共有

บทที่ 6

作者: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานแต่งกายด้วยชุดสีขาวบาง คุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูของจวนจั๋ว

นางพูดกับผู้ที่เฝ้าหน้าประตูว่า "กรุณาบอกผู้อาวุโสใหญ่ว่า จั๋วจิ่วกลับมาเพื่อขออภัยโทษแล้ว"

องครักษ์กำลังจะเข้าไปรายงาน ทว่ากลับถูกใครบางคนห้ามไว้

“ห้ามไป” เจียงซาน ซึ่งเป็นคนของบิดาจั๋วหรูซิน เขาห้ามยามที่เฝ้าหน้าประตูไว้

เจียงซานพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า "คุณหนูจิ่วไม่เชื่อฟังแม้แต่ผู้อาวุโส ทั้งยังไม่สนใจชื่อเสียงของตระกูลด้วยซ้ำมิใช่หรือ ในเมื่อตอนนี้ออกเรือนแล้ว กลับมาด้วยเหตุใด"

จั๋วซือหรานเกิดมาพร้อมกับผิวพรรณเกลี้ยงเกลา คิ้วงดงามดังภาพวาด ด้วยรูปลักษณ์สตรีเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องง่ายที่ถูกมองเป็นสตรีผู้แสนน่าสงสารและอ่อนแอ

แต่นางไม่ใช่สตรีอ่อนแอ

เห็นได้ชัดว่า นางกำลังคุกเข่าอยู่ แต่บุคลลิกของนางดูสูงส่งกว่าตอนที่นางยืนด้วยซ้ำ นางพูดอย่างเย็นชา "เจ้ามีฐานะเช่นใด เจ้ากล้าเยาะเย้ยข้าหรือ เหรือจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนอ่อนแอที่กลั่นแกล้งง่ายเช่นนั้นหรือ"

เจียงซาน "ผู้อาวุโสไม่อยากเห็นหน้าเจ้าเลย ต่อให้เจ้าคุกเข่าที่หน้าประตูจนตายก็ไร้ประโยชน์"

จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชา"เจ้าควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนว่า ผู้อาวุโสไม่อยากพบข้าเสียจริง และเจ้าต้องแน่ใจได้ว่า ข้าจะไม่มีวันกลับมาอีก มิเช่นนั้น..."

“คุณหนูจิ่วไม่จำเป็นต้องข่มขู่ข้าหรอก เจ้าปกป้องตัวเจ้าเองยังยากเลย”

เจียงซานเยาะเย้ยด้วยเสียงต่ำ "ตระกูลจั๋วไม่ปกป้องเจ้า และตระกูลเฟิงก็เกลียดเจ้า เมื่อคุณหนูของเราแต่งงานกับท่างอ๋องเฟิงแล้ว จะไม่มีใครจำได้ว่า คุณจั๋วจิ่วเป็นผู้ใด เจ้ายังกล้าที่จะข่มขู่ข้าอยู่อีกหรือ”

เจียงซานกำลังรอนางอโกรธเคือง รอนางคำรามออกมา และรอนางกระทำความอัปลักษณ์ทุกอย่าง

แต่นางเพียงแค่เสาะยิ้ม รอยยิ้มของนางแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์เล็กน้อย นางพูดออกมาเสียงดังว่า "อ้าว ที่แท้จั๋วหรูซินอยากแต่งงานกับเฟิงเหยียนหรือ"

เจียงซานตระหนักว่า ตนเองเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา เขาตกใจไปชั่วขณะ

เดิมที่รอบข้างมีคนเฝ้าดูเรื่องน่าขันนี้อยู่แล้ว

แม้ระดับเสียงของจั๋วซือหรานไม่ดังหรือเบาเกินไป แต่เสียงนั้นสามารถทะลุทะลวงออกมาอย่างหนักแน่น โทนเสียงนั้นพอที่จะให้คนรอบข้างได้ยินคำพูดของนางอย่างชัดเจน

