แชร์

บทที่ 2 ดวงใจของครอบครัว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-23 06:51:02

บทที่ 2 ดวงใจของครอบครัว

คุณย่าจางยื่นมือไปรับหลานสาวตัวน้อยมากอดไว้แนบอกอย่างรักใคร่ เมื่อได้ยินว่าลูกสะใภ้ปลอดภัยดีแล้วก็หมดห่วง ทำเมินสายตาสี่คู่ของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ไม่สนใจอะไรอีก นอกจากหลานสาวตัวน้อยของเธอ

ส่วนลูกชายหลายชายนั้น แม้จะอยากเข้าไปดูสะใภ้ของเธอแค่ไหนก็ยังเข้าไปไม่ได้ เพราะในห้องยังจัดการไม่เรียบร้อยดีนัก ทุกคนจึงได้เข้ามาห้อมล้อมคุณย่าจาง ขอดูสมาชิกใหม่ของบ้านอย่างตื่นเต้น

"ดีๆ ดีจริงๆ! ทั้งสองปลอดภัยก็ดีแล้ว หย่าเออร์ของย่าไหนให้ย่าดูหน้าชัดๆ หน่อยสิคะ"

คุณย่าจางพูดออกมาด้วยความสุขจนแทบล้นแสดงออกผ่านน้ำเสียงหวานๆ ที่กล่าวกับเจ้าก้อนซาลาเปานุ่มนิ่มในอ้อมกอด หลานสาวตัวน้อยของเธอมีผิวขาวอมชมพู หน้าตาหลังจากทำความสะอาดหลังคลอดแล้ว ดูน่ารักน่าเอ็นดูที่สุด!

สมกับที่มีพ่อแม่หน้าตาดี เป็นที่หมายปองของเหล่าคนหนุ่มสาวในวงสังคมของเมืองหลวงจริงๆ ดวงตากลมโตสีดำขลับ ราวลูกองุ่นของหลานสาวจ้องมองเธออย่างสนใจ

ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีชมพูน้อยๆ ยิ้มกว้างโชว์เหงือกสีแดงมาให้อย่างน่ารัก รอยยิ้มนี้ ใบหน้านี้ เหมือนกับในความฝันเมื่อคืนของเธอไม่มีผิด!

“ที่รัก! คุณดูหน้ายัยหนูสิคะว่าเหมือนในฝัน ที่คุณเห็นเมื่อคืนรึเปล่า”

คุณย่าจางถามสามีด้วยความตื่นเต้น พลางขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ คุณปู่หลี่อีกนิด เพื่อจะเห็นกันได้ชัดๆ เด็กทารกในห่อผ้าแพรสีน้ำนม ที่ถูกอุ้มอยู่ตอนนี้ใครเลยจะรู้ว่าเนื้อในจริงๆ แล้ว

หาใช่จิตวิญญาณของทารกพึ่งคลอด ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเหมือนทารกปกติจริงๆ กัน! เธอเป็นหญิงสาวที่กำลังจะเข้ามหาลัย ใช้ชีวิตในช่วงนั้นอย่างสนุกสนานให้สมกับอิสระ ที่มีโอกาสได้ลองออกมาอยู่คนเดียวในเพนเฮ้าส์อย่างที่ต้องการมาตลอด ไม่ต้องคอยอยู่ในสายตาของพ่อแม่หรือเหล่าญาติๆ สนิททั้งหลาย ที่คอยดูแลราวดวงใจน้อยๆ ของพวกเขาอีก

เธอเป็นลูกสาวหลานสาวคนเล็กสุดของตระกูล หรือจะเรียกอีกอย่างว่าลูกหลงก็ได้ เพราะแม่มีเธอตอนอายุมากแล้ว ทุกคนจึงรักเธอมาก เพราะแบบนี้เธอจึงไม่เคยออกมามีอิสระข้างนอกเองเลย

