีจ้ะ หลานชายคุณอรุณียิ่งโตก็ยิ่งเหมือนปู่ของเขา”
“ใช่ค่ะ ตาทินเหมือนปู่ยิ่งกว่าพ่อเขาอีก แล้วมากันสี่คนเหรอคะ” คุณอรุณีถามขึ้นเมื่อไม่เห็นหลานสาวของปู่อำนาจ
“เปล่าหรอก เรามากันห้าคนนั่งไงหลานสาวผม” คุณปู่อำนาจชี้ไปในรถ
ทินภัทรมองไปในรถก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของหญิงสาวที่อยู่ด้านในและเมื่อเธอเดินลงจากและอ้อมมาทางด้านหน้ารวมตัวกับครอบครัวของเธอเขาก็ต้องตกใจมาก เมื่อผู้หญิงคนนั้นก็คือผู้หญิงที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อวันก่อน
“สวัสดีค่ะคุณย่า” มญชุ์ชัญญาสวัสดีคุณย่าอรุณีโดยไม่ทันมองว่าด้านหลังของท่านมีใครยืนอยู่
“ชัญญ่า” ทินภัทรเรียกชื่อหญิงสาวเมื่อเธอสวัสดีคุณย่าของเขาแล้ว
“คุณทิน” มญชุ์ชัญญาตกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดมาก่อนเลย เลยว่าครอบครัวของตนเองและทินภัทรจะรู้จัก
และเธอก็ไม่แน่ใจว่าเขาคือผู้ชายที่เธอจะต้องแต่งงานด้วยหรือเปล่าเพราะเธอไม่รู้ว่าคุณปู่สุทัศน์มีหลานชายกี่คน
“นี่หลานชายของย่ารู้จักกับหลานสาวของคุณปู่อำนาจแล้วใช่ไหม แบบนี้ก็ดีเลยสิ ย่าว่าพวกเราเข้าไปคุยกับข้างในบ้านดีกว่าไหมยืนคุยตรงนี้คงไม่สะดวกเท่าไหร่” คุณอรุณีเดินนำแขกทั้งห้าคนเข้าไปในบ้านเมื่อทุกคนนั่งลงก็มีการแนะนำตัวกันอีกครั้ง
“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าหลานของเราคนจะรู้จักกันมาก่อน” ปู่อำนาจพูดด้วยความดีใจ
“นั่นสิคะฉันก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วหลานไปรู้จักกับหนูชัญญ่าได้ยังไงล่ะ”
“เราบังเอิญเจอกันครับคุณย่า”
“หนูรู้จักพี่เขามานานหรือยังล่ะชัญญ่า” คุณวารีถามลูกสาว
“เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อสองวันก่อนค่ะคุณเม่” มญชุ์ชัญญาตอบมารดาไปตามความจริง
“เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เลยนะถ้ารู้จักกันมาก่อนแล้วแบบนี้ก็น่าจะคุยกันง่ายขึ้น ชัญญ่าต้องเรียกทินว่าพี่นะ เพราะเขาอายุเยอะมากกว่าหนูหลายปี” ปู่อำนาจบอกหลานสาว
“พี่เหรอคะ”
“ใช้จ้ะได้ไหม”
“ได้ค่ะคุณปู่”
“แล้วตาทินของย่าก็ต้องแทนตัวเองว่าพี่ด้วย”
“ไม่มีปัญหาครับคุณย่า”
“ปู่คะ พี่ทินคือคนที่หนูจะต้องแต่งงานด้วยเหรอคะ” หญิงสาวหันมาถามปู่อำนาจ
“ใช่แล้วล่ะชัญญ่า ทินภัทรจะต้องแต่งงานกับหนูตามพินัยกรรมที่ปู่สุทัศน์เขียนไว้ก็ได้”
“หนูคิดว่าจะแต่งงานกับหลานชายของย่าได้ไหมจ๊ะ”
คุณอรุณีถามหญิงสาวที่เธอเจอเมื่อหลายปีก่อนตอนนั้นที่มญชุ์ชัญญากลับมาเยี่ยมเมืองไทยแต่เวลาผ่านไปหลายปีคุณย่าอรุณีก็ไม่คิดเลยว่าเธอจะสวยมากขึ้นถึงเพียงนี้
“หนูคิดว่าไม่น่ามีปัญหาค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำตอบของหญิงสาวทินภัทรก็คิ้วขมวดเพราะไม่คิดว่าเธอจะยอมตอบตกลงง่ายๆ
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยเดี๋ยวย่าจะจัดการเรื่องงานแต่งงานเองนะ”
