"เสี่ยวเหวิน เจ้ารีบหนีไป นังงูพิษนี่มันแจ้งจับเจ้าแล้ว"
หลิวเซียวเห็นเยี่ยเหวินจ้าวปรากฏตัว ก็รีบบอกให้เขาหนี
"ท่านลุง ข้ามาเพื่อลาท่าน ไม่คิดว่าจะได้ยินเรื่องร้ายกาจเช่นนี้"
เยี่ยเหวินจ้าวจ้องหน้าป้าสะใภ้ เขาโง่เองที่หลงเล่ห์กลของนาง เชื่อเรื่องที่นางโกหกโดยไม่สืบความจริงเสียก่อน ตอนนี้ต้องหนีหัวซุกหัวซุน เพราะถูกป้าสะใภ้แจ้งเบาะแสให้ทางการมาจับเขา สหายของเขาก็ถูกจับตาย ทุกสิ่งล้วนเป็นแผนการร้ายของป้าสะใภ้คนนี้ทั้งสิ้น
"เยี่ยเหวินจ้าว คิดหรือว่าเจ้าจะหนีรอดไปได้ เจ้าฆ่าคนและยังปล้นขบวนเจ้าสาวของหยวนจงเหลียง นายอำเภอไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่"
นางหลี่เจียนเยาะเย้ย นางมองไปด้านหลังของเยี่ยเหวินจ้าว เห็นคนรับใช้ก็ส่งสัญญาณให้อีกฝ่าย นางคิดไว้แล้วว่าเจ้าโง่คนนี้ต้องมา จึงวางแผนไว้รอรับมือ
"หากนายอำเภอรู้ว่า ท่านป้าเป็นคนบงการให้ข้าทำ คิดว่านายอำเภอจะปล่อยท่านป้าหรือไม่"
เยี่ยเหวินจ้าวไม่ยอมตกนรกคนเดียวแน่ เขาจนตรอกเมื่อใด ก็จะลากนางวายร้ายคนนี้ตายตกตามกัน
"เจ้าคิดหรือว่า จะมีโอกาสนั้น"
หลี่เจียนแสยะยิ้ม ไม่มีท่าทางหวาดกลัวสักนิด นางโยนถ้วยชาลงพื้นจนแตกกระจาย
เพล๊ง !
ทันใดนั้นเอง !
คนที่ซ่อนตัวอยู่ก็ออกมา แล้วตรงเข้าฟันเยี่ยเหวินจ้าวทันที
เคร้ง ขวับ เคร้ง !
เยี่ยเหวินจ้าวมิใช่คนไร้ฝีมือ เขาตวัดดาบตอบโต้และสวนกลับ จนคนที่บุกเข้ามาแตกกระจาย การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อคนสิบคนกำลังรุมคนเพียงคนเดียว หากเป็นผู้อื่นคงพ่ายแพ้ยับเยินไปแล้ว ทว่า ยอดฝีมืออย่างเยี่ยเหวินจ้าวไม่ใช่หมูในอวย เขาจัดการคนได้มากกว่าครึ่งด้วยตัวคนเดียว หกคนล้มตายไปสาม อีกสามบาดเจ็บลุกไม่ขึ้น สี่คนที่เหลือกัดฟันสู้เพื่อค่าจ้างที่รับมาจากหลี่เจียน นางลงทุนจ้างนักฆ่าเพื่อหวังปลิดชีพหลานชายสามี หากทำสำเร็จนางจะได้รางวัลนำจับและได้ชำระแค้นที่สุมในใจมาหลายปี
"ฆ่ามันให้ได้ อย่าปล่อยให้มันรอด"
หลี่เจียนตะโกนสั่งการ นางกำหมัดแน่นดวงตาจับจ้องเยี่ยเหวินจ้าว หวังให้เขาพลาด และเขาก็โดนนักฆ่าคนหนึ่งฟันจนได้ แม้จะเฉียดแต่เห็นเลือดสาดออกมา ก็ทำให้หลี่เจียนสะใจ ในที่สุดเยี่ยเหวินจ้าวก็อ่อนแรง ถูกถีบจนล้มลง ดาบของนักฆ่าคนหนึ่ง เตรียมตวัดตัดศีรษะของเขา
"เยี่ยเหวินจ้าว วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้ว"
หลี่เจียนตบมือโห่ร้องด้วยความสะใจ แต่ดีใจได้ไม่นานก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นบุตรชายวิ่งเข้ามาขัดขวางนักฆ่าคนนั้นไว้ ทำให้อีกสามคนที่เหลือนึกว่าเป็นพวกเดียวกับเยี่ยเหวินจ้าว ตวัดดาบฟันเขาทันที
อ๊าก อึก โอ้ย !
