หลังจากที่บูมหายตัวไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ความเงียบที่น่าขนลุกกลับเข้าปกคลุมอีกครั้งหลัง มีเพียงเสียงของสายน้ำไหลและเสียงลมหายใจของคนที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ เสียงหัวเราะเย้ยหยันของอควาเรียมยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทของทุกคน ราวกับจะตอกย้ำถึงความสิ้นหวังที่ไม่มีที่สิ้นสุด กลุ่มคนที่เหลือยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ดูไร้ซึ่งอนาคต แต่ละคนต่างจ้องมองไปยังจุดที่บูมเคยยืนอยู่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัว การหายไปอย่างสมบูรณ์ของเขาทำให้ทุกคนตระหนักว่ากฎเหล่านั้นไม่ได้เพียงแค่ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ แต่สามารถลบเลือนตัวตนของพวกเขาออกไปจากโลกนี้ได้อย่างแท้จริง
“มันน่ากลัวจัง” พลอยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาของเธอแดงก่ำจากน้ำตาที่คลอหน่วย มือข้างที่มีรอยตราประทับเรืองแสงเล็กน้อยยังคงสั่นเทาไม่หยุด บัดนี้มันเริ่มมีอาการเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย
แพรวาโอบร่างของพลอยไว้ พยายามช่วยปลอบใจคนข้างๆ เธอเองก็รู้สึกชาไปทั้งตัว ความกลัวที่เคยสัมผัสมานั้นไม่อาจเทียบได้กับความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นจากการหายตัวไปของบูม “มันเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้แล้ว”
กวินรู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งพล่านในอก เขาเตะกำแพงอควาเรียมอย่างรุนแรง “เราจะยอมให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้!” เขากรีดร้อง “เราต้องหาทางหยุดมัน!”
“แล้วจะทำยังไง” แพรวาถามกลับ
“ฉันไม่รู้ แต่มันต้องมีสักทางแหละน่า!”
กวินเตะเข้าไปที่กำแพงด้วยความโกรธอีกครั้ง เขากำลังบ้าคลั่ง บรรยากาศในเวลานี้ยิ่งทำให้ดูหดหู่มากขึ้นกว่าเดิม อิฐเดินเข้ามาดึงกวินเข้าไปกอดเอาไว้แน่น เพราะอยากให้อีกฝ่ายสงบสติอารมณ์สักหน่อย
“ใจเย็นๆ ดิ”
“ปล่อยดิวะ!! ปล่อยกู!!!!” กวินแหกปากลั่นพร้อมออกแรงสะบัดตัวเอาจากการกอดรัดของคนตัวใหญ่กว่า แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอิฐได้
ส่วนมิกิก็เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงกรีดร้องตะโกนของกวิน แต่แววตาของเธอดูล่องลอยและว่างเปล่า ราวกับไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งใดๆ อีกแล้ว การได้ยินของเธอได้ถูกพรากไปอย่างสมบูรณ์
“ฉันจะปล่อยนายก็ต่อเมื่อนายหายบ้า!” อิฐย้ำพลางออกแรงรัดมากกว่าเดิม
กวินเริ่มสงบ เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ตนเองทำกำลังไร้สติและไม่อาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้เลยสักนิด เมื่ออิฐเห็นว่ากวินนิ่งขึ้นแล้วจึงค่อยๆ คลายกอดออกจากร่างกายของอีกฝ่าย
“ทีนี้ก็นั่งพักก่อน แล้วมาช่วยกันคิดว่าจะเอายังไงกันต่อ” อิฐย้ำแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น
ต้นยังคงจดบันทึกทุกสิ่งอย่างละเอียดในสมุดของเขา ใบหน้าของเขาดูซีดเผือดและเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “เราไม่รู้ว่ามันกำลังเล่นเกมอะไร แต่เราต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ ก่อนที่เราจะหายไปเหมือนบูม” เขามองไปที่สมุดบันทึกในมืออย่างหวงแหน ราวกับมันคือสิ่งเดียวที่จะยืนยันการมีอยู่ของพวกเขาได้
