กรีน
จู่ๆ เขาก็ยื่นข้อเสนอที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่าเป้าหมายการมาเที่ยวในครั้งนี่ไม่ใช่แค่การมาพักผ่อนเพียงอย่างเดียว ใช่ค่ะฉันบอกเขาไปตรง ๆ ว่าฉันมาเที่ยวที่นี้คนเดียวอยากจะลองซื้อผู้ชายญี่ปุ่น ทุกคนฟังไม่ผิดค่ะ ชีวิตฉันตอนนี้มันแย่มากจนต้องอยากลองอะไรใหม่ ๆ บางทีชีวิตการทำงานวน ๆ ซ้ำ ๆ หาเงินจนไม่มีเวลาใช้มันก็น่าเบื่อ จะลองเปิดใจให้ใครเข้ามามันก็ไม่มีเวลาดูแลใครจนเขานอกใจหรือท้อแล้วหยุดสานสัมพันธ์กันต่อ แต่ด้วยหน้าที่การงานทางสังคมจะซื้อกินที่ไทยก็ห่วงภาพลักษณ์เลยหนีมาญี่ปุ่นเพื่อลองเปิดประสบการณ์ดี ๆ ใช้ชีวิตให้สุดเวี่ยงไปเลยเข้าใจอารมณ์แบบ มาสิ! ชีวิตคนบ้างานอย่างฉันมีเงินมันต้องซื้อได้ทุกอย่างให้สมกับที่หาเงินมาสิว่ะ!! “วันนี้คุณนอนห้องผมนะ” “ห้ะ!” ขณะที่เธอนั่งเหม่อลอย คิดโน่นนี่นั่นชายหนุ่มก็เอ่ยปากชวนเธอให้ไปนอนด้วยกับเขา “กลับพร้อมผมและนอนห้องผมนะครับ ” “ทำไมคะ ” “5 วันนี้ เราควรใช้เวลาให้คุ้มค่านะคะกับการเป็นแฟนกัน” เขาก็หันมาสบตาพร้อมอมยิ้มให้กับเธอไป “แล้วคุณไม่ต้องทำงานหรอ มีเวลาพาฉันไปเที่ยวขนาดนั้นเลย ” “มีก็เคลียร์ได้ครับ อื้ม… เราไปเที่ยวแถวยามากูจิไหม พอดีผมมีงานแถวนั้น 2 วันครับ ผมต้องไปทำธุระแถวนั้นหน่อยอ่าพอเสร็จงานแล้วผมจะพาคุณไปเที่ยวแถวนั้นคุณโอเคไหม หรือว่าคุณอยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า?” “ไม่มีค่ะ งั้นก็ไปด้วยกันก็ได้ค่ะคุณแฟน” หลังจากที่เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ตอบเขาไปซึ่งเหมือนว่าเขาอึ้งไปสักพักกับคำพูดของเธอก่อนหันหน้าไปสบตากับเธอ จนเธอเขินจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง ในที่สุดพวกเขาก็ถึงร้านอาหารขณะเดียวกันอาชิก็มองเธอด้วยสายตาที่มีเลศนัยเพราะเขาเห็นเธอเดินมาพร้อมกับเขา “อาหารมาพอดีเลยครับ เชิญนั่งเลยครับ” หญิงสาวนั่งตรงกลางระหว่างเขากับอาชิเพราะว่าเขาไม่ยอมที่จะนั่งอีกที่ที่พนักงานเตรียมเอาไว้ให้ “ยังไง ๆ หายไปนานเลยนะ กว่าจะมาได้ คงคุยงานเพลินเลยนะ” เพื่อนของเธอกระซิบเบา ๆ เธอหันไปยิ้มให้ด้วยตาสระอิให้เขาก่อนจะตอบคำตามของเพื่อนเธอ “ไม่ต้องยุ่งครับ!” “อุ๊ยแรง ชิ!” เพื่อนเธอทำท่าทางงอนเธอซึ่งก็ได้แต่สายหน้าเบา ๆ เพราะรู้ว่าเพื่อนเธอไม่ได้จริงจังอะไร “ฉันว่าจะกลับพรุ่งนี้ตอนเช้าเลยนะ แล้วแกจะอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกกี่วัน” “อีก 