"กรี้ด หลินตง ลูกแม่ !"
นางหลี่เจียนกรีดร้องเมื่อเห็นหลินตง ถูกฟันและแทงจนร่วงลงกองกับพื้น เลือดไหลนองท่วมร่าง นางรีบวิ่งเข้าหาบุตรชาย
"นี่ลูกชายข้า พวกเจ้าทำอะไรกัน ฮือ !"
เสียงกรีดร้องของนางหลี่เจียนทำให้นักฆ่าเสียจังหวะ เปิดโอกาสให้เยี่ยเหวินจ้าวปลิดชีพพวกเขา คนทั้งสี่ถูกสังหารนอนกองกับพื้น
"หลินตง เหตุใดเจ้าถึงปกป้องมัน ฮือ ลูกแม่เจ้าอย่าเป็นอะไรนะ"
หลี่เจียนคล้ายสติแตกไปแล้ว นางเห็นลูกชายเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด นอนหายใจรวยริน ใจแทบแหลกสลาย น้ำตาไหลออกมานองหน้า สะอื้นไห้ตัวโยน
"ท่านแม่... เป็นข้า เป็นข้าที่ผิดเอง"
หลินตงแม้จะโง่เขลา แต่ไม่ใช่คนเลว ยังรู้จักผิดชอบชั่วดีมากกว่ามารดาของตน เขาเสียใจที่ทำให้จางเฉียนต้องตาย เขาช่วยนางจากคนชั่วไม่ได้ หากมารดาของเขาไม่นำจางเฉียนส่งไปให้หยวนจงเหลียง นางคงไม่คิดสั้นฆ่าตัวตาย ทั้งหมดล้วนมาจากความโง่ของเขาเอง
"เจ้าไม่ผิด ไอ้หยวนจงเหลียงมันหลอกลวงเจ้า มันสมควรตาย"
หลี่เจียนเป็นคนที่รักบุตรชายมาก นางทุ่มเทให้หลินตงมากมาย หวังให้เขาได้ดีกว่าเด็กกาฝากอย่างเยี่ยเหวินจ้าว แต่ลูกชายนางก็สู้อีกฝ่ายไม่ได้ ทั้งรูปโฉมและสติปัญญาล้วนด้อยกว่า
"พอเถอะท่านแม่ ท่านทำร้ายเสี่ยวเฉียนคนหนึ่งแล้ว อย่าทำร้ายเสี่ยวเหวินอีกคนเลย แค่ก..."