“ในเมื่อจั๋วหรูซินอยากแต่งงานกับท่านอ๋องเฟิง ให้นางอธิบายให้ชัดเจนสิ ผู้อาวุโสอาจให้นางสมปรารถนาก็ได้ ทำไมนางถึงใจร้ายกับข้าขนาดนี้กันนะ ใจร้ายเสียจนต้องใช้หนอนพิษกู่ดินแดนทางใต้”

“เมื่อวานนี้ หลายคนเห็นภาพที่ท่านอ๋องเฟิงกำจัดหนอนพิษกู่ให้ข้าแล้ว คนใช้ของข้าก็สารภาพมาว่า นางได้สินบนจากจั๋วหรูซิน”

จั๋วซือหรานเอาคิ้วลง นางมีสีหน้าที่ซีดเผือกเนื่องจากนางมีอาการป่วย

“ข้าถูกหนอนพิษกู่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายใน และยังไม่หายดี ข้าตื่นขึ้นมาก็รีบกลับมาเพื่อขออภัยโทษ นางกลับสั่งเจ้าห้ามข้าไว้ที่นี่ ไม่ให้ยามเข้าไปรายงาน เราเป็นพี่น้องกัน พี่ลิ่วทำมากเกินไปหรือเปล่า"

เจียงซานโกรธหุนหันพันแล่น รอบจวนของตระกูลจั๋วเป็นเรือนของขุนนางใหญ่ และคนส่วนใหญ่ที่ยืนดูเรื่องน่าขันนั้นนั้นต่างเป็นผู้ที่มาจากตระกูลใหญ่

ตราบใดที่คำพูดของจั๋วซือหรานในประเดี๋ยวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ในสังคมของผู้คนชนชั้นสูงของเมืองหลวง คุณหนูของเขาสูญเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน

เจียงซานรีบกล่าวมา "เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรอยู่"

ทันใดนั้นท้องฟ้าที่มีเมฆจำนวนอย่างมากมีน้ำฝนตกลงมาอย่างกะทันหัน

น้ำฝนที่เย็นฉ่ำทำให้หญิงสาวเปียกโชกไปทั้งตัว นางตัวสั่นแทบจำเป็นลม

ในที่สุดนางไอเบา ๆ เลือดสดที่นางไอออกเปื้อนเสื้อผ้าสีขาวของนาง และสีโลหิตนั้นกลายเป็นสีแดงที่ทำให้คนสะเทือนใจอย่างมาก

จั๋วหรูซินรีบกลับไปที่จวน เมื่อนางกลับถึงจวน นางได้ยินเสียงกระซิบจากผู้เห็นเหตุการณ์รอบข้าง

“ตายแล้ว คุณหนูลิ่วใจร้ายเสียจริง อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ คนยังบาดเจ็บอยู่ ยังคุกเข่าอยู่ที่นี่ แถมตัวยังถูกน้ำฝนเปียกโชกอีก แต่คนรับใช้ของคุณหนูลิ่วยังห้ามยามเฝ้าประตูไปรายงานอีก คนที่มีบิดาคุมครองไม่เหมือนกันเสียจริง"

“เจ้าพูดถูกนะ ต่อให้จั๋วจิ่วจะมีความสามารถเก่งแค่ไหน เด็กที่ไม่มีพ่อก็จะถูกรังแกได้ง่าย ๆ”

เมื่อจั๋วหรูซินได้ยินคำพูดของผู้คน นางโกรธอย่างมาก แต่นางทำได้เพียงอดไว้เท่านั้น

นางรีบวิ่งไปช่วยพยุงจั๋วซือหราน "เสี่ยวจิ่ว เสี่ยวจิ่ว เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม อย่าทำให้พี่ลิ่วตกใจสิ พี่ลิ่วจะพาเจ้าเข้าไปเดี๋ยวนี้ พี่จะช่วยพูด เให้ผู้อายุโสยกโทษให้เจ้า"

เจียงซานเห็นจั๋วหรูซินเดินมา "คุณหนู..."

