แชร์

คนเนรคุณ

ผู้เขียน: otata
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 15:46:26

"ม่าย!! ม่าย!! ม่ายอุ้งข้านะ ท่างป้อ ท่างป้อ ฉ่วยข้าย้วย ท่างป้อแงๆ แงๆ" ลู่จิวดิ้นสุดชีวิตไม่ยอมให้หนิงหลงอุ้มเขา แต่แรงของเด็กสองขวบกว่า มีเหรอจะสู้แรงของผู้ใหญ่ที่เป็นชายฉกรรจ์ได้

"ปล่อยเด็กเดี๋ยวนี้นะ" ชัดตะโกนออกมาสุดเสียง แต่เสียงที่ออกมา มันเบาจนตัวเขาเองยังแทบจะไม่ได้ยินเลย เขาเป็นอะไรเนี่ย แม้แต่แรงขยับตัวยังไม่มีเลย ปกติเขาเข้ายิมตลอด เขาเป็นผู้ชายหุ่นหมี ตามที่เพื่อนๆชอบพูดกัน เพราะว่าเขาชอบเล่นกล้าม เขาเป็นมือปืน เขาต้องออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่ตลอด พร้อมรับทุกงานที่นายสั่งมา

"เข่อซิง ตัวของเจ้าเอง เจ้ายังเอาตัวเองไม่รอดเลย เจ้าพูดอะไรข้าก็ยังไม่ได้ยินด้วยซํ้า ตอนนี้ข้าจะเอาลูกของเจ้าไปเป็นขอทานที่ตลาด เจ้ายังไม่ปัญญามาห้ามข้าเลย หึหึ" พ่อบ้านหยุนหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความสะใจ ที่เขาเอาคืนคนตระกูลหลิวได้แล้ว ถึงจะเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเขาได้เอาคืนให้กับบรรพบุรุษของเขาแล้ว

"อื้ม...ทำไมถึงลุกไม่ได้ดังใจเลยวะ อะไรวะเนี่ย นี่กูฝันไปใช่ไหม ทำไมแขนกับขาถึงได้เล็กเรียวไม่มีกล้ามเลย กล้าม...กล้ามของกูหายไปไหนหมด" ชัดกัดฟันพยายามลุกขึ้นนั่งจนได้ ก่อนที่เขาจะตกใจกับสภาพของตัวเอง จากคนที่หุ่นหมี กลายเป็นอาตี๋ตัวโปร่งบางไปสะแล้ว เขาคงจะฝันไปแหละ หลับต่อดีกว่า จะได้ตื่นขึ้นมาหุ่นหมีเหมือนเดิม

"ท่างป้อ แงๆ ท่างป้อ ฉ่วยข้า ม่ายอุ้งนะ แงๆ" ลู่จิวทั้งร้องไห้ทั้งดิ้นจนหมดแรง

"นอนไม่ได้อีก ไอ้เด็กนี่ก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย แล้วจะช่วยยังไงวะ แรงจะยกแขนยังไม่มีเลย นี่กูฝันมาสมัยไหนวะเนี่ย ทำไมยังใช้แส้เฆี่ยนอยู่อีก เขาใช้ปืนกันแล้วโว๊ย!!" ชัดพยายามที่จะพูดออกมาให้ทุกคนได้ยิน แต่มันก็ออกมาเพียงแค่ลมปากเท่านั้น

"ถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้นมาทำงาน ข้าจะให้หนิงหลงพาลู่จิวลูกของเจ้า ไปขอทานที่ตลาด เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเจ้า" พ่อบ้านหยุนมองไปที่เข่อซิงด้วยสายตาที่เยาะเย้ย

"พ่อบ้านหยุนขอรับ เข่อซิงโดนแส้ไปทั่วทั้งตัว...ขอรับ ข้าไม่พูดแล้วขอรับ" หนิงหลงก้มหน้าลงแล้วเงียบเสียงทันที ที่พ่อบ้านหยุนหันมามองหน้าของเขาด้วยสายตาที่ไม่พอใจ

