แชร์

นี่ไง...ข้าวของเจ้ากับลูก

ผู้เขียน: otata
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-18 15:42:30

"ท่างป้อ หิว...กิงก้าว ข้าหิวแย้ว กิงก้าว ท่างป้อ" ลู่จิวบอกกับพ่อเสียงอ้อน หลังจากที่เขาเดินเข้ามาหาพ่อแล้ว

"ลู่จิวใช่ไหม ชื่อของเจ้า" ชัดถามเด็กน้อยด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน ทำไมเด็กน้อยคนนี้ถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ หน้าตาก็น่ารักดีอยู่หรอก แต่ผอมแล้วก็มอมแมมไปหน่อย ไม่หน่อยสิ ถึงขั้นสกปรกเลยแหละ รวมทั้งร่างที่เขาอาศัยอยู่นี่ด้วย กลิ่นเหม็นไม่รู้ว่าเหม็นห้องที่อาศัยอยู่ตอนนี้ หรือว่าเหม็นร่างนี้กับเด็กน้อยก็ไม่รู้ 

"ยู่ฉิว ท่างป้อ ยู่ฉิว" ลู่จิวพูดชื่อของตัวเองให้พ่อฟังจนปากจู๋

"ลู่จิว เจ้าลองพูดอีกทีสิ ลู่จิว" ชัดบอกกับเด็กน้อยผู้น่าสงสารตรงหน้า ให้เด็กน้อยดูที่ปากของเขา เวลาที่เขาพูด

"ยู่ฉิว ลู่ฉิว ม่ายอาว ม่ายพูกแย้ว ท่างป้อ ข้าหิวแย้ว กิงก้าว" ลู่จิวลุกขึ้นไปนั่งบนตักของพ่ออย่างออดอ้อน

"หนาวไหม" ชัดกอดเด็กน้อยเอาไว้แน่นด้วยความสงสาร เพราะว่าเขาเองก็หิว แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน เพราะว่าแม้แต่แรงเดินแรงขยับตัวเขายังไม่มีเลย เขาก็เลยถามเด็กน้อยเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ เผื่อจะทำให้เด็กน้อยลืมความหิวไปได้บ้าง

"หิว...ท่างป้อ ข้าหิวแย้ว" ลู่จิวไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขาหิวจนปวดท้องไปหมดแล้ว

"เจ้านอนก่อนนะลู่จิว ตื่นขึ้นมาเจ้าจะได้กินข้าว" ชัดบอกกับเด็กน้อย พร้อมกับจับเด็กน้อยให้นอนลงบนพื้น ใกล้ๆกับที่เขานั่งอยู่ เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ถึงเขาจะไม่เคยมีลูกและไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน แต่สิ่งที่ลู่จิวเจออยู่ตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกสงสารจนอยากจะปกป้องเด็กคนนี้

"ทางนี้ขอรับคุณหนูอี้เฉิน" พ่อบ้านหยุนเดินนำคุณหนูใหญ่ของตระกูลเจิ้ง เข้ามาในห้องใต้ดินที่เหม็นอับด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว เขาพยายามเก็บความโมโหเอาไว้ไม่แสดงมันออกมา ให้ผู้เป็นนายของเขาได้เห็น

"ลู่จิวหลับตาแล้วเงียบก่อน" ชัดกระซิบเด็กน้อยเสียงเบา ก่อนที่เขาจะทำตัวอ่อนทิ้งนํ้าหนักตัวไปพิงผนังห้องใต้ดิน อย่างคนที่ไร้เรี่ยวแรง เขาหลับตาลงทันที ที่เขาได้ยินเสียงของพ่อบ้านหยุน กับเสียงเดินที่เหมือนกับเดินมาอีกหลายคน