5 วันนะว่าจะหาที่เที่ยวพักผ่อนแต่ไม่รู้ว่าจะไปไหนบ้างนะ ” “แล้วนี้แกจะเที่ยวคนเดียวจริง ๆ หรอหรือไง ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม” “ทำเหมือนกับตัวเองว่างมากเลยนะ ไม่เป็นไรฉันขอพักผ่อนก่อน เพื่อเจอหนุ่ม ๆ แซ่บ ๆ พาไปพักกายพักใจ” อาชิถามพร้อมยักคิ้วให้กับเธอ เธอก็ตอบไปกวนพร้อมยักคิ้วคืนไปบ้างก่อรชนที่เธอจะรู้สึกว่าเธอเผลอพูดมากกับอาชิไปซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เขาหันมาทำใส่ตาดุใส่เธอ “อุ้ย!” “นึกว่าเจอแล้วสะอีก แล้วนี่ทานข้าวเสร็จจะกลับพร้อมฉันเลยไหมจะได้ไปส่งที่โรงแรม” “ได้สิ แกก็ไปส่งฉันที่โรงแรมก่อนแล้วกัน แต่พรุ่งนี้ฉันไม่ไปส่งแกที่สนามบินนะ พอดีฉันไม่อยากตื่นเช้าอ่ะ” “ได้ ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอก” เธอที่เพิ่งนึกออกว่ารับปากเขาไปแล้วนั้น เขาหันมองเธอมาเพียงหางตาที่บอกได้เลยว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เธอไม่รู้จะทำยังไงเมื่อได้สติ เธอตัดสินใจพิมพ์แชทข้อความไปหาเขา แชทกรีน:ขอโทษนะพอดีว่าลืมว่านัดกับนาย ฉันไม่ได้ตั้งใจถ้างั้นฉันขอไปเก็บเสื้อผ้าแล้วคุณมารับฉันที่โรงแรมได้ไหม ติ้ง! แชทไทกะ:คุณต้องกลับพร้อมผม! เดี๋ยวผมจะพาไปเก็บเสื้อผ้าเอง แชทกรีน: ฉันรับปากกับอาชิแล้ว อีกอย่างฉันไม่อยากให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้ คุณช่วยรอฉันที่โรงแรมหรือจะให้ฉันไปเจอคุณที่คอนโดดี นะนะ…น๊าาา แชทไทกะ: ไม่! วันนี้คุณเป็นแฟนผมฉะนั้นก็ต้องฟังผม เธออ่านข้อความแชทที่เขาส่งมาบอกตรง ๆ เลยตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมด ถ้าเธอไปกับเขาอาชิก็ต้องรู้แน่ว่าเธอกับเขาต้องมี Something กันแน่นอนฉันคิดหนักก่อนตัดสินใจพิมพ์แชทกับเขาต่อ แชทกรีน: เอางี้ ถ้าคุณให้ฉันกลับไปพร้อมอาชิฉันจะให้ของขวัญคุณดีไหม “หึ!ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลแผนนี้น่าจะได้ผล” เธอพึมพำเบา ๆ แชทไทกะ: อะไร? ข้อเสนอคุณมันจะพอทำให้ผมอนุญาตให้คุณกลับไปกับผู้ชายคนอื่นได้จริง ๆ หรอ แชทกรีน: ก็ต้องลองค่ะ แชทไทกะ: ได้ ผมจะลองเชื่อใจคุณสักครั้งผมให้เวลาคุณแค่ 10 นาที แล้วผมจะรอคุณที่ลานจอดรถของโรงแรมของคุณโอเคไหม แชทกรีน; ได้ค่ะ ๆ ขอบคุณนะคะ หลังจากนั้นเธอตัดสินใจชวนอาชิกลับโรงแรมเพราะเธอรู้สึกว่าวันนี้เธอได้ใช้พลังงานมากกว่าปกติ “ขอบคุณทุกคนมากนะครับ พวกเราทั้งสองหวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกนะครับ ไว้ถ้าได้มีโอกาสครั้งหน้าผมขอเลี้ยงข้าวตอบแทนพวกคุณบ้างนะครับ” “ยังไงโอกาสหน้ากรีนขอเป็นเจ้าภาพนะคะ” “วันนี้ขออนุญาตขอตัวกลับก่อนนะครับ” เธอบอกลาทุกคนพร้อมกับหันหน้าไปสบตากับคนที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ในตอนนี้ “ยังไงครับยังไง กับผู้บริหารหนุ่มหน้าหล่อคนนั้นสานสัมพันธ์เกินกว่านายจ้างลูกจ้างหรือเปล่าน๊าาาา หล่อดีเนอะว่าไหม” ขณะที่กำลังเดินทางกลับโรงแรมอาชิก็เอ่ยปากแซวเธอขึ้นมา “ตลกล่ะ สานอะไรคะเอาเวลาที่ไหนไปสานก่อน แกก็รู้ว่าฉันบ้างานขนาดไหนแถมนี่ก็..อยู่คนละประเทศ เอาเวลาที่ไหนครับพูดไปเลื่อยเลยนะแก” “ก็ไม่รู้อ่ะ เห็นมองหน้ากันตั้งแต่เข้าห้องประชุม แถมยังมาด้วยกันอีก หึ! คิดว่าฉันไม่รู้หรอสเปคเลยนิ ไม่ลองเปิดใจบ้างอ่าจะว่าไปก็..” “หยุดเลย ๆ เอาเวลาสนใจเรื่องของคนอื่นไปสนใจเรื่องของตัวเองก่อนไหมครับ” ไม่นานเธอก็ถึงห้องพัก จากนั้นเธอก็รีบเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมและรีบขึ้นรถของชายหนุ่มที่มารออยู่ก่อนแล้วทันที พอเขาขับรถออกจากโรงแรมได้สักพัก จ๊อกกก ~ เสียงท้องของเธอร้อง เขาก็หันมามองหน้าเธอก่อนสบตากันครู่หนึ่ง “หิวหรอแวะทานข้าวก่อนไหม พอดีเลยผมจะขอเข้าไปเอาเอกสารกับเพื่อนนะ คุณก็ทานข้าวรอก่อนได้ไหม” “แฮร่ ๆ..งั้นก็ได้ค่ะ ตามนั้นเลย” “ครับ” ไม่นานพวกเราก็ถึงร้านอาหารไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แต่ตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยมาก เป็นร้านที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามันลงตัวมาก ๆ “คุณจะทานอะไรครับ” “ขอราเมงกับเบียร์และน้ำแข็งใส่แก้วมาได้ไหมคะ” “ห้ะ!..เอ่อได้สิ” ไทกะ ผมเดินไปสั่งอาหารให้เธอก่อนจะถามพนักงานงานเพื่อไปหาไดม่อนหรือไอ้ม่อนเพื่อนของผมเอง “ไดม่อนอยู่ที่ร้านไหมวันนี้” “คุณไดม่อนอยู่ข้างบนชั้นสองครับ เดี๋ยวผมจะแจ้งว่าคุณไทกะมานะครับ เชิญที่ชั้นสองได้เลยครับ” “ลมอะไรหอบแกมาตอนนี้ครับคุณเพื่อน คนเขาตามหาแกให้ควักเลยนะรู้ป่ะ? ไหนว่าจะมาเอาเอกสารพรุ่งนี้” “เปลี่ยนใจนะ พอดีกูจะไปแถว ๆ ยามากูจิพรุ่งนี้เลยนะ”พี่เขาก็ไม่ได้ห่วงอะไร ฉันจึงหันเปลี่ยนท่าเป็นเอาหน้าแนบต้นขาและมือ เอื้อมไปจับเมาส์เพื่อเลื่อนดูเนื้อหาในจอ “ว๊าว