/ รักโบราณ / ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย / ตอนที่ 12 คืนหนึ่ง คืนนี้

공유

ตอนที่ 12 คืนหนึ่ง คืนนี้

last update 최신 업데이트: 2025-01-03 02:22:20

เว่ยจื้อโหยวเดินแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยไก่ป่าและกระต่ายป่า ในมือยังถือหน่อไม้มาด้วย 2 หน่อ วันนี้นางใช้เวลาเดินในป่ามากไปหน่อย ตอนนี้ถึงกับหมดแรงไปเลยทีเดียว

เมื่อเดินมาได้ใกล้จะถึงบ้าน นางก็ต้องหยุดยืนขมวดคิ้วแน่นเสียงด่าทอน้องชายน้องสาวดังมาจากหน้าบ้าน คงจะเป็นนังมนุษย์ป้าสะใภ้มหาภัยแน่ ๆ หาไม่แล้วใครจะกล้าและหน้าด้านมาด่าเด็กที่อายุยังไม่ถึง 10 หนาวด้วยซ้ำ จิตใจไร้สำนึกขนาดนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

 เว่ยจื้อโหยวสาวเท้าเดินกลับบ้านทันที นางเข้าด้านหลังบ้าน หลังจากนำตะกร้าเข้าไปวางไว้ในห้องนอนของนางเสร็จแล้วจึงปิดประตูใส่กุญแจเอาไว้ ไม่รอช้านางรีบเดินออกไปด้านหน้าบ้านก็พบน้องชายและน้องสาวยืนมองป้าสะใภ้อยู่ข้างหน้าต่าง

“ข้ากลับมาแล้ว พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”

“พี่สะใภ้ท่านกลับมาเสียที ข้าหนวกหูจะตายแล้วเจ้าค่ะ นางจะเข้ามาในบ้านแต่ข้ากับน้องไม่ยอมเปิดประตูเพราะทุกครั้งที่นางเข้ามานางจะมาหยิบฉวยเอาของในครัวไปจนหมด”

“พวกเจ้าทำดีแล้ว ไม่ต้องกลัวข้าจะจัดการเอง”

“เจ้าค่ะ”

“โอ้ย หนวกหูจริง ๆ ผู้ใดปล่อยสุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นช่างไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง”

สิ้นเสียงของเว่ยจื้อโหยว นางเฉียนหุบปากสนิททันที หลังจากคิดได้ว่าเว่ยจื้อโหยวด่าว่านางเป็นหมานางก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง

“เจ้า นังแพศยา นังปีศาจจิ้งจอกเจ้ากล่าวว่าผู้ใดเป็นสุนัข”

"ข้าไม่ได้ว่าผู้ใดนี่เจ้าคะ ข้าเพียงแต่บอกว่าผู้ใดปล่อยให้สุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจเอาเสียเลย"

“นี่เจ้า เจ้าว่าข้าเป็นสุนัขหรือ ไม่รู้จักกตัญญูต่อญาติของสามีนับว่าแย่แล้ว นี่ยังไม่เคารพผู้อาวุโสอีกหรือ พ่อแม่เจ้าคงสอนมาเช่นนี้สินะ”

“ข้าไม่ได้เอ่ยชื่อนี่เจ้าคะ ท่านอยากรับก็รับไปเถอะเจ้าค่ะ แล้วท่านไม่ต้องมานับญาติกับสามีข้า สองครอบครัวตัดขาดกันแล้วเป็นท่านที่บีบบังคับให้พวกเขาแยกบ้านออกมา อีกทั้งยังฮุบเอาทรัพย์สินของพ่อแม่สามีข้าเอาไว้อีกด้วย นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสในตระกูลกระทำกันหรือ แล้ววันนี้ท่านมาเห่าหอนอะไรที่หน้าบ้านข้า คิดจะมารังแกน้อง ๆ ของสามีข้าเช่นนั้นหรือ หรือเห็นว่าสามีของข้าไม่อยู่คิดจะมารังแกบีบคั้นให้พวกเราต้องตายไปหมดท่านถึงจะพอใจ ทั้งสองบ้านถือว่าตัดขาดกันไปแล้วท่านลืมไปแล้วกระมัง”