แต่สุดท้ายเป็นยังไงล่ะ เพราะความเอาแต่ใจนี่แหละเธอถึงตามเพื่อนใหม่ ที่รู้จักตอนไปรายงานตัวเข้ามหาลัย และเริ่มสนิทกันหลังรู้จักมาหลายเดือน พากันเข้าคลับหรูแห่งหนึ่ง เพราะความอยากรู้อยากเห็นทั้งที่อายุยังไม่ถึงแท้ๆ

ไม่รู้เพราะถึงคราวซวยหรือยังไง เลยโดนลูกหลงจากการมีเรื่องกันของผู้ชายกลุ่มหนึ่ง ลูกกระสุนจากปืนพกกระบอกสั้น ที่ไม่รู้ว่าพวกมันแอบเอาเข้ามากันได้ยังไง เจาะเข้ากลางหน้าผากของเธออย่างแม่นยำราวจับวาง

สุดท้ายได้มาเกิดใหม่ ในโลกเสมือนโลกใบเดิมของเธอแบบนี้ เพียงแต่ต่างยุคกันเท่านั้น ดีที่ชีวิตเก่าไม่เคยทำบาปทำกรรม หรือเคยทำร้ายใครมาก่อน เพียงแค่มีนิสัยเอาแต่ใจไปบ้าง ตามประสาลูกรักหลานรักของคนทั้งบ้านเท่านั้น

ตลอดชีวิตจึงมีแต่ผลบุญที่ทำมา เพราะการไปงานการกุศลหรือมีบริจาคสิ่งของ บริจาคเงินที่เธอเคยติดตามญาติๆ ผู้หญิง และไปกับคุณแม่ทุกครั้งที่มีงานบุญ เธอจะไม่พลาดต้องเข้าร่วมด้วยทุกครั้ง

อีกทั้งคุณแม่เธอชอบทำบุญ มีครั้งหนึ่งเคยร่วมทำบุญใหญ่ด้วยกัน ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศ เธอกับคุณแม่จึงร่วมกันช่วยเหลือคนประสบภัยครั้งใหญ่ตอนนั้นด้วย นั่นน่าจะเป็นบุญใหญ่ที่สุด ที่เธอทำเลยก็ว่าได้

พอดีตายขึ้นมาจริงๆ เธอจึงได้เจอกับท่านเซียน หรือท่านเทพเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ท่านคอยดูแลเหล่าทารกน้อยทั้งหลาย ที่มีไม่ถึงสิบคนในห้องโถงใหญ่ พอมองออกไปทางหน้าต่างบานใหญ่ ก็เห็นแต่ปุยเมฆมากมายลอยไปมาอยู่เต็มไปหมด

ในโถงใหญ่แห่งนั้นตกแต่งอย่างหรูหรามีแจกันสวยๆ และเครื่องปั้นที่เธอเรียกชื่อไม่ถูก จัดวางไว้อย่างน่ามองพร้อมด้วยดอกไม้ ที่เธอก็ไม่เคยเห็น ถูกจัดช่อประดับตกแต่งไว้ได้อย่างสวยงาม มองไปทางไหนก็ราวกับมีแสงระยิบระยับตาไปหมด

เธอไม่รู้ว่าอยู่ที่นั่นนานแค่ไหนแล้ว เพราะทำได้แค่กินและนอนตามประสาทารกน้อย บางทีก็กลอกตามอง ตามท่านผู้เฒ่าเคราขาวชอบสวมชุดขาวผู้นั้นทำสิ่งต่างๆ

บางทีก็คอยก้มมองหยกแผ่นบางเรืองแสงสว่าง ที่มักจะแวบมาอยู่ในมือ เมื่อเขาต้องการดูอะไรบางอย่าง พอดูเสร็จก็จะอุ้มทารกน้อยเหินกายหายออกไปจากห้องโถงใหญ่นี่ตลอด

