ตอนที่ 3 นี่คือคำสั่ง
“ยัยหมวย แกจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะชวนเซฟมา”
พายหันไปถามเพื่อนเมื่อถูกใครบางคนเซ้าซี้จนเริ่มรำคาญมัน ปลื้มหมวยมาตั้งนาน ใจหนึ่งก็เห็นใจอยู่หรอก อีกใจก็อยากจะด่ามันว่าโง่ ก็เพื่อนเธอไม่เล่นด้วยมันก็ยังไม่ละความพยายาม ไม่รู้สิมันรู้สึกรำคาญจนนึกหงุดหงิดแล้วจริงๆ
“มานี่เนี่ยนะ”
“อือ ฉันถามแกก่อน ถ้าแกไม่โอเคก็ไม่ให้มันมาหรอก”
“แล้วแต่แกสิ ฉันได้หมดเลย”
หมวยเล็กไม่ได้เรื่องมาก ไม่ได้อึดอัดอะไรที่จะต้องมีคนที่แอบปลื้มเธอมานั่งด้วยกัน เธอกับเซฟเจอกันบ่อยแล้ว จะเรียกว่าเพื่อนอีกคนก็ได้ถ้าเซฟมันไม่บอกว่าปลื้มเธออยู่
“โอเค”
หลังจากได้คำตอบพายก็รัวนิ้วส่งข้อความไปหาเพื่อนก่อนจะหันมาสนใจเมนูอาหารที่พนักงานเพิ่งมาเสริฟให้ตรงหน้า รอไม่นานหนุ่มหล่อดีกรีอดีตเดือนสาขาวิศวกรรมโยธาก็มาปรากฎตัวหน้าร้าน ท่ามกลางสายตาของสาวๆ หลายคู่ในร้านนี้
“เซฟฮอตนะเนี่ย” หมวยเล็กแซวเมื่ออีกฝ่ายเดินมาจนถึงโต๊ะ
“ไม่ขนาดนั้น” หนุ่มวิศวะชั้นปีเดียวกันตอบกลับหมวยเล็กด้วยรอยยิ้ม
เขาเป็นผู้ชายที่มีสเน่ห์มากเวลายิ้ม คือยิ้มทีใจสาวหลายคนละลายหมดแล้ว แต่ถ้าหน้านิ่งก็ดูเข้าถึงยากเช่นกัน และด้วยความสูงร้อยแปดสิบกว่า ทำให้เขาดูโดดเด่นกว่าใคร เอาเป็นว่าโดยรวมคือเขาหล่อวัวตายควายล้ม
“เขามองเพราะมันแต่งตัวทุเรศเถอะ ดูกางเกงขาดขนาดนั้นยังจะใส่อยู่” พายเบะปากใส่เพื่อนก่อนจะขยับลูกตาไปทางอื่นเพราะเบื่อหน้าเพื่อนผู้ชายเพียงคนเดียวของตัวเองเต็มทน
หมวยเล็กหัวเราะใส่ทั้งคู่ที่เอาแต่ทะเลาะกัน ขณะเดียวกันก็รู้สึกได้ถึงอาการบางอย่างที่ออกมาจากตัวของเพื่อนสนิทอย่างพายด้วย เธอว่ามันมีอะไรแปลกๆ อยู่ในสายตาคู่นั้น
“เซฟสั่งอะไรเพิ่มไหม แต่นี่เราสั่งกันเผื่อแล้วนะ”
“หมวยสั่งเพิ่มอีกสิ อยากทานอะไรสั่งเลยวันนี้ตั้งใจมาเลี้ยง”
“ขอบคุณนะ เดี๋ยวจะสั่งให้กระเป๋าแห้ง” พายหยิบเมนูขึ้นมาเปิด ก่อนจะจดรายการที่ตัวเองอยากทาน ถามเพื่อนสนิทอย่างหมวยด้วย
แต่ไม่ถามเซฟสักคำ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกับข้าวก็มาวางเต็มโต๊ะ จนแทบไม่มีที่ว่าง ดูจากสายตาคร่าวๆ แล้วน่าจะเกินพันบาทไปเยอะแล้ว แต่หมวยเล็กเคยได้ยินจากพายว่าเซฟบ้านรวย พ่อเป็นเจ้าของเต็นท์รถมือสองที่มีหลายสาขาทั่วประเทศ
“หมวยมีสอบกี่ตัว อ่านหนังสือยัง”
“เทอมสุดท้ายแล้ว หมวยเรียนไม่กี่ตัวเอง สอบแค่สองตัว แล้วเซฟล่ะ”
“เรามีสอบสี่ตัว”