“เจ้า … เจ้า นังหน้าด้านไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส”

“ข้าหรือไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส แล้วผู้อาวุโสอย่างท่านทำเช่นนี้สมควรแล้วหรือ บ่อยครั้งที่ท่านเข้ามาหยิบฉวยของในบ้าน รังแกน้องสามีข้า ท่านเห็นบ้านเดิมของข้าตายไปหมดแล้วหรือ หรือว่าท่านต้องการจะไปคุยกับข้าในชั้นศาล ก็ได้นะเจ้าคะพรุ่งนี้ข้าจะให้ท่านพ่อของข้านำหนังสือแยกบ้านไปแจ้งกับทางการ แล้วมาดูกันว่าที่ผ่านมาท่านทำอะไรไว้ อย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดรู้หากทางการสืบสวนขึ้นมาท่านก็ไปนอนคุกเสียเถอะเจ้าค่ะ”

นางเฉียนได้ยินเว่ยจื้อโหยวจะแจ้งทางการนางตกใจมาก นางไม่คิกว่าเด็กสาวบอบบางเช่นนางจิ้งจอกน้อยคนนี้จะร้ายกาจเพียงนี้ หากมันไปแจ้งกับทางการจริง ๆ นางคงต้องสูญเสียทรัพย์สินและอาจจะติดคุกจริง ๆ

“หึ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะพวกสารเลว”

“ไม่รับฝากเจ้าค่ะ แล้วพวกข้าก็ไม่ได้สารเลวเหมือนท่านด้วย หากว่าท่านยังมาระรานบ้านสามีข้าอีกครั้ง ข้าจะแจ้งทางการทันที และข้าก็ทำจริงด้วยเจ้าค่ะ”

เว่ยจื้อโหยวไม่รู้หรอกว่านางเฉียนทำเลวอะไรเอาไว้บ้างเพียงแต่นางพูดออกไปเพื่อขู่นางเฉียนเท่านั้น ไม่คิดว่าคำพูดของนางจะไปจี้จุดนางเฉียนเข้า เมื่อนางเฉียนกลับไปแล้ว อวิ๋นซวนกับอวิ๋นเฟย ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ข้าคิดว่านางคงไม่กล้ามารังแกพวกเจ้าไปอีกนาน”

“พี่สะใภ้เก่งมากขอรับ”

“นั่นสิเจ้าคะ พี่สะใภ้ตอกหน้าท่านป้าสะใภ้ไปแบบนี้ สะใจข้าจริง ๆ”

“เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว เข้าบ้านกันเถอะวันนี้ข้าจะทำน้ำแกงไก่ใส่หน่อไม้ให้กิน ก่อนอื่นอาซวนเจ้าเอาไก่กับกระต่ายไปให้บ้านท่านพ่อข้าหน่อย ระวังตัวด้วยรีบไปรีบกลับล่ะ”

“ขอรับพี่สะใภ้”

“พี่สะใภ้เหตุใดจึงได้ไก่กับกระต่ายกลับมามากมายเพียงนี้ ท่านคงไม่ได้เข้าป่าทางด้านซ้ายใช่หรือไม่”

“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้เข้าไปเลย ก็เจ้าบอกว่าไม่มีชาวบ้านคนไหนเข้าไปไม่ใช่หรือไง”

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นเจ้าจุดไฟหุงข้าวก่อน ข้าจะทำความสะอาดไก่ ส่วนที่เหลือจะฝากท่านพ่อกับท่านลุงไปขายพรุ่งนี้เช้า”

“เจ้าค่ะพี่สะใภ้”