จนมาถึงคิวเธอถูกอุ้มออกไปบ้าง ถึงได้รู้ว่าผู้เฒ่าเคราขาวผู้นี้ ทำหน้าที่ส่งทารกน้อยเข้าสู่อ้อมอกเหล่าแม่ๆ ก่อนถึงเวลาคลอด เหมือนกับที่เธอเจอคุณแม่คนใหม่ ในความฝันของท่านนั่นเอง

ท่านผู้เฒ่ายังบอกเธอก่อนจะพาไปส่งให้คุณแม่ว่า เพราะมีผลบุญที่เคยทำมา จึงส่งให้ไปเกิดกับครอบครัวที่ดี เหมือนชาติที่แล้วของเธอที่ทุกคนต่างรักเอ็นดูเธอ การเกิดใหม่ครั้งนี้ให้ทำดีสะสมผลบุญต่อไป เพื่อเป็นผลดีต่อเธอเอง

จนตอนนี้ได้มาอยู่ในอ้อมกอดคุณย่า แม้ดวงตาของเด็กทารกจะยังมองอะไรไม่ชัดเจน แต่ก็ยังอยากสร้างความประทับใจ ในครั้งแรกที่พบหน้ากันให้กับทุกคนในครอบครัว

เจ้าก้อนกลมยิ้มกว้างโชว์เหงือกแดงแจ๋ จนดวงตากลมโตเป็นประกายระยับอย่างน่ารักให้คุณปู่ ที่ก้มลงมามองเธอใกล้ๆ จนคนแก่ ที่ปกติจะทำหน้าเคร่งขรึมอยู่ตลอด เพราะหน้าที่การงานกลับผ่อนคลายสีหน้าลง ยิ้มตอบหลานสาวก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาๆ อย่างอ่อนโยน เพราะกลัวหลานน้อยตกใจอย่างที่ไม่เคยทำ

“แอ๊ แอ๊..…” ทารกน้อยกำหมัดเล็กๆ โบกแขนให้คุณปู่หลี่ เมื่อเห็นคุณปู่มองเธออยู่

“หื้ม? หน้าเหมือนกับในความฝันผมเลย หลานสาวตัวน้อยของปู่เป็นเด็กอารมณ์ดีสินะ ยิ้มหวานให้ปู่ด้วย ”

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า นางฟ้าตัวน้อยของย่า เป็นเด็กอารมณ์ดีจริงๆ" คุณย่าจางหัวเราะเอ็นดูหลานสาวอย่างชอบใจ

“คุณย่า ให้ผมดูน้องบ้างสิครับ น้องต้องสวยมากแน่ๆ เพราะคุณแม่ของพวกผมสวยมาก”

หลี่เฟยเจินแฝดคนน้อง เริ่มส่งเสียงประท้วงผู้อาวุโสของบ้าน เมื่อเห็นคุณปู่กับคุณย่าไม่นั่งลง ให้พวกเขาพี่น้องได้เจอหน้ากันสักที

“คุณย่านั่งก่อนเถอะครับยืนนานๆ ไม่ดีนักหรอกครับ”

หลี่เฟยฮุ้ยแฝดคนพี่พูดขึ้นอย่างมีชั้นเชิง เพื่อจะได้ดูหน้าน้องสาวโดยไม่ขัดจังหวะคนแก่เห่อหลานสาว ให้โดนสายตาคาดโทษอย่างน้องชาย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 50 ชีวิตคู่ที่ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์

