แชร์

ตอนที่ 7 เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ!

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-22 15:09:05

ทางด้านจื่อหนิงที่ช่วยซื่อจื่อน้อยได้สำเร็จ และพามายังชายป่านอกอำเภอสุ่ยเซียน นางไม่ลืมเตรียมเสบียงและน้ำพุวิญญาณ ที่เป็นส่วนสำคัญในการปรุงยาหรืออาหารเพื่อบำรุงร่างกาย ทุกอย่างถูกจัดเรียงไว้ในตะกร้าสานขนาดกลาง ซึ่งนางสามารถแบกรับน้ำหนักของมันได้

ระหว่างที่รอให้ซื่อจื่อน้อยฟื้นคืนสติ จื่อหนิงจึงทำอาหารที่ไม่หนักท้องจนเกินไป อย่างไข่ตุ๋นใส่ผักหลากสีไว้สำหรับนาง

และซื่อจื่อน้อย เพราะตอนที่อยู่ในมิตินางได้ใช้เครื่องตรวจสุขภาพ เพื่อตรวจร่างกายของร่างเล็ก ๆ นี้แล้ว จึงพบว่ามีอาการอ่อนเพลียและขาดสารอาหารเล็กน้อย

“เฮ้อ ป่านนี้ครอบครัวของเด็กน้อยคงเป็นห่วง จนไม่เป็นอันกินอันนอนแล้วกระมัง โดยเฉพาะคนเป็นแม่จะร้องไห้เสียใจแค่ไหนนะ ที่ลูกชายตัวน้อยถูกคนชั่วลักพาตัวมา เจ้าคิดเหมือนข้าไหมเสี่ยวถังเป่า”

‘ย่อมเป็นเช่นนั้นมันเป็นเรื่องที่มนุษย์ไม่อาจหนีพ้น แม้จะไม่เคยทำร้ายผู้ใดแต่ใช่ว่าคนพวกนั้นจะไม่อิจฉาริษยา ที่ครอบครัวนี้มีบุตรชายที่น่ารักไว้สืบสกุลก็ได้นะจื่อหนิง’

“อืม ข้าเข้าใจเรื่องที่เจ้าพูดมาเช่นกัน ในยุคโบราณบุตรชายมักสำคัญกว่าบุตรสาวจริง ๆ ถ้าหากข้ามีบุตรชายที่น่ารักเช่นนี้

ก็ต้องร้องไห้เป็นลมไปหลายตลบเหมือนกัน”

‘ข้าจะรอดูว่าลูกชายลูกสาวของเจ้าจะมีหน้าตาเช่นไร’

จื่อหนิงหยุดพูดคุยกับเสี่ยวถังเป่าก่อนจะตั้งใจทำอาหารให้เสร็จ ด้วยกลิ่นหอมของอาหารที่ลอยไปในอากาศ จึงช่วยกระตุ้นให้ร่างน้อย ๆ ที่นอนหมดสติ ค่อย ๆ ลืมตาช้า ๆ แต่พอตื่นเต็มตาและเห็นสตรีที่นั่งอยู่ไกลๆ คำแรกที่ตะโกนออกไปทำเอาจื่อหนิงงงเป็นไก่ตาแตก

“ฮึก ทะ ทะ ท่านแม่ ท่านแม่!” แค่เรียกคนตรงหน้าจะพอได้อย่างไร ซื่อจื่อน้อยรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งไปหาจื่อหนิงทันที

หมับ! “โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรแล้วนะตอนนี้เจ้าปลอดภัยแล้ว”

“ฮึก ฮือ ๆ ท่านแม่ท่านยังไม่ตายท่านกลับมาหาอวี้เอ๋อร์แล้ว”

“หา! ดะ ดะ เดี๋ยวนะเมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ ลองเรียกใหม่อีกครั้งสิเด็กน้อย” ตอนนี้จื่อหนิงคิดว่าตนเองกำลังหูฝาด