อวิ๋นซวนที่รับหน้าที่นำไก่และกระต่ายมาส่งให้ที่บ้านเหลียนก็มาถึงอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ตอนมาเขาก็กลัวจะเจอกับป้าสะใภ้อยู่บ้างขากลับให้ท่านลุงไปส่งน่าจะดี

“ท่านยายเหลียน ท่านตาเหลียนอยู่หรือไม่ขอรับ ข้าอาซวนขอรับ เปิดประตูให้ข้าที”

“ท่านแม่เหมือนอาซวนเรียกอยู่หน้าบ้านนะเจ้าคะ”

“พวกเจ้าทำงานครัวไปเถอะข้าออกไปเอง”

“เจ้าค่ะท่านแม่"

“อาซวนเข้ามาก่อน มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเจ้าหรือเปล่า ยายได้ยินว่าบ้านนั้นไปด่าทอพวกเจ้าอยู่หน้าบ้าน” เรื่องนางเฉียนไประรานบ้านหลานชายไม่มีใครบ้างในหมู่บ้านไม่รู้ เรื่องจะถึงยายเหลียนก็ไม่แปลก

“ท่านยาย พี่สะใภ้ให้ข้าเอาไก่ป่ากับกระต่ายป่ามาให้ขอรับ ข้าไม่เข้าบ้านดีกว่าข้าจะรีบกลับบ้าน อีกอย่างข้ากลัวจะเจอเข้ากับป้าสะใภ้ด้วย หากวันนี้พี่สะใภ้กลับมาไม่ทันข้าสองคนกับพี่รองก็คงไม่รู้จะรับมือนางอย่างไรดีขอรับ”

“ไก่กับกระต่ายรึ อาโหยวเข้าป่าไปล่าสัตว์รึ”

“ขอรับท่านยายเช่นนั้นข้ากลับก่อนนะขอรับ นี่ขอรับไก่กับกระต่าย”

หลังจากที่เอาไก่กับกระต่ายยัดใส่มือยายเหลียนแล้วอวิ๋นซวนก็รีบวิ่งกลับบ้านทันที เขากลัวว่าหากเขามัวแต่ชักช้าจะพบเจอเข้ากับป้าสะใภ้ที่มักจะออกมาพูดคุยกับสหายของนางในเวลานี้

“อ้าวเจ้าเด็กคนนี้ข้ายังไม่ทันได้ถามอะไรก็วิ่งกลับไปเสียแล้ว”

“ใครมาหรือขอรับท่านแม่” อี้ปิง

“อาซวนน่ะ บอกว่าอาโหยวให้เอาไก่กับกระต่ายมาให้”

“นี่อาโหยวนางเข้าป่าไปล่าสัตว์หรือ น้องเขยปกติอยู่ที่หมู่บ้านเดิมของพวกเจ้าก็เป็นเช่นนี้หรือ หลานสาวที่น่ารักของข้าต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์หรือ” เหลียนอี้ปิงหันมาถามน้องเขยในเชิงต่อว่า

“เปล่าขอรับพี่ใหญ่ อาโหยวที่ผ่านมาข้าไม่เคยต้องให้นางเข้าป่าไปล่าสัตว์ ข้าเองก็ประหลาดใจเช่นกันขอรับ ดูเหมือนว่าหลังจากนางหายป่วยแล้วนางเปลี่ยนไปเยอะเลย”

“หึ ข้ารู้ว่าหลานสาวของข้าเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ที่ผ่านมานางคงเก็บงำความสามารถของนางเอาไว้เพราะหากนางไม่เก็บงำเอาไว้ก็จะเป็นเช่นเจ้า ข้าไม่อยากจะว่าหรอกนะแต่ท่านแม่ของเจ้านี่ก็ใจดำจริง ๆ ดีแล้วที่ออกมาได้พวกเจ้าจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นบ้าง”

“ข้าทราบขอรับพี่ใหญ่ ข้าเองก็เสียใจมากที่ท่านแม่เป็นเช่นนี้”