หลินตงกระอักเลือดออกมา หอบหายใจแรงใกล้สิ้นลม เขาหันไปมองเยี่ยเหวินจ้าวที่ยืนกำดาบอยู่ เอ่ยเสียงแหบพร่าว่า
"เสี่ยวเหวิน ให้อภัยท่านแม่ด้วย นางทำผิดต่อเจ้าเพราะรักข้า ข้าจะชดใช้ให้เจ้าเอง... "
เยี่ยเหวินจ้าวยืนเงียบ เขามองสองแม่ลูกด้วยสายตาเรียบนิ่ง มือกำดาบไว้แน่น
"เสี่ยวตง เจ้าทำดี ทำดีแล้ว อย่างน้อยเจ้าก็ไม่เหมือนแม่เจ้า"
หลินเซียวขยับลุกจากเตียง เดินมาหาบุตรชาย เขากุมมือของหลินตงไว้ อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วก็ยิ้มออกมา ก่อนจะปล่อยลมหายใจเฮือกสุดท้ายสิ้นลมไป
"กรี้ด ! ไม่นะ หลินตงเจ้าอย่าจากแม่ไป"
นางหลี่เจียนกรีดร้อง ใจสลายตามลูกชายที่หมดลมหายใจไป นางทำเพื่อเขาเหตุใด เขาไม่เข้าใจ หัวใจของคนเป็นแม่แหลกยับ ราวกับถูกควักออกมาบดขยี้ด้วยฝ่าเท้า ก่อนจะหมดสติล้มลงไปบนร่างชุ่มเลือดของบุตรชาย
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดจากความแค้นในใจและการรักลูกในทางผิด สิ่งที่ได้รับย่อมสาสมกับสิ่งที่ทำเอาไว้
"ท่านลุง ข้าขอโทษ"
เยี่ยเหวินจ้าวคุกเข่าลง แม้จะถูกทำร้ายแต่เขายังสำนึกบุญคุณของท่านลุง คนทำผิดก็ตายไปแล้ว เหลือเขากับท่านลุงที่ยังอยู่
"ไม่ใช่ความผิดของเจ้า"
หลินเซียวลุกขึ้นเดินมาหาเยี่ยเหวินจ้าว ดวงตาของเขามีหยาดน้ำตาไหลออกมา เขามองดูซากศพของนักฆ่าและลูกชายตัวเอง รู้สึกว่าเรื่องราวมันควรจะจบได้แล้ว
"พวกเขาสองคนต่างหากที่ผิด"
หลินเซียววางมือบนบ่าของเยี่ยเหวินจ้าว มองดูหลานชายที่เขารักยิ่งกว่าลูกในไส้ของตัวเอง เขายอมรับว่าลำเอียงรักเยี่ยเหวินจ้าวมากกว่าหลินตง จนทำให้ภรรยาของเขาเกลียดชังหลานชาย และเลี้ยงดูบุตรชายอย่างตามใจจนกลายเป็นคนโง่เขลา นำมาสู่จุดจบในวันนี้
"ท่านลุง ข้าทำผิดข้าต้องรับโทษ ข้าจะไม่ให้ท่านลุงเดือดร้อน"
การตายของหลินตง สร้างความสะเทือนใจให้เขามาก พี่ชายคนนี้ดีต่อเขามาตลอด ไม่เคยรังแกหรือคิดแย่งชิงสิ่งใดจากเขา นั่นทำให้เขายอมลงมือฆ่าคนเพื่อแก้แค้น แทนหลินตงกับจางเฉียน ตอนนี้หลินตงยอมสละชีวิตปกป้องเขาจนตัวตาย ยิ่งตอกย้ำให้เขารู้สึกเสียใจ จนคิดอยากจะไปมอบตัวกับทางการ
"ลุงจะไม่ยอมให้เจ้า รับกรรมที่เจ้าไม่ได้ก่อ"
หลินเซียวเอ่ยขึ้น ขณะใช้ไม้ฟาดท้ายทอยหลานชายเต็มแรง จนทำให้เยี่ยเหวินจ้าวที่ไม่ทันระวังตัวหมดสติไป
"เสี่ยวเหวิน นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ลุงจะทำเพื่อเจ้า ลุงติดค้างเจ้ากับแม่ของเจ้า มากมายเหลือเกิน"