อิฐยังคงยืนนิ่ง ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง เขามองไปที่จุดที่บูมหายไป “ฉันคิดว่าส่ิงที่มันทำคือการพรางตัวบูมเอาไว้” อิฐกล่าวขึ้นมาเสียงเบา “เหมือนกับสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่สามารถปรับตัวได้ในทุกสภาพแวดล้อมเพื่อที่จะหลบเลี่ยงจากศัตรู หรือไม่ก็เพื่อล่าเหยื่อ” เขานึกถึงข้อมูลที่เขาเคยศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกบางชนิดที่มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
“หรือไม่เขาก็ถูกลบเลือนตัวตนไปจริงๆ” แพรวาเอ่ยเสริม
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่คาดเดาเอาน่ะ” อิฐตอบพลางยักไหล่
ลุงแดงถอนหายใจยาว “เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก” ลุงแดงกล่าวเสียงเรียบ “เขาแค่... กลับบ้าน” คำพูดของลุงแดงดูคลุมเครือ แต่แฝงไว้ด้วยความรู้บางอย่างที่ไม่มีใครเข้าใจ “อควาเรียมแห่งนี้มันกำลังสร้าง ‘ครอบครัว’ ของมันเอง”
ฟ้าที่ปกติจะสงบเย็น บัดนี้เธอเริ่มมีอาการกระสับกระส่าย เธอหลับตาลงพยายามรวบรวมสมาธิ แต่สัมผัสได้ถึงพลังงานที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรงที่พุ่งออกมาจากอควาเรียม พลังงานนั้นดูเหมือนจะมองเห็นทุกสิ่ง และรับรู้ทุกความคิดของพวกเขา “มันกำลังเล่นงานจิตใจเรา” ฟ้าเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ “มันกำลังบิดเบือนการรับรู้ของเรา!”
เจ้าหน้าที่ชายผู้นั้นยังคงยืนนิ่ง ไม่ไหวติง ราวกับเป็นเพียงรูปปั้น เขามองไปที่กลุ่มคนด้วยแววตาที่ว่างเปล่า แต่ในบางครั้งก็มีประกายสีแดงเรืองรองวูบไหวในดวงตาของเขา ราวกับว่ามีบางสิ่งกำลังควบคุมเขาอยู่
“เราจะทำยังไงกันดี?” แพรวาถามขึ้นมา เธอมองไปรอบๆ อย่างสิ้นหวัง ทางเดินที่ทอดยาวออกไปดูมืดมิดและไม่คุ้นเคย
“เราต้องเดินหน้าต่อไป” กวินตอบอย่างหนักแน่น “เราจะหาทางออกให้ได้”
พวกเขาตัดสินใจเดินไปตามทางเดินที่ดูเหมือนจะเป็นทางแยกที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทางเดินนั้นค่อนข้างแคบและมืดสลัวกว่าโซนก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ก็ยังมีแสงไฟบางดวงที่ส่องสว่างออกมาจากตู้ปลาที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง
ขณะที่พวกเขากำลังเดินผ่านทางเดินนั้น สายตาของฟ้าก็เหลือบไปเห็นตู้ปลาขนาดใหญ่ตู้หนึ่งที่อยู่ทางขวามือ มันเป็นตู้ปลาที่ดูแปลกประหลาดกว่าตู้ปลาอื่นๆ เพราะไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลย มันเป็นตู้ปลาว่างเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆ มีเพียงน้ำสีเขียวขุ่นที่ขังอยู่ภายใน และแสงสลัวๆ ที่ส่องออกมาจากด้านบน
“แปลกจัง... ทำไมตู้นี้ถึงไม่มีปลาเลยล่ะ?” ฟ้าพึมพำด้วยความสงสัย แรงจูงใจของเธอในฐานะนักจิตวิทยาทำให้เธออยากทำความเข้าใจสิ่งที่ผิดปกติ ดวงตาของเธอจ้องมองเข้าไปในตู้ปลาว่างเปล่านั้นอย่างไม่ละสายตา
“ฟ้า! อย่ามองเข้าไปนะ!” แพรวาร้องเตือนด้วยสัญชาตญาณ เธอจำกฎข้อที่ 5 ได้อย่างแม่นยำ “ห้ามมองเข้าไปในตู้ที่ไม่มีปลา!”