“เอาเถอะ ๆ พอแล้วจะไปพูดทำไมในเมื่อเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว ตอนนี้อาโหยวมีความสามารถพวกเจ้าเป็นพ่อเป็นลุงย่อมต้องสนับสนุนนางเข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจแล้วขอรับท่านแม่”

“เช่นนั้นก็เอาไก่กับกระต่ายนี่ไปให้ในครัวทำอาหารเถอะ”

หลังจากนางเฉียนกลับไป บ้านกลับมาสงบเว่ยจื้อโหยวจึงอารมณ์ดีวันนี้นางจึงทำกับข้าวมากหน่อย แต่น่าเสียดายสามีไม่ได้กินอาหารฝีมือนางอีกแล้วไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้าง ได้กินอิ่มนอนหลับหรือไม่

ไหนจะมีญาติผู้พี่ของนางอีก ไม่รู้จะก่อสงครามสู้รบกันไปทำไมช่างไม่ได้รับรู้ความยากลำบากของประชาชนคนรากหญ้าเสียจริง ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งท้อใจ ไม่เป็นไรหากเวลาครบ 1 ปี แล้วสามีนางไม่กลับมานางจะไปตามหาเขาเอง นางไม่ยอมเป็นหม้ายทั้งที่บริสุทธิ์แบบนี้หรอก 

หลังจากกินมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ทุกคนในบ้านต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำพักผ่อน เว่ยจื้อโหยวเองก็เริ่มง่วงวันนี้นางใช้แรงกายไปมากสมควรแก่เวลาเว่ยจื้อโหยวก็เข้าห้วงนิทราไป

 เว่ยจื้อโหยวที่กำลังนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้านั้นนางไม่ได้รับรู้ว่าใครกำลังร้อนก้นจนทนนั่งต่อไปไม่ไหวเพราะคำก่นด่าปนสาปแช่งทุกวัน  

ทางด้านอวิ๋นเซียวที่ออกเดินทางมาจากหมู่บ้านที่ตอนนี้กำลังค้างแรมในป่าเช่นเดียวกัน ด้านข้างของเขาเป็นญาติผู้พี่ของภรรยา พวกเขานำอาหารแห้งที่ติดตัวมาด้วยกินกันอย่างประหยัดกว่าจะถึงชายแดนใช้เวลาอีกหลายวัน

ในใจเขาตอนนี้คิดถึงภรรยามากนักไม่รู้นางจะคิดถึงเขาบ้างหรือไม่ นางจะกินอิ่มนอนหลับ นางจะรับมือกับญาติที่น่ารังเกียจของเขาได้หรือไม่

“นี่สหายเซียวเจ้าคิดอันใดอยู่ ยังไม่รับนอนอีก ประเดี๋ยวตอนเดินทางก็ได้เหนื่อยตายกันพอดี”  เซี่ยเหิงสหายร่วมรบจากหมู่บ้านข้างเคียง

“คิดถึงภรรยาข้าน่ะ ไม่รู้นางจะเป็นเช่นไรบ้าง ข้าทำผิดต่อนางมาก”

“ข้าไม่ยิ่งกว่าเจ้าหรืออย่างไร แต่งงานตอนเช้า เย็นยังไม่ทันได้เข้าหอ เมียข้ารอบเดือนมาไม่พอเช้าวันต่อมาข้าก็เดินทางมากับพวกเจ้านี่ยังไง ส่วนเจ้าปล่อยภรรยาเอาไว้ทำอะไรตั้งนาน แต่ก็ช่างมันเถอะพูดไปก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เมียเจ้ายังดีนางเตรียมของให้เจ้ามากมาย ข้านี่สิกลับไปไม่รู้นางจะยังรอข้าอยู่หรือไม่”