"ท่างป้อ อุ้งข้า ท่างป้ออุ้ง แงๆ แงๆ" ลู่จิวร้องไห้พร้อมกับมองไปที่พ่อ ด้วยสายตาที่ขอร้องอ้อนวอน เขาไม่ได้ดิ้นอย่างในตอนแรกที่โดนอุ้มแล้ว เพราะว่าเขาดิ้นจนไม่มีแรงดิ้นแล้ว บวกกับเขายังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น

"เข่อซิง!! เจ้ามองหน้าของข้าเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร" พ่อบ้านหยุนถามเข่อซิง พร้อมกับมองเข่อซิงด้วยความไม่เข้าใจ เขาว่าสายตาของเข่อซิงดูเปลี่ยนไป ไม่เหมือนก่อน เข่อซิงสบตากับเขาแล้วไม่หลบตา แถมมองเขาด้วยสายตาเหมือนกับตำหนิเขาอีกด้วย ปกติแล้ว เข่อซิงจะก้มหน้ารับคำสั่งของเขาตลอด ไม่ได้การแล้ว เขาจะต้องรีบจัดการอะไรสักอย่าง ก่อนที่เข่อซิงจะมีกำลังขึ้นมาต่อกรกับเขาได้

"ข้าลุกไม่ไหว ท่านพ่อบ้านก็เห็นไม่ใช่รึ ว่าแผลเต็มตัวของข้าไปหมด ข้าจะเอากำลังที่ไหนลุกขึ้นมาทำงานเล่า" ชัดพยายามพูดออกมาให้มีเสียง แล้วก็หนักแน่นในนํ้าเสียงมากที่สุด เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมเขาถึงพูดภาษาเดียวกับคนพวกนี้ได้ แสดงว่าเขาคงจะฝันไปนั่นแหละ แล้วเขาก็จะต้องเอาตัวรอดจากในความฝันนี้ให้ได้ แล้วก็ไม่ใช่เขาแค่คนเดียวที่จะต้องรอด ไอ้เด็กน้อยที่เรียกเขาว่าพ่อคนนี้ก็จะต้องรอดไปกับเขาด้วย เขาอยากจะรู้แล้วสิ ว่าไอ้พ่อบ้านคนนี้มันเป็นใคร ทำไมมันถึงได้มองร่างที่เขาอาศัยอยู่ด้วยสายตาที่เกลียดชังได้ถึงขนาดนี้

"เจ้าเป็นแค่ทาสผู้รับใช้ เจ้าจะมาต่อรองไม่ได้ นายให้ที่อยู่ที่กินกับเจ้า เจ้าจะมาเนรคุณ..."

"งั้นข้าขอลาออกจากที่นี่ ข้าจะไป..."

"ฮ่าๆ เจ้าจะเป็นคนเนรคุณเช่นนั้นรึ เจ้าลืมไปแล้วรึ ว่าคนจีนอย่างเรา ต้องสำนึกบุญคุณของคนที่ให้ที่อยู่ที่กินกับเราแค่ไหน แล้วอีกอย่าง เจ้าเคยสัญญาอะไรเอาไว้ ตอนที่เจ้าขอมาอาศัยอยู่กับคนตระกูลเจิ้ง เจ้า..."

"ข้ายอมเป็นคนเนรคุณ ถ้าที่อยู่ที่กินมันแย่เช่นนี้" ชัดสบตากับพ่อบ้านหยุน โดยที่เขาไม่สนสายตาของพ่อบ้านหยุน ที่มองมาที่เขาอย่างดูถูก สัญญาบ้าบออะไรเขาไม่รู้หรอก แล้วให้อยู่ในห้องที่เหม็นอับ แถมท้องก็หิวข้าวจนปวดแบบนี้ เขาต้องสำนึกบุญคุณอะไรอีก ไหนจะถูกเฆี่ยนตีจนไม่เหลือที่ว่างขนาดนี้ เขาต้องสำนึกบุญคุณด้วยเหรอวะ

"เข่อซิง!! เจ้าเป็นคนที่เลวมาก ข้าจะรายงานนายท่าน ว่าเจ้าเป็นคนผิดคำพูด เจ้าจะหางานที่ไหนทำไม่ได้เลย เจ้าจะได้ไปนอนขอทานที่ตลาด..."