    บทที่ 50 ชีวิตคู่ที่ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ จบคำสารภาพรักด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นการยืนยัน พ่อหนุ่มเจ้าน้ำตาที่ก้มหน้าหลุบตาลงมองต่ำดูเศร้าสร้อย พานให้คนมองใจอ่อนยวบแอบชะงักไปหนึ่งจังหวะเล็กๆ ซ่อนสีหน้าดีใจไว้ได้อย่างมิดชิด ถึงได้ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับดวงตากลมโต ที่จ้องมองมาอย่างต้องการยืนยันคำพูดจากใจจริงของเธออย่างน่าเอ็นดู คนพี่เม้มปากข่มใจไม่ให้หลงอ่อนข้อไปกับความน่ารักตรงหน้า เขาเล่นใหญ่สวมบทคนรักจิตใจอ่อนไหวขี้น้อยใจขนาดนี้แล้ว ต้องเอาคนตัวเล็กตรงหน้าให้อยู่หมัด “ถ้าน้องยืนยันอย่างหนักแน่นขนาดนี้พี่ก็เชื่อจนหมดใจแล้วครับ พี่ก็รักหย่าเออร์มากขึ้นในทุกๆ วันเหมือนกัน สัญญาแล้วนะครับ หลังเรียนจบแต่งเลยทันที” “ค่ะ! ไม่ผิดสัญญาแน่ค่ะ” “ครับ… ดีมากครับเด็กน่ารักต้องไม่ผิดสัญญา แต่….” คนเจ้าแผนการเริ่มคิดอยากกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งแล้ว “อะ อะไรคะ! ตะ แต่อะไรถามน้องมาให้หมดเลยค่ะ พี่ช่างอยากรู้อะไรน้องจะตอบทุกเรื่องเลย” คนน้องหลงคิดว่าคนพี่จะหมดข้อข้องใจแล้ว เพราะเขาก็บอกรักเธอกลั

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 49 สวมบทพ่อหนุ่มเจ้าน้ำตา

    บทที่ 49 สวมบทพ่อหนุ่มเจ้าน้ำตา หลังกอดปลอบเพื่อนสาวจนหายน้อยใจแล้ว หวงหนิงอ้ายก็ขอแยกตัวไปนั่งตรงโซนบาร์เครื่องดื่ม ด้วยรู้ว่าเพื่อนตัวน้อยต้องขึ้นไปหาคู่หมั้นหนุ่มที่ห้องทำงาน เหมือนทุกครั้งที่พวกเขาพากันมาที่นี่ “หยะ-…” ……. “อ๋า! น้องสาว... หย่าเออร์ เลิกเรียนแล้ว น้องกินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่า วันนี้เรียนหนักรึเปล่า ถ้าเหนื่อยเกินไปน้องเปลี่ยนคณะที่เรียนใหม่ได้นะ…” พอเปิดประตูห้องทำงานใหญ่ของสามหนุ่มเพื่อนสนิทเข้ามา หวงหนิงเฉิงที่ความรู้สึกไวที่สุดและรอคนรักอย่างใจจดใจจ่ออยู่ก่อนแล้ว เอ่ยเรียกคู่หมั้นตัวน้อยยังไม่ทันจบ เจ้าเพื่อนรักแฝดคนพี่รีบทิ้งปากกาในมืออย่างของไร้ความหมาย ก่อนแกล้งส่งเสียงแปร๋นอย่างแตกสาวกลบเสียงเพื่อนสนิทจนไม่ได้ยิน พร้อมกันนั้นเจ้าเพื่อนแฝดคนน้องก็ลุกจากที่นั่งไปโอบน้องน้อยของพวกเขา พามานั่งเบียดกันสามคนบนโซฟาตัวเดียวกัน ทำเมินเพื่อนหนุ่มราวกับห้องนี้มีกันอยู่แค่พวกเขาสามพี่น้อง “……..” คนถูกเมินได้แต่ยืนกอดอกพิงสะโพกกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่รอให้มองทั้งสามนั่งกอดกันกลม