อวิ๋นเซียวได้แต่เหลือบมองเพื่อนร่วมรบและเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกันกับตัวเอง เขายังดีหน่อยที่ภรรยาเข้าใจ แต่สหายแซ่เซี่ยผู้นี้เห็นทีจะลำบากแน่แล้วไม่รู้จะรักษาภรรยาเอาไว้ได้หรือไม่

ส่วนทางด้านผู้ที่ถูกก่นด่าสาปแช่งตอนนี้ได้ตกลงกันแล้วว่าเทพพฤกษาจะให้ความสามารถในการเพาะปลูกแก่เว่ยจื้อโหยว ไม่ว่าจะปลูกสิ่งใดจะเจริญงอกงามและมีรสชาติอร่อย ส่วนเทพจันทรานั้นให้มิติขนาดเล็กที่มีพื้นที่ 1 หมู่ พร้อมบ่อน้ำแร่ที่ใช้ไม่มีวันหมด 

น้ำในมิติมีสรรพคุณรักษาอาการเจ็บป่วยได้ หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วเทพทั้งสองก็นำของไปมอบให้เว่ยจื้อโหยวที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่ในห้องของนาง

“นี่นังหนู นังหนู ตื่นมาคุยกันก่อน”

“คนจะหลับจะนอน ใครมาเรียกเรา เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นผีพ่อแม่สามีหรือเปล่า”

“พอ พอ เจ้าหยุดเพ้อเจ้อแล้วลืมตาได้แล้ว ข้ามีของมาให้เจ้าจะได้เลิกก่นด่าสาปแช่งพวกข้าเสียที” เทพชะตา

เว่ยจื้อโหยวได้ยินเช่นนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมองพร้อมกับถามออกไปด้วยความงุนงง

"พวกท่านเป็นใครเจ้าคะ แล้วมาทำอะไรในห้องข้า แล้วเข้ามาได้อย่างไร หรือพวกท่านเป็นนักย่องเบาหรือเจ้าคะ"

“เจ้าหยุดวาจาเพ้อเจ้อของเจ้าก่อน ข้ารีบ เอาล่ะ ข้าจะมอบมิติจิตให้เจ้า ต่อไปเจ้าจะได้เลิกก่นด่าเสียที ข้าสามารถให้ได้เพียงขนาดเล็กเท่านั้น ในมิติมีน้ำแร่อยู่ใช้ได้ไม่มีวันหมด สรรพคุณบำรุงร่างกายและรักษาโรค เจ้าจงใช้อย่างระมัดระวัง ส่วนการใช้มิตินั้นเพียงแค่เจ้ากำหนดจิตให้เข้าและออกเท่านั้นเจ้าจะสามารถเข้าไปได้ เอาล่ะหมดหน้าที่ของข้าแล้วข้าไปล่ะ ขอให้เจ้าโชคดี”

“ส่วนข้า ข้าขอให้เจ้าเพาะปลูกสิ่งได้ล้วนงอกงามและรสชาติอร่อย ข้าแถมให้อีกนิดพืชที่เจ้าปลูกจะโตเร็วกว่าคนอื่น 1 ส่วน ข้าเองก็ให้ได้เท่านี้หวังว่าเจ้าจะเลิกก่นด่าพวกข้าเสียที”

“อ้าว อะไรเนี่ย ตาเฒ่ากับยายเฒ่าสองคนนี้ คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป แล้วมาพูดเรื่องอะไรเนี่ย อะไรก็ช่างเถอะเช้าค่อยลองดูตอนนี้ง่วงจะแย่แล้ว ดันมาปลุกกลางดึกเสียได้”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 113 บทส่งท้าย