ไม่เลวเลยนะคะ แต่มีบางตัวที่มีปัญหาอยู่บ้างนะคะ เอ๊ะ? ” สักพักมีบางอย่างที่เหมือนกันจะตื่นขึ้น ใช่แน่ ๆ มันพ่องชนหน้าฉันขนาดนี้เหมือนกับอยากจะทักทายสุดฤทธิ์ “พี่ห้ามมันไม่ได้จริง ๆ แฮร่ ๆ ” เขาทำหน้าเหมือนไม่ได้มีเจตนาจริง ๆ ฉันที่เห็นแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ พร้อมลุกขึ้นนั่งปกติ “ไม่เป็นไรค่ะ กรีนเข้าใจ” จากนั้นหัวใจฉันก็เรียกร้องพอ ๆ กับเขาที่ต้องการฉันจึงตัดสิ้นใจเอามือไปสัมผัสท่อนเอ็นที่ตื่นตัวและใหญ่โต เพียงแค่ฉันสัมผัสพี่ไทกะก็ครางออกมา “อ๊าาา..ซี๊ดดด มันคิดถึงกรีนมากเลยนะคะ..รู้รึเปล่าคะ” ฉันลูบไล้ขึ้นลงสัมผัสท่อนเอ็นไม่หยุดและทำซ้ำ ๆ ไปเลื่อย ๆ “ซี๊ดด..พี่ห้ามใจตัวเองไม่ไหวนะกรีน ถ้ากรีนไม่หยุดพี่จะ..จะอ๊าาา” มือข้างซ้ายพี่เขาจับโซฟาเอาไว้แน่ส่วนมือข้างขวาก็ลูบหัวฉันเบา ๆ ขณะที่พี่เขาพูดพี่เขาก็ลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู ฉันจึงถอดกางเกงพี่เขาออกพร้อมส่งสายตาออดอ่อนอ่อยสุดฤทธิ์ “ใครให้พี่ห้ามใจคะ กรีนก็..คิดถึงท่อนเอ็นนี้มันเหมือนกัน
เอาแล้วไงโดนสาวหอมแก้มนิดเดียวลูกชายผมตอนนี้ผงาดตื่นแล้ว มันคงจะไม่ยอมหลับแน่ ๆ เลย ไม่ได้ ๆ ไอ้ไทมึงต้องอดทนไว้นะเว้ย เธอที่เหมือนจะรู้ตัวก็รีบขยับตัวออกเพราะลูกชายผมไปโดนขาอ่อนเธอแน่ ๆ คงจะตกใจกลัวว่าจะเลยเถิด “พี่สัญญาแล้ว พี่ไม่ทำหรอกเราวางใจได้ หลับนะคะเด็กดี” ผมลูบผมเธอเบา ๆ เป็นการกล่อมเธอนอนแม้ว่าลูกชายผมมันตื่นตัวแค่ไหนก็ตามพอเธอสบายใจ ไม่นานเธอก็หลับอาจจะด้วยฤทธิ์ยาหรือว่าเพลีย ส่วนผมจำเป็นต้องลุกไปจัดการคุยกับลูกชายผมก่อน ผมคล้ายอ้อมกอดแล้วเข้าห้องน้ำเพื่อปลดปล่อย อ๊าาา~~ “กรีนจะไม่ยอมให้พ่อทำร้ายกรีนอีกแล้วค่ะ แม่บัวด้วยนะคะอย่ากับบังคับกรีนด้วยวิธีนี้ได้ไหมคะ” หลังจากทำความสะอาดจัดการเสร็จก็รีบมานอนกอดเธอต่อ พูดจบเธอก็นอนละเมอร้องไห้ เธอน่าสงสารมาก ในตอนนี้ผมรีบปลอบเธอและกอดเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไรนะคะ ๆ นอนต่อนะคะ ” ผมส่งคนไปสืบเรื่องพวกนี้ก่อนที่เธอจะสารภาพอีก ผมก็อยากรู้ว่าเธอต้องเผชิญกับปัญหาอะไรก่อนหน้านี้ ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นตามที่เธอว่าผมมั่นใจว่าผมแก้ปัญหาได้แน่นอน จากนั้นผมก็เผลอหลับไปจนถึงเช้า เช้าวันต่อมา