“หมวยก็สอบเหมือนพายนั่นแหละ ไม่ได้อ่านกันทั้งคู่เลย”
“ออ งั้นถ้าว่างไปอ่านหนังสือกันไหม หาเพื่อนอ่านอยู่” เซฟถามเธอด้วยรอยยิ้ม
หมวยยอมรับว่าเซฟเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากจริงๆ ทั้งสูง หุ่นก็ดีแบบคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ผิวสีน้ำผึ้งแบบสุขภาพดี ไม่แปลกใจเลยที่จะมีคนชอบเขาตั้งมากมาย
“เอาสิ ไปอ่านกันวันไหนดียัยพาย”
“แกจะมีเวลาอ่านไหม วันๆ ทำแต่งาน” พายถามพร้อมขมวดคิ้วใส่เพื่อนที่ยังไม่รู้ตัวเอง
“ฉันลาออกแล้ว ไปทำอีกไม่กี่วัน เทอมสุดท้ายต้องตั้งใจหน่อย” หมวยเล็กบอกเพื่อนแล้วยิ้ม
“งั้นวันศุกร์หรือเสาร์นี้ ไปอ่านหนังสือกัน”
หมวยเล็กพยักหน้าให้กับคำชวนของชายหนุ่มแล้วเลื่อนสายตาไปที่เพื่อนสนิทของตัวเอง เลิกคิ้วเป็นคำถามจนเพื่อนต้องให้คำตอบด้วยการพยักหน้า
พายก็รู้ดีว่าหมวยเล็กไม่ได้มีใจให้เพื่อนของเธอหรอก เพียงแต่นี่อาจจะเป็นการประชดเพลิง หรือให้ดีที่สุดก็น่าจะเป็นการเปิดใจให้เซฟ เธอเองก็เดาความคิดของหมวยเล็กไม่ออก ถึงแม้ว่าเพื่อนสาวจะเป็นคนใจดี ขี้เล่น แต่บางเรื่องก็ปิดมิดจนเดาไม่ได้
อย่างเรื่องของเพลิง กว่าเธอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็มีความสัมพันธ์ลับๆ นั่นมาเกือบปี ไม่รู้ว่าเพื่อนปิดได้ยังไงนานขนาดนั้น ทั้งที่ก็อยู่ด้วยกันตลอด
“เรียนจบแล้วหมวยจะไปทางไหนต่อ” เซฟชวนคุยขณะที่เธอกำลังขยับมือไปหาตัวการที่กำลังสั่นไม่หยุดในกระเป๋าของตัวเอง จะเป็นใครไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่คนเอาแต่ใจคนนั้น
เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือของเซฟตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว ไม่แน่เพลิงอาจจะกลับมาที่ห้องแล้วแต่ไม่เจอเธอ ตอนนี้เขาคงทำหน้ายักษ์อยู่ในห้อง รอที่จะจับเธอทุ่มลงพื้น
แล้วเธอต้องกลัวหรือไง
“หมวยจะไปอยู่กับแม่ที่เชียงใหม่ ไปทำธุรกิจเล็กๆ น่ะ เซฟล่ะ”
“เราได้งานอยู่ชลบุรีแล้ว ไกลกันมากเลย ไม่ได้เจอหมวยแล้วดิ” งานที่ว่าคือเฝ้าเต้นท์รถให้พ่อ ส่วนพ่อจะออกไปเที่ยวรอบโลกกับแม่แล้วหลังจากเขาเรียนจบ
เรียกง่ายๆ ว่าพ่อเขายกกิจการทั้งหมดให้เขาดูแลแทนแล้ว ไอ้ที่เรียนมาสี่ปีก็คงจะไม่ได้ใช้ แต่ถ้าเขาทำธุรกิจพ่อเจ๊งก็ไม่แน่
“ไว้มาหายัยพายเมื่อไหร่เราก็ได้เจอกัน” หมวยเล็กตอบยิ้มๆ ก่อนจะยกเครื่องมือสื่อสารของตัวเองขึ้นมาดู