หลินเซียวลูบใบหน้าของเยี่ยเหวินจ้าว มองดูเขาก่อนจะตัดสินใจทำบางอย่าง
///
ด้านนอก หลิวซืออินกับซุนเซิงรออยู่อย่างกระวนกระวาย เยี่ยเหวินจ้าวหายเข้าไปบ้านตระกูลหลินนานแล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับออกมาสักที
"ท่านพี่เข้าไปนานแล้ว เหตุใดถึงไม่ออกมาสักที พี่ซุนท่านไปดูหน่อยได้หรือไม่"
หลิวซืออินรอจนรอไม่ไหวแล้ว นางรู้สึกเป็นห่วงสามีมาก ในใจเกิดความรู้สึกคล้ายมีลางสังหรณ์บางอย่าง
"ได้ เจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้ากลับมา"
ซุนเซิงลงจากรถม้า ยังไม่ทันจะขยับเท้าก็เห็นเปลวไฟ ลุกโชนแสงขึ้นจากในบ้านตระกูลหลิว พร้อมกับเสียงกรีดร้องของคนในบ้าน
"ช่วยด้วย ไฟไหม้บ้านข้าแล้ว! "
ควันไฟลอยคลุ้ง เปลวไฟพวยพุ่งท่วมหลังคาบ้าน เผาผลาญทุกสิ่งอยู่ในกองเพลิง
"ท่านพี่อยู่ในนั้น ไปช่วยท่านพี่ด้วย ! "
หลิวซืออินรีบวิ่งเข้าไปอย่างลืมตัว ซุนเซิงวิ่งตามมาจับแขนนางลากออกมา ก่อนที่นางจะวิ่งเข้าไปในกองไฟ
"เจ้าออกมาก่อน เข้าไปรนหาที่ตายเรอะ"
"ไม่นะ ฮือ ... ท่านพี่ ท่านจะจากข้าไปเหมือนคนอื่นไม่ได้ ฮือ..."
หลิวซืออินหัวใจคล้ายหยุดเต้นไปชั่วขณะ ก่อนที่ความเจ็บปวดรวดร้าว จะกระแทกเข้ามาในความรับรู้ จนสะเทือนไปทั้งใจ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นควักหัวใจของนางนางออกมาบีบ จนแหลกสลายลงไปในเวลานั้น นางทิ้งร่างทรุดฮวบลงกับพื้น น้ำตาพร่างพรูออกมา
นางหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว !
“ท่านพี่... ฮือ...”
หลิวซืออินสะอื้นไห้เสียงดัง มือจิกชายเสื้อตัวเองไว้แน่น หัวใจกำลังแหลกยับลงไป นางมองเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมบ้าน ผ่านม่านน้ำตาด้วยหัวใจแตกสลาย
สภาพนั้นมีเพียงซุนเซิงที่เข้าใจความรู้สึกของนาง เขาเห็นเยี่ยเหวินจ้าวกับภรรยา มองกันด้วยแววตาของคนที่รักกันมากมาย เพียงไม่นานก็ต้องมาพรากจากกันแบบนี้
ผู้ใดจะทำใจได้ น่าเวทนาเหลือเกิน...
///
