공유

บทที่ 9 ฉงเป่าผู้เยี่ยมยอด

작가: ฮวาฮวาน่งหยวี่
ถูซินเยว่โบกกำปั้นเล็ก ๆ ของเธอ

ภายใต้แสงแดด ดวงตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยแววเจ้าเล่ห์ พูดจาคล่องแคล่วเสียงสดใส ทำให้เหล่าฝีหนองบนหน้าเธอถูกลืมไปโดยปริยาย

จู่ ๆ ซูจื่อหังก็รู้สึกว่าถูซินเยว่ไม่ได้อัปลักษณ์ขนาดนั้นแล้ว

พวกเขาทั้งสองทำข้อตกลงกันโดยปริยายว่าจะไม่พูดถึงเรื่องของถูหมิงซวนและเหลียงปินอีก ด้วยกลัวว่ามันจะมืดค่ำเสียก่อน ทั้งสองจึงรีบก้าวเดินขึ้นภูเขา

หมู่บ้านต้าเย่อยู่ด้านหน้าภูเขาใหญ่ ด้านหลังเป็นภูเขาลึกและป่าเก่าแก่ที่มีใบไม้และพุ่มไม้เขียวชอุ่มอยู่ทุกหนทุกแห่ง

ทั้งสองกำลังเดินขึ้นไปบนภูเขา ถูซินเยว่ก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า "เจ้าจะไปเก็บอะไร? หรือว่าจะล่าสัตว์กลับไป?"

ซูจื่อหังซึ่งปกติอยู่แต่ในห้องหนังสือท่าทางองอาจผ่าเผยตอนนี้ขมวดคิ้วขึ้น รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย ที่จริงแล้วตั้งแต่จำความได้ นางหยูให้เขาอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือตลอด ปกติไม่เคยให้เขาต้องทำงานเหล่านี้เลย

ขึ้นเขามาครั้งนี้ ก็แค่เพราะเขาเคยเห็นคนในหมู่บ้านขึ้นมาล่าสัตว์ได้กลับไปเป็นครั้งคราว ดังนั้นเขาจึงอยากลองมาเสี่ยงโชคดูบ้าง

"บนเขานี้มีเลียงผา แต่ปกติไม่ค่อยได้เห็น ข้าลองมาเสี่ยงดวงดูน่ะ" ซูจื่อหังบอกความจริง

งั้นก็ตามนั้นเถอะ ถูซินเยว่ไม่สามารถกลั้นไว้ได้จึงหัวเราะออกมา

ซูจื่อหังหางตากระตุก เขาก็ไม่อยากเสียหน้าเช่นนี้ แต่เขาไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าจะสามารถล่าอะไรกลับไปได้

ทั้งสองเดินขึ้นไปบนภูเขาได้สักพัก พื้นทางไม่เรียบทั้งยังลาดชัน ถูซินเยว่ที่ร่างกายเต็มไปด้วยไขมัน เดินไปได้ชั่วครูก็เหนื่อยจนหายใจหอบ

กัดฟันเดินต่ออย่างยากลำบากอยู่พักหนึ่ง แต่เธอไม่สามารถฝืนได้อีกต่อไป จึงนั่งลงบนก้อนหินใหญ่ข้าง ๆ

"ไม่ไหวแล้ว ๆ ข้าขอพักก่อน" ถูซินเยว่โบกมือ มองดูรูปร่างซูบผอมของซูจื่อหังแต่กลับไม่มีอาการเหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย จึงรู้สึกหงุดหงิด นึกดูหมิ่นตัวเองอยู่ในใจอย่างเงียบ ๆ ในขณะเดียวกันก็คิดแผนอยู่ในใจ

ในเมื่อตอนนี้เธอได้รับช่วงต่อร่างกายมาจากเจ้าของคนก่อนแล้ว ต่อไปเธอจะต้องขยันออกกำลังกายอย่างขันแข็งเพื่อลดไขมันในร่างกายให้หมดไป ไม่เช่นนั้นต่อไปเดินก้าวสองก้าวก็เหนื่อยหอบแบบนี้ เธอคงทนไม่ไหวแน่ อีกทั้งยังไม่ดีต่อสุขภาพด้วย

หายใจเข้าลึกอยู่สองที ในที่สุดถูซินเยว่ก็รู้สึกดีขึ้น รับกาน้ำมาจากซูจื่อหังกำลังจะดื่ม จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแทรกเข้ามาในหู

"ยายอ้วน ๆ ! มีหมูป่าอยู่ในลำธารทางซ้ายแน่ะ รีบไปเร็วเข้า!"