แต่ไม่ทันแล้ว ฟ้าได้จ้องมองเข้าไปในตู้ปลาที่ว่างเปล่านั้นอย่างเต็มตา เธอนิ่งราวกับตกอยู่ภวังค์
ทันใดนั้น แสงสีเขียวขุ่นจากตู้ปลาว่างเปล่าก็ส่องสว่างจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว! แสงนั้นพุ่งตรงเข้ามาที่ดวงตาของฟ้า ราวกับจะดูดกลืนเธอเข้าไปในความมืดมิดของตู้ปลา
แล้วสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้นก็เกิดขึ้น!
ภาพสะท้อนของฟ้าปรากฏขึ้นบนผิวน้ำที่ว่างเปล่านั้น แต่ภาพสะท้อนนั้นไม่ได้นิ่งเหมือนกระจกเงา มันกลับเคลื่อนไหวอย่างอิสระ และมีใบหน้าที่บิดเบี้ยว ดวงตาของฟ้าในภาพสะท้อนเป็นสีดำสนิท และมันกำลัง ส่งเสียงหัวเราะเยาะที่เย็นยะเยือกและน่าขนลุกออกมา!
"กฎข้อที่ 5... ห้ามมองเข้าไปในตู้ที่ไม่มีปลา!"
เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมประกาศก้อง ราวกับจะตอกย้ำถึงความผิดพลาดของฟ้า
“ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ! ไม่จริง! ไม่จริง!! กรี๊ดดด!!!!” ฟ้ากรีดร้องสุดเสียง เธอพยายามถอยหลังหนี แต่ภาพสะท้อนในตู้ปลากลับพุ่งเข้ามาหาเธอ ราวกับจะกลืนกินร่างของเธอเข้าไปในกระจก! เธอเห็นภาพตัวเองในกระจกที่กำลังหัวเราะเยาะ และพูดบางอย่างที่เธอไม่สามารถได้ยิน แต่รู้สึกได้ถึงความหมายอันน่าหวาดกลัว!
“ฟ้า!” กวินรีบพุ่งเข้าไปคว้าตัวฟ้า แต่เขาก็ต้องผงะถอยหลัง เมื่อเห็นภาพสะท้อนของฟ้าในตู้ปลาบิดเบี้ยวและพุ่งออกมานอกกระจก ราวกับเป็นเงาปีศาจที่กำลังโจมตีฟ้าอยู่
“มันกำลังเล่นงานจิตใจฟ้า!” แพรวากล่าวด้วยความตื่นตระหนก “มันกำลังบิดเบือนตัวตนของเธอ!”
กรี๊ด~!
พลอยกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นภาพสะท้อนของฟ้าที่ดูน่ากลัว และเริ่มรู้สึกว่ารอยตราประทับบนมือของเธอกำลังร้อนขึ้นมาอีกครั้ง
“มันร้อน!! มันร้อนมากเลย!!! ช่วยฉันด้วย! กรี๊ดดด!!!” เธอหวีดร้องอย่างน่าสงสาร ร่างกายของเธอดิ้นเร่าอยู่บนพื้น ทุกคนได้แต่ยืนมองไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ
ในขณะเดียกวันมิกิที่อยู่ในสภาพเงียบงัน บัดนี้ร่างกายของเธอก็เริ่มกระตุกเล็กน้อย ราวกับว่าเธอกำลังรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับฟ้าผ่านการรับรู้ทางประสาทสัมผัสอื่น นอกเหนือไปจากการได้ยิน
ต้นรีบหยิบสมุดบันทึกขึ้นมา เขาสังเกตเห็นว่าภาพสะท้อนของฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา แต่มันกำลังส่งผลกระทบต่อร่างกายของฟ้าจริงๆ ดวงตาของฟ้าเริ่มแดงก่ำ และมีเส้นเลือดฝอยปูดโปนออกมาคล้ายกับเจมส์ “มันกำลังพยายามสร้าง ‘อีกตัวตนหนึ่ง’ ของฟ้า!” ต้นพึมพำ
อิฐเดินเข้ามาใกล้ตู้ปลาว่างเปล่านั้น เขามองไปที่ภาพสะท้อนของฟ้าด้วยความสนใจ “การมองเข้าไปในความว่างเปล่า... คือการเปิดประตูให้บางสิ่งเข้ามา มันกำลังสร้างภาพจำลองของฟ้าขึ้นมาและควบคุมจิตใจของเธอ”
ลุงแดงถอนหายใจยาวอีกครั้งเหมือนกับทุกที “ฟ้ากำลังจะเข้าสู่โลกแห่งจิตที่มืดมิด มันกำลังจะหลอกหลอนเธอด้วยตัวตนของเธอที่มันสร้างขึ้นมาใหม่”
อาการของฟ้าเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เธอกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเธอกระตุกรุนแรง ดวงตาเบิกกว้างจนเห็นแต่ตาขาว และเธอก็เริ่มพึมพำบางอย่างที่ไม่สามารถจับใจความได้ ราวกับกำลังคุยกับอีกตัวตนหนึ่งที่อยู่ข้างใน
ตุบ!
ในที่สุด ฟ้าก็ทรุดตัวลงกับพื้นหมดสติไป ร่างกายของเธอกระตุกเล็กน้อย ดวงตาของเธอยังคงเบิกกว้าง แต่ไร้แวว และที่น่าตกใจที่สุดคือ... เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของเธอดูล่องลอยและเต็มไปด้วยความลึกลับ เธอเริ่มพูดถึงอีกตัวตนหนึ่งที่อยู่ในตู้ปลา และไม่ยอมรับว่าตัวตนที่กำลังยืนอยู่ข้างนอกนั้นคือตัวเธอเอง!
“ฟ้า! เธอเป็นอะไรไป!” กวินเขย่าตัวฟ้าเบาๆ แต่เธอกลับมองเขาด้วยแววตาที่ว่างเปล่าและเต็มไปด้วยความสับสน
แพรวาถึงกับกุมมือพลอยแน่น “ฟ้า... เธอเหมือนคนละคนเลย” แพรวากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
อิฐมองไปที่ฟ้าด้วยความสนใจ เขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของฟ้าไม่ได้เป็นสีดำสนิทเหมือนเจมส์ แต่มีประกายสีเขียวเรืองรองเล็กน้อย คล้ายกับแสงจากตู้ปลาว่างเปล่านั้น “มันไม่ได้กลืนกินเธอทั้งหมด... แต่มันสร้างตัวตนใหม่ขึ้นมา ฟ้าไม่ได้ตาย... แต่เธอถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน”
“เธอได้เห็น... ความจริงที่มืดมิดของตัวเองแล้ว” ลุงแดงกล่าว “และตอนนี้... ความจริงนั้นกำลังตามหลอกหลอนเธอ”
“ความจริง?” แพรวาย้ำถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ความจริงที่มันสร้างขึ้น...” ลุงแดงเสียงนิ่ง