“คุณย่าอรุณีไม่ต้องจัดการหรอกค่ะ เดี๋ยวทางเราจะจัดการเองดีกว่า คุณย่าอายุเยอะแล้ววารีกลัวคุณย่าจะเหนื่อย” มารดาของหญิงสาวรีบบอกเพราะรู้สึกเห็นใจฝ่ายผู้ชายที่ต้องจัดเตรียมงานอีกอย่างครอบครัวเธอก็มีคนเยอะคิดว่าเรื่องนี้ก็น่าจะช่วยกันได้
“แต่หนูเป็นฝ่ายเจ้าสาวนะ ให้ฝ่ายเจ้าบ่าวจัดงานดีกว่าเพราะงานแต่งครั้งนี้คนที่ได้ประโยชน์ก็คือฝั่งของย่านะ”
“อย่าคิดอย่างนั้นเลยค่ะคุณย่า บ้านของวารีมีลูกสาวคนเดียวก็อยากจะจัดงานแต่งงานให้กับลูกสาวค่ะ อีกอย่างวารีก็มีประสบการณ์ในการจัดงานแต่งงานให้ลูกชายมาแล้ว ให้วารีเป็นคนจัดการเรื่องนี้เถอะนะคะ”
“ถ้าวารีเห็นอย่างนั้นย่าก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆ ย่าจะเป็นคนจัดการเอง”
“ผมว่าเรื่องค่าใช้จ่ายผมเป็นคนจัดการเองดีกว่าเพราะการแต่งงานครั้งนี้เป็นความต้องการของผมด้วย” คุณปู่อำนาจพูดขึ้น
“ถ้าคุณอำนาจจะเอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยากให้ฉันช่วยอะไรหรืออยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกมาได้เลยนะคะ”
“เดี๋ยวเราค่อยคุยรายละเอียดกันทีหลังก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องฤกษ์แต่งงานเดี๋ยวย่าจะเป็นคนไปหามาเองนะ” ย่าประไพเป็นคนเสนอเพราะเธอรู้จักชินแสเก่งๆ อยู่หลายท่าน
“ฉันฝากคุณประไพจัดการด้วยนะคะ บ้านฉันไม่เคยจัดงานแต่งงานมานานแล้วก็เลยไม่ค่อยรู้ประเพณีเท่าไหร่”
“ได้เลยค่ะ สบายใจได้เลยว่าเราจะจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติทั้งสองครอบครัวแน่นอน” คุณประไพรับปากกับทุกคนด้วยรอยยิ้มแห่งความยินดี
เธออยากจัดงานแต่งงานให้หลานสาวอย่างสมเกียรติที่สุดถึงแม้มันจะเป็นการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักแต่เธอเชื่อว่าหากเริ่มต้นด้วยงานมงคลแล้วชีวิตของหลานจะมีความสุข
เมื่อตกลงกันได้แล้วทั้งหมดก็ย้ายไปนั่งรับประทานอาหารหลังจากทานอาหารเสร็จผู้ใหญ่ก็มานั่งคุยกันในห้องรับแขกส่วนมญชุ์ชัญญาขอไปคุยกับทินภัทรตามลำพังที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
“พี่ไม่คิดเลยว่าชัญญ่าจะตกลงแต่งงานง่ายๆ แบบนี้นะ ชัญญ่าวางแผนเรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่า การที่เราเจอกันในผับคืนนั้นอยู่ในแผนด้วยใช่ไหม”
“พี่ทินคิดมากเกินไปแล้วค่ะ ชัญญ่าไม่ได้วางแผนอะไรทั้งนั้น”
“แล้วทำไมถึงตอบตกลงแต่งงานง่ายจังล่ะ”
“พี่ทินอาจมองว่าชัญญ่าเป็นผู้หญิงง่าย แต่ชัญญ่ามีเหตุผล”
“เหตุผลอะไร”
“เพราะคุณปู่สุขภาพไม่ดีท่านเป็นโรคหัวใจชัญญ่าไม่อยากให้ ท่านเครียดค่ะ แต่ชัญญ่ามีข้อตกลงก่อนแต่งงานค่ะ ถ้าพี่ทินตกลงทำตามที่ชัญญ่าเสนอเราก็จะแต่งงานกันค่ะ”
“ข้อตกลงอะไรล่ะ”
“เราสองคนจะแต่งงานกันแค่ในนามเท่านั้นเราจะไม่นอนด้วยกันค่ะ ถ้าแต่งงานครบหนึ่งปีแล้วชัญญ่าจะหย่าให้พี่ทินแล้วสมบัติทั้งหมดของคุณปู่สุทัศน์ก็จะตกเป็นของพี่ทินทั้งหมดตกลง”
“แล้วถ้าต้องหย่ากันไม่กลัวคุณปู่จะเสียใจเหรอ”