เสียงนั้นดังราวกับฟ้าร้อง ถูซินเยว่ตกใจจนเกือบสำลักน้ำ

"ใคร ใครพูดน่ะ?!"

เธอผลุนผลันลุกขึ้นยืน

ซูจื่อหังมองดูถูซินเยว่พูดพึมพำ ก็พูดขึ้นด้วยความงุนงง "ไม่มีใครพูดอะไรนี่"

"ไม่มีใครพูด?"

ไม่ใช่แล้ว! เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่ามีคนตะโกนอยู่ข้างหูเธอนี่นา เสียงดังจนเกือบทำให้เธอหูหนวก

ถูซินเยว่ที่กำลังสงสัยอยู่ จู่ ๆ เสียงเมื่อครู่ที่ได้ยินก็ดังขึ้นอีกรอบ "ช่างเป็นมนุษย์ที่โง่เขลาเสียจริง รู้แบบนี้ข้าไม่พูดกับเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว ข้าก็คือฉงเป่ายังไงเล่า ข้าเพิ่งคุยกับเจ้าเมื่อเช้า ลืมข้าง่ายขนาดนี้เลยรึ"

"ฉงเป่า?" ถูซินเยว่นึกอยู่นานกว่าจะจำได้ว่าเป็นแมลงอ้วนตัวใหญ่ที่เจอเมื่อเช้าตอนที่เข้าไปในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนจะเรียกตัวเองว่าฉงเป่าอะไรนี่แหละ

ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนกันล่ะ ทำไมถึงมาคุยกับตนได้?

"ข้าสื่อสารกับเจ้าผ่านทางจิต ดังนั้นสามีโดยบังเอิญของเจ้าจึงไม่ได้ยิน เจ้านี่มันโง่จริง ๆ " ฉงเป่าพูดด้วยท่าทางรังเกียจ

ถูซินเยว่บุ้ยปากถามอย่างหมดคำพูด "เมื่อกี้เจ้าจะบอกอะไรกับข้านะ?"

เมื่อครู่เสียงของฉงเป่าดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อีกทั้งยังดังก้องเต็มหู ถูซินเยว่จึงไม่ทันได้ฟังถนัดนัก

ฉงเป่าพูดซ้ำอย่างรำคาญ "มีหมูป่าตัวหนึ่งอยู่ในลำธารทางด้านซ้าย... หมูป่าตัวนั้นได้รับบาดเจ็บและวิ่งไม่ได้ไกล รู้งี้ข้าไม่บอกเจ้าดีกว่า ความโง่ของเจ้าทำข้าหงุดหงิดจะแย่...."

ฉงเป่ายังคงบ่นพึมพำต่อไป แต่ถูซินเยว่กลับลุกขึ้นอย่างหุนหันพลันแล่น ตะโกนด้วยความตื่นเต้น "หมูป่า!"

ซึ่งทำให้ซูจื่อหังที่อยู่ข้าง ๆ ตกใจ ตั้งแต่เมื่อครู่ก็พึมพำกับตัวเองคนเดียว พูดอะไรเขาก็ฟังไม่เข้าใจ มาตอนนี้ก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น คงไม่ใช่โรคบ้ากำเริบหรอกนะ?

ก่อนที่เขาจะได้ทันตั้งตัว ถูซินเยว่ก็เอื้อมมือไปคว้ามือของซูจื่อหัง วิ่งไปทางซ้ายพลางพูดว่า "สามีโดยบังเอิญ เจ้ารีบหยิบขวานออกมาเร็วเข้า มีหมูป่าอยู่ตรงนั้นแน่ะ"

เธอตื่นเต้นมาก ตะโกนบอกตามคำของฉงเป่า

สามีโดยบังเอิญ?

