เมื่อกลับเข้ามาในห้องทำงานเปลวหยิบรูปถ่ายของดวงดาหวันเท่าที่มีออกมาดูอย่างพินิจพิจารณาแล้วคิ้วเข้มก็ขมวดอย่างครุ่นคิดและเริ่มนึกถึงกิริยาท่าทางของเจ้าหล่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วนชายหนุ่มหลับตาลงแต่ในใจก็คิดถึงความเปลี่ยนไปของดวงดาหวันไปด้วย
ปกติดวงดาหวันถนัดขวาแต่วันนี้เขาเห็นว่าเธอใช้ช้อนมือซ้ายตักอาหารอย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งท่าทางที่แก่นกร้าวดูไม่กลัวใครนั่นก็สะกิดใจเขาไม่น้อย ใบหน้าเรียวไข่สวยโดดเด่นด้วยดวงตากลมโตพราวระยับภายใต้คิ้วเรียวโค้งดังคันศรก็ยังคงเหมือนเดิม จมูกโด่งเล็กๆ เชิดรั้นก็เหมือนเดิมผิดไปแต่แววตาไม่ได้พราวพรายอย่างมีจริตยั่วยวนให้ผู้ชายหลงใหล ริมฝีปากรูปกระจับระเรื่อด้วยวัยสาวก็เหมือนเดิม เป็นไปได้หรือว่าคนที่สูญเสียความทรงจำชั่วคราวจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดใช้มือข้างที่ไม่ถนัดของตนได้คล่องแคล่วปานนี้... เปลวลืมตาขึ้นก่อนจะโทรศัพท์หาใครบางคน
ดวงยิหวาปาดเหงื่อด้วยความเมื่อยล้าเพราะพรวนดินกุหลาบแปลงนี้มาตั้งแต่บ่ายโมงนี่มันก็บ่ายสามโมงเย็นแล้วคนใจร้ายยังไม่ให้เธอพัก ดวงยิหวามองมือที่เปื้อนดินของตนอย่างไม่ชอบใจ เธอไม่เคยจับดินดำๆ แบบนี้เลยสักครั้งและเพิ่งรู้ว่าดอกกุหลาบสวยๆ ที่เธอมักได้เป็นของขวัญจากชายหนุ่มมากหน้าหลายตานั้นทำให้เธอเหนื่อยมากมายได้ขนาดนี้ แปลงกุหลาบยาวเหยียดหลากสีสันและหลากพันธ์กำลังออกดอกให้เก็บเกี่ยวผลผลิต แม้มันจะสวยมากเพียงใดแต่ตอนนี้เธอเหนื่อยเกินกว่าจะชื่นชมมันเสียแล้ว
มือบางที่กำลังพรวนดินอยู่ชะงักเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยสนุกสนานของเปลวกับเด็กๆ ใกล้เข้ามา นั่นคงจะเป็นเสียง ลูกๆ ของเธอ ดวงยิหวาใจเต้นกระหน่ำลุ้นระทึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวค่อยๆ หันมาทางเสียงแล้วก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นหน้า ลูกๆ ของตน
“สวัสดีคุณแม่เราสิน้องเปรียว น้องปราณ คุณแม่ของพวกเรากลับมาแล้ว” เปลวบอกหลานๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงยิหวายิ้มบางๆ ให้เด็กๆ แล้วสำรวจเด็กทั้งสองอย่างพิจารณา
แววตาของเด็กหญิงที่มองเธอนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนดวงยิหวาใจหาย แววตาเช่นนี้ไม่ควรจะมีในเด็กๆ ที่เสมือนผ้าขาว แล้วหญิงสาวกวาดตามามองเด็กชายปราณชนกซึ่งก็กำลังมองเธอไม่วางตาอยู่เช่นกัน แต่แววตาของเด็กชายไม่มีแววโกรธเกลียดชิงชัง แต่มันเป็นแววตาที่ดูเหมือนเสียใจและดีใจพร้อมๆ กัน ทำไมเธอถึงรับรู้ถึงความรู้สึกของเด็กๆ ได้ขนาดนี้นะ ทำไม...