หน้าจอปรากฏชื่อของใครคนนั้นตัวใหญ่ๆ มีอิโมจิรูปกองไฟกับหน้าโกรธห้อยท้าย ซึ่งมันก็เหมาะกับเจ้าตัวดี ถ้าใครไม่รู้จักเขา ก็คงไม่เชื่อว่าเรียนหมอ หมอที่ไหนหน้าตานิ่งๆ ดุๆ แบบนั้น นักเลงแถวนี้ยังดูหน้าโหดน้อยกว่าเขา
ไหนจะมีรอยสักกลางอก ยิ่งเพิ่มความน่าเกรงขามยิ่งขึ้นไปอีกก็โชคดีหน่อยที่เขามีความหล่อเหลาคอยกลบความดุร้ายเอาไว้บ้าง
เพลิง : อยู่ไหน ทำไมไม่รับสาย
เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่าที่เขาถามคำถามแบบนี้กับเธอ เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยถาม ไม่เคยตาม เวลาเขาบอก เขาสั่ง เธอก็ทำตามหมดทุกอย่าง ไม่เคยดื้อกับเขาเลย
เธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่าเพลิงต้องการอะไรกันแน่ ทั้งที่เขาป้อนข้อมูลใส่สมองเธอว่าเป็นได้แค่นี้ อย่าล้ำเส้น แต่เขากลับทำให้เธอรู้สึกได้มากกว่านั้นเพราะเขา
มีทางเลือกแค่หนึ่งกับสองคือรับสายเขาให้มันจบๆ กับมองเมินเขาไปเหมือนที่เขาเองก็ไม่ได้สนใจว่าตัวเธอจะรู้สึกแบบไหนตอนที่เขาพาผู้หญิงอีกคนมาให้เจอ
แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะโกรธเขาไปทำไม ในเมื่อมันไม่มีสิทธ์โกรธ
“ขอตัวแป๊บนึงนะ”
หมวยเล็กเดินออกมานอกร้านพร้อมกับมือถือที่เธอเพิ่งถอยมาได้ไม่กี่เดือน เงินที่ซื้อมันได้ก็ล้วนแล้วแต่ได้จากเพลิง ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาให้เธอได้มากขนาดนี้ ทั้งที่เขาก็เป็นแค่นักศึกษาแพทย์ที่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ
เพลิงไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวให้เธอฟัง ไม่เคยพาเธอไปให้พวกเขารู้จัก รู้แต่ว่าบ้านเขารวยก็เท่านั้น มันก็ไม่แปลกอะไรที่เขาจะไม่เล่าเพราะเธอก็ไม่ได้สำคัญกับเขาถึงขั้นที่ต้องรู้เรื่องส่วนตัว เขาให้เธอแค่ไหนเธอก็เอาแค่นั้น ให้อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ชีวิตเธอมันทำได้แค่ยืนเฉยๆ กับเดินถอยหลัง มันเดินตรงไปข้างหน้ากับเขาไม่ได้อยู่แล้ว
“หมวยอยู่ข้างนอกนะ มากินข้าวกับเพื่อน”
ทันทีที่เธอกดรับสายก็รีบพูดออกไปส่วนปลายสายก็รอฟัง ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะโกรธ เฉยๆ หรืออารมณ์ไหน แต่เห็นเขาเงียบเธอก็ถามออกไปด้วยความสงสัย
โทร.มาหาแต่ไม่พูด เขาบ้าหรือเปล่า
“พี่เพลิงถึงห้องแล้วเหรอ”
(อยู่ไหน)
“ร้านข้าว”
(ที่ฉันส่งไป เธอไม่เห็นหรือยังไง) เสียงเข้มดุเอ่ย จะว่าหาเรื่องก็เหมือนใช่