มุมปากของซูจื่อหังกระตุก แม้ว่าเขาจะรู้สึกฉงน แต่เขาก็ยอมหยิบขวานออกมา ขณะที่วิ่งตามถูซินเยว่ก็เอ่ยถามไปด้วยว่า "เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามีหมูป่า?"

"ลางสังหรณ์น่ะ"

เรื่องของฉงเป่าและมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถบอกคนนอกได้ ถูซินเยว่จึงตอบไปเรื่อย

เมื่อครู่ยังหอบแฮ่ก ๆ แต่ตอนนี้พอได้ยินว่ามีหมูป่า ไม่ต้องบอกเลยว่าหญิงสาวจะตื่นเต้นดีใจขนาดไหน รีบจ้ำสี่คูณร้อยไปเลย

หมูป่า!

หมูป่าเลยนะโว้ย!

ต้องบอกก่อนว่าบรรดาชาวนาเหล่านั้นที่ขึ้นเขามา จับเลียงผาได้ก็นับว่ายากแล้ว แต่หมูป่ามีค่ากว่าเลียงผามาก เมื่อเช้ากินโจ๊กผักเข้าไป ถูซินเยว่ก็ผิดหวังเต็มทน หากจับหมูป่าตัวนี้ได้ล่ะก็ เธอก็มีหวังจะได้กินเนื้อบ้าง

แน่นอนว่าถูซินเยว่ต้องตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นเสียจนเกือบจะบินไปจับหมูตัวนั้น

เธอดึงซูจื่อหัง และกระโจนเข้าไปในพุ่มไม้ราวกับเสือภูเขา ซูจื่อหังถึงกับตกตะลึงกับพละกำลังของเธอ

"ซินเยว่ เจ้าวิ่งช้าหน่อยเถอะ"

พุ่มไม้หนา และก้อนหินมากมาย หากสะดุดล้มคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่

เพิ่งจะพูดจบ ถูซินเยว่ก็หยุดวิ่งกระทันหัน จากนั้นจึงยื่นมือออกมา ส่งสัญญาณบอกให้เงียบ บอกใบ้ซูจื่อหังให้เดินเบา ๆ

แม้ว่าหญิงสาวจะยังคงเป็นลูกบอลกลม ๆ ฝีหนองเต็มหน้า แต่ดวงตาเล็กหยีคู่นั้น กลับดูเฉียบคม ราวกับนักล่ามืออาชีพที่กำลังดักซุ่มโจมตี ท่าทางขึงขังเอาจริงเอาจัง

หรือว่าซินเยว่จะเป็นพวกมีครูรู้วิชา?

ซูจื่อหังรู้สึกงุนงงกับความคิดของตัวเอง ทำไมเขาถึงมีความคิดเช่นนี้ไปได้?

ในตอนนี้เอง ถูซินเยว่ก็ยื่นนิ้วออกมาอย่างกระทันหัน ชี้ไปนอกพุ่มไม้อย่างเงียบ ๆ

ซูจื่อหังมองตามนิ้วของเธอไป ทันใดนั้นความประหลาดใจก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเขา เมื่อเห็นว่ามีหมูป่าตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างลำธาร

"นี่ นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว!"

ซินเยว่พูดถูกจริง ๆ ด้วย

หมูป่าตัวนั้นดูตัวไม่ใหญ่ ขาข้างหนึ่งไม่รู้ว่าถูกตัวอะไรกัด กำลังเลียบาดแผลตัวเองอยู่ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามีคู่สามีภรรยากำลังแอบสอดแนมอยู่ในพุ่มไม้

ถูซินเยว่ชี้ไปทางด้านหน้า จากนั้นก็ชี้ไปที่ซูจื่อหัง จากนั้นก็ชี้ไปที่ตัวเอง แล้วก็ชี้ไปที่ด้านหลังอีกทีหนึ่ง

ซู่จื่อหังเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อ คือให้เขาไปสกัดข้างหน้าหมูป่า แล้วจู่โจมจากทั้งสองฝั่ง

เขาพยักหน้า และส่งเสียมเล็ก ๆ ในมือให้กับถูซินเยว่

เมื่อเห็นว่าหมูป่าคลายความระวังตัวแล้ว ทั้งสองก็กระโจนออกจากพุ่มไม้ทันที
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status