“ฮึก ก็เรียกท่านว่าท่านแม่อย่างไรล่ะขอรับ”

‘รู้สึกว่าเจ้ากำลังมีงานช้างรออยู่เสียแล้วล่ะจื่อหนิง ฮ่า ๆ ๆ’

จื่อหนิงได้แต่ถลึงตาตอบเสี่ยวถังเป่า เพราะนางยังไม่อยากทำให้เด็กน้อยตกใจในตอนนี้ “เอ่อ เด็กน้อยพี่สาวมิใช่ท่านแม่ของเจ้าหรอกนะ เพราะพี่สาวเพิ่งอายุสิบห้าได้ไม่นาน จะมีลูกอายุห้าหนาวทั้งที่เพิ่งปักปิ่นไม่ได้กระมัง”

เมื่อซื่อจื่อน้อยมองใบหน้าที่ไม่มีไฝตรงหางตา ก็เริ่มมีอาการห่อเหี่ยวว่าตนเข้าใจผิดไปเอง “ขออภัยพี่สาวเป็นข้าที่มองผิดเอง หวังว่าท่านจะไม่โกรธกับสิ่งที่ข้าทำลงไปนะขอรับ”

พอเห็นสีหน้าหงอยเหงาจื่อหนิงก็ใจอ่อนยวบ “พี่สาวเข้าใจเพราะพี่สาวเองก็ไม่มีบิดามารดาเช่นกัน อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยพวกเรามากินของอร่อยรองท้องกันเถิด พอมีแรงแล้วค่อยคุยกันทีหลังนะ มานั่งข้าง ๆ พี่สาวดี ๆ เพราะตรงหน้านี้คือของอร่อย ที่มาจากฝีมือของพี่สาวเองลองชิมดูนะ”

ซื่อจื่อน้อยรับถ้วยไข่ตุ๋นสีสันน่าทานมาถือไว้ และมันอุ่นกำลังดีไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้ทานได้ง่ายและอร่อยถูกใจ “อื้อ! พี่สาวอาหารฝีมือของท่านอร่อยมากเลย ท่านทำอาหารเก่งกว่าพ่อครัวที่จวนอีกขอรับ”

“ถ้าอร่อยก็กินเยอะ ๆ ยังมีอีกหลายถ้วยนะ เสี่ยวถังเป่าเจ้าก็กินถ้วยเล็กนั่นให้หมดเล่า” มีคนชอบอาหารที่ตนเองทำใครบ้างจะไม่ดีใจ

“พี่สาวมีสัตว์เลี้ยงเป็นกระรอกด้วยหรือขอรับ ข้าเพิ่งจะสังเกตเห็นตอนที่ท่านเรียกชื่อเจ้าตัวเล็กนี่”

จื่อหนิงรู้สึกเอ็นดูซื่อจื่อน้อยที่นางช่วยไว้ คล้ายกับว่า มีสายสัมพันธ์บางอย่างระหว่างทั้งสอง แต่นางก็สลัดมันออกไป

ไม่ได้คิดหาคำตอบ “ใช่แล้วล่ะ เจ้านี่ชื่อว่าเสี่ยวถังเป่าน่ารักหรือไม่”

“ในเมื่อพี่สาวเรียกกระรอกน้อยว่าเสี่ยวถังเป่า ท่านก็เรียกข้าว่าเสี่ยวอวี้ก็ได้ขอรับ” ซื่อจื่อน้อยก็รู้สึกไม่ต่างกับจื่อหนิง ถึงจะเป็นเด็กแต่อายุก็ห้าหนาวแล้ว อีกทั้งได้ร่ำเรียนกับอาจารย์มาได้ระยะหนึ่ง จึงสัมผัสได้ว่าจื่อหนิงมิใช่คนไม่ดีไม่ เช่นนั้นคงไม่ช่วยตนเอาไว้เป็นแน่