“ถึงตอนนั้นชัญญ่าจะบอกคุณปู่เองค่ะว่าชัญญ่ากับพี่ทินพยายามอยู่ด้วยกันแล้ว ปรับตัวเข้าหากันแล้วแต่เราสองคนไม่มีความสุข ชัญญ่าเชื่อว่าถึงตอนนั้นคุณปู่จะต้องเข้าใจค่ะ”
“มันก็น่าสนใจดีนะ ข้อตกลงของชัญญ่ามีแค่นี้ใช่ไหม”
ทินภัทรถอนหายใจอย่างหนักเมื่อสายจากบ้านยังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับ“พี่ทินอยู่ไหนคะ” เสียงหวานที่ดังมาจากปลายสายทำให้เขารู้สึกตกใจจนตัวชา“ชัญญ่าเหรอ”“ค่ะ พี่ทินอยู่ที่ไหนทำไมไม่กลับบ้านมีประชุมด่วนหรือออกไปกับลูกค้าคะ” หญิงสาวถามเขาออกมาเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอกับเขาไม่ได้คุยกันเลยตลอดทั้งวัน“ชัญญ่าจริงๆ ใช่ไหม”“พี่ทินถามอะไรแปลกๆ คะหรือจำเสียงชัญญ่าไม่ได้ น่าน้อยใจจังเลยนะคะ”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ชัญญ่าแล้วโทรศัพท์ของชัญญ่าไปไหน”“ชัญญ่าลืมกระเป๋าไว้บนรถเมล์ค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลงมาจากรถเมล์แล้ว พอกลับมาที่บ้านคุณย่ากับพี่ทินก็ไม่อยู่ นี่ก็เพิ่งจัดการโทรอายัดบัตรเครดิตและเปลี่ยนรหัสผ่านพวก Facebook กับไอจีเพิ่งเสร็จ แล้วพี่ทินล่ะคะอยู่ไหนทำอะไรอยู่”“ชัญญ่าพี่ดีใจมากๆ เลยพี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ไปตามนัดขอโทษจริงๆ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชัญญ่ารู้ว่าพี่ทินอาจจะงานยุ่ง”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่โกรธหรอกค่ะแค่น้อยใจนิดหน่อยที่พี่เงียบหายไปไม่โทรมาบอกชัญญ่าเลยว่าตัวเองไม่ว่าง พี่ทินตอบชัญญ่ามาก่อนได้ไหมว่าตอนนี้พี่ทินอยู่ที่ไหน”“พี่อยู่ที่โรงพยาบาล”“อะไรนะ พ
เสียงหวอของรถกู้ภัยดังมาก่อนที่ตัวรถจะมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อรถจอดสนิทพนักงานของโรงพยาบาลก็รีบตรงไปเปิดประตูด้านหลังด้านในเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดถูกเข็นลงมาจากรถกู้ภัย จากนั้นร่างของเธอก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกย้ายขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล พนักงานที่มากับรถกู้ภัยก็รายงานอาการเบื้องต้นให้กับคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินอย่างคร่าวๆ ก่อนจะขอตัวออกมา“ชีพจรอ่อนมากหายใจลำบากเตรียมอุปกรณ์สอดท่อและแจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมเลือดไว้ด้วยนะ คนเจ็บเสียเลือดมาก เรียกเอกซเรย์เคลื่อนที่มาด้วยบริเวณขาน่าจะหักมีหมอออร์โธฯไหมเรียกให้เขาตามไปดูคนไข้ที่ห้องผ่าตัดด้วยนะ” คุณหมอประจำแผนกสั่งงานกับทั้งพยาบาลและหมอรุ่นน้องอีกให้ “ครับ / ค่ะ”“คนเจ็บมีญาติไหม”“ไม่มีเลยค่ะกู้ ภัยบอกว่าข้างตัวเธอมีแต่กระเป๋าใบนี้ตกอยู่”“ค้นกระเป๋าหาหาหลักฐานแล้วประสานงานกับญาติด่วนนะ”“ค่ะหมอ”“หมอคะตอนนี้คลำชีพจรไม่ได้แล้วค่ะ”“ขึ้นปั๊มเลย” คุณหมอหันมาสั่งหมอรุ่นน้องให้ขึ้นไปปั๊มหัวใจคนเจ็บส่วนตัวเขาเองกำลังสอดท่อช่วยหายใจอยู่ขณะที่กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตหญิ
การได้อยู่กับคนรักในทุกๆ วันมันทำให้เวลาผ่านไปเร็วมากตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่มญชุ์ชัญญาและทินภัทรจดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์หญิงสาวได้ให้ทนายเตรียมเอกสารการหย่าไว้ให้เรียบร้อยเธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าใส่ซองสีน้ำตาลและจะส่งให้ทินภัทร์เซ็นที่บริษัทหลังจากไปทำงานที่บริษัทของสามีได้ห้าเดือนมญชุ์ชัญญาก็กลับมาช่วยงานมารดาที่ร้านทองเหมือนอย่างเคยเนื่องจากเลขาของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับทินภัทรหญิงสาวไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่เธอปรึกษากับคุณย่าอรุณีแล้วเพราะเธออยากจะคืนสมบัติทุกอย่างให้กับชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะจดทะเบียนสมรสกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณย่าอรุณีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มญชุ์ชัญญาก็ยืนยันว่าอยากจะทำแบบนั้นเพราะอยากคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทินภัทรเธออยากใช้ชีวิตกับเขาเหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันจริงๆ ไม่ได้รั้งกันไว้ด้วยพินัยกรรม ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาได้เธอจะเปิดใจและยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรักให้แก่กันด้วยใจจริง แต่เรื่องนี้มันก็ยังคาใจหญิงสาวอยู่ หญิงสาวคิดว่าหลังจากหย่าจากเขาและจดทะเบียนกับเขาครั้งใหม่เธอกับเขาจะใ
ทินภัทรขับรถพามญชุ์ชัญญามายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งตั้งแต่แต่งงานเขาก็เคยพาเธอมาค้างที่นี่อยู่สองสามครั้งเมื่อประตูห้องปิดลงทินภัทรก็รวบตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนมือก็รีบถอดชุดของหญิงสาวออก มือเล็กของมญชุ์ชัญญาก็แกะกระดุมเสื้อของเขาออกเช่นกัน ร่างเปลือยเปลาสกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าประตูห้องก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอุ้มเธอมาวางบนโซฟาเขาผละจูบออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วจูบพรมไปทั้งซอกคอขาวเนียน สูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด มือใหญ่ฟอนเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มอย่างไม่ปรานี เสียงหวานครางอยู่ในลำคอกับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของคนรัก เธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณอกอิ่มแอ่นเข้าหาริมฝีปากร้อน กายสาวเบียดเข้าหากายแกร่ง เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอเมื่อทินภัทรใชฟันครูดเบาๆ บนเนินอกอิ่มสร้างความวาบหวามเสียวซ่านจนหญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของทั้งสองเป็นตัวกระตุ้นให้สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ตื่นตัวขึ้นมา เขาดูดดุนเม็ดเชอร์รี่สีสดเข้าปากจนพอใจก็จับเท้าของหญิงสาวไปวางบนโซฟาแยกเข่าทั้งสองข้างแยกจากกันจนกว้าง“อื้อ.....”มญชุ์ชัญญาครางกระเส่าเมื่อปากก้มลงดูดรวบกลีบกุหล