“เจ้าหุบปากเลย เจ้ากล้าดูหมิ่นคุณหนูจิ่วได้อย่างไร เจ้าคุกเข่าที่นี่เลย หากเสี่ยวจิ่วเป็นอะไร ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า”

นางไม่รู้หรอกว่า เมื่อครู้นี้ จั๋วซือหรานได้เปิดเผยความคิดของนางไปแล้ว ดังนั้นในสายตาของผู้อื่น พฤติกรรมที่กระตือรือร้นของนางในขณะนี้ดูเสแสร้งอย่างมาก

เข้าสู่จวนจั๋ว

จั๋วซือหรานพูดอย่างเย็นชาว่า "ปล่อยข้าได้หรือยัง จั๋วหรูซิน เจ้าพยายามสร้างภาพขนาดนี้ เจ้าไม่เหนื่อยหรือ ข้ารู้สึกหมั่นไส้จนอยากอาเจียนแล้ว"

จั๋วหรูซินกระตุกริมฝีปากของนางอย่างแข็งทื่อ "เสียวจิ่ว เจ้ามีอะไร... ที่เข้าใจข้าผิดหรือเปล่า"

จั๋วซือหราน "เข้าใจผิดอะไรหรือ ข้าเข้าใจผิดว่า เจ้าเป็นผู้ที่สั่งการฉินตวนหยาง ให้เขาใช้เสน่ห์หนอนพิษกู่เพื่อควบคุมข้าเช่นนั้นหรือ"

“เจ้าอย่าใส่ร้ายใครเลย ถึงอย่างไร ข้าเป็นพี่สาวในตระกูลของเจ้านะ ข้าจะยอมให้เจ้ามาใส่ร้ายข้าแบบนี้ได้อย่างไร” จั๋วหรูซินพูดด้วยความโกรธเคือง และนางยกมือเข้าไปหาจั๋วซือหราน

"เพี๊ยะ!--"

เสียงตบดังก้อง

“เจ้ากล้าตบหน้าข้าหรือ” จั๋วหรูซินบังหน้าตนเองด้วยความไม่เชื่อ

เดิมทีนางอยารกตบหน้าบจั๋วซือหรานแท้ ๆ แต่จั๋วซือหรานกลับคว้ามือของนางไว้กลางอากาศแล้วตบหน้านาง

“เจ้าทำร้ายข้าเช่นนี้แล้ว ยังอยากตบข้าก่อนอีก แล้วทำไมข้าถึงจะไม่กล้าตบเจ้าบ้างล่ะ” จั๋วซือหรานรู้สึกตลกไปเล็กน้อย นางหรี่ตาลงแล้วถามอีก “พี่ลิ่วลืมไปแล้วหรือ”

“อะ อะไรนะ” ตั้งแต่เด็ก จั๋วหรูซินไม่เคยถูกตีเลย และการตบครั้งนี้ทำให้นางรู้สึกโกรธและหวาดกลัว

“พี่ลิ่ว เจ้ายังคิดว่า ข้าคือจั๋วจิ่วที่ถูกเสน่ห์หนอนพิษกู่ควบคุมสติอยู่หรือ” จั๋วซือหรานยิ้มเยาะ

จั๋วหรูซินเคยชินกับจั๋วซือหรานที่ถูกเสน่ห์หนอนพิษกู่ควบคุมสติจริง ๆ และอีกอย่าง นางเห็นจั๋วซือหรานอ่อนแอเช่นนี้ นางก็ลืมไปว่า นางเป็นผู้แพ้ของจั๋วซือหรานมาโดยตลอด...

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ จั๋วหรูซินก็โกรธมากยิ่งขึ้น "ข้าจะสู้ตายกับเจ้า"

“พอเหอะ” มีผู้หนึ่งห้ามนางไว้

ผู้อาวุโสใหญ่ จั๋วหลาน เดินเข้ามา เขามองไปที่จั๋วซือหราน และพูดโดยไม่โศกเศร้าหรือดีใจว่า "เจ้ายังรู้กลับมาอีกหรือ"

“ผู้อาวุโสใหญ่เจ้าคะ ข้ากลับมาคราวนี้เพื่อสารภาพความผิดและขอให้ท่านรักษาความยุติธรรม คราวนี้ข้าถูกคนทรยศทำร้าย และข้าเกือบถูกผู้ร้ายเหล่านั้นทำลายไปตลอดชีวิต”