เมื่อเห็นว่าซื่อจื่อน้อยเริ่มผ่อนคลาย จื่อหนิงถึงได้เริ่มถามไถ่เรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม เสี่ยวอวี้เจ้าพอจะบอกพี่สาวได้หรือไม่ ว่าเหตุใดคนพวกนั้นถึงต้องลักพาตัวเจ้าด้วยล่ะ แล้วพี่สาวต้องไปส่งเจ้าที่เมืองไหน คนที่เสี่ยวอวี้ไว้ใจได้มีหรือไม่”

“ข้าไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ เพราะวันนั้นข้ากำลังเดินเล่นซื้อขนมกับสาวใช้ของท่านแม่ และยังมีคนติดตามอีกหนึ่งคน จู่ ๆ คนพวกนั้นไม่รู้มาจากที่ใดตรงมาจับตัวข้า โดยสาวใช้ของท่านแม่ไม่ได้ร้องตะโกนให้คนช่วยเหลือ พอคนติดตามอีกคนเห็นเข้าก็รีบมาช่วย แต่ถูกคนหลอกให้ไปอีกทางขอรับ” ซื่อจื่อน้อยร้องขอความช่วยเหลือ แต่สาวใช้นางนั้นกลับยืนมองอย่างเฉยชา

จื่อหนิงเอะใจคำพูดซื่อจื่อน้อยที่ว่า สาวใช้ไม่ยอมช่วยเหลือตนแต่อย่างใด “เรื่องใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้ซะแล้วสิ สงสัยสาวใช้ผู้นั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายแน่”

‘เกลือเป็นหนอนงั้นหรือจื่อหนิง คนพวกนี้ช่างใจกล้าเข้าถ้ำเสือจริง ๆ’

ซื่อจื่อน้อยที่รู้สึกถูกชะตากับผู้มีพระคุณ จึงคิดอยากตอบแทนนางบ้างโดยตัดสินใจจะให้นางมาเป็นพี่เลี้ยงของตน “พี่สาวไหน ๆ ท่านก็ช่วยชีวิตข้าไว้ถึงขนาดนี้แล้ว หลังจากที่ท่านพาข้าไปส่งที่จวน ข้าอยากให้ท่านทำงานเป็นพี่เลี้ยงของข้าได้หรือไม่ขอรับ”

‘ไอหยา ในที่สุดสิ่งที่ข้ารอคอยเด็กน้อยก็พูดออกมาเสียที’

แต่จื่อหนิงยังรู้สึกเกร็ง ๆ กับเจ้าของจวน ที่ได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิตเกินคนอยู่เล็กน้อย “จะดีหรือเสี่ยวอวี้ ถ้าเจ้าให้พี่สาวทำหน้าที่นั้นแทนคนเดิม บิดาของเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่เล่า”

“พี่สาวอย่าห่วงเลยสะ...ท่านพ่อของข้าต้องเห็นด้วยแน่ ๆ ขอรับ นะพี่สาวคนงามท่านช่วยอยู่ดูแลข้าเถิด ข้าสัญญาจะเป็นเด็กดีไม่ดื้อไม่ซน จะเชื่อฟังที่พี่สาวสอนทุกอย่างขอรับ นะ ๆ ๆ”

จื่อหนิงทำทีว่ายอมตามซื่อจื่อน้อยไป แต่คำพูดของนางยังคงก้ำกึ่งไว้นิด ๆ “เอาเป็นว่ารอให้ถึงจวนของเจ้าเสียก่อน หากบิดาของเจ้าไม่คัดค้านเรื่องนี้ พี่สาวจะยอมทำงานเป็นพี่เลี้ยงเสี่ยวอวี้ดีหรือไม่”

“ดีที่สุดเลยขอรับ เย้ ๆ ๆ”

“เช่นนั้นเด็กดีต้องกินให้อิ่มจะได้ดื่มยา ร่างกายจะได้แข็งแรงไว ๆ”