"แล้วนอนอยู่ตรงนี้ มันต่างกันตรงไหนเล่า แถมยังถูกเฆี่ยนตีอย่างกับไม่ใช่คน อย่าให้กูลุกไปได้นะมึง กูจะเป่าหัวทีละคนเลย" ชัดกัดฟันพูดเสียงเบาในท้ายประโยค หลังจากที่เขาพอที่จะรู้แล้ว ว่าถ้าเขาพูดให้คนพวกนี้ได้ยิน คนพวกนี้จะได้ยินเขาพูดภาษาเดียวกัน แต่ถ้าเขาพูดกับตัวเองหรือว่าเขานึกอยู่ในใจ เขาจะพูดเป็นภาษาที่เขาเข้าใจอยู่คนเดียว ซึ่งมันก็ดูน่าสนุกดีนะ ถ้าเขาไม่ตื่นจากความฝันนี้สะก่อน

"เข่อซิง เจ้าขอโทษพ่อบ้านหยุนสะ เจ้าจะออกไปอยู่ที่อื่นได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าเป็นหนี้บุญคุณของนายท่าน ที่ให้งานให้ที่นอนเจ้ากับลูกมาตั้งหลายปีแล้ว" หนิงหลงเอ่ยเตือนเข่อซิงด้วยความเป็นห่วง เข่อซิงอาจจะเจ็บตัวจนลืมนึกถึงบุญคุณของนายท่าน

"นายท่านมีบุญคุณต่อข้าก็จริง แต่พ่อบ้านหยุนเล่า มีบุญคุณอันใดต่อข้า เจ้าเองก็ปล่อยลูกของข้าได้แล้ว ข้าเคยได้ยินมา ว่า...ว่าอะไรวะ บุญคุณต้องชดใช้ หนี้แค้นต้องชำระ ใช่ไหมวะ ช่างมันเถอะ...เสือกเรียนมาน้อย พูดสุภาษิตไม่เป็นอีก เรียนมาน้อยถึงได้เป็นแค่มือปืนไง" ชดพึมพำกับตัวเองในท้ายประโยค 

"ท่างป้อ ท่างป้อ ฉ่วยข้าย้วย แงๆ แงๆ" ลู่จิวร้องไห้ไม่หยุด ถึงเขาจะหมดแรงดิ้นแล้วก็ตาม แต่เขาก็อยากไปหาพ่อ ที่นั่งพิงผนังอย่างคนที่ไร้เรี่ยวแรงอยู่

"ท่านส่งลูกของข้า คืนมาให้ข้า" ชัดพูดเสียงเรียบ เขามองไปที่คนอุ้มเด็กน้อยด้วยสายตาที่นิ่งดุ

"เออ...พ่อบ้านหยุนขอรับ" หนิงหลงเรียกพ่อบ้านหยุน เมื่อเขาทำตัวไม่ถูก ว่าจะเอายังไงดี เขารู้สึกว่าสายตาของเข่อซิงดูเปลี่ยนไป เหมือนกับไม่ใช่เข่อซิงคนเดิม

"เจ้าคิดดีแล้วเหรอเข่อซิง ที่เจ้าจะออกไปเป็นขอทานข้างนอก" พ่อบ้านหยุนถามด้วยนํ้าเสียงที่เยาะเย้ย

"ข้าเป็นแค่คนรับใช้ เจ้าเป็นแค่พ่อบ้าน อย่ามาทำตัวข่มข้า อย่างกับเจ้าเป็น..."

"เข่อซิง!! เจ้าปากดีกับข้า หนิงหลง!! เจ้าเอาแส้มาให้ข้า" พ่อบ้านหยุนรับแส้มาจากหนิงหลงด้วยมือที่สั่นเทาเพราะความโมโห ที่เข่อซิงกำเริบเสิบสานกับเขา โดยที่ไม่ไว้หน้าของเขาเลย

เพี๊ยะ!!

พ่อบ้านหยุนฟาดแส้ลงบนพื้นเพื่อลองกำลัง ก่อนที่เขาจะฟาดแส้ลงไปที่ตัวของเข่อซิง

เพี๊ยะ!!

"โอ๊ะ!! ฮึบ!!"

ตุ๊บ!!

"โอ้ย!!"