"พ่อบ้านหยุน ท่านบอกกับข้าว่าเข่อซิงแข็งข้อกับท่าน สภาพของเข่อซิงเป็นเช่นนี้ เข่อซิงเอาอะไรมาแข็งข้อกับท่านอย่างนั้นรึ" อี้เฉินหันไปมองหน้าของพ่อบ้านหยุนอย่างเอือมระอา เพราะว่าสภาพของเข่อซิงตอนนี้ แม้แต่แรงหายใจยังจะไม่มีด้วยซํ้า แถมเธอยังได้ยินพวกเด็กรับใช้คุยกัน ว่าเข่อซิงโดนเฆี่ยนจนขาดใจตายไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน แต่เธอไม่สนใจ เพราะว่ามันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย แต่พ่อบ้านหยุนก็ยังอุตส่าห์ไปบอกกับเธอ ว่าเข่อซิงแข็งข้อด้วยการลุกขึ้นมาต่อสู้กับตัวเอง เธอรู้ว่าพ่อบ้านหยุนปดเธอในบางเรื่อง เพื่อหาเรื่องเข่อซิง แต่เธอก็ยังเข้าข้างพ่อบ้านหยุน เพราะว่าเธอไม่ชอบหน้าของเข่อซิงตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่ที่เข่อซิงเข้ามาทำงานในบ้านของเธอได้ เพราะว่าพ่อกับแม่ของเธอรับเข้ามาทำงาน ในขณะที่เธอไปเที่ยวบ้านญาติอีกหมู่บ้านหนึ่ง เธอไม่อยู่ เข่อซิงถึงได้มาทำงานในบ้านของเธอ

"แต่คุณหนูอี้เฉินขอรับ เมื่อกี้เข่อซิง..."

"พ่อบ้านหยุน...ข้ารู้ว่าท่านประจบสอพอข้า เพื่อที่จะกลั่นแกล้งเข่อซิง แต่ก็อย่าให้มันเกินไปนัก ที่ข้าเข้าข้างท่านมาตลอด เพราะว่าข้าเกลียดมัน แล้วสภาพนี้ ข้าจะเอาไปบอกกับท่านพ่อยังไง ว่ามันกำเริบเสิบสานกับท่าน" อี้เฉินว่าให้พ่อบ้านหยุน ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าอย่างหมดคำที่จะพูด

"คุณหนูขอรับ แต่เมื่อกี้เข่อซิงแย่งแส้จากมือของข้าไปจริงๆขอรับ" พ่อบ้านหยุนมองไปที่เข่อซิงด้วยความเจ็บแค้นใจเพิ่มเข้าไปอีก เพราะว่าตอนนี้เข่อซิงนอนนิ่ง เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว ด้วยสภาพที่มีแผลเต็มตัว เนื้อตัวก็สกปรกเต็มไปด้วยคราบเลือดกับเศษดินติดอยู่ สภาพที่เข่อซิงเป็นอยู่ตอนนี้ ทำให้คุณหนูใหญ่ของตระกูลเจิ้งไม่เชื่อเขาเลยสักนิด

"อีกสามวัน จะถึงวันที่คู่หมายของข้ามาดูตัวข้า ท่านอย่าให้เข่อซิงออกไปเพ่นพ่านในงานของข้าเด็ดขาด ให้เข่อซิงอยู่แต่ในห้องนี้ ไม่งั้นคนตระกูลหลี่จะหาว่าบ้านของข้าใจดำ ดูแลคนในบ้านไม่ดี" อี้เฉินสั่งพ่อบ้านหยุน ก่อนที่เธอจะก้าวขาเดินออกจากห้องไป

"แฮ่ะๆ หิว...ข้าหิวเหลือเกิน" ชัดไอออกมาเสียงดัง เพื่อให้คุณหนูอี้เฉินที่พ่อบ้านหยุนเรียกได้ยิน

"กิงก้าว ท่างป้อ ข้ากิงก้าวแย้ว แงะๆ แงๆ ท่างป้อ ตึ่งจิ๊" ลู่จิวที่หลับตาตามที่พ่อสั่ง พอได้ยินที่พ่อพูด เขาก็ลุกขึ้นมานั่งทันทีด้วยความหิว

"พ่อบ้านหยุน ท่านให้คนไปเอาข้าวมาให้เข่อซิงกับลูกกิน ข้าไม่อยากให้มีใครมาตาย ก่อนที่จะถึงวันสำคัญของข้า" อี้เฉินหยุดเดิน แล้วหันกลับมาสั่งพ่อบ้านหยุนเสียงเรียบ พร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์