เธอรู้ว่ามันไม่ใช่คำถาม แต่เขาต้องการบอกเธอว่ากำลังทำอะไรให้เขาไม่พอใจอยู่ หมวยเล็กแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ก็คิดว่าพี่ไปกับคนอื่น จะไม่กลับห้อง หมวยเลยมีเวลามาหาของอร่อยกิน แทบไม่ได้จับมือถือเลย” ไม่มีเขาเธอก็ใช้ชีวิตความสุขดี
เธออยากให้เขาเข้าใจอย่างนั้น
(ฉันรออยู่ห้อง ห้ามเกินห้าทุ่ม)
หมวยเล็กขยับมือถือของตัวเองมาดูหน้าจออีกรอบก่อนจะพูดใส่คนปลายสายที่ไม่ได้ต้องการคำตอบเพราะมันคือคำสั่งไม่ใช่คำถาม
“เป็นวันอื่นนะ วันนี้หมวยเหนื่อยแล้ว”
(ร้านไหน)
“คะ”
(ร้านที่เธอไป)
“...” หมวยเล็กเลือกที่จะไม่ตอบ เขาคิดว่าเธอกลัวมากหรือไง
(ถ้าครึ่งชั่วโมงเธอไม่ถึงห้อง ฉันจะไปอยู่หน้าร้านรอรับ)
“อย่ามาเอาแต่ใจ แฟนพี่ก็กลับมาแล้วนะ จะอะไรกับหมวยอีก”
คนปลายสายเงียบไป แปลกนะ ทำไมเธอถึงรู้สึกจุกที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายนี้เพียงเพราะเขาเงียบใส่หรือเพราะเขายอมรับความจริงว่ามันใช่
(อย่าพูดถึงคนอื่น เพราะฉันคุยกับเธออยู่)
“คนอื่นที่ว่า มันคนสำคัญของพี่ไง เขากลับมาแล้ว หมวยจะอยู่ทำไม พี่เคยบอกหมวยเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าคนคนนั้นกลับมา เราก็แค่แยกย้ายกันไป” หมวยเล็กพูดออกไปแล้ว ตอนนี้เธอไม่ได้กลัวที่จะตัดขาดจากเขา
แต่กลัวว่าต้องยืนอยู่ที่เดิม อยู่กับความเจ็บปวดมากกว่า
ใช่ เธอรู้สึกกับเพลิงมากกว่าที่เขาอยากให้รู้สึก
(ทำไมต้องประชด) เขาเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเธอแม้แต่น้อย
“หมวยไม่ได้ประชดเลย พี่เพลิงคิดไปเอง”
(ไม่ประชดแล้วเธอดื้อกับฉันทำไม)
หมวยเล็กพ่นลมหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญไอ้คนพูดไม่รู้เรื่องอย่างเขาก่อนจะตอกกลับไป
“หมวยไม่ได้ดื้อ พี่หรือเปล่าที่พูดไม่รู้เรื่อง” หมวยเล็กอยากด่าเขาให้เจ็บแสบ
แต่ก็นั่นแหละ เธอทำไมได้หรอก ใครจะกล้าไม่ได้กลัวหรอก แค่เกรงใจคนที่เคยให้เงินใช้
(หึ เธอปากเก่งแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกันนะ)
“...”
(สิบนาที ฉันไปรับหน้าร้าน ถ้าเธอไม่ออกมา ฉันจะเข้าไปลากออกมาแล้วกัน)
ยังไม่ทันจะอ้าปากเถียง เขาก็วางสายไปแล้ว ทิ้งความสงสัยหลายข้อไว้ให้คนที่ยืนอยู่หน้าร้านเป็นอย่างมาก หมวยเล็กขมวดคิ้วมองหน้าจอที่เพิ่งถูกตัดสายไปตามแบบฉบับคนเอาแต่ใจ
อยากจะบ้าก็บ้าไปเองเถอะ เธอไม่สนอยู่แล้ว เขาไม่รู้หรอกว่าเธออยู่ร้านไหน
แน่ใจนะลูกว่าอิเพลิงมันไม่รู้??