ชัดที่ตั้งท่ารับเอาไว้อยู่แล้ว เขากลั้นใจยกแขนที่เจ็บอยู่ ขึ้นรับแส้ที่ฟาดลงมา แล้วจับเอาแส้ที่ฟาดลงมาอย่างแรงเอาไว้ ก่อนที่เขาจะดึงแส้เข้าหาตัว จนพ่อบ้านหยุนเสียหลักถลาตัวล้มลงมานอนข้างเขา

"เข่อซิง!! เจ้า!!" พ่อบ้านหยุนเรียกเข่อซิงเสียงดังด้วยความโมโหจนขาดสติ ปากคอของเขาสั่นฟันกระทบกันจนเกิดเสียง

"เจ้าเป็นแค่พ่อบ้าน อย่ามาตัดสินความผิดของข้า" ชัดกัดฟันพูดให้พ่อบ้านหยุนได้ยินแค่คนเดียว

"หนิงหลง!! เจ้าจะยืนโง่อยู่ทำไม เข้ามาช่วยข้าเร็วสิ ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาในนี้เร็ว" พ่อบ้านหยุนตะโกนสุดเสียง พร้อมกับพยายามที่จะลุกขึ้นให้ได้ แต่เขาก็ต้องล้มลงไปอีกรอบ เมื่อเขาโดนเข่อซิงดึงชายเสื้อของเขาให้ล้มลงไป ในขณะที่หนิงหลงยืนนิ่งอึ้งไปด้วยความตกใจ เขานึกไม่ถึงว่าเข่อซิงจะกล้าทำกับพ่อบ้านหยุนได้ขนาดนี้

"พ่อบ้านหยุนจะรีบไปไหนเล่า พ่อบ้านหยุนน่าจะมาลองโดนแส้อย่างที่ข้าโดนบ้าง จะได้รู้ ว่ามันรู้สึกเช่นไร" ชัดกัดฟันพูดกับพ่อบ้านหยุน ก่อนที่เขาจะปล่อยชายเสื้อของพ่อบ้านหยุนให้เป็นอิสระ เมื่อมีเสียงเปิดประตูเข้ามา

"พ่อบ้านหยุนขอรับ มีเรื่อง...พ่อบ้าน!! ทำไมท่านถึงได้..."

"เจียวหั่ว!! เจ้ามาดึงข้าขึ้นเร็วสิ เจ้าจะมัวแต่ยืนตกใจอย่างหนิงหลงอยู่ทำไมเล่า" พ่อบ้านหยุนตะคอกสั่งเจียวหั่วด้วยความโมโห เขากับเข่อซิงคงจะอยู่ในโลกเดียวกันไม่ได้แล้วล่ะ เขาจะต้องหาทางจัดการให้เข่อซิงตายอย่างหมาไร้ญาติ ที่ห้องใต้ดินแห่งนี้ ไม่ให้หนีไปไหนได้ ไม่งั้นเขาไม่หายจากแค้นครั้งนี้ไปได้หรอก

"ขอรับพ่อบ้านหยุน" เจียวหั่วรีบก้าวขาเข้าไปช่วยพยุงให้พ่อบ้านหยุนลุกขึ้นมายืนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พ่อบ้านหยุนจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้

"เข่อซิง...เจ้ารู้จักข้าน้อยไป เดี๋ยวข้ามา" พ่อบ้านหยุนบอกกับเข่อซิงเสียงสั่น ก่อนที่เขาจะรีบเดินออกจากห้องใต้ดินไป

"ข้าไม่ได้รู้จักเจ้าน้อยไปหรอก แต่ข้าไม่ได้รู้จักเจ้าเลยตากหากเล่า พ่อบ้านหยุน" ชัดพึมพำตามหลังของพ่อบ้านหยุนไป

"เข่อซิง...เจ้าไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย" หนิงหลงพูดกับเข่อซิงด้วยนํ้าเสียงที่เป็นกังวล ก่อนที่เขาจะปล่อยให้ลู่จิวไปหาพ่อ แล้วเขาก็เดินตามพ่อบ้านหยุนออกไปจากห้อง ปล่อยให้พ่อลูกได้อยู่กันตามลำพัง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   พิเศษ น้อยใจ

