“แต่ว่า”
“จะเอาไหม กุญแจห้องน่ะ”
เธอเดินตามเขาไปที่รถสปอร์ตหรู แต่พอมานึกดูอีกที เพื่อนเธอบอกว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทรถหรูนี่นา เมื่อเดินไปถึงเขาก็กดกุญแจปลดล็อกทันที
“ขึ้นไปสิไม่ต้องกลัว พี่ไม่เอาเราไปขายหรอก ถึงจะรูปร่างดีหน้าตาน่ารัก แต่ก็…”
“หยาบคาย!”
เขายกพวงกุญแจกระต่ายขึ้นมา นั่นยิ่งทำให้เธอโกรธจนหน้าแดง แต่กลับทำให้ตะวัน รู้สึกอยากแกล้งเธอมากขึ้นไปกว่าเดิม
“ขึ้นรถสิ ถ้าไม่ไปตอนนี้จะสายจริง ๆ แล้วนะ ได้ข่าวว่าที่คณะถ้าไปสาย จะถูกตัดคะแนนความประพฤติด้วยนี่ อย่าเสี่ยงจะดีกว่า”
มะปรางยอมขึ้นรถไปทันที เธอตั้งใจปิดประตูด้วยเสียงที่ดังเกินปกติ จนคนที่ยืนอยู่ ถึงกับหลับตาและขำออกมา
“ช่างรุนแรง จนน่าจะจับไปทำอย่างอื่นจริง ๆ”
เมื่อเขาสตาร์ทรถและเริ่มขยับเกียร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย เขาไม่เพียงแค่หล่อแต่ยังเซ็กซี่ด้วย รูปร่างที่สมส่วนกับความสูงเกือบ 190 เซนติเมตรนี้ ที่ทำให้สาว ๆ คลั่งไคล้ แต่ใครจะคิดว่าคนเงียบ ๆ แบบนี้ เวลาพูดออกมาจะกวนขนาดนี้ อีกทั้ง….
“กรี๊ด!!! พี่จะรีบไปหาพ่อพี่เหรอ”
“ฮ่า ๆ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ยังต้องเรียนกันอยู่เลย เรื่องอนาคตค่อยว่ากันเถอะ”
“ไอ้บ้า! ขับช้า ๆ ลงหน่อยสิ กลัวไม่ตายเร็วหรือไง”
“ช้ากว่านี้ก็ไปไม่ทันสิ เลือกเอานะว่าจะไปให้เร็ว มีเวลาเดินเข้าไปในคณะ หรือว่าจะเป็นข่าวกับพี่ ที่ไปส่งเราถึงหน้าคณะ”
“อะ ไอ้บ้า! กรี๊ดดด….”
ไม่รู้ว่าทำไม ปกติตะวันไม่ชอบเสียงกรี๊ดที่น่ารำคาญของพวกผู้หญิง แต่วันนี้เขากลับอยากให้เธอกรี๊ดไปตลอดทาง คนอะไรน่ารักชะมัด ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งอยากจะแกล้ง
หน้าคณะมนุษยศาสตร์
“ถึงแล้ว ลืมตาได้แล้ว ไม่ใช่กลัวจนฉี่ราดบนรถไปแล้วละ”
“ไอ้…”
“เอ๊ะ ๆ เบาหน่อย เอาละรีบลงเถอะ ใกล้จะเข้าเรียนแล้ว”
“กุญแจฉันละคะ”
“เอาไว้เลิกเรียน แล้วค่อยมาเอา”
“แต่ว่า!”
“ห้องก็ล็อกสายยูเอาไว้แล้วนี่ ไม่ต้องกลัวหรอกน่า”
“พี่ไม่ทำตามที่ตกลง”
“พี่บอกตอนไหนว่าจะทำตอนนี้ คืนให้แน่ไม่โกงหรอกน่า”
“กำลังทำชัด ๆ”
“ไม่รีบไปเดี๋ยวสายจริง ๆ ละนะ จะเอายังไง”
“พี่จะเอายังไง”
“เอาเบอร์มาก่อนสิ”
“ไม่ให้”
“งั้นกุญแจ”
“โอ๊ย!”
เขายั่วโมโหจนเธอ จนหัวแทบจะระเบิดออกมา ไม่คิดมาก่อนเลยว่าชื่อเสียงของคณะวิศวะ ที่บอกว่าปากหมาทุกคน จะเป็นเรื่องไม่เกินจริง แต่ไม่ให้เบอร์ก็คงไม่จบ
“เอาไป!”
“เลิกเรียนแล้วเจอกันนะ… ชื่ออะไรนะนกหวีด”
“ชื่อมะปราง! ไม่ใช่นกหวีด”
“อ้าวเหรอนึกว่าใช่ เห็นกรี๊ดเสียงดังจนขี้หูเต้นระบำได้”
“ไปก่อนนะคะ แล้วอย่าลืมเรื่องข้อตกลง”
“ได้ เจอกันเย็นนี้นะมะปราง”
มะปรางลงจากรถได้ ก็ปิดประตูอย่างแรงอีกครั้ง รถหรูขับออกไปแล้ว เธอจึงรีบเดินเข้าไปที่คณะ แต่สายตาของบางคนทันเห็นเข้าพอดี โดยที่เธอไม่ทันได้สังเกต
“นั่นมะปรางไม่ใช่เหรอ มีคนใหม่เร็วดีนะ รถนั่นราคาไม่ต่ำกว่า 3 ล้านแน่นอน ฉันเคยเห็นไม่กี่คันหรอกในมหาลัย”
"หึ หรือว่าอกหักจากพี่จักร แล้วจะหนีไปซบเสี่ยที่ไหนหรือเปล่า ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่คอนโดหรูเลยไม่ใช่เหรอ พี่จักรคะ"
“พี่ไม่รู้ ไปเถอะได้เวลาเข้าเรียนแล้ว”
“ตาลพูดอะไรผิดคะ หรือว่าพี่จักรยังลืมมะปรางไม่ได้ ตอนนี้ตาลเป็นแฟนพี่นะ”
“เลิกพูดถึงคนอื่นเสียที วัน ๆ เอาแต่นินทาคนอื่นสนุกนักเหรอ รีบเข้าเรียนได้แล้วตาล พวกเธอด้วย”
เพื่อน ๆ ของตาล รีบเดินกลับไปคณะบริหารทันที “ตาล” แฟนคนใหม่ของจักรชักสีหน้าใส่เขาทันที แต่เธอยังไม่ได้ตามเพื่อน ๆ ไป
“ทำไมพี่จักรต้องตะคอกตาล ต่อหน้าเพื่อนด้วยละคะ”
“แล้วที่พี่พูดมันไม่จริงเหรอ วัน ๆ เอาแต่จับกลุ่มนินทาคนอื่น ไม่เบื่อบ้างหรือไง”
“ทีกับคนอื่นไม่เห็นว่าพี่จักรจะมีอารมณ์ ทำไมกับอีบ้าคณะมนุษย์นี่ต้องเป็นแบบนี้ทุกที จะให้ตาลคิดยังไง”
“คิดยังไงก็เรื่องของตาลเถอะ พี่ไปก่อนละ”
“พี่จักร!”