"ขอรับคุณหนู เจียวหั่ว เจ้าได้ยินที่คุณหนูอี้เฉินพูดแล้วใช่ไหม" พ่อบ้านหยุนหันไปถามเจียวหั่วที่ยืนนิ่งคอยรับใช้อยู่ เขาส่งสายตาให้เจียวหั่วโดยที่ไม่ต้องพูด แต่ก็เป็นอันเข้าใจกัน ว่าข้าวที่จะเอามาให้เข่อซิง เป็นข้าวแบบไหน 

"ขอรับพ่อบ้านหยุน" เจียวหั่วก้มหน้ารับคำสั่ง ก่อนที่เขาจะเดินไปทำตามหน้าที่ของตัวเองอย่างรู้งาน

"เข่อซิง เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง เจ้าแข็งแรงพอที่จะลุกมาทำงานได้หรือไม่" อี้เฉินถามพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปากไปด้วยอย่างพอใจ ที่เธอเห็นว่าเข่อซิงกำลังพยายามลุกขึ้นมานั่งด้วยความอยากลำบาก

"คุณหนู คุณหนูขอรับ ตอนนี้ข้าน้อยไม่มีเรี่ยวแรงเลยขอรับ แต่ถ้าข้าน้อยมีเรี่ยวแรงขึ้นมาเมื่อไหร่ ข้าน้อยจะลุกขึ้นมาทำงานให้คุณหนูขอรับ" ชัดก้มหน้าบอกกับคุณหนูของพ่อบ้านหยุน เขาก้มหน้าก้มตาพูด โดยที่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับคุณหนูของพ่อบ้านหยุนเลย เพราะว่าเขาจะต้องเล่นบทที่ถูกพ่อบ้านหยุนรังแก

"เข่อซิง!! เมื่อกี้เจ้าไม่ได้พูดเช่นนี้กับข้า เจ้า..."

"พ่อบ้านหยุน...ท่านเงียบก่อน เดี๋ยวข้าจะจัดการเอง" อี้เฉินยกมือขึ้นห้ามพ่อบ้านหยุน เธอคิดว่าพ่อบ้านหยุนเล่นเกินบทไปแล้ว เพราะว่าท่าทางและสภาพของเข่อซิง ก็เหมือนที่เธอเคยเห็นอยู่เป็นประจำ คือก้มหน้าก้มตา ยอมทำตามคำสั่งของเธอกับพ่อบ้านหยุนทุกอย่าง แต่ถึงกระนั้น เธอกับพ่อบ้านก็ยังเกลียดแล้วก็ยังแกล้งเข่อซิงอยู่ดี แต่ครั้งนี้เธอเห็นว่าพ่อบ้านหยุน เล่นงานเข่อซิงออกนอกหน้ามากเกินไป เหมือนกับผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก ถ้าลับหลังของเธอก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ต่อหน้าเธอ แล้วก็ต่อหน้าของคนงาน เธอก็ต้องเล่นบทที่มีความยุติธรรมให้กับคนงานในบ้านเห็นบ้างสิ

"ขอรับคุณหนู" พ่อบ้านหยุนก้มหน้ารับคำของคุณหนูของเขาอย่างว่าง่าย หลังจากที่เขาสบตากับคุณหนูของเขาแล้ว

"พ่อบ้านหยุนขอรับ ข้าวของเข่อซิงขอรับ" เจียวหั่วยื่นจานข้าวให้กับพ่อบ้านหยุน

"ให้ทุกคนออกไปก่อน" อี้เฉินสบตากับพ่อบ้านหยุนอย่างรู้กัน

"ได้ยินที่คุณหนูสั่งแล้วใช่ไหม" พ่อบ้านหยุนหันไปถามคนงานสามคนที่ยืนคอยรับใช้อยู่ ทุกคนก้มหน้ารับคำ ก่อนที่จะเดินตามกันออกไป แล้วปล่อยให้พ่อบ้านหยุนอยู่กับคุณหนูอี้เฉินตามลำพังกับสองพ่อลูก

"เข่อซิง เจ้ากับลูกของเจ้าหิวข้าวใช่หรือไม่ อ่ะ...นี่ไง ข้าวของเจ้ากับลูก" อี้เฉินรับจานข้าวมาจากพ่อบ้านหยุน ก่อนที่เธอจะโยนจานข้าวลงไปบนพื้น ตรงด้านหน้าของเข่อซิงกับลูก

เพล้ง!!