    "เข่อซิง ข้ากับเจ้าทำงานกันมานานแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนหรือไม่ ข้ากับเจ้าควรจะหาที่พักผ่อนอยู่ด้วยกันตามลำพังบ้าง เจ้าว่าดีหรือไม่เล่า" หลี่หยางถามเข่อซิงเสียงนุ่ม ในขณะที่เข่อซิงกำลังนั่งทำซาลาเปาอยู่อย่างตั้งใจ หลังจากที่พวกเขากลับมาจากไปเที่ยวที่บนหุบเขา เวลาก็ล่วงเลยมานานหลายเดือน จนจะเข้าสู่ฤดูหนาวอีกแล้ว พวกเขากลับมาอยู่ที่ร้านขายผ้า ที่หัวเมืองเหอเป่ย์ตามเดิม เข่อซิงก็กลับมานั่งหัดทำซาลาเปาจนเก่ง แล้วตอนนี้เข่อซิงก็เปิดร้านขายเครื่องดื่มคู่กับซาลาเปา เป็นร้านแรกที่ทำร้านหรูหราใหญ่โต และมีภาชนะที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นให้กับคนเมืองเหอเป่ย์เป็นอย่างมาก เพราะว่าหลี่หยางทำภาชนะใส่เครื่องดื่มกับจานชาม จากสแตนเลสสตีลมาใช้ในร้านของเข่อซิงเป็นที่แรก พร้อมกับวางขายในร้านที่เปิดใหม่อีกแห่งหนึ่ง และตอนนี้หลี่หยางก็มีร้านขายพวกแก้วกับจานชามเพิ่มที่หัวเมืองเหอเป่ย์ รวมกับพวกร้านขายผ้ากับร้านขายไม้ แล้วก็เครื่องประดับสี่ร้านด้วยกัน ไม่รวมกับร้านอาหารของเข่อซิง ส่วนลู่จิวได้ไปอยู่ที่บ้านเกิดของหลี่หยาง เพื่อไปเรียนแล้วก็อยู่กับปู่กับย่า ก่อนที่ลู่จิวจะถูกส่งไปเรียนตามหัวเมือ

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   พิเศษ ข้ามีความสุขขอรับ NC

    "หือ...คุณชาย!!หนาวหรือขอรับ เหตุใดท่านถึงได้มานอนเบียดข้าเช่นนี้" ชัดถามด้วยนํ้าเสียงที่งัวเงีย เมื่อเขาโดนเบียดแปลกๆ ที่ว่าแปลกๆ เพราะว่าคนที่เบียดเขาตัวอุ่นๆเหมือนกับอุ่นเนื้อ เหมือนกับถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วอย่างนั้นแหละ และน่าจะใช่อย่างที่เขาคิด เพราะว่าคนที่นอนเบียดเขา มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่งแล้ว ในขณะที่ตอนนี้เขากับคุณชายหลี่นอนอยู่ในกระโจม ที่อยู่ในหุบเขา ซึ่งบนเขาอากาศหนาวมาก ถึงใกล้จะเข้าฤดูร้อนแล้วก็เถอะ"เข่อซิง...ข้ากับเจ้า เราเป็นคนรักกันมานานโขแล้ว และข้าก็รอให้แผลที่ท้องของเจ้าหายมานานแล้วเช่นกัน ข้ายังต้องรอสิ่งใดอีกเช่นนั้นหรือ" หลี่หยางไม่ถามเปล่า เขาถอดเสื้อผ้าออกให้กับเข่อซิงไปด้วย"คุณชาย...คุณชายเออ... เคยนอนกับ นอนกับผู้ชาย...""เจ้าจะถามข้า ว่าข้าเคยนอนกับชายด้วยกันไหม ใช่หรือไม่" หลี่หยางกระซิบถามข้างหูของเข่อซิงเสียงกระเส่า มือก็ลูบไล้ไปที่หน้าท้องแบนราบ ของคนที่นอนนิ่งให้เขากอดได้อย่างตามใจ เขาลูบไล้เลยไปที่ท่อนเอ็น ที่เริ่มแข็งชี้โด่ขึ้น ตั้งแต่ถูกถอดเสื้อผ้าออกในยามที่ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้"ซี๊ส...คุณชายขอรับ อ่า...ข้าไม่สงสัยแล้วขอรับ อื้ออออ" ชัดครางเสียงแ