จักรเรียนคณะทันตแพทย์ เขาเดินกลับไปที่คณะทันที โดยไม่หันมามองตาลอีก เธอเรียนคณะบริหาร ซึ่งทั้งคู่เจอกันที่ผับของเพื่อน และพลาดมีอะไรกัน จนมะปรางจับได้หลังจากนั้น เขาเลยต้องเลิกกับเธอ
คลาสเรียน
“มะปรางแกเป็นอะไร เมื่อกี้ตอนพรีเซ็นงานแกเอาแต่พูดติด ๆ ขัด ๆ ไม่เหมือนแกเลย”
“นั่นสิ เกิดอะไรขึ้น หรือว่าแกเจอไอ้เลวนั่น”
“ไม่ใช่หรอก เรื่องอื่นนะช่างมันเถอะ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน”
“ไปสิ”
โรงอาหาร
วันนี้โรงอาหารของคณะมนุษยศาสตร์ คนเยอะกว่าทุกวัน พวกเธอเดินเข้ามาก็ต้องแปลกใจ เพราะปกติเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่คนจะเยอะ แต่คงเพราะมีคนคณะอื่นมากินข้าวที่นี่ละมั้ง
“นั่งนี่เถอะ”
“อืม แกเอาอะไร”
“ฉันไปซื้อน้ำก่อนนะ”
มะปรางเดินมาซื้อน้ำ ส่วนเพื่อน ๆ ของเธอแยกกันไปซื้อข้าว เหลืออันตราเฝ้าโต๊ะเพื่อจองที่นั่งคนเดียว มะปรางพึ่งจะเห็น ตอนที่เธอยกน้ำของทุกคนกลับออกมาว่า สาเหตุที่โรงอาหารของคณะคนเยอะเพราะอะไร
“ดูนั่นสิ พี่ ๆ เขามาทำอะไรที่นี่เหรอ”
“หรือว่ามารอใครหรือเปล่า”
“เห็นว่ามาเรียนวิชาภาคบ่ายมั้ง โชคดีจังที่มากินข้าวเวลานี้พอดี”
มะปรางแทบจะกินอะไรไม่ลง เมื่อรู้ว่าจตุรเทพของคณะวิศวะ มานั่งกินข้าวที่โรงอาหารในคณะ เธอเลือกนั่งหันหลังให้พวกเขา แต่ก็ไม่พ้นกับหัวข้อสนทนานี้
“ไม่เคยเห็นพวกเขาที่นี่มาก่อนเลย วันนี้แปลกแฮะ หรือว่ามาจีบใครในคณะเรา”
""ไม่รู้สิ""
มะปรางและอันตราพูดขึ้นมาพร้อมกัน ทรายและเนตรหันไปมองทั้งคู่ ซึ่งเป็นคนที่นั่งหันหลังให้กับทั้งสี่คน
“อะไรกัน พวกแกใจตรงกันเกินไปมั้ย”
“รีบกินเถอะ เหลือเวลาแค่ 40 นาทีเอง”
มะปรางพยายามไม่สนใจพวกเขา แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้สนใจพวกเธอเหมือนกัน เมื่อลุกจากโต๊ะไป เสียงมือถือของมะปรางก็ดังขึ้นมา เธอรีบยกขึ้นมาดูอีกครั้ง
“เย็นนี้รอพี่หน้าคณะ เดี๋ยวกลับบ้านพร้อมกัน”
“ปรางก็รักพี่ตะวันค่ะ”ตะวันเหมือนกับได้ปลดแอกอะไรบางอย่าง เมื่อเธอพูดคำนี้ออกมา เขาถึงกับยิ้มได้ และหันมาจูบเธอแรง ๆ อีกครั้ง“เมื่อกี้ปรางบอกรักพี่เหรอ พูดใหม่อีกทีสิ”“ปรางรักพี่ค่ะ อ๊ะ…ซี๊ด…จะย้ำทำไมคะ”“พูดอีก เร็วเข้า”“รักค่ะ อ๊าา ปราง...