กลับมาจากฮันนีมูนครั้งนี้โลกทั้งใบของมญชุ์ชัญญากลายเป็นสีชมพู หญิงสาวเข้ามาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของทินภัทร แม้จะทำงานยังไม่ค่อยคล่องแต่เธอก็พยายามเรียนรู้จากพี่กัญญาหรือพี่แก้วที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหญิงสาวต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อนที่เลขาของเขาจะลาคลอด“พี่แก้วคะเอกสารตรงนี้ชัญญ่าเรียงถูกแล้วหรือเปล่าคะ”“ถูกแล้วน้องชัญญ่าเรียนรู้งานได้เร็วมากๆ แบบนี้พี่น่าจะลาคลอดได้อย่างสบายใจ”“พี่แก้วแค่ลาคลอดนะคะไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเพลินแล้วไม่กลับมาทำงานล่ะ” มญชุ์ชัญญารีบบอกเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มาทำงานเป็นเลขาของทินภัทรอีก“ถ้าพี่ไม่กลับมาจริงๆ ล่ะ” กัญญาถามภรรยาของเจ้านายที่สอนงานจนตอนนี้เริ่มสนิทกันมากแล้ว“ไม่ได้นะคะพี่แก้ว ชัญญ่าไม่ถนัดงานแบบนี้เลย”“แต่พี่ว่าชัญญ่าก็ทำได้ดีนะ”“พี่แก้วแกล้งชมชัญญ่าเพราะรู้ว่าชัญญ่าเป็นภรรยาพี่ทินหรือเปล่า”“เปล่าเลยพี่ไม่ได้แกล้งชมพี่พูดทุกอย่างไปตามเนื้อผ้า”“พี่แก้วรำคาญไหมคะที่ชัญญ่าชอบถามพี่แก้วบ่อยๆ” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจมากแต่ถ้าไม่ถามก็กลัวว่าจะทำงานไม่เรียบร้อยและปัญหาจะตามมาถ้าหากพี่กัญญาลาคลอดไปแล้ว“ไม่หรอกที่ชัญญ่าถามพี่เพราะช
คำสารภาพรับที่ออกมาจากปากของทั้งสองมันเหมือนเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำลงบนกองเพลิงแห่งตัณหาทินภัทรก้มลงจูบเธออย่างเร่าร้อนก่อนจะใช้เข่าดันเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากลงบนกลีบกุหลาบให้น้ำหวานอาบทั่วปลายหยักแล้วกดแก่นกายเข้ามาหาเธอทีเดียวจนสุดความยาว“อ๊ะ!....”หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าทินภัทรจะกระแทกเข้ามาพรวดเดียว แต่เธอก็รับความใหญ่โตของเขาไว้ได้ทั้งหมด“อ่า...ตอดแน่นจัง”“ก็ชัญญ่าเสียวของพี่ทินทั้งใหญ่ทั้งยาว”“ชอบหรือเปล่า”“ถ้าตอบว่าชอบมันจะน่าเกลียดเกินไปไหม”“ไม่น่าเกลียดเลยพี่ชอบกินของชัญญ่าพี่ยังพูดตรงๆ พี่ก็อยากรู้ว่าชัญญ่าชอบน้องชายของพี่บ้างหรือเปล่า”“ชอบค่ะพี่ทิน พี่ทินสัญญากับชัญญ่าได้ไหมว่าจากนี้จะมีแค่ชัญญ่าคนเดียวจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงอื่น”“พี่ไม่สัญญาแต่พี่สาบานเลยนะว่าจากนี้พี่จะมีชัญญ่าเป็นเมียคนเดียว จะทำให้ชัญญ่ามีความสุขแบบนี้คนเดียว”ชายหนุ่มพูดขณะที่สะโพกก็เริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอิ่ม หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงหวานครางชื่อเขาไม่ขาดปากเมื่อปลายท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดอ่อนไหว ปากร