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   ข้าไม่เห็นผู้ใด

    "เข่อซิง...เหตุใดเจ้าถึงได้เงียบเช่นนี้เล่า เจ้าไม่ดีใจเช่นนั้นหรือ ที่ข้าคิดเช่นเดียวกับเจ้า หรือว่าเจ้าพูดว่ารักข้า เจ้าแค่หยอกล้อข้าเล่นเท่านั้น" หลี่หยางถามเข่อซิงที่นั่งเงียบมาตลอด ตั้งแต่เขาบอกว่า เขาคิดแบบเดียวกันกับเจ้าตัวแล้ว ในขณะที่ตอนนี้พวกเขา เข้ามาอยู่ในห้องพักกันเพียงลำพังสองคนแล้ว เข่อซิงนั่งพิงหัวเตียงอยู่ เพราะว่าเขาต้องนอนพักหลังมื้ออาหารเช้า และยาต้มสมุนไพรที่เขาได้ดื่มไปแล้ว"หาเป็นเช่นนั้นไม่ขอรับ ข้าดีใจจนข้าพูดสิ่งใดไม่ออกต่างหากเล่า ข้าไม่คิดว่าทาสอย่างข้า จะมีชายที่สูงศักดิ์อย่างคุณชายหลี่มารักข้าได้ แล้ว...เออ...ท่านพ่อกับท่านแม่ของคุณชายเล่า พวกท่านจะยอมรับได้หรือไม่ขอรับ" ชัดถามเสียงเศร้า เพราะว่าถึงเขาจะดีใจ ที่คุณชายหลี่มีความรู้สึกอย่างเดียวกันกับเขา แต่ความรักของชายที่รักกับชาย ก็ใช่ว่าจะราบรื่น ยิ่งเป็นสมัยเก่าอย่างนี้ด้วย อย่าว่าแต่สังคมไม่ยอมรับเลย สังคมยังไม่รู้จักด้วยซํ้ามั้ง และนี่คือเหตุผลที่เขานั่งเงียบ เพราะว่านอกจากที่เขากับคุณชายจะใจตรงกันแล้ว แล้วต่อไปจะใช้ชีวิตกันยังไง เขายังคิดไม่ออกเลย เขามัวแต่คิดว่าชีวิตไม่ได้ยืนยาว อยากทำอะไรก็ให้รีบท

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   ใช่...

    "คุณชายขอรับ ข้าอยากเดินออกไปที่หน้าร้านขายผ้า ข้าอยากเห็นร้านซาลาเปา ว่ายามเช้าเช่นนี้มีลูกค้าหรือไม่ ข้าขอเดินออกไปได้หรือไม่ขอรับ" ชัดขอคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่แหบเบา เมื่อเขาตื่นขึ้นในเช้าของวันต่อมา เขามองไปรอบๆแล้ว เขาจำได้ว่าเขานอนอยู่ที่ไหน เพราะว่าเมื่อวาน หลังจากที่เขากินซุปข้าวโพดอิ่มแล้ว เลี่ยงเฟิ่งก็ให้เขาดื่มยาต้มสมุนไพรไปถ้วยหนึ่ง เขาก็หลับยาวจนมาถึงเช้าเลย ระหว่างทางเจออะไรบ้าง เขาเข้ามานอนในห้องพักตรงนี้ได้ยังไง เขายังไม่รู้สึกตัวเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาดูมีเรี่ยวแรงขึ้น จนเขาอยากจะลองเดินออกไปดูที่หน้าร้านขายผ้า ว่าที่หน้าร้านขายผ้า รถเข็นไม้ที่เขาใช้ขายซาลาเปา ยังอยู่เหมือนเดิมไหม และยังมีลูกค้าอยู่หรือเปล่า"เจ้าจะออกไปได้เช่นไร เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ข้า...""คุณชายหลี่พาข้าออกไปได้หรือไม่เล่า ข้ารู้สึกว่าอยากออกไปข้างนอก นอนอยู่เช่นนี้ ข้าปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัวแล้วขอรับ" ชัดขอร้องคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่ออดอ้อน เอาสิ เขาอ้อนขนาดนี้ ถ้าคุณชายหลี่ยอมใจอ่อนพาเขาไป ก็แสดงว่าคุณชายหลี่ต้องมีใจให้กับเขาบ้างแหละวะ ที่เขากล้าอ้อนคุณชายหลี่เช่นนี้ เพราะว่าเม