รักพี่ตะวัน อ๊าา แรงอีกค่ะที่รัก อ๊าาา”“พูดอีกเร็วเข้าเมียจ๋า ผัวอยากฟังทั้งคืนเลย อาาา เสียวมาก ต้องแบบนี้สิ ดีมาก ตอดแรงมาก อาา... พี่รักปรางนะครับ”ทั้งคืนทั้งคู่ได้แต่บอกรักกัน สลับกับเปลี่ยนท่าทางไปหลายท่า สุดท้ายคืนนี้ ทั้งคู่ก็ต้องเปลี่ยนมานอนที่ห้องของตะวันแทน เพราะห้องของมะปรางนอนต่อไม่ได้แล้ว“อื้อ พอแล้ว จะทำห้องนี้เลอะอีกไม่ได้แล้วนะคะ อ๊าา พี่ตะวันพอก่อน นี่ดึกแล้ว”“พรุ่งนี้ค่อยไปช่วยกันทำความสะอาด แต่ตอนนี้พี่ยังรักปรางไม่พอเลย หันมาหน่อย ขอดูดปากอีกหน่อย”เสียงน้ำลายและลิ้นที่รัวกันพัลวันอีกครั้ง ดังขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เปลี่ยนเตียง เพราะตะวันที่เร่งกระตุ้นจนมะปรางเสร็จรุนแรง และทำที่นอนเปียก พวกเขาจึงย้ายมาที่ห้องของตะวันแทน และเริ่มขย่มเตียงกันอีกรอบ“อ๊าา อย่านอกใจปรางเชียว ไม่งั้นจะเอาให้ตาย”“กลัวแล้วจ้าเมียจ๋า เอาให้ตายเล
ตะวันพอโดนดุเข้า ก็ยอมนั่งอยู่เฉย ๆ จนหนังจบ เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ จนมะปรางเริ่มรู้สึกผิด เธอหันไปมองหน้าเขา แต่คนตัวโตทำเป็นงอนและนั่งไขว่ห้างกอดอกให้เสียแล้ว“จะงอนอะไรนักหนา ไม่ดูสถานที่เลย”สุดท้ายเธอก็ดูหนังแทบไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่คิดเรื่องคนข้าง ๆ ที่นั่งหันข้างให้เธอจนหนังจบ เมื่อลุกออกมาจากโรงหนังได้ เธอก็แกล้งจะเดินไปจับแขนเขา ซึ่งตะวันก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ“งอนปรางเหรอคะ”“จะไปไหนอีกหรือเปล่า จะกินข้าวที่นี่เลย หรือว่าจะไปกินที่อื่น”“หิวแล้วเหรอคะ”“อืม”“ที่แท้ก็โมโหหิวเหรอคะ งั้นไปกินข้าวก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับ”“อืม”มะปรางยังทำใจดีสู้เสือต่อไป เธอไม่เคยเห็นผู้ชายตัวโตงอนมาก่อนเลย ตอนที่คบกับจักร เขาก็ไม่เคยทำท่าทางแบบนี้ แต่ชีวิตคู่ที่คบกันก็จืดชืดจนน่าเบื่อมาก รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย“อยากกินอะไรคะ”“อะไรก็ได้ เลือกเถอะกินได้หมดนั่นแหละ”“งั้นเราเดินดูสักพักค่อยเลือกดีไหมคะ”“ตามใจ”ทั้งคู่เดินไปโซนร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า โลกก็ช่างกลมเหลือเกินเมื่อเดินมาสักพัก ก็เจอกับจักรและลูกตาลที่มาเที่ยวด้วยกัน เมื่อตะวันเห็นว่าตรงหน้าเป็นใคร ก็รีบดึงเธอเข้าม