“ขอรับ แต่ว่าข้ายังไม่รู้จักชื่อของพี่สาวเลยนะขอรับ” ซื่อจื่อน้อยนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้จึงถามกับจื่อหนิงทันที

คนตอบยิ้มให้อย่างอ่อนโยนและบอกชื่อของตน แต่มิได้บอกว่าตนเองใช้ชื่อแซ่หวงออกไป “เสี่ยวอวี้เรียกพี่สาวว่าพี่จื่อหนิงก็แล้วกันนะ”

“อื้อ พี่จื่อหนิง”

‘จื่อหนิงข้าดีใจกับเจ้าด้วยที่กำลังจะเข้าใกล้ขาทองคำเข้าไปทุกที แต่อย่างไรก็ต้องระวังตัวเอาไว้สักหน่อยล่ะ’

‘แน่นอนสิเสี่ยวถังเป่า ขาทองคำคนนี้ข้าต้องเกาะเอาไว้ให้แน่น เพื่อวันหน้าจะได้พึ่งบารมีจัดการบิดาชั่วนั่น รอข้าก่อนเถิดขาทองคำของข้า ฮ่า ๆ ๆ’

เมื่อจัดการอาหารตรงหน้าและเก็บทำความสะอาดแล้ว จื่อหนิงจึงพาซื่อจื่อน้อยเข้ายังตัวอำเภอสุ่ยเซียน เพื่อว่าจ้างรถม้าสักคันในการเดินทางไปยังเมืองหลงเฉิง ซึ่งขาทองคำที่นางคิดจะเกาะเอาไว้ให้แน่นผู้นั้น ต้องประหลาดใจกับใบหน้าของนางถึงกับเพ่งมองจนคนถูกมองทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนพิเศษ 2 พี่ชายจะเอาเกี้ยวเจ้าสาวมารับเจ้า

    ภายหลังผ่านพ้นคืนเข้าหอที่มีอุปสรรคเป็นบุตรชายตัวน้อย หลี่อ๋องไม่คิดว่าบุตรชายจะทำอย่างที่ตนพูดจริง ๆ นั่นคือการเรียกทุกคนในจวนไปที่เรือนหยางชู เพื่อเตรียมยาบำรุงให้เสด็จแม่คนใหม่ เพราะต้องการให้น้อง ๆ มาเกิดไว ๆแต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าหลังจากผ่านไปไม่ถึงสามเดือน จื่อหนิงจะตั้งครรภ์สมใจซื่อจื่อน้อย เมื่อมีข่าวดีคนที่อยากมีน้องตัวน้อย ยิ่งทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์พระมารดา รวมถึงน้องน้อยที่อยู่ในครรภ์ทุกย่างก้าวจนกระทั่งถึงวันที่จื่อหนิงเจ็บครรภ์จะคลอด มิได้มีเพียงเจ้าของจวนและตระกูลหวงเท่านั้นที่รอลุ้น แต่ชาวเมืองหลงเฉิงก็มารอลุ้นเช่นกันว่า ครรภ์นี้ของจื่อหนิงจะเป็นท่านชายหรือท่านหญิง‘พวกเจ้าว่าครรภ์แรกของพระชายาจะเป็นหญิงหรือชาย’‘ข้าว่าเป็นชาย /ข้าว่าเป็นหญิง’แม้จะรู้สึกเจ็บปวดเกินจะทานทนในยามคลอด ยังดีที่จื่อหนิงให้เสี่ยวถังเป่าเตรียมยาสมุนไพร รวมถึงน้ำพุวิญญาณเอาไว้ล่วงหน้า การคลอดลูกครั้งแรกนี้จึงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และข่าวดีสำหรับทุกคน ก็คือหลี่อ๋องได้บุตรสาว ที่หน้าตางดงามล่มเมืองตั้งแต่เกิดยามที่ยังเล็กก็เป็นที่ห่วงหวงมากแล้ว แต่ยิ่งโตทุกคนยิ่งหวงบุตรหลานคนนี้เข้าไปใหญ่ ท่านหญิงห