เด็กทั้งสองคนมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายเธอจนเหมือนกระจกที่สะท้อนเงาของตัวเธอออกมาแทบไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะเด็กชายที่มีใบหน้าออกไปทางแววหวานคมสันดวงตาเรียวใหญ่สีดำสนิทรับกับคิ้วเข้มหนา ผิวสีแทนสวยสม่ำเสมอซึ่งแน่นนอนเลยว่าโตเป็นหนุ่มต้องเป็นหนุ่มหล่อและเจ้าเสน่ห์แน่ๆ ส่วนเด็กหญิงก็มีสีผิวเช่นเดียวกับน้องชายฝาแฝดแต่ใบหน้าเรียวของเด็กหญิงเปรียวปรียานั้นดูเหมือนจะคล้ายไปทางบิดาหรือไม่ก็ผู้เป็นอามากกว่าแต่ก็เหมือนเธออยู่บ้างโดยเฉพาะจมูกโด่งรั้นนั้น ใบหน้าเรียวยาวจมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหยักสวยสีเรื่อตามวัยที่เริ่มเป็นสาวน้อย แต่เด็กหญิงมีดวงตาสีเทาเข้มเหมือนคนที่มีสายเลือดผสมเพราะยายทวดของคนตระกูลนี้เป็นชาวอังกฤษ ซึ่งหากเดาไม่ผิดก็คงเป็นผู้ดีอังกฤษเสียด้วยกระมัง และดวงตาคมสวยคู่นี้ก็ดุดันและแสดงอารมณ์ของเจ้าตัวออกมาทั้งหมดไม่ว่า รัก หรือ เกลียด...
“นี่ไม่ใช่คุณแม่ของน้องเปรียว....” เด็กหญิงเปิดฉากขึ้นร่างสูงเก้งก้างแขนขายาวเรียวเสลาเดินวนรอบๆ ดวงยิหวาแล้วมองอย่างเหยียดๆ แก่แดดแก่ลมจนดวงยิหวาแทบเก็บอาการหมั่นไส้เด็กก้าวร้าวคนนี้ไม่ไหว...
ที่เด็กหญิงเป็นแบบนี้ก็มีแค่สองอย่าง คืออาของเธอสอน กับแม่ดวงดาหวันของน้องเปรียวเป็นคนไม่ดี...
ดวงยิหวาพยายามเก็บอารมณ์และให้เหตุผลตัวเอง ซึ่งมันเป็นข้อดีของเธอที่เป็นคนเก็บอารมณ์ค่อนข้างเก่งไม่อย่างนั้นเธอคงสติแตกไปแล้วหากเจอคนแบบสองอาหลานนี่...
“ไม่เอาน่าเปรียว ไหนๆ คุณแม่ก็กลับมาแล้ว เราควรดีใจ สวัสดีครับคุณแม่...” ปราณชนกไหว้อย่างน่ารักแล้วยิ้มกว้างแววตาสดใส ดวงยิหวาสบตาเปลวเป็นเชิงขอความเห็นว่าเธอควรทำอย่างไรเขาก็เพียงพยักหน้าเฉยๆ โธ่ แล้วพยักหน้าเฉยๆ ของเขานี่มันคืออะไรล่ะ ดวงยิหวารู้สึกมึนงงในหัว...
“ไม่ใช่... เราไม่มีแม่เป็นผู้หญิงแพศยา หนีตามชู้ไปคนแล้วคนเล่าสุดท้ายก็ไปไม่รอดกลับมาตายรัง เป็นภาระให้คุณอาเปลวเหมือนเดิม...” เด็กหญิงขัดขึ้นด้วยคำพูดที่ฟังดูไม่รื่นหูเอาเสียเลย
“เอาล่ะน้องเปรียว อาว่าเราขึ้นไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะไป แล้วตอนเย็นเราค่อยมาคุยกันใหม่”
“แต่อาเปลวคะ...”
“น้องเปรียว...” อาหนุ่มทำเสียงเข้มมองหลานสาวนิ่งเป็นสัญญาณว่าเธอควรทำตามคำพูดของเขา เด็กหญิงหน้าง้ำเดินกระแทกเท้าเข้าบ้านไปพร้อมกับที่สาวใช้ที่ชื่อ เอื้อง ซึ่งเดินมารับหน้าพลางพูดเอาอกเอาใจเด็กหญิงสารพัด แต่แววตาที่เอื้องมองเธอนั้นทำให้ดวงยิหวารู้ดีว่ามันเป็นแววตาของคนขี้อิจฉาริษยาชัดๆ เธอไม่โง่จนไม่รู้ว่า สาวใช้หน้าตาน่ารักผิวขาวลออนั้นแอบรักเจ้านายหนุ่มอยู่... เสน่ห์แรงจริงพ่อคู้นนน... ดวงยิหวาค่อนแคะเปลวในใจ...
“แล้วเราล่ะปราณ”
“ปราณอยากคุยกับคุณแม่ครับ...” เด็กชายบอกเสียงใสผู้เป็นอาพยักหน้าช้าๆ เชิงอนุญาต
“หวังว่าเธอคงคุยกับลูกรู้เรื่องนะดาหวัน”
“ก็ เอ่อ ค่ะ... แน่นอน...” หญิงสาวตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจนักเมื่อเขาเดินออกไปเธอก็มองสบตาของเด็กชายด้วยความรักที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