    หลังจากเหลียนอี้หลุนแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ไม่นาน หยวนจิ้งเองก็พบรักเข้ากับหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านแถบชานเมือง นางเป็นบุตรสาวพรานป่าที่มีนิสัยใจคอกล้าหาญไม่ต่างไปจากน้องสะใภ้อย่างเว่ยจื้อโหยว ที่สำคัญนางเป็นคนจิตใจดี หยวนจิ้งแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์ทันที ต่างจากอี้หลุนที่ไม่ว่าจะทำยังไง ภรรยาก็ยังไม่ตั้งครรภ์เสียที ส่วนภรรยาของกู้ตงและสหายทั้งสองตอนนี้ตั้งครรภ์แล้วเช่นเดียวกัน เว่ยจื้อโหยวเองก็กำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยความพยายามของอี้หลุนในที่สุดภรรยาก็ตั้งครรภ์เสียที เซี่ยเหิงเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่น อ้ายหลินเองก็ท้องโตและกำลังใกล้คลอดตามเว่ยจื้อโหยวมาติด ๆ หมู่บ้านต้าลี่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ เว่ยเจี้ยนป๋อได้เป็นบิดาของจอหงวนฝ่ายบุ๋น อวิ๋นเซียวนั้นมีน้องชายเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ อวิ๋นเฟยกับหย่งคังก็มีลูกชายหญิงให้บิดามารดาได้เลี้ยงหลานไม่เหงา ทำเอาลุงใหญ่อย่างเหลียนอี้ปิงอิจฉาตาร้อนไปหมดเจ้าแฝดต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า หลังจากมารดาคลอดน้อง ๆ แล้วทั้งสองคนจะเข้าไปศึกษาที่เมืองหลวงตามที่รับปากกับท่านลุงเฟยหลงเอาไว้ เว่ยจื้อโหยวมีความสุขที่ได้อยู่กับลู

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 112 คนดีพี่มาง้อ

    เหลียนอี้หลุนตอนนี้กำลังชั่งใจตัวเองอยู่ว่าจะทำตามใจตัวเองหรือจะยอมเดินออกมาอย่างเช่นที่เคยทำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่พึงใจในตัวม่านหลิน เพียงแต่เขาคิดว่าตัวเองมีชาติกำเนิดต่ำต้อย บิดามารดาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เจ้าเมืองเตี้ยนถงเองไม่เคยคิดดูถูกชาติกำเนิดของเหลียนอี้หลุนอย่างที่ตัวอี้หลุนเข้าใจ ที่ฮูหยินท่านเจ้าเมืองกุเรื่องว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของสหายของนางนั้นเพื่อกระตุ้นให้อี้หลุนรู้ใจตัวเองเพียงเท่านั้น เหลียนอี้หลุนทำหน้าที่คุ้มกันขบวนสินค้ามานานแล้วและนางเองก็รู้ดีว่าเขาพึงใจในตัวบุตรสาวคนเล็กของนาง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้แสดงออกโจ่งแจ้ง แต่คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเช่นนางกับสามีนั้นมีหรือจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดเช่นไรกับบุตรสาวของตัวเอง ม่านหลินนั้นตกหลุมรักเหลียนอี้หลุนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ถึงในสายตาคนอื่นนางเป็นคุณหนูจวนขุนนางที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากวิ่งออกไปเที่ยวตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ความจริงแล้วฝีมือการทำอาหาร งานเย็บปักและการต่อสู้ไม่ได้ด้อยเลย ม่านหลินเองก็เริ่มถอดใจแล้วเช่นเดียวกัน นางคิดว่าความพยายามของตัวเองไม่เป็นผลสำเร็จ ขนาดที่นาง