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   อ้าปากสิ

    "คุณชายหลี่ขอรับ รถม้าพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางขอรับ" อู๋ห่างบอกกับคุณชายหลี่ หลังจากที่เขาดูคนของเขา ขนของขึ้นไปบนรถม้าเรียบร้อยแล้ว มีรถม้าสองคัน โดยที่รถม้าคันหนึ่ง ขนเสบียงกับพวกข้าวของเครื่องใช้ ที่จำเป็นในการรักษาเข่อซิง และอีกคันหนึ่ง ให้ลู่จิวกับอันฉีแล้วก็เข่อซิงนอน และมีเลี่ยงเฟิ่งนั่งไปด้วย เพื่อดูแลเข่อซิงในระหว่างทาง ส่วนเขากับซิงเยียน แล้วก็คุณชายหลี่กับคนของเขาขี่ม้าไป ไปครั้งนี้เขาพาคนของเขาไปเยอะกว่าทุกครั้ง เพื่อป้องกันภัยจากพวกโจรระหว่างทาง "หลี่หยาง เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ พ่อหาได้เห็นด้วยกับเจ้าไม่ แต่พ่อก็บังคับเจ้าไม่ได้ เพราะว่าเจ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว" พ่อพูดกับลูกชายเสียงเครียด "ท่านพ่อขอรับ ท่านแม่ขอรับ ข้าต้องขออภัย ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้ แต่ท่านพ่อกับท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลกับข้า สิ่งใดที่ข้าได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ข้าจะไม่มีวันเสียใจเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าข้าจะตัดสินใจผิดพลาด แต่ข้าก็เป็นคนตัดสินใจเอง ข้าขอให้ท่านทั้งสองรับรู้เอาไว้ ข้าจะทำปัจจุบันของข้าให้ดีที่สุด เพราะว่าปัจจุบันจะบ่งบอก ว่าอดีตกับอนาคตของข้าจะไปในทิศทางไหน ทุกอย่างข้าเลือกเอง ข้าก็พร้อมที่จะรั

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   สุดท้ายแล้ว

    "เลี่ยงเฟิ่ง อาการของเข่อซิงเป็นเช่นไรบ้าง" หลี่หยางเดินเข้ามาในห้องรักษา ในช่วงคํ่าของวัน หลังจากที่เขาได้นอนพักเต็มอิ่มแล้ว"อาการของเข่อซิงยังคงที่ขอรับ โชคดีที่ไม่มีอาการตัวร้อนเป็นไข้ ข้าคอยเช็ดตัวแล้วก็คอยหยดยาต้มสมุนไพร ให้เข่อซิงกินทีละหยดขอรับ อย่างน้อยก็เป็นยาช่วยสมานแผล ในยามที่เข่อซิงไม่ได้สติอยู่เช่นนี้ และยาสมุนไพรตัวนี้ แก้ไข้ได้ด้วยขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งตอบคำถาม พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตามตัวให้กับเข่อซิงไปด้วย"เลี่ยงเฟิ่ง เจ้าคิดว่า เออ...เข่อซิงจะรอดพ้นคืนนี้ได้หรือไม่" หลี่หยางถามเสียงเบา เมื่อเขาเห็นสภาพเข่อซิงนอนตัวขาวซีด กว่าตอนก่อนที่เขาจะขึ้นไปนอนพักเสียอีก สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกหน่วงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก คำพูดที่เข่อซิงชอบบอกกับเขา มันเข้ามาในความรู้สึกของเขาตอนนี้ ว่าชีวิตของคนเรามันไม่ได้ยืนยาว แต่มันก็ไม่ควรที่จะสั้นขนาดนี้ไม่ใช่หรือ"ข้าตอบไม่ได้ขอรับ แต่ก็มีเรื่องดีอยู่นะขอรับ ที่เข่อซิงไม่มีอาการไข้ตัวร้อน นั่นหมายความว่า แผลที่ท้องของเข่อซิงไม่เกิดการติดเชื้อด้านในขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งพูดปลอบใจคนถาม เพราะว่าตอนนี้ใบหน้าของคุณชายหลี่ดูเป็นกังวล จนเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status