“ไม่Make Sense ทำไมเราต้องรับผิดชอบอะไรแบบนั้นด้วย มีตั้งหลายวิธี พี่ว่าเรื่องนี้มันดูไม่โอเคนะ ชีวิตกรีน กรีนควรเป็นคนเลือก ต่อให้เขาช่วยกรีนยังไง ๆ มันก็มีอีกหลายวิธีที่จะตอบแทนพระคุณ พี่จะช่วยเราเอง ถ้าเราอยากให้พี่ช่วยเราลองมาหาทางออกด้วยกันก็ได้ อย่าไปคิดมากขนาดนั้นสิ ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่กลับมา ตอนนี้พี่ก็ยังเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวของกรีนอยู่ ดังนั้นเป็นแฟนกับพี่เหอะ พี่จะช่วยเราเองพี่สัญญานะ ๆ” เฮ้อ~ เขาไม่คิดจะหยุดจริง ๆ หรอเนี่ยเอาไงดีกรีน ผู้ชายเขาก็ลุกแรงมากดูท่าจะไม่ถอยง่าย ๆ เราก็รักพี่เขาไปแล้วด้วยสิ “กรีนไม่เหลือใครแล้วนะคะ ถ้ากรีนเป็นแฟนกับพี่ไทกะกรีนจะไม่เสียใจจริง ๆ หรอ กรีนขี้หึงและหวงแฟนมาก แถมกรีนไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้เอามาก ๆ เลย พี่ไทกะจะรับมือกรีนไหวหรอ” พอฉันพูดไปแบบนั้นพี่เขาดูตื่นเต้นและยิ้มร่าในทันทีกับประโยคคำถามเล่านั้น “พี่สัญญา ๆ กรีนจะไม่เสียใจเพราะเรื่องผู้หญิงแน่นอน แต่ว่าพี่ก็ขี้หึง ขี้หวงเหมือนกัน เราก็ห้ามนอกใจพี่นะไม่งั้นพี่จะเล่นงานผู้ชายคนนั้นให้มันตายแน่..แล้วตอนนี้เป็นแฟนได้ยัง” “คนบ้า” “เอ้า! ขอเป็น
เธอพยักหน้างึก ๆ ก่อนจะยอมหันหลังให้ผม ผมจึงถอดเสื้อให้เธอ แต่พอผมถอดเสื้อเธอออกแล้วปรากฏว่าผมเห็นรอยแดงรอยช้ำเต็มแผ่นหลัง ใจผมตอนนี้เจ็บปวดกว่าเดิมอีก ทำไมผมถึงปกป้องเธอไม่ได้เลยนะ ผมได้แต่เป่าแผนหลังเธอเบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลม เธอสดุ้งตัวหน่อยๆ “เจ็บมากไหม เดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อยากับเสื้อผ้ามาให้นะ เราจะเอาอะไรอีกไหม” “ไม่แล้วค่ะ” “งั้นก็รอพี่ก่อนล็อคห้องดี ๆ นะรอพี่ก่อนเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมา” จากนั้นผมมาเอากุญแจรถกับไอ้ซาเพื่อจะไปซื้อของให้เธอ “กรีนเป็นไงบ้างว่ะ กูว่าอาการน้องไม่ค่อยดีเท่าไรนะ ไปหาหมอไหม” “ก็ช้ำระบมเยอะอยู่ น่าจะเพราะถูกกระแทกแรง ๆ กูไปซื้อยากับของใช้ให้น้องก่อน มึงไม่ต้องห่วงหรอก กูไปก่อนนะ มึงก็ดูแลน้องลินดี ๆ ด้วยกูไม่ค่อยมั่นใจว่าสาว ๆ จะยอมเล่าความจริงทั้งหมดให้เราฟังไหม” บรืดดด ไอ้ซาพยักเข้าใจผมจึงรีบขับรถออกมาทันที ผมรีบซื้อของใช้และยามาให้เธอก่อนจะตัดสินใจโทรหาไอ้ไวท์ทันที “ว่าไง มีไรว่ะ” “มึงจัดการเรื่องพวกนั้นเสร็จยัง” “ยังอ่า กูกำลังจัดการพวกที่ตามเรามาอยู่ ส่ว