ความหวาดกลัวเข้าปกคลุมกลุ่มคนที่เหลือรอดอย่างรุนแรง นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวที่สุด ฟ้าไม่ได้หายไปเหมือนบูม ไม่ได้สูญเสียประสาทสัมผัสทางการได้ยินเหมือนมิกิ แต่เธอถูกบิดเบือนตัวตน ทำให้เธอไม่สามารถแยกแยะระหว่างความจริงกับภาพหลอนได้อีกต่อไป
เสียงสังเคราะห์ของอควาเรียมกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นเสียงที่เย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน
“หนึ่ง... ถูกกลืนกิน สอง... ถูกพราก สาม... ถูกบิดเบือน สี่... ถูกลบเลือน ห้า... ถูกแบ่งแยก"
“ยินดีต้อนรับ สู่การเป็นส่วนหนึ่งของไตรตัน ผู้เฝ้ารอคอย ตลอดกาล"
เสียงประกาศนั้นเงียบลงพร้อมกับเสียงเต้นของหัวใจทุกคนที่ดังขึ้น
ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่ฟ้าค้นพบเบื้องหลังประตูต้องห้ามที่มีร่างของมนุษย์จำนวนมากในสภาพแปลกประหลาดภายในตู้ปลา ยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังและความหวาดกลัวในกลุ่มคนที่ยังมีชีวิตอยู่ บัดนี้แสงสลัวจากตู้ปลาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในโซนลับส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความพ่ายแพ้และไร้ซึ่งหนทาง ฟ้ายังคงยืนนิ่ง ดวงตาของเธอดูล่องลอยและเต็มไปด้วยความเข้าใจ ราวกับว่าเธอกำลังถูกพลังงานจากห้องนั้นกลืนกินไปอย่างช้าๆ“ฟ้า... เธอกำลังกลายเป็นเหมือนพวกเขาแล้ว” พลอยบอกด้วยน้ำเสียงของเธอสั่นเครือ รอยประทับบนฝ่ามือของเธอยังคงเรืองแสงอ่อนๆ อยู่พรึ่บ!!ทันใดนั้นไฟในห้องก็เริ่มติดๆ ดับๆ อีกครั้ง มันสร้างความน่ากลัวให้กับคนที่อยู่ในห้องนั้น โดยเฉพาะตู้ปลาที่บรรจุร่างทดลองประหลาดครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์น้ำที่จะให้มองกี่ทีก็ชวนแหวะอยู่เสมอ อุณหภูมิก็เริ่มลดลงเรื่อยๆ จนพวกเขาเริ่มหนาวสั่น เงาของสิ่งมีชีวิตประหลาดที่บิดเบี้ยวและน่ากลัวมากขึ้นในสถานการณ์แบบนี้พรึ่บบ!! ตึง!!! ไฟทั้งหมดดับลง ทั้งห้องมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไร จากนั้นอยู่ๆ ก็เหมือนมีลมลูกใหญ่พัดผ่านตัวพวกเขาวูบหนึ่งจนร่างกาย
ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วกลุ่มคนที่เหลือรอดหลังจากหมอกหายตัวไปอย่างลึกลับ ทิ้งไว้เพียงความแตกแยกและการโทษกันเองว่าใครคือสาเหตุ ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่จำเป็นต้องหาต้นตอเลยด้วยซ้ำ เพราะทุกคนที่มาที่นี่ก็เพราะถูกบัตรเชิญลึกลับใบนั้นหลอกลวงมาทั้งหมด หากจะกล่าวโทษใครก็คงต้องบอกว่าเป็นความผิดของคนที่อยู่เบื้องหลังอควาเรียมแห่งนี้นั่นแหละในขณะที่บรรยากาศระหว่างพวกเขาไม่ค่อยจะดี อยู่ๆ ฟ้าก็ก้าวเดินแยกออกไป ทุกคนหันมองตามไปอย่างไม่ไว้ใจ แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยห้ามเพราะเข้าใจว่าฟ้าตกอยู่ในการควบคุมของอควาเรียมเธอเดินไปหยุดอยู่บริเวณหน้าทางเดินแคบๆ แห่งหนึ่งซึ่งนำไปสู่ส่วนที่มืดมิดยิ่งกว่าเดิม และที่น่าตกใจที่สุดคือ เธอเริ่มได้ยินเสียงเรียกที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิม เสียงนั้นไม่ใช่เสียงกระซิบ แต่เป็นเสียงที่เหมือนแม่ของเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือช่วยด้วย~“แม่... แม่ขา...” ฟ้าพึมพำ น้ำเสียงของเธอดูล่องลอยแต่ก็แฝงไว้ด้วยความทุกข์ทรมาน เธอหันไปมองกลุ่มคนที่เหลือด้วยแววตาที่ว่างเปล่า แต่ก็มีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปช่วยแม่ของเธอ“ฟ้า! เธอเป็นอะไรไป!” พลอยกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวส
ความตายของเจมส์จากการเปลี่ยนแปลงร่างกาย ทำให้ความตื่นตระหนกแผ่ซ่านไปทั่วกลุ่มคนที่เหลือรอด แสงไฟจากตู้ปลาที่ส่องสะท้อนใบหน้าพวกเขาเปิดเผยความกังวลให้เห็นได้ชัดเจน มันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ลมหายใจหอบเหนื่อยไม่เป็นจังหวะ แม้อากาศภายในอาคารจะเย็นฉ่ำ แต่เม็ดเหงื่อก็ยังคงผุดขึ้นเต็มผิวกายไปหมด มันน่ากลัวไปเสียทุกอย่าง ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายใดอีก“เขา...เขาตายแล้วจริงๆ เหรอ” พลอยเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงของเธอสั่นเครือ“ความตายของเขา...คือสัญญาณ” อิฐกล่าวขึ้นมาในระวห่างนั้น เสียงของเขาหนักแน่นและสงบ“ได้ยินอะไรกันไหม” หมอกเอ่ยทักขึ้นก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าตู้ปลาขนาดใหญ่ตู้หนึ่งที่ดูมืดมิดและมีตะไคร่น้ำเกาะหนาแน่น“เสียงอะไร” อิฐถามต่อก่อนจะมองตามไปยังทางที่หมอกยืนนิ่งอยู่“ฉันได้ยินมัน...ร้องเพลง” หมอกบอกเสียงนิ่งเธอเริ่มได้ยินเสียงเรียกที่ดังมาจากตู้ปลาที่เรียกชื่อเธออีกครั้ง เสียงนั้นไม่ใช่เสียงกระซิบธรรมดา แต่มันเป็นเสียงที่ดูเหมือนกำลังร้องเพลงด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะและชวนฝัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเศร้าโศกและอันตราย ราวกับกำลังเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปใกล้ เสีย
เงาปริศนาที่เคลื่อนไหวไปมาในความมืด บิดเบือนการรับรู้และฉายภาพหลอนที่สะท้อนความกลัวลึกๆ ในใจของแต่ละคน ยิ่งทำให้ความหวาดกลัวเข้าปกคลุมกลุ่มคนที่เหลือรอดอย่างหนักหน่วง แสงสลัวจากตู้ปลาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในโซนลับส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาและความพ่ายแพ้ ภาพอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่ฉายขึ้นในตู้ปลา ยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้นในระหว่างนั้น ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นว่าดวงตาของเจมส์กลับกลายเป็นสีดำสนิท ไร้แววตาใดๆ และที่น่าตกใจที่สุดคือ ผิวหนังของเขาที่เคยซีดเผือด บัดนี้กลับมีลักษณะคล้ายเกล็ดสีเขียวอมดำปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนไปทั่วทั้งร่างกาย และเสียงน้ำไหลแผ่วเบาที่ดังมาจากภายในร่างของเขาก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเสียงโครมครามราวกับมีสายน้ำกำลังไหลเชี่ยวอยู่ข้างในตัวเขา“เจมส์!” พลอยกรีดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัว เธอเห็นภาพเงาสะท้อนในตู้ปลาที่แสดงว่าเจมส์จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด และบัดนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นจริงเจมส์พยายามจะลุกขึ้นยืน ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างรุนแรง เขายื่นมือออกไปในอากาศ ราวกับกำลังควานหาบางสิ่งบางอย่าง
ภาพอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่ฉายขึ้นในตู้ปลาเพื่อให้เห็นถึงชะตากรรมของพวกเขาแต่ละคนที่จะถูกอควาเรียมกลืนกิน สิ่งนั้นยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้น บัดนี้แสงสลัวจากตู้ปลาที่บรรจุสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในโซนลับส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวาและไร้ซึ่งหนทาง แต่ก็ยังคงมีความมุ่งมั่นบางอย่างที่ริบหรี่ให้เห็นถึงความต้องการที่จะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด“ภาพที่เราเห็นมันคือการแสดงถึงพลังของอควาเรียม” อิฐเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่มุ่งมั่น “มันกำลังพยายามทำลายขวัญกำลังใจพวกเรา”“เรายังมีหวังใช่ไหม” พลอยถามในขณะที่น้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม“ต้องมีสิ” อิฐย้ำชัด “ฉันจะพาทุกคนออกไปให้ได้ ฉันจะไม่ยอมตายอยู่ที่นี่หรอก”ทันทีที่อิฐพูดจบ อุณหภูมิในโซนที่พวกเขากำลังยืนอยู่ก็ลดต่ำลงอย่างกะทันหัน ความมืดที่เคยสลัวบัดนี้กลับมืดลงเข้าไปอีก ราวกับว่าแสงทั้งหมดถูกดูดกลืนหายไป พร้อมกับเสียงกระซิบที่ดังขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ใช่แค่เสียงกระซิบจากตู้ปลา แต่เป็นเสียงกระซิบที่มาจากทุกทิศทาง รอบตัวพวกเขา ราวกับมีลมหายใจเย็นยะเยือกพัดผ่านเงาปริศนาขนาดใหญ่เริ่มปรากฏขึ้นในทุกมุมของอควาเรียม
ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่กวินค้นพบในสมุดบันทึกของนักวิทยาศาสตร์ เรื่องรายละเอียดของการทดลองมนุษย์ที่โหดร้าย และการบังคับให้เหยื่อเข้าร่วม ยิ่งทำให้ความสิ้นหวังทวีคูณพลอยทิ้งตัวลงนั่งคุดคู้อยู่กับพื้น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “มันโหดร้ายเกินไปแล้ว... เราจะทำยังไงกันดี”“สมุดบันทึกเล่มนี้อาจมีแผนผังที่จะนำเราไปสู่แกนพลังงาน และวิธีที่หยุดมัน” อิฐพูดพลางมองไปยังคนที่เหลือ “นี่คือทางเดียวที่เราจะรอด”“แน่ใจใช่ไหมว่านี่คือหนทางที่จะพาเรากลับบ้านได้” พลอยถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ“แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว” ลุงแดงกล่าวเสริมไม่ทันที่จะได้พูดคุยกันต่อทุกคนก็เริ่มสังเกตเห็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นในตู้ปลาที่เรียงรายอยู่รอบตัวพวกเขา มันไม่ใช่ปลา ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตประหลาดที่พวกเขาเคยเจอ แต่เป็นเงาสะท้อนของตัวเองที่ปรากฏขึ้นบนผิวน้ำในตู้ปลาที่ว่างเปล่า ราวกับเป็นภาพหลอนที่ฉายมาจากมิติอื่นแต่เงาสะท้อนเหล่านั้นไม่ได้นิ่งเหมือนกระจกเงา มันกลับเคลื่อนไหว และแสดงภาพอนาคตที่น่าสะพรึงกลัวของแต่ละคนเงาสะท้อนของฟ้าในตู้ปลาที่กำลังจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดของน้ำ ร่างกายของเธอบิดเบี้ยว และค่