บทที่ 80ตอน วิวาห์ของสองเรา /2 (จบ)“ท่านแม่ ข้าง่วงแล้ว”ผิงอันอ้าปากหาว อี้หนิงเองก็เริ่มตาปรือ วันนี้พวกเขาตื่นเต้นกับงานมาก ตื่นเช้ามาแต่งตัวเข้าร่วมขบวนแห่ มาถึงก็เล่นกันในงานจนตอนนี้หมดแรงแล้ว“ง่วงก็นอนลง มาแม่ห่มผ้าให้”เด็กน้อยทั้งสองนอนลงบนเตียง ให้มารดานอนตรงกลาง ผิงอันกอดมารดาเอาหน้าซุกอกนอนหลับตาพริ้ม หลิวซืออินเกาหลังให้อี้หนิงแบบที่ทำทุกคืน ลูกชายนางขาดคนเกาหลังจะนอนไม่หลับ คืนนี้เด็กชายถูกมารดาเกาหลังจนเพลินหลับไปแล้วแกรก !เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีแดง ก้าวเข้ามาในห้องหอ กว่าที่ฉู่หมิงฮ่าวจะปลีกตัวออกมาได้ ก็ถูกเพื่อนในกองทัพ พี่ชายตนเอง และพี่ชายเจ้าสาว รินเหล้าส่งให้ไม่หยุดหย่อน เขาอาศัยตัวเองคอแข็งจึงรับมือได้ไม่ยากนัก แต่ให้ดื่มจนไม่ได้เข้าหอ เขาคงกลายเป็นคนโง่ แม่ทัพหนุ่มจึงดื่มบ้างแอบเทรดแขนเสื้อบ้าง แสร้งทำเมามายจึงมีโอกาสได้เข้าหอเสียทีภายในห้องหอเทียนแดงมงคลจุดให้ความสว่างเหลือเพียงครึ่งแท่งแล้ว สุรามงคลบนโต๊ะรอเจ้าบ่าวเจ้าสาว มาคล้องแขนดื่มกิน เจ้าสาวคนงามสวมชุดวิวาห์สีแดงนั่งรออยู่บนเตียงฉู่หมิงฮ่าวหยิบคันชั่ง เดินไปยังเตียงด้วยอารมณ
บทที่ 79 ตอน วิวาห์ของสองเรา /1 เกี้ยวเจ้าสาวสีแดง ถูกแบกออกจากหน้าประตูจวนของเสนาบดีหยาง วันนี้หยางอี้หลันบุตรีของท่านเสนาบดีออกเรือน สินเดิมของเจ้าสาวถูกจัดเตรียมไว้มากมาย สมกับเป็นลูกสาวของเสนาบดีกรมคลังการแต่งงานครั้งนี้เจ้าบ่าวคือ ฉู่หมิงฮ่าว แม่ทัพใหญ่ของแคว้นเป่ยฉี เขาเป็นบุตรชายคนรองของใต้เท้าฉู่อี้หนาน ท่านโส่วฝู่ผู้เป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้ แม่ทัพหนุ่มอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีแดงสวมหน้ากากเงินปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง ขี่อาชาสีขาวดูสง่างาม บนนั้นยังมีร่างของเด็กชายตัวน้อยสวมชุดสีแดงนั่งอยู่ด้วย ผู้คนที่พากันมามุงดูขบวนแต่งงาน ต่างตื่นตะลึงกับรูปโฉมของเจ้าบ่าว“ท่านแม่ทัพฉู่หมิงฮ่าว สวมหน้ากากเงินปกปิดใบหน้า เพราะเขาเป็นแม่ทัพของกองทัพวายุทมิฬ คนในกองทัพนี้ล้วนลึกลับ จนถูกขนานนามว่า กองทัพปีศาจ”คนที่พากันมุงดูซุบซิบถึงเจ้าบ่าว พวกเขาได้ยินชื่อของกองทัพวายุทมิฬก็พากันกลัวตัวสั่น ได้ข่าวว่าแม่ทัพฉู่เพิ่งจัดการกับโจรสลัดที่โหดเหี้ยมผู้หนึ่งของหนานไห่ได้ ฮ่องเต้จึงพระราชทานสมรสให้แต่งกับบุตรีท่านเสนาบดีหยาง“บุตรีท่านเสนาบดีหยาง พลัดพรากจากครอบครัวตั้งแต่เล็ก ท่านแม่ทัพฉู่หมิงฮ