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 111 ยอดลูกสะใภ้

    หมู่บ้านหนานซานตอนนี้ข่าวการกลับมาของสามสหายปากร้ายแห่งหมู่บ้านหนานซานที่กลับมาจากเมืองหลวงพร้อมทั้งนำภรรยากลับมาด้วยเป็นที่เลื่องลือไปสี่หมู่บ้านยี่สิบลี้เลยก็ว่าได้ชาวบ้านหลายคนต่างไม่อยากจะเชื่อว่าบุรุษปากคมเช่นสามคนนั้นจะสามารถแต่งภรรยาจากเมืองหลวงกลับมาได้ อีกทั้งเหล่าภรรยายังเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ที่มาพร้อมกับสินเดิมมากมายและเช้าวันนี้หลังจากที่ส่งสามีออกไปทำงานแล้วเหล่าสะใภ้ทั้งสามก็นัดแนะกันเข้าป่าล่าสัตว์หาของป่าดังเช่นชาวบ้านทั่วไป ทั้งสามคนคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่แต่งงานมาอยู่หมู่บ้านหนานซานแห่งนี้“ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่สะใภ้ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ ป่านี้เสวี่ยเหลียนกับซินเหมยคงมารอแล้ว” ม่อจื่อ“จื่อเอ๋อร์ระวังตัวด้วยนะ อย่าเข้าป่าลึกมากนัก บ้านเราไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใดอย่าทำอะไรให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เข้าใจหรือไม่” แม่สามีบอกลูกสะใภ้ชาวเมืองอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”ผิงม่อจื่อหลังจากบอกลาแม่สามีแล้วก็มุ่งหน้ามาที่จุดนัดหมายที่มีสหายสองคนรออยู่ที่ทางขึ้นเขาท้ายหมู่บ้าน เส้นทางนี้ชาวบ้านในหมู่บ้า

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 110 ของฝากจากเมืองหลวง

    หลังจากผ่านพ้นการแต่งงานแบบที่แปลกประหลาดไปแล้ว สี่หนุ่มแห่งหมู่บ้านต้าลี่ต่างได้ภรรยากลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนอกเหนือจากของฝากที่พวกเขาซื้อเอาไว้มากมายเพราะทั้งสี่คนแต่งงานแล้วและภรรยายังตามสามีกลับไปด้วย ขากลับทำให้มีขบวนรถม้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เว่ยจื้อโหยวเองถึงแม้จะดีใจที่เจ้าพวกลิงทโมนทั้งสี่ในที่สุดก็รู้จักแต่งภรรยามีครอบครัวเสียทีจะได้ไม่ต้องรวมหัวกันไปทำเรื่องอะไรพิเรน ๆ อีก แต่ดูท่าทีภรรยาของแต่ละคนแล้ว เว่ยจื้อโหยวคิดว่าคงมีเรื่องปวดหัวตามมาอีกไม่น้อย “เดินทางปลอดภัยนะ อาเซียวน้องสะใภ้” เฟยหลง“ขอบคุณขอรับพี่รอง ท่านกลับไปดูแลพี่สะใภ้กับหลานชายเถอะไม่ต้องเป็นห่วง” อวิ๋นเซียว“เจ้าแฝดไม่อยู่กับลุงที่เมืองหลวงหรือ” เฟยหลงถามหลานชาย“ไม่ขอรับ ข้าจะไปช่วยท่านพ่อทำงาน เอาไว้ถึงเวลาเข้าสำนักศึกษาแล้วค่อยมาอยู่กับท่านลุงที่เมืองหลวงขอรับ แต่ต้องรอให้ท่านแม่มีน้องก่อนนะขอรับ เพราะหากพวกเราสองคนมาอยู่ที่เมืองหลวงข้ากลัวท่านแม่จะเหงา” ต้าเป่า“ได้ เช่นนั้นลุงรองจะสร้างเรือนเอาไว้ให้พวกเจ้าสองคนนะ เอาติดกับเรือนของน้องชายเลยดีหรือไม่”“ดีขอรับ ท่านลุงรักษาตัวด้วยนะขอรับ เอาไว้ต้าเ

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 109 เอาคืนให้ชุยต้า(2)