จั๋วซือหรานกล่าว และนางค่อย ๆ จัดเสื้อที่เปียกชื้นขึ้น และค่อย ๆ คุกเข่าลงต่อหน้าผู้อาวุโสใหญ่

ผู้อาวุโสใหญ่จั๋วหลานมีความยุติธรรมมาโดยตลอด จั๋วซือหลานไม่ทันคุกเข่าลง เขาโบกมือแล้วพูดว่า "เจ้ามิต้องพิธีมาก แต่ผละกระทบที่ไม่ดีที่เจ้าสร้างแก่ตระกูลนั้นไม่สามารถลบล้างได้"

“ข้าเต็มใจที่จะรับการลงโทษเจ้าค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น เจ้าก็ไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษเพื่อรับกฎตระกูลด้วยตัวเอง เสี่ยวจิ่ว อย่าโทษข้าที่โหดร้ายเลย เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแปร ตระกูลก็มีกฎเกณฑ์ด้วย”

“ข้ายอมรับผิดอันดี ข้าไม่ต่อต้าน”

“ส่วนของความยุติธรรม แม้ว่าคนของเจ้าได้พาสางรับใช้มา และรายงานว่า สางรับใช้คนนั้นติดสินบนมา ข้าจะฟังคำพูดของเจ้าเพียงฝ่ายเดียวมิได้ เมื่อข้าสืบสวนและได้ความจริง ข้าจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้า”

“ขอบพระคุณท่านผู้อาวุโส” จั๋วซือหรานกล่าวคำนับ

จั๋วหรูซินอยู่ด้านข้าง นางถามด้วยเสียงต่ำ "อะไรนะ... ถึงถูกฆ่าโดยคนทรยศ คนใช้อะไรที่ติดสินบน เรื่องของเสี่ยวจิ่ว เป็นเพราะบัณฑิตฉินมีเจตนาชั่วร้ายมิใช่หรือ"

จั๋วหรูซินด่าเจียงซานในใจ นางด่าเขาช่างไม่ได้เรื่องเสียจริง เฝ้าที่หน้าประตู และห้ามจั๋วซือหรานเข้าบ้าน แล้วช่วยอะไรได้ล่ะ หลิ่วเย่ถูกปล่อยเข้าไปได้อย่างไร

จั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "พี่ลิ่วทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อเลย "

“เจ้า” จั๋วหรูซินพูดด้วยความโกรธ “เจ้าหมายความว่า ข้าอยากฆ่าเจ้าหรือ เราเป็นพี่เป็นน้องกัน เป็นสมาชิกของตระกูลจั๋วด้วยกัน หากข้าทำร้านเจ้า ข้าจะได้ประโยชน์อะไร แถมหากช้าทำเชานนั้นเสียจริง กลายเป็นว่า ข้าทำลายชื่อเสียงของครอบครัวเปล่า ๆ "

จั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า "ใช่สิ เจ้าจะได้ประโยชน์อะไรกัน นอกเสียจากในการฝึกฝนของตระกูลที่กำลังจะมาถึง เจ้าไม่มีคู่แข่งอย่างข้า"

จั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย นางโกรธเคืองอย่างมาก คำพูดของนางแทบจะถูกบีบออกมาจากช่องว่างของฟันของนาง "ข้าจะไม่มีวันลืมสิ่งที่พี่ลิ่วทำ ไม่ต้องกังวล ต่อให้ข้าจะป่วยมากแค่ไหน ต่อให้ข้าต้องคลาน ข้าก็ต้องคลานให้ถึงที่สนามการฝึกฝนของตระกูล มิฉะนั้น ก็จะเสียดายน้ำใจของเจ้า ในเมื่อเจ้าอุส่าห์วางแผนอย่างรอบครอบ”
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
コメント (3)
goodnovel comment avatar
อุทัยวรรณ มีเอี่ยม
ช่วยแปลให้เข้าใจถูกต้องตามไวยากรณ์หน่อยค่ะต้องใช้ความเข้าใจเองมันไม่สนุกค่ะ
goodnovel comment avatar
Funnyped
เสียเงินไปแล้วยังเจอคำแปลผิดอ่านสะดุด แย่มาก
goodnovel comment avatar
Somratai Ying
สะกดผิด เขียนผิดเยอะจัง
すべてのコメントを表示