บทที่ 78 ตอน พบผู้มีพระคุณทั้งสอง/2ฉู่เฟยหยางเป็นฝาแฝดกับฉู่หมิงฮ่าวย่อมหน้าตาคล้ายกัน บุตรของเขาหน้าตาเหมือนบิดาทั้งคู่ จึงดูคล้ายกันเหมือนฝาแฝด แม่หนูผิงอันมองหน้าท่านพ่อกับท่านลุง แล้วมองหน้าพี่ชายตนกับลูกชายท่านลุง“โอย เหมือนกันจนข้าแยกไม่ออกแล้ว ข้าตาลายไปหมดแล้วเจ้าค่ะท่านย่า”ผิงอันน้อยเอียงหน้าซบท่อนแขนของท่านย่า พลางกรอกตาไปมา ท่าทางนั้นทำให้ทุกคนที่เห็นต่างพากันหัวเราะขบขัน หลงเสน่ห์ของแม่หนูน้อยเข้าไปแล้ว“ท่านพ่อท่านแม่ นี่คือหยางอี้หลันภรรยาข้า”หลิวซืออินเดินเข้ามาได้เห็นทุกคนในห้องกำลังหัวเราะท่าทางตลกของผิงอันพอดี เมื่อฉู่หมิงฮ่าวแนะนำนางให้ครอบครัวของเขา จึงประสานมือย่อตัวลงทำความเคารพอย่างนอบน้อม รูปร่างหน้าตาของนางทำให้ทุกคนหันมาจ้องมองอย่างสนใจ“เหมือนข้าคุ้นหน้าเจ้า”ใต้เท้าโส่วฝู่มองบุตรีของเสนาบดีหยาง พลันรู้สึกว่าเคยพบเจอสตรีนางนี้มาก่อน ฮูหยินเองก็มองจ้องหน้านาง คิ้วขมวดเล็กน้อยเหมือนกำลังครุ่นคิด“ท่านทั้งสองคือ... คือผู้มีพระคุณของข้ากับลูก อี้หนิงผิงอัน รีบคุกเข่าเร็ว”หลิวซืออินจำทั้งสองได้ในทันที นางไม่เคยลืมใบหน้าของผู้มีพระคุณ ที่ช่วยชีวิตนางกับลูกน้อ
บทที่ 77 ตอน พบผู้มีพระคุณทั้งสอง/1รถม้าเคลื่อนจากหน้าจวนเสนาบดีหยางแล่นไปจอดยังหน้าจวนของใต้เท้าโสว่ฝู่ หน้าประตูฉู่หมิงฮ่าวยืนรอรับภรรยากับลูกๆ เมื่อเห็นรถม้ามาจอดก็รีบเดินไปหมายจะช่วยพาหลิวซืออินกับอี้หนิงผิงอันลงมา แต่คนที่เดินลงมาก่อนกลับเป็นบุรุษผู้หนึ่งหน้าตาหล่อเหลาท่าทางสง่างาม“ท่านคงเป็นพี่ชายของภรรยาข้า คารวะท่านพี่ภรรยา”ฉู่หมิงฮ่าวรู้ว่าท่านเสนาบดีมีลูกชายคนหนึ่ง ชื่อว่า หยางเทียน เป็นพี่ชายของภรรยาเขา จึงประสานมือทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม“เจ้าคือโจรชั่วที่บังอาจฉุดตัวน้องสาวข้าสินะ วันนี้ได้พบหน้าเจ้า เราคงต้องมีเรื่องพูดจากันสักหน่อย”หยางเทียนมองหน้าบุตรชายคนรองของท่านโส่วฝู่ เขาไม่เคยพบกับฉู่หมิงฮ่าวมาก่อน อีกฝ่ายเป็นแม่ทัพประจำการอยู่ค่ายทหาร คนที่เขารู้จักดีคือ ฉู่เฟยหยางบุตรชายคนโตของท่านโส่วฝู่ ตอนเด็กทั้งสองเคยเรียนสำนักศึกษาเดียวกัน โตมาถึงได้แยกย้ายไป ฉู่หมิงฮ่าวเป็นน้องชายฝาแฝดของฉู่เฟยหยาง ใบหน้าของทั้งคู่คล้ายกันมาก ต่างเพียงแววตาของฉู่หมิงฮ่าวดูแข็งกร้าวกว่าฉู่เฟยหยางเล็กน้อย“พี่เทียน ท่านโปรดละเว้นสามีข้าด้วยเถอะเจ้าค่ะ”หลิวซืออินลงจากรถม้า พร้อม
