หวังเยี่ยนหลงไม่เข้าใจสิ่งที่น้องชายพูด ก็แค่ทาสคนหนึ่ง ตายไปก็หาคนใหม่ เพียงแค่ตอนนี้เขาไม่อยากหาคนใหม่ให้วุ่นวายก็เท่านั้น
หางตาเหลือบมองท่าทางของน้องชายแล้วนึกขัน ใครจะไปคิดว่าคุณชายของตระกูลยอมทำทุกอย่างให้คนไร้ค่าได้ถึงเพียงนี้
เซี่ยฟานยังคงนอนไม่รู้สึกตัวเพราะหนอนไหมทำร้ายร่างกายภายในอย่างหนักหน่วง ครั้นไม่เห็นว่าทาสคนนี้ลืมตาตื่นขึ้นมาเสียที หวังเยี่ยนหลงจึงต้องคอยป้อนยาให้เขาสามเวลา หนึ่งเพราะรู้สึกหงุดหงิด สองเพราะไม่อยากให้หวังซีซวนมายุ่มย่าม
เขานั่งมองเซี่ยฟานที่นอนอยู่บนเตียงอย่างไม่ได้สนใจมากนัก แต่สังเกตเห็นไอสีดำจาง
วันต่อมา หวังเยี่ยนหลงออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ปล่อยให้เหลียนเฟินนอนหลับเพียงลำพัง ครั้นเมื่อเจ้าตัวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นใครจึงพอโล่งใจไปบ้าง กระนั้นก็ไม่ลืมสังเกตร่างกายตัวเองกลัวจะมีสิ่งแปลกปลอมดังเช่นตอนนั้น เสื้อผ้าทั้งชุดยังปิดมิดชิดจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปเปิดประตู ทว่า หวังเยี่ยนหลงร่ายอาคมปิดเรือนเอาไว้ ทำให้เขาออกไปที่ใดไม่ได้ จึงถือโอกาสเดินสำรวจในตัวเรือนใบไผ่ ชั้นวางหนังสือด้านในถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ตำราวิชาต่าง ๆ เรียงรายชิดริมฝั่งผนัง ส่วนใหญ่
เช้าวันต่อมา เหลียนเฟินงัวเงียตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของหวังเยี่ยนหลง ทันทีที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกควบคุมแล้ว เขารีบพลิกตัวหนีแล้วถีบร่างหวังเยี่ยนหลงไปอีกทาง คนที่นอนหลับอยู่พลันกระเด็นตามแรงไปชนขอนไม้ใหญ่ดังพลั่ก สะดุ้งตื่นในทันที “กล้าดีอย่างไร!” หวังเยี่ยนหลงสบถ “คนชั่วช้า เจ้าทำอะไรข้า ทำไมข้าถึงขัดขืนไม่ได้” เหลียนเฟินโพล่งออกมา สีหน้าโกรธแค้นระคนเสียใจ&
หลังจากวันนั้น หวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่วนเวียนวุ่นวายกับเหลียนเฟินไม่จบสิ้นไม่ว่าจะพูดยั่วยุเท่าใดก็ไม่เป็นผล จิตวิญญาณของเหลียนเฟินยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ปล่อยให้ความแค้นเกาะกุม ปราณมารจึงไม่อาจเข้าครอบงำได้อีก ในเมื่อเวลานี้รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใดจึงไม่มีเหตุผลต้องปิดบังอีกต่อไป หวังเยี่ยนหลงจึงพาเขากลับมาที่สำนักตระกูลหวัง ระหว่างพรรคมารกลุ่มหนึ่งตาดีมองเห็นหวังเยี่ยนหลงแต่ไกล คนในนั้นรู้ทันทีว่าเป็นหวังเยี่ยนหลง ยิ่งอยู่เพียงลำพังกับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าก็คิดว่าตนเองมีแต้มเป็นต่อ หากกำจัดเขาได้ก็คงจะมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าสามารถโค่นล้มประมุขสำนักตระกูลหวังได้ จึงรวมหัวกันวางแผนพร้อมลอบโจมตี
ครั้นสำนักสะสางเรื่องพรรคมารได้แล้ว จึงหันมาสืบสวนเรื่องภายในอย่างเคร่งเครียดบาดแผลบนร่างกายเกิดจากคมกระบี่เงิน ร่องรอยอาคมที่บ่งชัดได้ว่ามาจากผู้ที่สอบผ่านขั้นกลางไปแล้ว ศิษย์ที่อยู่ในที่แห่งนี้มีเพียงศิษย์ระดับต้นเท่านั้น “ซิ่นเฉิง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟังได้หรือไม่” อาจารย์ผู้หนึ่งถามซิ่นเฉิง ซิ่นเฉิงกลับเล่าเรื่องราวบิดเบือนจากความจริงไปมากนักราวกับว่าความทรงจำของเขาถูกใครบางคนควบคุมอยู่ เหลียนเฟินเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาถูกลงโทษอย่างสมน้ำสมเนื้อ จึงยอมรับว่าทำเรื่องทั้งหมดนั่นแต่โดยดี
“เหลียนเฟิน!” เสียงคุ้นเคยของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น เรียกความสนใจของหวังเยี่ยนหลงได้เป็นอย่างดี “หมิงฮวา ดีใจนักที่ได้เจอเจ้าเสียที” เขาพูดกับนางอย่างเป็นกันเอง “หวังเยี่ยนหลง?” หมิงฮวาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะยังมีชีวิตอยู่ นับตั้งแต่ปะทะกันครั้งก่อน ไม่มีข่าวของหวังเยี่ยนหลงหลุดออกมาอีกเลย“เจ้าทำอะไรเขา” หมิงฮวาสงสัย หากเป็นโลหิตมารย่อมไม่สามารถทำอันใดกับศิษย์ทุกคนในสำนักได้ พลังของมันรุนแ
คนกลุ่มหนึ่งในชุดสีขาวแถบเขียวอ่อนวิ่งเข้ามาด้านในศาลาว่าการสายตามองเห็นศิษย์สำนักตนและคนอื่น ๆ ในนั้นนอนจมกองเลือดก็รู้สึกสลดใจที่มาช้าไป “แยกย้ายกันตรวจดู” อาจารย์ผู้หนึ่งสั่งศิษย์ของตน เขามองภาพที่เกิดขึ้นเห็นทั้งไอปราณมารและร่องรอยการต่อสู้ บาดแผลบนตัวทหารหลายคนดึงดูดความสนใจจากเขาเป็นอย่างมาก “อาจารย์ ช่วยหลิ่งอินด้วยขอรับ” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้น เขาร่ายอาคมรักษาขั