“พี่ตะวัน…อื้อ…”เขาจูบเธอเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสปฏิเสธ เมื่อถึงส่วนที่ประสานกันออก เขาก็เอานิ้วสอดเข้าไปแทน เพื่อกระตุ้นเธออีกครั้ง มะปรางเมื่อถูกกระตุ้นเข้าไปอีกครั้งก็เริ่มคล้อยตาม ตะวันจับตัวเธอนอนตะแคง และสอดเข้าไปพรวดเดียวจนมิด เรียกเสียงครางรับจากแฟนสาวได้ทันที“เฮือก!! อ๊าา…ลึกไปแล้ว อ๊าา เสียว อย่าบี้ตรงนั้น มันจะ…เสร็จ อ๊าาา!!!”เธอทั้งอายทั้งเสียวและตื่นเต้น ไม่รู้เลยว่ารู้สึกยังไงกันแน่ ตะวันพาเธอลองทุกอย่างที่ไม่เคยรู้จัก เซ็กซ์ที่น่าตื่นเต้นและเร่าร้อน เหมือนจะเผาตัวเธอได้ทั้งตัว ยิ่งทำให้มะปรางต้องการมากขึ้น“เพี๊ยะ!”“อ๊าา!!”“เสียวมากไหม บอกพี่สิคะ หืมมม อาา…แน่นฉิบหาย ก้นสวยมากที่รัก อาาา”ปัก ปัก ปัก!เสียงสะโพกของทั้งคู่กระทบกันรัวถี่ ทำให้อารมณ์รักกระเจิง มะปรางพึ่งจะรู้สึกในตอนนี้เองว่า “กดให้จมเตียง” มันเป็นแบบนี้นี่เอง“อ๊าา พี่ อ๊าา…ปรางจะเสร็จ อ๊าา ร้อนมาก ช่วยด้วย อื้อ…”ตะวันพาเธอออกมารับลมด้านนอก แต่ไม่ได้ออกไปที่ระเบียง แค่ในห้องที่มีกระจกกั้น มองเห็นท้องฟ้าข้างนอก ก็ทำเอามะปรางเสียวจนวูบวาบไปทั้งตัว นี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว แต่แฟนหนุ่มของเธอเหมือนจ
“เรื่องนี้มันยาวน่ะ”“เล่ามาเถอะ”“ก็ได้”อันตราเริ่มเล่า ตั้งแต่ที่เธอมีโอกาสได้เจอภาวิชญ์ครั้งแรก ที่ห้องประชุมเล็กในคณะวิศวะ วันที่เธอต้องเอาของที่อาจารย์วานไปส่งให้ ขากลับออกมาได้ยินเสียง ซึ่งลอดออกมาจากห้องประชุมเล็กชั้นสาม จึงเดินไปดู เธอเห็นว่ามีคนทำอะไรบางอย่างอยู่ในห้องนั้น ซึ่งจำได้ว่าคือภาวิชญ์ กับผู้หญิงอีกคนที่เธอไม่รู้จัก“บ้าไปแล้ว นี่มันในมหาลัยนะ”“คิดว่าพวกเขาสนเหรอ แม้แต่หอสมุดก็ยังเคยทำมาแล้วเลย”“ไอ้ทราย แกรู้ได้ไง”“เออ ๆ ช่างเถอะ ไอ้อันเล่าต่อสิ”หลังจากนั้นเธอก็รีบวิ่งออกมา และคิดว่าเขาคงจะจำเธอไม่ได้ แต่โชคร้ายที่เธอดันทำปากกาตก ซึ่งปากกาด้ามนั้น เป็นปากกาที่พ่อของเธอเคยซื้อให้ และมันสลักชื่อของเธออยู่บนนั้น“ซวยของแท้”“ไอ้เนตรอย่าพึ่งขัดสิ แล้วยังไงต่อ ชื่อคนก็เหมือนกันได้”“แต่ว่าปากกาอันนั้น มีโลโก้บริษัทของคุณพ่ออยู่”“แล้วยังไงอย่าบอกว่าเขาสืบจนเจอนะ เกินไปหน่อยหรือเปล่า”“ก็ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ที่จริงแล้วฉันก็คิดว่าปากกาหายไป เพราะลืมไว้ที่ไหนสักที่หนึ่ง จนกระทั่งเมื่อสองเดือนก่อนเปิดเทอม คุณพ่อชวนไปทานข้าวกับเพื่อนสนิท ซึ่งทำบริษัทท่าเรือส่งออก ฉันกับคุณ