最新チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1401

    ชิ่งหมิงได้ยินคำนี้ สายตาก็ชะงักไปตอนที่เงยหน้าขึ้นมองปันอวิ๋น ก็ไม่ได้รู้สึกตกตะลึงอะไร ดูสงบนิ่งมาก "ฝีมือก็ดีขึ้นมากจริงๆ เพียงแต่ว่า...ข้ากับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันมากมายนัก"ปันอวิ๋นไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เขาโบกไม้โบกมือ "ไม่เป็นไร ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้มีพ่อที่ดีกันนักหรอก"จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองเขา "เจ้ามองออกตั้งแต่เมื่อไรกัน?""ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เหล่าจวงเองก็แอบมองจวงชิ่งหมิงอยู่ตลอด ทั้งสองคนสกุลจวงเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในแววตาของเหล่าจวงกับจวงชิ่งหมิงก็คล้ายคลึงกันด้วย แค่มองเฉยๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าสองคนอยู่ในภาพเดียวกัน ก็จะสัมผัสได้เลย"ปันอวิ๋นบางครั้งดูแล้วก้เหมือนเป็นคนขี้เกียจที่เหมือนไม่ใส่ใจกับอะไรเลยแต่อันที่จริง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนและเฉียบแหลมมากมีหลายเรื่อง ที่แม้เขาจะไม่พูด แต่อันที่จริงในใจก็รู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่างปันอวิ๋นเอ่ยต่อ "ไม่เป็นไร ถ้าไม่ชอบฟังคราวหลังจะไม่พูดอีก"แต่เขาคิดๆ จากนั้นก็เสริมมาอีกคำหนึ่ง "น่าจะเพราะว่า ข้ากับเฟิงเหยียนแต่ก่อนรู้ว่าตนเองต้องแบกภาระโชคชะตาแบบไหนไว้ ดังนั้นจึงค่อยๆ ปรับความเข้าใจกับตนเอง จะพูดถึงยังไงก็ได้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1400

    ถึงยังไงการทำงานในโรงคณิกา บ่อยครั้งที่จะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกแม่เล้ากลอกตาไปมา "ทั้งสามท่านมาที่นี่เพื่อหาความสำราญแบบใดหรือ? เคาะประตูดีดีก็พอนี่นา ไม่เห็นต้องพังประตูใหญ่แบบนี้..."นางจ้องปันอวิ๋นไม่วางตา "แขกท่านนี้ต้องการจะฟังดนตรี หรือจะค้างคืนกันล่ะ? ต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่ม?"ปันอวิ๋นฟังครึ่งประโยคแรก ก็ขมวดคิ้วแล้ว พอได้ยินครึ่งประโยคหลังก็หนักเลย "อะไรนะ?"แม่เล้าเห็นความเย็นชาในสายตาเขา ก็รู้สึกสันหลังวาบ สั่นเทาไปทั้งตัวจั๋วซือหรานที่อยู่ข้างๆ ฟังแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ปันอวิ๋นหน้าตาดี ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความงามเฉพาะตัวด้วย บุคลิกเย้ายวนชวนหลงใหลแต่กำเนิดนั่น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะต้องการแม่นาง...หรือว่าต้องการชายหนุ่มกันแน่...จั๋วซือหรานกระแอมแล้วอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยขึ้นว่า "...แค่ก พวกเรามากินข้าวน่ะ พวกเจ้าที่นี่มีกับข้าวและสุราอะไรที่อร่อยก็ยกมาให้หมดเลย"หลังจากที่แม่เล้าได้ยิน เดิมทียังคิดจะถามอยู่ว่าพวกเขาต้องการแม่นางหรือชายหนุ่มไหม แต่ก็รู้สึกว่าถ้าทำแบบนั้นมันจะเหมือนว่าตนเองเบื่อชีวิตแล้วก็เลยอ้าปากพะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1399