จานข้าวที่ลงไปกระทบกับพื้น ทำให้ข้าวที่อยู่ในจาน กระเด็นออกไปจากจานจนไม่เหลือข้าวในจานเลยสักเม็ด

"กิงก้าว ท่างป้อ ข้ากิงก้าว" ลู่จิวกำเอาข้าวที่เลอะดินขึ้นมา แล้วจะเอาเข้าปากด้วยความหิวโหย

"ลู่จิว เดี๋ยว...เดี๋ยวพ่อเอาดินออกให้ก่อน" ชัดบอกกับเด็กน้อยเสียงเบา เขากัดฟันด้วยความแค้นที่จุกอก เขาค่อยๆปัดเศษดินออกจากข้าวที่อยู่ในมือของลู่จิวออก สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ความแค้นแทนที่ความหิว แต่ถึงกระนั้น เขาก็ต้องกินข้าวเข้าไป ถึงมันจะเลอะดิน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย เขาจะต้องกินทุกอย่าง เพื่อให้ร่างกายของเขากลับมาแข็งแรงให้เร็วที่สุด

"ท่างป้อ ข้ากิง ข้ากิงก้าวนะ" ลู่จิวมองข้าวที่อยู่ในมือของพ่อ ที่กำลังปัดเศษดินออกให้เขาอยู่ เขามองข้าวที่อยู่ในมือของพ่อด้วยความหิวโหย

"อ่ะ...กินได้แล้ว ค่อยๆเคี้ยวนะ" ชัดพูดกับลู่จิว โดยที่เขาก้มหน้าคุยกับลู่จิวตลอดเวลา และตลอดเวลา เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของคุณหนูของพ่อบ้านหยุนเลย เพราะว่าเขาไม่อยากให้ทั้งคู่ เห็นแววตาที่เคียดแค้นของเขาในเวลานี้ จริงตามที่สุภาษิตที่ว่า สิบปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย แล้วไม่ต้องห่วงหรอก ข้าวทุกเม็ดที่เขากับเด็กคนนี้กินเข้าไป เขาจะเอามาคืนทุกเม็ดเช่นกัน มีบุญคุณต่อกันก็ต้องชดใช้ ความแค้นก็เช่นกัน เขาจะเอาคืนให้กับร่างที่เขาอาศัยอยู่ รวมทั้งลู่จิวด้วย สิ่งที่เขาโดน เขาจะเอาคืนเช่นกัน เขาขอสาบาน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   พิเศษ น้อยใจ

    "เข่อซิง ข้ากับเจ้าทำงานกันมานานแล้ว เจ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนหรือไม่ ข้ากับเจ้าควรจะหาที่พักผ่อนอยู่ด้วยกันตามลำพังบ้าง เจ้าว่าดีหรือไม่เล่า" หลี่หยางถามเข่อซิงเสียงนุ่ม ในขณะที่เข่อซิงกำลังนั่งทำซาลาเปาอยู่อย่างตั้งใจ หลังจากที่พวกเขากลับมาจากไปเที่ยวที่บนหุบเขา เวลาก็ล่วงเลยมานานหลายเดือน จนจะเข้าสู่ฤดูหนาวอีกแล้ว พวกเขากลับมาอยู่ที่ร้านขายผ้า ที่หัวเมืองเหอเป่ย์ตามเดิม เข่อซิงก็กลับมานั่งหัดทำซาลาเปาจนเก่ง แล้วตอนนี้เข่อซิงก็เปิดร้านขายเครื่องดื่มคู่กับซาลาเปา เป็นร้านแรกที่ทำร้านหรูหราใหญ่โต และมีภาชนะที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งก็สร้างความตื่นเต้นให้กับคนเมืองเหอเป่ย์เป็นอย่างมาก เพราะว่าหลี่หยางทำภาชนะใส่เครื่องดื่มกับจานชาม จากสแตนเลสสตีลมาใช้ในร้านของเข่อซิงเป็นที่แรก พร้อมกับวางขายในร้านที่เปิดใหม่อีกแห่งหนึ่ง และตอนนี้หลี่หยางก็มีร้านขายพวกแก้วกับจานชามเพิ่มที่หัวเมืองเหอเป่ย์ รวมกับพวกร้านขายผ้ากับร้านขายไม้ แล้วก็เครื่องประดับสี่ร้านด้วยกัน ไม่รวมกับร้านอาหารของเข่อซิง ส่วนลู่จิวได้ไปอยู่ที่บ้านเกิดของหลี่หยาง เพื่อไปเรียนแล้วก็อยู่กับปู่กับย่า ก่อนที่ลู่จิวจะถูกส่งไปเรียนตามหัวเมือ