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนพิเศษ 1 มีใครเจรจากับบุตรชายในคืนเข้าหอเช่นข้าบ้าง

    เมื่อตกลงปลงใจแล้วว่าจะร่วมใช้ชีวิตกับหลี่อ๋อง จากนั้นถัดมาอีกสามวันหลี่อ๋องจึงพาจื่อหนิงและบุตรชาย ไปเยือนจวนตระกูลหวงเพื่อพูดคุยเรื่องการแต่งงาน ซึ่งหลี่อ๋องได้ส่งพ่อบ้านห้าวมาแจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วเนื่องจากหลี่อ๋องถูกบุตรชายรบเร้าเรื่องพี่น้องอยู่ทุกวัน หากเขายังไม่ขยับตัวทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง เกรงว่าที่เรือนของเขา คงไม่สงบสุขอีกอีกต่อไปเป็นแน่ การเจรจาเรื่องการแต่งงานจึงต้องจัดการโดยเร็วหลังจากได้รับรายงานจากพ่อบ้านหวง ว่าหลี่อ๋องจะมาเยือนที่จวนด้วยเรื่องสำคัญ ทุกคนในตระกูลหวงจึงหยุดงานทั้งหมด และรอต้อนรับหลี่อ๋องรวมถึงหลานทั้งสองของพวกเขา จกระทั่งรถม้าจากจวนอ๋องหยุดลงที่หน้าจวน นายท่านหวงจึงนำทุกคนทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน“ถวายบังคมท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ /เพคะ”“ทุกท่านตามสบายเถิดอย่าได้มากพิธีเลย”“คารวะท่านตาท่านยาย ท่านลุงกับป้าสะใภ้ด้วยเจ้าค่ะ /ขอรับ” จื่อหนิงกับซื่อจื่อน้อยทำความเคารพญาติของตนบ้างเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของชาวบ้าน นายท่านหวงจึงเชื้อเชิญแขกเข้าไปด้านในห้องโถงรับรอง เพราะอยากรู้ว่าที่หลี่อ๋องพาหลานชายหลานสาวมาพบ มีเรื่องสำคัญอันใดจะพูดคุยกับพวกตนกันแน่“ท่านอ๋

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 57 บทส่งท้าย พระชายาเพียงหนึ่งเดียว

    วันถัดมาภายหลังกลับมาถึงเมืองหลงเฉิง ทุกอย่างกลับเข้าสู่วิถีการใช้ชีวิตเช่นก่อนหน้าอีกครั้ง จื่อหนิงยังคงทำหน้าที่ดูแลอาหารและของบำรุง การเรียนการสอนทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ เสริมให้ซื่อจื่อน้อย หลังจากนั้นก็เป็นการดูแลแปลงสมุนไพร และไปดูแลร้านไป๋อวี้ถังที่มีลูกค้าเข้าออกอย่างต่อเนื่องส่วนหลี่อ๋องยิ่งได้รับการดูแลจากจื่อหนิง ก็ไม่อยากห่างยามต้องไปจัดการเรื่องงานที่ค่ายทหาร แต่มักจะได้รับสายตาดุ ๆ จากสตรีร่างบางเสียทุกครั้ง สุดท้ายก็เป็นจื่อหนิงที่ต้องเสนอข้อแลกเปลี่ยนเป็นของบำรุง แต่หลี่อ๋องมักจะเพิ่มสิ่งแลกเปลี่ยน ด้วยการจุมพิตที่แก้มนวลก่อนออกจากจวนเช่นกันทางด้านชางอวี่ได้ทำตามรับสั่งอย่างเคร่งครัด นอกจากการปลดผู้ช่วยเจ้าเมืองออกจากตำแหน่ง และรับโทษโบยห้าสิบไม้ร่วมกับอนุภรรยาผู้นั้น ยังได้ปล่อยข่าวลือไปทั่วเมืองเฮยเฟิง ยามผู้ช่วยเจ้าเมืองพาครอบครัวออกจากจวน จึงถูกประณามและโดนผู้คนปาเศษผักและก้อนหิน ในที่สุดก็ทนไม่ไหวรีบย้ายไปอยู่เมืองที่ห่างไกลทันทีในวันนี้ที่จื่อหนิงเข้ามาที่ร้าน หวงซวีหนานที่รู้ข่าวจากลูกจ้างก็รีบไปพบญาติผู้น้องของตนอย่างรวดเร็ว และครั้งนี้ยังมีหวงหมิงลู่ตามมาด้วยอีก