    ทั้งซื่อหนานล้วนเป็นขอบเขตขั้วอำนาจของเนี่ยคุน ดังนั้นข่าวของบ่อนพนัน ไม่นานนักก็ส่งไปถึงหูของเนี่ยคุนแล้วเขาโมโหจนแทบกระอักเลือด!ใครจะคิดว่าหญิงสาวคนนี้ เอาจวนของเขาไปแล้วก็ยังไม่พอตอนนี้ยังคิดจะทำลายกิจการของเขาอีก!เนี่ยคุนทำได้แค่รีบกำชับออกไป "หญิงสาวคนนี้น่าจะจงใจเล่นงานข้า เร็ว กำชับออกไป ให้โรงคณิกาทางนั้นวันนี้ปิดประตูไม่รับแขก จะได้ไม่ให้นังมารร้ายนั่นพอเบื่อบ่อนพนันแล้วหันไปเล่นทางโรงคณิกาต่อ"คนใช้รู้สึกว่าเนี่ยคุนจะคิดมากเกินไป "ท่านเจ้าเมือง คงไม่หรอกกระมัง? นางเป็นหญิงสาวนะ จะไปโรงคณิกาทำไมกัน..."นั่นมันที่ที่ชายหนุ่มไปเล่นกับหญิงสาวนะ!เนี่ยคุนหัวเราะเย็นชา "นางเป็นโหว ขนาดบ่อนพนันยังไปได้ ยังมีเรื่องอะไรที่นางไม่กล้าทำอีกกัน...?"ตอนนี้ต่อให้มีคนมาบอกเขาว่า หญิงสาวคนนี้บินได้!เนี่ยคุนก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรด้วยซ้ำ!ส่วนอีกด้านหนึ่ง จั๋วซือหรานก็พาปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงมาอยู่หน้าประตูโรงคณิกาอย่างสบายอารมณ์"เจ้ามาจริงๆ ด้วยแฮะ" ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว จมูกก็ย่นลง เหมือนได้กลิ่นเครื่องประทินเข้มข้นลอยออกมาจากในโรงคณิกา"เจ้าเด็กนี่ยังเด็กอยู่เลยนะ" ป

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1398

    "ได้"จั๋วซือหรานมองเขา ถามขึ้นว่า "ถ้างั้น ใครจะมาเขย่าล่ะ?"ผู้ดูแลเอ่ยขึ้น "ข้า ข้าเอง ข้าเขย่าเอง...ข้าเขย่าเสร็จจะปล่อยมือทันที ไม่มีโอกาสทำอะไรแน่นอน!"จั๋วซือหรานพยักหน้ายิ้มๆ "ได้ได้ งั้นเจ้าเขย่าเลย"ผู้ดูแลให้คนเอากระบอกเขย่าลูกเต๋ามาด้านในมีลูกเต๋าไม้สามลูกวิธีการก็เหมือนกับกติกาในชาติที่แล้วของจั๋วซือหราน เป็นวิธีเล่นที่ง่ายที่สุดจริงๆจั๋วซือหรานไม่ได้ติดใจที่จะเล่นกับเขาสักตา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากเขามือสะอาดจริง ชนะก็ชนะแพ้ก็แพ้ นางก็ไม่ใช่จะเล่นไม่ได้แต่ใครจะรู้ ว่าก็ยังมีวิะีการโกงอยู่จริงๆคนผู้นี้น่าจะรู้สึกว่าตัวเขามั่นในใจในแรงควบคุมลูกเต๋าเป็นพิเศษ ดังนั้นพริบตาที่นางตอบตกลงให้เขามาเขย่าลูกเต๋า บนหน้าเขาก็มีสีหน้าถอนใจโล่งออกมาอย่างชัดเจนมันชัดเสียจนทำให้จั๋วซือหรานมองข้ามไปไม่ได้เลยจั๋วซือหรานดูท่าทางเขย่าลูกเต๋าของเขา น่าจะเป็นท่าทางบวกกับการสร้างขึ้นเป็นพิเศษของลูกเต๋า ดังั้นพอรวมกับการเคลื่อนไหวที่พิเศษของเขา สามารถหมุนไปตามที่เขาคิดได้และสามารถทำให้เขาได้แต้มที่เขาต้องการแม้จั๋วจะไม่ได้ดูล้ำสมัยเหมือนพวกอุปกรณ์การพนันที่จั๋วซือหรานรู้ในชาติ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1397