อย่าลืมกดหัวใจ และกดเข้าชั้นกันเยอะๆ น้า
ใครยังไม่กดติดตามพลอยแพรวา ไปกดติดตามไว้ด้วยค่า จะได้แจ้งเตือนเรื่องใหม่นะคะ
ตอนที่ 34 แค่เธอตลอดไปเพลิงตื่นตั้งแต่ตีห้าเหมือนอย่างที่เขาตื่นมาทุกวัน ถึงจะนอนดึกแค่ไหนเขาก็ยังคงตื่นเวลาเดิม ส่วนหมวยตอนนี้ยังคงหลับสนิท อาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาจัดให้หมวยยกใหญ่หลาย ๆ ยกเขาออกมาช่วยยายเปิดร้านก่อนที่พนักงานคนอื่น ๆ จะมา ไม่ได้มีอะไรให้ทำเพราะส่วนใหญ่เป็นงานในครัว ยายทำกับข้าวให้เขาก่อนเป็นพิเศษ ก่อนที่เขาจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน“น้องหมวยไม่ตื่นเหรอวันนี้”“ยังเลย” ยายตอบแล้วหันมามองไอ้หมอหน้าดุที่กำลังมองยายสลับกับไอ้ช่างไฟฟ้านี่“มีอะไรกับหมวยเหรอ” เขาเดินไปถาม เห็นไอ้นี่มาหลายวันแล้ว ก่อนหน้านี้เขาไม่ถามมันเพราะกลัวหมวยไม่พอใจแต่วันนี้กูเป็นผัวหมวย ใครหน้าไหนก็ห้ามจีบ“อ้าวหมอ ถามทำไม อยากรู้ด้วยเหรอ”“ก็พี่ถามถึงเมียผม ก็เลยอยากรู้ว่าถามทำไม” เพลิงถามหน้านิ่ง จริงจังจนอีกฝ่ายหน้าถอดสีน้องหมวยมีผัวใหม่แล้วหรือผัวเก่าหมวยกลับมายายแอบฟังอยู่ตรงนั้น หัวเราะจนไหล่สั่นเพราะความหึงหวงของหลานเขยตัวดี ให้ค้างคืนกันคืนเดียวอ้างเป็นผัวเป็นเมียกันแล้ว ไอ้หมวยมันคงไม่รอดหมวยตื่นมาช่วงสาย ๆ พร้อมกับลูก อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมาหน้าร้าน เวลานี้คนซาลงบ้างแล้วแต่เพรา
ตอนที่ 33 รู้สึกเช่นเดิม“ห้ามเสียงดังนะ”“เข้าใจแล้วครับ”“พูดเพราะจัง”“ก็ดีใจไง” เขากระซิบข้างใบหูเธอ ได้กลิ่นอ่อนของโลชั่นจากตัวหมวยเล็กยิ่งกระตุ้นอารมณ์ความต้องการของเขาให้มันลุกโชน ก่อนอาบน้ำก็ว่าหอมแล้วหลงอาบน้ำทำเอาเขาแทบคลั่งเลยจะไม่ให้ดีใจได้ไงวะ หมวยเล่นบอกให้เขาว่า... ทำให้เสร็จหน่อย ให้กูช่วยหมวยจนกูตายไปวันนี้เลยก็ยอม กล้ามากหมวย กล้ามาก !“พี่เพลิงจะไม่ทำให้หมวยเสียใจแล้วใช่ไหม” เธอถามย้ำเรื่องนี้ก็เพราะกลัวว่าหากคืนนี้ผ่านพ้นไปแล้ว เธอคงให้เขาไปทั้งตัวและหัวใจที่ปั้นมันขึ้นมาใหม่ในระยะเวลาสองปีนี้อีกครั้งหากเขาทำลายมันก็คงแหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี“พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้หมวยต้องเสียใจ จะไม่ทำให้หมวยต้องร้องไห้เลย” ยกเว้นตอนอยู่บนเตียง“งั้น...” เธอขัดเขินที่จะบอกว่า งั้นก็อนุญาตเขาก็คงรู้คำตอบของเธอดีเพลิงระบายยิ้ม ทิ้งมาดความหน้าดุของเขาทิ้งไปหมด เหลือแค่ผู้ชายหน้าหื่น ๆ อยู่ตรงนี้“คิดถึงเธอมากเลยรู้ไหม อยากทำ... ตั้งนานแล้ว”“พี่เพลิง”จมูกของเขาซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น มือซุกซนสอดเข้าไปใต้ชุดนอนบางเบาที่เขาเพ่งเล็งมันไว้ตั้งแต่หัวค่ำ บีบคลำเต้าทรวงทั้งสองข้างของหมวยที