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 56 กลับมาถึงก็พร้อมลงโทษขุนนางทันที

    ภายหลังกลับมาถึงจวนท่านหมอก็มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน หลี่อ๋องยืนกำชับท่านหมอให้ตรวจจื่อหนิงอย่างละเอียด ว่านาง มิได้บาดเจ็บถึงกระดูกหรือมีส่วนใดแตกหัก แม้ท่านหมอจะตรวจซ้ำถึงสองครั้งแล้ว แต่หลี่อ๋องยังมีท่าทีไม่ยินยอม จื่อหนิงทนดูต่อไปไม่ไหวจึงต้องเอ่ยห้ามเสียเอง“ท่านหมอท่านตรวจให้ละเอียดมากกว่านี้ เปิ่นหวางยังไม่ค่อยวางใจถึงจะเป็นบาดแผลภายนอก แต่มันอาจกระเทือนไปถึงกระ...”“ท่านอ๋องเพคะ”“หนิงเอ๋อร์เรียกเปิ่นหวางทำไม หรือว่าเจ้ารู้สึกเจ็บที่ใดเพิ่มอีกรีบบอกกับท่านหมอระ...”“หยุด! ท่านอ๋องทรงอยู่เงียบ ๆ อย่าได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก มิเช่นนั้นหม่อมฉันจะไม่พูดกับพระองค์เป็นเวลาเจ็ดวันเพคะ”“ตะ...”“หือออ...”“เอ่อ ไม่พูด ๆ เปิ่นหวางจะนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ นะ เชิญเจ้าพูดกับท่านหมอต่อเถิด”จื่อหนิงถึงกับมองค้อนไปหนึ่งที “ท่านหมอข้ามิได้เป็นอันใดมาก แค่แผลถลอกข้ามียาทาติดตัวอยู่ จะใช้มันรักษาแผลเหล่านี้เองเจ้าค่ะ”ท่านหมอถึงกับแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากจื่อหนิงไม่ยอมออกปากหยุดหลี่อ๋องเอาไว้ เขาคงต้องคุกเข่าอ้อนวอนเป็นแน่ “ในเมื่อคุณหนูมียาอยู่แล้วย่อมเป็นเรื่องดี หากต้องการยาเพิ่มท่านไปพบข้าที่

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 55 เจ้ากล้าทำร้ายคนของเปิ่นหวางเชียวรึ!