บทที่ 76 ตอน ช่วงเวลาแห่งความสุข/2ณ จวนตระกูลหยางท่านเสนาบดีหยางพาบุตรีพร้อมหลานๆ กลับมาถึงจวน ได้จัดเรือนหลังหนึ่งให้พวกเขาพัก ฮูหยินสั่งซื้อข้าวของใหม่ให้บุตรีและหลานทั้งสอง เรียกร้านเสื้อผ้าส่งช่างมาวัดตัวตัดเสื้อผ้าชุดใหม่หลายชุด ล้วนเป็นผ้าไหมชั้นดี สีสันลวดลายงดงามกว่าผ้าทั่วไป ที่สามแม่ลูกเคยสวมใส่ ร้านเครื่องประดับนำสิ้นค้าชั้นดี มาให้เลือกถึงเรือน ฮูหยินมองชิ้นไหนล้วนถูกใจไปหมด นำมาเท่าไหร่ก็ซื้อให้บุตรี จนหลิวซืออินไม่กล้ารับไว้ "ท่านแม่ ของพวกนี้ล้วนราคาแพง ท่านซื้อให้ข้ามากเกินไปแล้ว""จะแพงสักเท่าไหร่แม่ก็จะซื้อให้เจ้า ถึงเวลาออกเรือนไป จะได้เป็นสินเดิมติดตัวเจ้าไปมากสักหน่อย ท่านพ่อเจ้าเป็นถึงเสนาบดีกรมคลัง เจ้าต้องแต่งตัวให้สมฐานะบุตรีท่านเสนาบดี อย่าได้ทำให้ท่านพ่อเจ้าขายหน้า"ฮูหยินถือโอกาสอบรมบุตรี ชีวิตก่อนหน้าของหลิวซืออินเคยยากจนลำบากมามาก จึงมัธยัสถ์เห็นคุณค่าของเงินทอง จับจ่ายมากไป แพงไป ล้วนปวดใจเพราะเสียดายเงินทอง ยามนี้นางกลับคืนฐานะบุตรีของท่านเสนาบดี ของสิ่งใดควรได้ ควรหามาใช้ ต้องจัดให้สมฐานะ "ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่"หลิวซืออินรับคำมารดา ตอนนี้นา
บทที่ 75 ตอน ช่วงเวลาแห่งความสุข/1หนึ่งเดือนต่อมา เสนาบดีหยางพาบุตรีกับหลานทั้งสองเดินทางไปถึงเมืองหลวง หลิวซืออินได้กลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้งด้านฉู่หมิงฮ่าวนำเรื่องของเขากับหลิวซืออินไปบอกบิดามารดา ใต้เท้าโส่วฝู่ได้รู้เรื่องที่บุตรชายกระทำต่อบุตรีของเพื่อนรักก็โมโหยิ่งนัก ลงโทษให้เขาคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนทั้งคืน ก่อนจะยอมรับปากไปสู่ขอและจัดงานแต่งให้เขาครอบครัวตระกูลฉู่กลับมาพร้อมหน้า จึงร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน“หากเจ้าไม่ตัดหน้าไปเสียก่อน เจ้าบ่าวของบุตรีท่านเสนาหยางคงเป็นข้า”ฉู่เฟยหยางเอ่ยเย้าน้องชาย ตัวเขาเพิ่งรักษาตาที่บอดจากการถูกลอบทำร้ายจนหายสนิท เมื่อปีที่แล้วบิดามารดาคิดทาบทามบุตรีของขุนนางหลายตระกูลให้เขาดูตัว แต่ฉู่เฟยหยางปฏิเสธบอกว่า จะแต่งกับบุตรีท่านลุงเสนาหยางตามสัญญาหมั้นหมาย เขาอาศัยเรื่องนี้ครองตัวรอดพ้นจากการถูกบังคับแต่งงานมาได้เนิ่นนาน ผู้ใดจะคิดว่าบุตรีท่านลุงหยางยังมีชีวิตอยู่ และมีความสัมพันธ์กับน้องชายฝาแฝดของตน คิดหาข้ออ้างหลบเลี่ยงงานแต่งคงยากเสียแล้ว“ท่านพี่ เรื่องอื่นข้ายอมท่านได้ แต่เรื่องนี้ข้าไม่ยอมเด็ดขาด ท่านหาสตรีคนอื่นเป็นแม่เลี้ยงให้ฉู