    น่าจะเพราะกลุ่มของหญิงสาวคนนี้ พอเข้ามาถึงก็มีแรงคุกคามมหาศาลกระทั่งท่าทีของผู้ดูแลที่มีต่อพวกเขาก็ยังหวาดหวั่นมากเขาเป็นแค่คนแจกไพ่ แน่นอนว่าไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็ไม่กล้ามองสายตาของผู้ดูแลด้วย จึงทำได้แค่เปิดไพ่อย่างว่าง่ายไปจั๋วซือหรานจึงชนะสองตาของผู้ดูแลดำเมี่ยมไปแล้ว ถ้าปล่อยให้นางชนะต่อไป...แล้วยังมีสหายที่เก่งกาจเรื่องพนันของนางกวาดเรียบที่โต๊ะอื่นด้วยแบบนี้ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้พวกนางไม่เอาชีวิตเขา หลัจากนี้เนี่ยคุนก็เล่นเขาตายอยู่ดีดังนั้นสีหน้าผู้ดูแลจึงบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากมากมองออกว่าค่อนข้างลำบากใจแล้วจั๋วซือหรานยืนขึ้นมา เดินไปทางโต๊ะของปันอวิ๋น บอกกับเขาว่า "เอาล่ะ พอจบตาของเจ้าแล้ว พวกเราก็พอเถอะ"ปันอวิ๋นมองตั๋วทองบนมือจั๋วซือหราน ตาก็เป็นประกาย "ถ้างั้นข้าก็ชนะแล้วสิ?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ "ได้ได้ ข้ายอมแพ้แล้ว"เดิมทีนางก็ไม่คิดจะเอาชนะปันอวิ๋นอยู่แล้ว ก็แค่ให้เขาได้เป็นพ่อทูนหัวอย่างสมใจอยากก็เท่านั้นเห็นท่าทางนี้ของเขา จั๋วซือหรานรู้สึกว่าเขาน่าจะไม่คิดมีลูกหลานสืบทอดอะไรแล้วเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1396

    "เอาล่ะไม่พูดแล้ว ข้าต้องรีบหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยวปันอวิ๋นได้ชนะพอดี เขาดูแล้วก็ไม่ใช่พวกเคี้ยวง่ายด้วยนี่สิ"ไม่นานนักบรรยากาศในบ่อนพนันก็ผิดปกติไปแล้วโต๊ะที่ปันอวิ๋นอยู่ อารมณ์ของทุกคนก็เหมือนจะไม่ไหวแล้ว...ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มหน้าตางดงามคนนี้ทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงราวกับมีเนตรสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น ไม่แพ้เลยสักตาเดียว?ส่วนหญิงสาวที่อยู่อีกโต๊ะคนนั้นเองก็สุดยอดมาก...ไม่แพ้เลยสักครั้งเดียวเหมือนกันแต่พวกเขาก็ดูเป็นแค่นักพนันเท่านั้น...มาขลุกอยู่แต่ในบ่อนพนันคับแคบแบบนี้ ไม่ได้เข้าใจและไม่คิดจะไปทำความเข้าใจโลกภายนอกเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง...ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ตัวตนฐานะของจั๋วซือหรานกับปันอวิ๋นและคนอีกหลายคนก็ไม่ค่อยจะรู้ ว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน สังหารคนที่ประตูเมืองไปแล้วเท่าไร...และผู้ดูแลบ่อนพนันที่ถูกตั๋วทองทำให้เคลิ้มก่อนหน้าคนนั้น ตอนนี้ก็คลายลงมาจากสภาพนั้นแล้วเสียใจ ตอนนี้คือความสำนึกเสียใจขีดสุดเขารีบตรงไปข้างโต๊ะของจั๋วซือหราน เอ่ยอย่างอ้อนวอนว่า "แม่นาง เอ่อไม่ใช่สิ ใต้เท้า...ใต้เท้า! กิจการของเราเล็กๆ มีทุนน้อย ไม่ทราบว่าท่าน..."เขาชูตั๋วทองขึ้นมาสองใบ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status