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 48 ยอมรับความแตกต่าง

    บทที่ 48 ยอมรับความแตกต่าง เมื่อไม่มีใครเป็นอะไรพวกเขาจึงแยกกันกลับบ้าน เหมือนไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ก้าวผ่านร่างของสวีหยู่เยียนซึ่งกำลังโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บร่าง และสืบสวนเรื่องราวเพื่อนดำเนินคดีต่อไป มันก็เป็นแค่เรื่องร้ายๆ เรื่องหนึ่งที่อาจจะหนักหน่อย ผ่านพ้นไปได้อีกเรื่องในวัยสิบหกปีของพวกเขา ภายหลังผลคดีจากการสืบสวนออกมาอีกว่า สวีหยู่เยียนฆ่าชายพนักงานโรงแรมรัฐแห่งหนึ่งตาย แต่ก่อนการลงมือฆาตกรรม เพื่อนข้างห้องได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายด่าทอตบตีกัน มีการข่มขู่ทรมานเอาเงินจากเธอแถมยังกักขังสวีหยู่เยียนไว้ในห้องไว้ข่มขืนซ้ำๆ ไม่ปล่อยเธอออกจากห้องจนสุดท้ายเธอจึงก่อเหตุลงมือกับชายคนนั้น นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เธอสติหลุด จากเรื่องที่ชายคนนั้นทำเรื่องเลวทรามกับเธอ ส่วนแม่ที่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ ก็ได้หอบเงินหนีไปก่อนแล้วตอนที่เซี่ยเหว่ยพ่อเลี้ยงของเธอโดนจับ ทิ้งให้เธออยู่คนเดียวที่บ้านหลังนั้นโดยที่มีเซี่ยเติ้งหลุนคอยเข้าออกบ้างยามต้องการใช้ประโยชน์จากเธอ หลังเรื่องราววุ่นวายจบลง บรรดาผู้คนรอบตัวของหลี่เฟยหย่าทั้งค

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 47 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 2/2

    บทที่ 47 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 2/2 สวีหยู่เยียนเลือกมาอาละวาดก่อเรื่องในเวลาเลิกเรียนพอดี คนในส่วนหน้าโรงเรียนจึงเยอะ พวกเขาต่างพากันลนลานวิ่งหาที่หลบลูกกระสุนที่ถูกปล่อยออกมาในบางจังหวะที่สวีหยู่เยียนคลุ้มคลั่ง สวนสวยเพื่อนั่งเล่นและเป็นซุ้มรอรถตรงนี้ เหล่าคนในโรงเรียนจะรู้กัน ว่าเป็นที่นั่งของเหล่าลูกหลานคนมีเงินเพื่อมานั่งรอรถที่บ้านมารับ กลุ่มที่รู้ฐานะตัวเองพวกเขามักจะหลีกเลี่ยงไม่มานั่งที่นี่ ถึงแม้พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้แบ่งแยกให้ใครนั่งได้หรือไม่ได้ เมื่อปฏิบัติต่อๆ กันมาเรื่อยๆ หลักปีนานเข้า มันก็กลายเป็นพื้นที่อภิสิทธิ์เฉพาะไปโดยปริยาย ถึงพวกเขาจะก้มลงหมอบหาที่หลบซ่อนตัวแล้ว แต่สวีหยู่เยียนที่กำลังเดินผ่านเพื่อไปยังซุ้มตรงที่หลี่เฟยหย่าหลบอยู่ สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็น กลุ่มคนที่เธอเคยไปมีเรื่องด้วยเพราะความอิจฉาอยู่หลายคนทีเดียว “ฮ่าๆ! อ้อ… ฉันก็เผลอแปลกใจไปแวบหนึ่ง ที่เจอพวกคนสารเลวชอบทำตัวสูงส่งอย่างพวกแกไป ลืมไปได้ยังไงกันนะ แหม! ก็นี่มันสวนชนชั้นสูงของพวกแกนี่นา ดี! จะได้ไม่ต้องไปตามคิดบัญชีนังพวกที่ชอบดูถูกฉันให้เหนื่อ

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 46 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 1/2