ตอนที่ 32 ย่าของหลาน“หนูจะไม่หนีไปไหนอีกแล้วนะ และไม่รับเงื่อนไขอะไรทั้งนั้น” หมวยเล็กตอบกลับคำพูดนั้นของพิมพ์ภิรมณ์ด้วยความรู้สึกโมโหสุดขีดตอนนั้นที่เธอไม่สู้ก็เพราะไม่รู้ว่าจะสู้ไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้เธอจะไม่ยอมแพ้แน่ ๆ เพราะหมวยจะสู้เพื่อให้ลูกของตัวเองได้อยู่อย่างสงบสุขและมีชีวิตที่ดี“…”“ถ้าคุณอยากจะฆ่าหนูก็ฆ่าเลย หนูรู้ว่าคุณคงอยากให้หนูหายไปจากโลกนี้ด้วยซ้ำเพื่อไม่ให้หนูเจอเขา”“แต่หนูขอคุณแค่เรื่องเดียว”“…”“อย่าฆ่าคนที่เขามีเลือดเนื้อของพวกคุณอีกครึ่งหนึ่งเลย”“ฉันจะฆ่าหลานตัวเองทำไม แล้วจะฆ่าแม่ของหลานได้ยังไง คิดอะไรอยู่ ฮึ” พิมพ์ภิรมณ์หมดความอดทนเอาตามจริงนางก็เหมือนลูก ถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่อยากจะพูดอะไรให้มากหรอก มันรู้สึกเสียฟอร์มจะตายไป แต่ยัยลูกสะใภ้คนนี้ชักไปกันใหญ่แล้ว มองไม่ออกอีกรึว่านางมาดี“ก็คุณจะเอาเงินให้หนูทำไม”“ชดเชยที่ฉันกับเจ้าเพลิงมันไม่ได้มาดูแลไง ไม่สิ ที่แม่กับเพลิงไม่ได้มาช่วยดูแลหลาน” คุณนายพิมพ์รู้สึกกระดากปาก แต่พอพูดไปแล้วมันก็ไม่เลวเลย“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”“กว่าจะรู้ว่าหมวยอยู่ที่นี่ กว่าลุงเจตเขาจะบอกว่ามีหลานก็ปล่อยให้ฉันเหงาอยู่คนเดียวตั้งนา
ตอนที่ 31 รักก็ว่ารักกลับจากเที่ยวก็ไปแวะที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของใช้ให้ลูกแล้วค่อยกลับเข้าบ้าน กว่าจะมาถึงบ้านของหมวยก็ตอนหกโมงเย็น เพราะไอ้พี่เพลิงจริงจังกับการจะนอนกับลูกคืนนี้มาก เขาแวะไปเอาเสื้อผ้าตัวเองอีกเป็นกระเป๋า“เอามาทำไมเยอะแยะ หมวยให้นอนคืนเดียว”“เธอบอกว่าแล้วแต่พี่ พี่ถามลูกแล้วลูกให้นอนทุกคืน”“เพ้อเจ้อ” ลูกบอกได้ที่ไหน มากสุดก็แค่ตอบตกลง“มังกรให้พ่อนอนด้วยทุกคืนใช่ไหม” เขาก้มลงไปถามลูกแต่มังกรหลับอยู่บนตักของหมวย คาร์ซีทซื้อให้ก็ไม่ยอมนั่ง ร้องโวยวายใหญ่ สงสัยเขาต้องฝึกลูกเป็นเรื่องเป็นราวสักวัน“ไม่คุยด้วยแล้ว บ้าไปกันใหญ่ จะนอนกี่คืนก็แล้วแต่พี่ นอนนอกห้องนู่น” หมวยบอกแล้วทำท่าจะลงเขาก็คว้าแขนเธอไว้ อีกข้างเธออุ้มลูกอยู่“หมวย”“อะไรอีก”“รู้ไหมว่าสองปีมานี้ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงเธอเลย”“...” หมวยเล็กได้แต่เงียบ ไม่คิดว่าเขาจะมาพูดในเวลาแบบนี้ จอดรถไว้หน้าร้านแต่ก็ไม่ยอมดับเครื่องสักทีเพราะจะเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังหรือไง“วันที่เธอหายไปพี่อยู่ไม่ได้เลย ยิ่งเธอปิดช่องทางติดต่อทุกทางก็ยิ่งเหมือนจะเป็นบ้าเลย ตอนนั้นแหละที่รู้ว่ารักเธอแล้ว รู้ตอนที่เธอไม่อยู่นั่