    เมื่อลงมายืนด้านล่างได้มั่นคงแล้ว เว่ยซูหรูรีบยกชายกระโปรงและวิ่งตรงไปหาหลี่อ๋อง โดยไม่สนสายตาผู้คนบนท้องถนนว่า จะมองนางเป็นสตรีกร้านโลกวิ่งตามบุรุษหรือไม่แฮ่ก ๆ ๆ “ท่านอ๋องเพคะ ๆ”หลี่อ๋องรีบหยุดเท้าของตนเมื่อมีสตรีเอ่ยเรียก และยังวิ่งมายืนขวางทางอย่างคนไร้มารยาท แต่สตรีนางนี้กลับไม่สนใจเรื่องมารยาท“ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันดีใจจริง ๆ ที่ท่านอ๋องแวะพักในเมืองอวิ๋นเซียง นี่ก็ผ่านมาเกือบสองปีที่ท่านอ๋องมิได้แวะที่นี่...”“เจ้าเป็นใคร? ถึงได้บังอาจมาขวางทางเปิ่นหวางเช่นนี้”มิใช่หลี่อ๋องเพียงคนเดียวที่สงสัย แต่ยังมีจื่อหนิงกับซื่อจื่อน้อยที่สงสัยเช่นกันว่า สตรีที่ยืนขวางทางพวกตนอยู่นี้เป็นใคร นางช่างใจกล้าไม่กลัวว่าจะถูกหลี่อ๋องลงโทษแม้แต่น้อย“พวกเราไม่เคยรู้จักเจ้ามาก่อน เหตุใดถึงวิ่งมาขวางทางผู้อื่นเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวจะถูกเสด็จพ่อของข้าลงโทษงั้นหรือ”ชางอวี่จำได้ว่าเว่ยซูหรูคือผู้ใด เพราะสตรีที่ใจกล้าพยายามเข้าหาเจ้านายของตน มีเพียงหยิบมือเขาจะจำไม่ได้เชียวหรือ “ทูลท่านอ๋อง ซื่อจื่อนางเป็นบุตรสาวท่านเจ้าเมืองอวิ๋นเซียง ที่สำคัญนางยังหลงรักพระองค์และอยากเป็นพระชายาด้วยพ่ะย่ะค

  • หวงจื่อหนิงเกิดใหม่เป็นพี่เลี้ยงบุตรชายท่านอ๋องอำมหิต   ตอนที่ 54 จื่อหนิงถูกเอาใจจากบุรุษต่างวัย

    หลี่อ๋องกับซื่อจื่อน้อยที่ยืนฟังอยู่นาน ก็เริ่มทำสีหน้าเคร่งขรึมเหมือนกันอย่างกับแกะเข้าไปทุกที เมื่อฮ่องเต้ไม่ยอมหยุดตรัสเรื่องยากับจื่อหนิง ซื่อจื่อน้อยถึงกับเขย่ามือพระบิดาเป็นการส่งสัญญาณ ไหนจะสายตาที่สื่อความหมายง่าย ๆ ถึงกัน‘เสด็จพ่อรีบพาพี่จื่อหนิงกลับตำหนักได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ขืนยังอยู่ที่นี่เกิดเสด็จปู่รั้งตัวพี่จื่อหนิงเอาไว้ พวกเราจะไม่แย่หรือพ่ะย่ะค่ะ’‘จริงของเจ้าเสี่ยวอวี้ ขอบใจมากที่เตือนพ่อเรื่องนี้ พวกเราต้องรีบพาพี่จื่อหนิงของเจ้ากลับไปเก็บสัมภาระ เตรียมตัวกลับเมืองหลงเฉิงในวันพรุ่งนี้ ขืนยังอยู่ในเมืองหลวงอีกหลายวัน พี่จื่อหนิงของเจ้าคงไม่รอดแน่’“อะ ฮึ่ม ฝ่าบาทกระหม่อมต้องขอตัวพาหนิงเอ๋อร์กลับจวนแล้ว ยังมีเรื่องที่ตำหนักซือเจินให้ทำอีกมาก ส่วนเรื่องยาบำรุงก็เป็นไปตามที่หนิงเอ๋อร์ทูลกับพระองค์ เมื่อถึงเวลาคนของกระหม่อมจะนำมาส่ง และจะมิให้ผู้ใดแย่งชิงไปได้แน่พ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อมทูลลา”“เอ่อ...”“หม่อมฉันทูลลาเพคะ /หลานทูลลาพ่ะย่ะค่ะเสด็จปู่”ฮ่องเต้ถึงกับตรัสสิ่งใดไม่ออก เมื่อเห็นอาการหึงหวงของพระนัดดาทั้งสอง “เฮ๊ เจ้าหลานสองคนนี่จะขี้หวงคนกับเจิ้น เกินไปแล้วนะ แค่พู

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status