    บทที่ 46 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 1/2 หลังกลับมาจากค่ายนอกเมืองแล้วกลับเข้ามาทำงานต่อ โดยลากเพื่อนสนิททั้งสองมาเคลียร์เอกสาร ที่เหมือนทำเท่าไรก็ไม่หมดในส่วนของพวกเขา ที่บางครั้งเฉินหวงช่างต้องรับมาทำ เพราะสองพี่น้องมีงานต้องออกไปทำนอกพื้นที่ตลอด จนหาเวลานั่งติดเก้าอี้เคลียร์เอกสารน้อยเหลือเกิน วันนี้อยู่ด้วยกันแล้วถือโอกาสเปิดห้องประชุมไปด้วยเลยแล้วกัน หลี่เฟยฮุ้ยและหลี่เฟยเจินหลังจากนี้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนเข้ามายังตลาดลับ ที่พวกเขาร่วมลงทุนอีก คนที่เป็นเจ้านายใหญ่โดยถือเปอร์เซ็นถึง70% เลยคือเฉินหวงช่าง ส่วนสองแฝดถือคนละ 15% เมื่อหลายเดือนก่อน หยางต้าหยวนที่ถือเปอร์เซ็นอยู่ 7% อยู่ๆ ก็คิดขายคืนให้เฉินหวงช่าง ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้มีคำถามขอคำอธิบายใดๆ ให้หยางต้าหยวนตอบ เขาเพียงทำเอกสารการรับซื้อยื่นให้อีกฝ่ายเซ็น พร้อมกับให้ลูกน้องไปเอาเงินถึงสองกระเป๋าใหญ่ ส่งให้หยางต้าหยวนง่ายๆ เท่านั้น “พวกนายไปขอให้คุณลุงหลี่เจี๋ย ปล่อยข่าวการรับสมัครบอดี้การ์ดให้กับทหารปลดเกษียณที่ค่ายทางใต้ด้วยแล้วกัน” เฉินหวงช่างบอกสหายหลั

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 45 ทรมานเจ้าคนน่าขนลุก NC 🔥ชน/ช รุนแรง*

    บทที่ 45 ทรมานเจ้าคนน่าขนลุก NC 🔥ชน/ช รุนแรง* ผัวะๆ!! “อ่า!... อ๊ากกก! ปล่อยฉันๆ! พวกแกมันก็ค้าขายทำลายชาติไม่ต่างจากฉันนี่ แล้วจะมาทำลายพวกเดียวกันทำไม ฮะ! อั่ก!!” เซี่ยเติ้งหลุนที่โดนฝ่าเท้าหนักๆ สองพี่น้องบ้านหลี่รุมอย่างไม่ยั้งแรง ร้องตะโกนโต้แย้งอย่างสู้อะไรไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดูจะยังแข็งแรงดีมากๆ อยู่บ่งบอกถึงความถึกที่ซ่อนไว้ ขัดแย้งกับภาพลักษณ์คุณชายแสนสุภาพเจ้าสำอางที่แสดงให้เห็นไปก่อนหน้า พลั่กๆ!! “เหอะ! ไอ้เวร สารเลวนี่มันปากดี มีแรงพูดไม่หยุดจริงๆ! ฉันขอเตือนให้แกเก็บเสียงไว้แหกปากหลังจากนี้ดีกว่าไหม แกได้แหกปากเหม็นๆ นี่จนพอใจแน่” หลี่เฟยฮุ้ยพูดออกมาอย่างเหลืออด กับการแหกปากพ่นคำพูดหาความสำนึกไม่ได้นี่ ขณะยกเท้ากระทืบหนักๆ ลงบนร่างคุดคู้ที่พื้น เซี่ยเติ่งหลุนโดนลูกน้องของเฉินหวงช่าง พากลับมาขังไว้ก่อนหน้านี้ กำลังโดนสองแฝดบ้านหลี่จัดการทรมานระบายอารมณ์ หลังเหตุการณ์คืนวันงานเลี้ยงเมื่อวันก่อนหลายวันก่อนผ่านไป บ้านตระกูลหลี่และตระกูลเฉินทั้งสองบ้านได้ตกลงเกี่ยวดองกั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status