“เรื่องมีอยู่ว่า แม่พี่ป่วยติดเตียงมาหลายปีก่อนที่พี่จะเรียนจบ จนวันหนึ่งพ่อพี่ได้พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในชีวิตเรา ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวเรามีความสุขมาก ๆ แค่แม่พี่เขาทำงานหนักทั้งในบ้านและนอกบ้านไหนจะดูแลพี่อีก แม่พี่เป็นคนเก่งและแกร่งมาก พอล้มป่วยพ่อกับไม่สนใจเอาแต่ทำงานและมีผู้หญิงใหม่เข้ามาแถมมีลูกด้วยกันอีก ซึ่งเธอก็โตเป็นสาวแล้ว นั้นจึงแสดงว่าพ่อนอกใจแม่มาก่อนหน้านี้แน่ ๆ ยัยผู้หญิงคนนั้นก็หวังแต่จะหุบสมบัติของพ่อกับของแม่พี่ จนพี่ต้องตัดสินใจมาอยู่ข้างนอกและหาเลี้ยงตัวเองรวมไปถึงหาเงินรักษาแม่ โดยที่แม่ต้องทนอยู่ในบ้านของเราที่มีพวกเขาอยู่ และพี่ก็เริ่มท้อไปต่อไม่ได้เพราะพี่หาเงินไม่ทัน จนพี่คิดสั้นจะฆ่าตัวตายแต่ในที่สุดพี่ก็พบแม่บุญธรรมเธอชื่อว่าแม่บัว เธอยอมให้เงินพี่ ส่งเสียเลี้ยงดูพี่รวมไปถึงจ่ายค่ารักษาให้แม่พี่ พอเรียนจบแม่พี่ก็จากพี่ไปเราจัดงานกันอย่างเรียบง่าย คนเป็นพ่อที่รักกับแม่มา 30 ปีกับไม่มาใยดีแม่เลย พ่อเขาไม่เคยนึกถึงวันเก่า ๆ บางเลย พูดไปพี่ก็รู้สึกเจ็บและแค้นใจพ่อตัวเองที่ไม่เคยปกป้องครอบครัวเราเลย มันทำให้พี่ยิ่งบ้างานทำงานหนักเพื่อที่จะสร้างให้ตัวเองเข
“ขอบใจมึงมากไอ้ไวท์หวังว่าจะสำเร็จว่ะ โน่นกรีนเดินมาโน่นละ” “ กรีนจะพาพี่ไทกะไปเที่ยวแถวนี้สักหน่อย พี่ ๆ ไปด้วยกันไหมคะ” (ทุกคนสายหน้าอย่างรู้งาน) “สาวน้อยไปเถอะครับ พอดีพวกพี่มีธุระแล้วอ่า พวกเราไปกันเลยดีกว่านะ ไว้เจอกันครับ บาย” “คะ ค่ะ ๆ” ในรถ “กรีนให้พี่ขับรถให้ดีกว่าไหมเราจะได้พักผ่อน” “ไม่เป็นไรค่ะ สบายมากค่ะ” ผมอาสาขับรถให้เธอ แต่เธอก็ปฏิเสธ หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยคุยกันเท่าไรจนถึงร้านคาเฟ่ที่ถือว่าสวยใช้ได้ ร่มรื่นเป็นธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวด้วย ดอกไม้ก็เยอะ แถมยังดูเป็นป่าตนไม้ใหญ่ฟิวเหมือนอยู่ป่าแถวยุโรปเลย “รองเท้าคู่นี้..พี่ไทกะยังเก็บไหวอยู่อีกหรอคะ” “แน่นอนสิ มันเป็นของมีค่าสำหรับพี่มาก ๆ นะ” เธอเผลอยิ้มออกมาหลังจากได้ยินคำนั้น ก่อนจะเดินไปพาผมไปนั่งที่โต๊ะพวกเราสั่งอาหารมาท่านกัน คุยกันบ้างเล็กน้อยก่อนที่ผมจะขอตัวเข้าห้องน้ำ ปรากฏว่ามีคนมาดักผมที่หน้าห้องน้ำเป็นสาวสวยหุ่นดีหน้าตาดีคนหนึ่ง “ขอโทษนะคะคุณชื่ออะไรคะ ขอIG หน่อยได้ไหมคะ” “ผมมีแฟนแล้วครับไม่สะดวก” “ไม่เห็นเป็นอะไรเลย