    เวลาผ่านไปอีกสองวันก็มีข่าวออกมาว่าชุยต้าหวังพร้อมนางจินซื่อถูกจับข้อหาร่วมมือกันทำให้อดีตภรรยาเอกถึงแก่ความตาย และยึดเอาสินเดิมภรรยาพร้อมทั้งใส่ความบุตรที่เกิดกับภรรยาเอกให้มีความผิดและส่งขายไปเป็นทาสหลวงหลังจากเจ้าหน้าที่ทางการสอบสวนแล้วนางจินซื่อสารภาพว่าเป็นคนวางยาอดีตภรรยาเอกเพื่อต้องการขึ้นมาเป็นภรรยาเอกแทน ส่วนชุยต้าหวังมีความผิดฐานยึดเอาสินเดิมภรรยาและขายลูกชายทั้งสี่ไปเป็นทาส ด้วยเหตุนี้นางจินซื่อมีโทษประหารข้อหาฆ่าคนตาย ชุยต้าหวังมีโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกชายอย่างชุยตงหลางนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่บิดามารดาได้กระทำลงไปจึงไม่มีความผิด ลูกสาวอย่างชุยรุ่ยเอ๋อร์นั้นมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือกับมารดาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันทางการได้คืนสินเดิมของมารดาชุยต้าทั้งหมดให้กับพวกเขาสี่พี่น้อง ชุยต้าเองย่อมรู้ว่าเป็นฝีมือของฮูหยิน แต่พวกเขาไม่ยินดีที่จะอยู่เมืองหลวงอีกต่อไป เพราะต่างก็ตั้งใจลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านต้าลี่แล้ว ชุยต้ากลับไปคงต้องคุยกับพี่น้องของตัวเองเรื่องสินเดิมมารดาที่เหลือไม่มากแล้วเพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชุยต้าหวังและนางจินซื่

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 108 เอาคืนให้ชุยต้า (1)

    หย่งซีและชุยต้ากลับมาถึงจวนแม่ทัพพร้อมกับที่เว่ยจื้อโหยวกลับมาจากวังหลวงเช่นเดียวกัน หย่งซีใบหน้าบูดบึ้งเดินกระแทกเท้าตึง ๆ เข้าไปหาพี่สาวเพื่อบอกกับนางว่าเขาและชุยต้าถูกคนรังแกอย่างไรบ้าง“เป็นอะไรเสี่ยวซีทำไมหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้น ใครทำอะไรให้โมโหมาหรือ” เว่ยจื้อโหยวถามน้องชาย“ก็วันนี้ข้าไปเดินเที่ยวตลาดในเมืองมาแล้วไปเจอยายป้าปากแดงอยู่ ๆ ก็เข้ามาด่าว่าพี่ชายชุยต้ากับข้า แถมยังบอกว่าพี่ชายชุยต้าเป็นอดีตพี่ชายของนาง เท่านั้นยังไม่พอนางยังด่าว่าเป็นทาสด้วย เป็นทาสอะไรกันไม่ได้เป็นทาสเสียหน่อย”“ใครกันน่ะ เหตุใดถึงได้กล้าด่าคนอื่นกลางตลาดขนาดนั้น ไม่กลัวคนอื่นจะมองไม่ดีแล้วไม่มีใครมาสู่ขอหรือ แถมเป็นสตรีด้วย”“ข้าไม่รู้หรอกพี่ใหญ่ รู้แค่ว่านางไม่สวย ทาหน้าขาวโพลนแถมยังปากแดงอีกด้วย ใครจะไปสนใจกันว่านางเป็นใคร ไม่ได้รู้จักแต่เข้ามาด่า นางบอกว่าพี่ชุยต้าเป็นอดีตพี่ชาย”“สรุปที่เจ้าโมโหขนาดนี้ แม่นางผู้นั้นด่าเจ้าหรือด่าชุยต้า” “ด่าข้าด้วย ด่าพี่ชายชุยต้าด้วย นางด่าข้าว่าไอ้เด็กเหลือขอ พ่อแม่ไม่สั่งสอน” หย่งซีหน้างอตอบพี่สาว“ตกลง ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะไปถามชุยต้าเดี๋ยวพี่สาวจะจัดก

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status