ตอนที่ 30 ให้โอกาสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็มาจัดการกับลูกต่อ หมวยจับเจ้ามังกรแต่งตัวหล่อแล้วจึงพาไปขึ้นรถ ไม่ใช่รถหมวยหรอกแต่เป็นรถคนที่ขอไปด้วย บอกว่าจะอาสาขับรถให้ทั้งวันหมวยเล็กไม่ขัดเขาอยากไปก็ให้ไปบอกเขาไปตั้งนานแล้วว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแต่ดูเหมือนไอ้พี่เพลิงมันจะเริ่มไม่อยากเป็นแค่นั้นแล้ว“แต่งตัวโป๊ไปหรือเปล่า”“ก็ไม่นะ เมื่อก่อนก็แต่งแบบนี้”เขาเงียบ อันนั้นยอมรับ เมื่อก่อนก็แต่งแบบนี้แต่ตอนที่ใส่แบบนี้เขาก็อยู่ด้วยตลอด ตอนที่หมวยไปข้างนอกไม่ได้อยู่กับเขาอันนั้นไม่รู้ว่าใส่ไหม แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้มันถึงไม่ค่อยชอบใจนัก“ลูกหนึ่งแล้ว เบาบ้างก็ได้”“เบาทำไม ไม่ได้หนักหัวใครนี่” เธอบอกแล้วหันหนีไปอีกทาง บนตักมีเด็กชายมังกรนั่งบีบของเล่นอยู่ด้วยเงียบ ๆ“…” เพลิงเป็นฝ่ายที่ต้องเงียบเถียงคำไม่ตกฟาก ไม่หนักหัวใครแต่หนักหัวกู ทั้งหัวล่างหัวบนเลยหมวย ทีกูมองบอกลามกแล้วไปให้คนอื่นดูฟรี ๆ ได้ยังไงวะ“ถ้าไม่สะดวกใจจะไปกับหมวยก็บอกหมวยจะไปกับลูกสองคน” หมวยไม่ง้อหรอก“สะดวก สะดวกมาก อยากใส่อะไรก็ใส่แล้วแต่เธอเลย”พูดจบก็เหยียบคันเร่งออกจากบ้าน เงียบตลอดทางเพราะเผื่อว่าหมวยจะง
ตอนที่ 29 อ่อยไม่ได้แปลว่ายอมเขายังคงตื่นเช้าเหมือนเช่นทุกวันเพื่อทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองที่มันไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลยตั้งแต่วันที่เจอกับหมวย มันไม่ได้น่าเบื่ออะไรเลยเพราะเหมือนกับว่าเขามีเป้าหมายในแต่ละวันว่าจะทำอย่างไรให้หมวยมันใจอ่อนกับเขาสักทีสามเดือนแล้ว…สามเดือนที่ได้ทำความรู้จักกับลูกและพยายามเข้าใกล้หมวย ถึงแม้ว่าหมวยจะยังคนทำเย็นชาใส่แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าหมวยเริ่มยอมแล้วกับบางเรื่องในหนึ่งเดือนเขามักจะมีวันหยุดหนึ่งวันหรือแค่ครึ่งวัน ช่วงเวลานั้นแหละที่เขาพยายามเก็บเกี่ยวโอกาสของตัวเองให้ได้มากที่สุด“มาทำอะไรแต่เช้า” หมวยเอ่ยปากถามเพราะวันนี้เขาตั้งใจจะมาเล่นกับลูกทั้งวันในวันหยุด และการตื่นเช้าเป็นเรื่องปกติของร่างกายไปแล้ว เขาจึงออกห้องตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาช่วยหมวยดูลูก“วันนี้ว่าง”หมวยเล็กไม่ได้แปลกใจที่เขาจะมีวันว่างขนาดนี้เพราะที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้เห็นว่าเขาจะว่างบ่อย ทุกวันเธอจะเห็นเขาแค่ตอนเช้า มากินข้าวที่ร้านแล้วก็ไปหาลูกสิบยี่สิบนาทีก่อนจะไปทำงาน ถ้าไม่มีเวรดึกเขาก็จะมาหาลูกช่วงเย็นอีกรอบพอสองทุ่มก็กลับห้องยอมรับว่าเธอเริ่มใจอ่อนกับการกระทำของเขา แต่ก็ยังไม่