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   พิเศษ ข้ามีความสุขขอรับ NC

    "หือ...คุณชาย!!หนาวหรือขอรับ เหตุใดท่านถึงได้มานอนเบียดข้าเช่นนี้" ชัดถามด้วยนํ้าเสียงที่งัวเงีย เมื่อเขาโดนเบียดแปลกๆ ที่ว่าแปลกๆ เพราะว่าคนที่เบียดเขาตัวอุ่นๆเหมือนกับอุ่นเนื้อ เหมือนกับถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วอย่างนั้นแหละ และน่าจะใช่อย่างที่เขาคิด เพราะว่าคนที่นอนเบียดเขา มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่งแล้ว ในขณะที่ตอนนี้เขากับคุณชายหลี่นอนอยู่ในกระโจม ที่อยู่ในหุบเขา ซึ่งบนเขาอากาศหนาวมาก ถึงใกล้จะเข้าฤดูร้อนแล้วก็เถอะ"เข่อซิง...ข้ากับเจ้า เราเป็นคนรักกันมานานโขแล้ว และข้าก็รอให้แผลที่ท้องของเจ้าหายมานานแล้วเช่นกัน ข้ายังต้องรอสิ่งใดอีกเช่นนั้นหรือ" หลี่หยางไม่ถามเปล่า เขาถอดเสื้อผ้าออกให้กับเข่อซิงไปด้วย"คุณชาย...คุณชายเออ... เคยนอนกับ นอนกับผู้ชาย...""เจ้าจะถามข้า ว่าข้าเคยนอนกับชายด้วยกันไหม ใช่หรือไม่" หลี่หยางกระซิบถามข้างหูของเข่อซิงเสียงกระเส่า มือก็ลูบไล้ไปที่หน้าท้องแบนราบ ของคนที่นอนนิ่งให้เขากอดได้อย่างตามใจ เขาลูบไล้เลยไปที่ท่อนเอ็น ที่เริ่มแข็งชี้โด่ขึ้น ตั้งแต่ถูกถอดเสื้อผ้าออกในยามที่ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้"ซี๊ส...คุณชายขอรับ อ่า...ข้าไม่สงสัยแล้วขอรับ อื้ออออ" ชัดครางเสียงแ