“พี่บ้า! อย่าทำอะไรนะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“น่า…นิดเดียวเอง ช่วยพี่หน่อยนะ”“ไม่เอา อ๊ะ พี่…อื้อ”เขาดึงนิดเดียว เสื้อนอนบางของเธอก็เลิกขึ้น เวลานอนมะปรางไม่สวมบรา มันทำให้เขารู้สึกสะดวกมากขึ้น เธอครางรับเมื่อเขาเริ่มบีบเคล้นสองเต้าตรงหน้า นึกไม่ถึงว่าเวลาแบบนี้ยังมีอารมณ์ร่วมไปกับเขา ตะวันถอดชุดนอนของตัวเองออกจนหมด และใช้มือรูดดึงแท่งแกร่งของตัวเอง“โอยย…เสียวมากเลย แค่เห็นหน้าก็จะแตกแล้ว ที่รัก…”“ไม่เอา ไม่เคยทำ”“ฝึกสักหน่อยเดี๋ยวก็เป็น มาเถอะน่า”"ไม่เอา พี่ตะวัน อื้อ…"เขาจับหัวเธอมาใกล้แท่งร้อนในมือ ที่ถูกรูดจนเริ่มมีน้ำออกมา ไม่น่าเชื่อว่ามะปรางจะไม่รังเกียจ ทั้งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน เมื่อถูกเขากดเข้าไปใกล้เธอจึงเริ่มใช้ลิ้นช่วยเขา เสียงครางของตะวันทำให้เธอรู้สึกดีจนอยากทำต่อ“อาา...ยอดไปเลยเสียวฉิบหาย อาา… แบบนั้นแหละ เบา ๆ นะมะปราง ไม่ต้องรีบ อา....”เสียงแหบพร่าของเขา ปลุกให้อารมณ์ดิบของเธอตื่นขึ้น จึงเริ่มนึกอยากแกล้งเขาขึ้นมา เสียงนี้เคยได้ยินอยู่ที่ระเบียงห้อง แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้เธอจะเป็นฝ่ายต้องมาทำให้เขาเอง“อ๊อก!”“อาาา ที่รัก เสียวมากเลย อ๊าาา ปรางจ๋า เบา ๆ นะ ระวังหน่
มะปรางจำเสียงนั้นได้ทันที เสียงผู้หญิงที่งัวเงียมารับสายของเขา เมื่อเปิดหน้ามา อีกฝั่งหนึ่งก็ตกใจทันที ไม่แพ้กับทางมะปรางที่ตกใจเหมือนกัน เธอรีบหลบเมื่อตะวันเอียงมือถือมาให้เธอดู“ไอ้เชี่ยตะวัน! นี่มึงเอาจริงดิ นั่นแฟนมึงเหรอโคตรสวยเลยไอ้เสือร้าย นี่มึงจะถอดเล็บแล้วเหรอวะ ไอ้เชี่ยวิชญ์รู้หรือยัง”เขาหันมามองมะปราง ที่กำลังมองไปที่จอของเขาแล้วนึกขำ“ที่นี่รู้หรือยังว่าพี่ไม่ได้โกหก นี่ไอ้จอยเพื่อนพี่เอง มันเป็นทอมแล้วก็มีแฟนเป็นผู้หญิง”“ห๊ะ อะไรนะ อ๋อ…กูนึกออกแล้ว เธอก็คือคนที่โทรมาหามึงวันก่อนใช่ไหม ที่กูรับสายแทนเพราะรำคาญ เพราะมือถือมันสั่น ตอนมึงไปอาบน้ำ”“เออนั่นแหละไอ้ฉิบหาย งอนกูจนป่วยเลยเนี่ย มึงช่วยกูเคลียร์เลย”“เอ่อ น้องครับพี่ชื่อจอย ขอโทษทีที่วันนั้นทำให้น้องเข้าใจผิด พวกพี่ทำโปรเจคกลุ่มกันแล้วเหนื่อย ก็เลยมาขออาศัยห้องไอ้ตะวันนอน น้องโทรมาตอนพี่พึ่งจะหลับได้ไม่ถึงสามชั่วโมง ตอนนั้นตะวันมันไปอาบน้ำ พี่รำคาญเสียง ไอ้กองทัพเลยถีบพี่ไปจัดการครับ ขอโทษจริง ๆ ถ้าทำให้น้องเข้าใจผิด”ตะวันหันไปมองหน้ามะปราง ที่ทำสีหน้าแปลกจนเขาขำ เธอทั้งรู้สึกผิด และไม่รู้ว่าจะทำหน้ายังไง เมื่อเ