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   ข้าไม่เห็นผู้ใด

    "เข่อซิง...เหตุใดเจ้าถึงได้เงียบเช่นนี้เล่า เจ้าไม่ดีใจเช่นนั้นหรือ ที่ข้าคิดเช่นเดียวกับเจ้า หรือว่าเจ้าพูดว่ารักข้า เจ้าแค่หยอกล้อข้าเล่นเท่านั้น" หลี่หยางถามเข่อซิงที่นั่งเงียบมาตลอด ตั้งแต่เขาบอกว่า เขาคิดแบบเดียวกันกับเจ้าตัวแล้ว ในขณะที่ตอนนี้พวกเขา เข้ามาอยู่ในห้องพักกันเพียงลำพังสองคนแล้ว เข่อซิงนั่งพิงหัวเตียงอยู่ เพราะว่าเขาต้องนอนพักหลังมื้ออาหารเช้า และยาต้มสมุนไพรที่เขาได้ดื่มไปแล้ว"หาเป็นเช่นนั้นไม่ขอรับ ข้าดีใจจนข้าพูดสิ่งใดไม่ออกต่างหากเล่า ข้าไม่คิดว่าทาสอย่างข้า จะมีชายที่สูงศักดิ์อย่างคุณชายหลี่มารักข้าได้ แล้ว...เออ...ท่านพ่อกับท่านแม่ของคุณชายเล่า พวกท่านจะยอมรับได้หรือไม่ขอรับ" ชัดถามเสียงเศร้า เพราะว่าถึงเขาจะดีใจ ที่คุณชายหลี่มีความรู้สึกอย่างเดียวกันกับเขา แต่ความรักของชายที่รักกับชาย ก็ใช่ว่าจะราบรื่น ยิ่งเป็นสมัยเก่าอย่างนี้ด้วย อย่าว่าแต่สังคมไม่ยอมรับเลย สังคมยังไม่รู้จักด้วยซํ้ามั้ง และนี่คือเหตุผลที่เขานั่งเงียบ เพราะว่านอกจากที่เขากับคุณชายจะใจตรงกันแล้ว แล้วต่อไปจะใช้ชีวิตกันยังไง เขายังคิดไม่ออกเลย เขามัวแต่คิดว่าชีวิตไม่ได้ยืนยาว อยากทำอะไรก็ให้รีบท

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   ใช่...

    "คุณชายขอรับ ข้าอยากเดินออกไปที่หน้าร้านขายผ้า ข้าอยากเห็นร้านซาลาเปา ว่ายามเช้าเช่นนี้มีลูกค้าหรือไม่ ข้าขอเดินออกไปได้หรือไม่ขอรับ" ชัดขอคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่แหบเบา เมื่อเขาตื่นขึ้นในเช้าของวันต่อมา เขามองไปรอบๆแล้ว เขาจำได้ว่าเขานอนอยู่ที่ไหน เพราะว่าเมื่อวาน หลังจากที่เขากินซุปข้าวโพดอิ่มแล้ว เลี่ยงเฟิ่งก็ให้เขาดื่มยาต้มสมุนไพรไปถ้วยหนึ่ง เขาก็หลับยาวจนมาถึงเช้าเลย ระหว่างทางเจออะไรบ้าง เขาเข้ามานอนในห้องพักตรงนี้ได้ยังไง เขายังไม่รู้สึกตัวเลย แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาดูมีเรี่ยวแรงขึ้น จนเขาอยากจะลองเดินออกไปดูที่หน้าร้านขายผ้า ว่าที่หน้าร้านขายผ้า รถเข็นไม้ที่เขาใช้ขายซาลาเปา ยังอยู่เหมือนเดิมไหม และยังมีลูกค้าอยู่หรือเปล่า"เจ้าจะออกไปได้เช่นไร เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ข้า...""คุณชายหลี่พาข้าออกไปได้หรือไม่เล่า ข้ารู้สึกว่าอยากออกไปข้างนอก นอนอยู่เช่นนี้ ข้าปวดเมื่อยไปทั่วทั้งตัวแล้วขอรับ" ชัดขอร้องคุณชายหลี่ด้วยนํ้าเสียงที่ออดอ้อน เอาสิ เขาอ้อนขนาดนี้ ถ้าคุณชายหลี่ยอมใจอ่อนพาเขาไป ก็แสดงว่าคุณชายหลี่ต้องมีใจให้กับเขาบ้างแหละวะ ที่เขากล้าอ้อนคุณชายหลี่เช่นนี้ เพราะว่าเม

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   อ้าปากสิ

    "คุณชายหลี่ขอรับ รถม้าพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางขอรับ" อู๋ห่างบอกกับคุณชายหลี่ หลังจากที่เขาดูคนของเขา ขนของขึ้นไปบนรถม้าเรียบร้อยแล้ว มีรถม้าสองคัน โดยที่รถม้าคันหนึ่ง ขนเสบียงกับพวกข้าวของเครื่องใช้ ที่จำเป็นในการรักษาเข่อซิง และอีกคันหนึ่ง ให้ลู่จิวกับอันฉีแล้วก็เข่อซิงนอน และมีเลี่ยงเฟิ่งนั่งไปด้วย เพื่อดูแลเข่อซิงในระหว่างทาง ส่วนเขากับซิงเยียน แล้วก็คุณชายหลี่กับคนของเขาขี่ม้าไป ไปครั้งนี้เขาพาคนของเขาไปเยอะกว่าทุกครั้ง เพื่อป้องกันภัยจากพวกโจรระหว่างทาง "หลี่หยาง เจ้าตัดสินใจเช่นนี้ พ่อหาได้เห็นด้วยกับเจ้าไม่ แต่พ่อก็บังคับเจ้าไม่ได้ เพราะว่าเจ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว" พ่อพูดกับลูกชายเสียงเครียด "ท่านพ่อขอรับ ท่านแม่ขอรับ ข้าต้องขออภัย ที่ข้าตัดสินใจเช่นนี้ แต่ท่านพ่อกับท่านแม่อย่าได้เป็นกังวลกับข้า สิ่งใดที่ข้าได้ตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว ข้าจะไม่มีวันเสียใจเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าข้าจะตัดสินใจผิดพลาด แต่ข้าก็เป็นคนตัดสินใจเอง ข้าขอให้ท่านทั้งสองรับรู้เอาไว้ ข้าจะทำปัจจุบันของข้าให้ดีที่สุด เพราะว่าปัจจุบันจะบ่งบอก ว่าอดีตกับอนาคตของข้าจะไปในทิศทางไหน ทุกอย่างข้าเลือกเอง ข้าก็พร้อมที่จะรั

  • มือปืนเกิดใหม่ในร่างทาสผู้ตํ่าต้อย   สุดท้ายแล้ว

    "เลี่ยงเฟิ่ง อาการของเข่อซิงเป็นเช่นไรบ้าง" หลี่หยางเดินเข้ามาในห้องรักษา ในช่วงคํ่าของวัน หลังจากที่เขาได้นอนพักเต็มอิ่มแล้ว"อาการของเข่อซิงยังคงที่ขอรับ โชคดีที่ไม่มีอาการตัวร้อนเป็นไข้ ข้าคอยเช็ดตัวแล้วก็คอยหยดยาต้มสมุนไพร ให้เข่อซิงกินทีละหยดขอรับ อย่างน้อยก็เป็นยาช่วยสมานแผล ในยามที่เข่อซิงไม่ได้สติอยู่เช่นนี้ และยาสมุนไพรตัวนี้ แก้ไข้ได้ด้วยขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งตอบคำถาม พร้อมกับใช้ผ้าเช็ดตามตัวให้กับเข่อซิงไปด้วย"เลี่ยงเฟิ่ง เจ้าคิดว่า เออ...เข่อซิงจะรอดพ้นคืนนี้ได้หรือไม่" หลี่หยางถามเสียงเบา เมื่อเขาเห็นสภาพเข่อซิงนอนตัวขาวซีด กว่าตอนก่อนที่เขาจะขึ้นไปนอนพักเสียอีก สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกหน่วงที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก คำพูดที่เข่อซิงชอบบอกกับเขา มันเข้ามาในความรู้สึกของเขาตอนนี้ ว่าชีวิตของคนเรามันไม่ได้ยืนยาว แต่มันก็ไม่ควรที่จะสั้นขนาดนี้ไม่ใช่หรือ"ข้าตอบไม่ได้ขอรับ แต่ก็มีเรื่องดีอยู่นะขอรับ ที่เข่อซิงไม่มีอาการไข้ตัวร้อน นั่นหมายความว่า แผลที่ท้องของเข่อซิงไม่เกิดการติดเชื้อด้านในขอรับ" เลี่ยงเฟิ่งพูดปลอบใจคนถาม เพราะว่าตอนนี้ใบหน้าของคุณชายหลี่ดูเป็นกังวล จนเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status