ก็เเค่ถอนหมั้น! เเต่เเท่งเอ็นที่เสียบคาร่อง...ถอดให้ออกก่อนสิเพทายหึ! เรื่องย่อ "หนูบอกไปเเล้วไงว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันอีกเเล้ว!!" "เธอเป็นเมียฉัน!!! ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องเเต่งงานกับฉัน!!" "ทำไมล่ะ...ทีเมื่อก่อนพี่ไม่เคยสนใจฉันเลยสักนิด ทิ้งให้ฉันต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว แล้วยังจะถอนหมั้นจากหนูอีก นี่ไงหนูถอนหมั้นให้แล้วส่วนเงินหนูจะหามาใช้หนี้แทนพ่อกับแม่หนูเอง!" "เธอบังคับให้ฉันต้องทำเเบบนี้เองนะ ขึ้นรถ!!! ถ้าดื้อฉันจะจับเธอเเทงตรงนี้เลย อย่าหาว่าฉันไม่กล้า" "คนบ้าอึก!!!" *****ก่อนอื่นต้องของชี้เเจ้งชื่อตัวละครก่อนเลยนะคะ ไรท์ขอเปลี่ยนชื่อนางเองจากเทพายเปลี่นเป็นเพทายนะคะ*****
View MoreEmily~
“You both should take it easy,” my mother-in-law teased with a knowing smile, her eyes twinkling.
I smiled shyly, fingers fidgeting with the hem of my satin skirt. My cheeks burned. It was our wedding night, and I was floating on air.
“What do you expect from newlyweds?” my father-in-law added with a chuckle. “They can’t keep their hands off each other.”
Ethan tightened his hand around mine, his thumb grazing my knuckles—a gesture I’d come to recognize as his silent reassurance. “Mother, it’s our first night. Maybe you and Dad should give us some space?”
They laughed and left the room, closing the door behind them.
Then… silence.
The soft kind, filled with everything we couldn’t say out loud.
Ethan turned to me, smiling, but there was something flickering behind his eyes—something I couldn't name. “You still blush like that,” he murmured, brushing a strand of hair from my face. “Even after all these while”
“We only dated for a year before our families rushed us into marriage,” I reminded him with a soft laugh. “But yes… only for you.”
He pulled me close, our foreheads touching like we were grounding each other. “I’ll love you forever,” he whispered. “Even if the world changes, I’ll find my way back to you.”
His kiss was slow, deep—aching.
I went to the bathroom to freshen up. My reflection glowed, flushed with happiness. I slipped into a soft white dress and returned to find Ethan already fast asleep across the bed, a peaceful smile tugging at his lips.
“You’re the best thing that ever happened to me,” he’d whispered before drifting off.
I smiled. Five years, I can't believe five years drifted by so quickly.
That night gave me Lucian—our miracle.
And now, five years later, it is the morning of our anniversary
Ethan had left early, like he always did. He loved hosting an annual celebration at the company to honor the people behind his empire—our empire. A tradition built on love.
His driver would come back for Lucian and me.
Just then, my phone buzzed.
Melisa. My best friend since university. She's my sister in everything but blood.
“Hi, lover girl!” Her voice beamed through the phone. “I can smell your happiness from here.”
“Don’t blame me,” I giggled. “You don’t get to judge a woman married to the love of her life.”
“What time’s the ceremony?”
“You already know. A little after noon.”
“Oh, right. Don’t worry about picking me up—I have something to run to. I’ll meet you guys at the company.”
“Love you.”
“Love you more.”
After the call, I tried ringing my mother-in-law. No answer.
Odd. I always picked her up with Melisa on our anniversary.
Shrugging, I got Lucian dressed in his little navy-blue suit. He looked like a tiny version of Ethan—same curls, same mischief in his eyes.
“You look just like your dad,” I whispered, kissing his cheek.
When the driver arrived, we got into the car.
I stared out the window, smiling faintly. Five years. And Ethan still looked at me like I was his whole world.
A message pinged on my phone [“Sorry, something came up. I’ll be late.”]—from my mother-in-law.
Strange. No explanation. But maybe it was just something last-minute. I told the driver to take us straight to the company.
When we arrived, I felt it instantly—something was off.
People smiled... but the kind of smile you wear when you're holding a secret. Tight-lipped. Unsettled.
I walked the familiar hallway toward Ethan’s office. The silence was unnerving.
His office door was slightly ajar.
I didn’t knock. I never had to.
I pushed it open—and stopped cold.
A woman sat in Ethan’s chair. Legs crossed. Back straight. Like she owned the room.
“You must be Emily,” she said, smooth as silk.
“Why are you in my husband’s office?”
She smiled, casually, cruelly. “Because your husband put me here.”
Before I could even process her words, the door to Ethan’s private bathroom creaked open.
And Ethan stepped out.
Shirtless. Hair damp. A towel slung around his neck.
He froze when he saw me. His face was drained of color. Then went completely blank.
The air vanished from my lungs. My heart fractured, right there in my chest.
Everything—everything—cracked.
ผ่านไปหลายเดือน....ณ โรงพยาบาลตอนนี้ผมกับเพทายรีบมาตามที่ไอ้เเวมไพร์ได้โทรบอกว่า น้องน่ารักกำลังจะคลอดลูก ก็เห็นไอ้เเวมไพร์กับไอ้วายุเเละน้องเอวาที่นั่งรออยู่หน้าห้องคลอดก่อนหน้านี้เเล้ว"ขอให้ผ่าคลอดปลอยภัยทั้งเเม่ทั้งลูกด้วยเถอะ"ผมเดินมาถึงตัวไอ้เเวมไพร์ก็ได้ยินมันขอพรออกมา ส่วนเพทายก็เดินปรี่ไปนั่งลงข้างๆน้องเอวา"มึงไม่ต้อวห่วงหรอกหมอที่นี้เก่งทุกคนอยู่เเล้ว"ผมพูดพร้อมเเตะบ่าอย่างให้กำลังใจมัน เพราะการผ่าตัดมันก็น่ากลัวจริงนั้นเเหละครับ"อีกไม่นานฉันก็จะเกิดลูกเเล้ว ฉันกลัวจังเลยอ่ะ"ตอนนี้อายุครรภ์ของเพทายใกล้เจ็ดเดือนเเล้วล่ะครับ ผมอยากจะบอกว่าผมได้ลูกสาวครับ โคตรดีใจสุดๆเลย"เเกอย่าพึ่งกลัวตอนนี้สิ ไม่ดีต่อลูกห้ามเครียดหรือคิดมากเป็นอันขาดเข้าใจไหม"เสียงน้องเอวาพูดเตือนสติเพทายอย่างเป็นห่วง ผมที่เห็นดังนั้นก็เดินเข้าไปนั่งข้างเพทายพร้อมปลอบโยนเธอฟืดดดด~"คุณหมอเมียผมกับลูกผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ!"ไอ้เเวมไพร์เดินเข้าไปพร้อมถามหมออย่างร้อนเมื่อหมอเปิดประตูมา"ปลอดภัยทั้งเเม่ทั้งลูกเลยนะครับ ลูกคุณทั้งสองคนเเข็งเเรงดีมากครับ ตอนนี้จะทำการย้านคุณเเม่ไปยังห้องพิเศษ ส่วนลูกทางพย
สองวันผ่านไป....ฉันอาบน้ำเเต่งตัวออกจากคอนโดของพี่นิโครเเละตอนนี้ฉันกับพี่นิโครก็มาถึงไร่องุ่นตั้งเเต่เช้าตรู่ ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย ฉันก็งงเหมือนกันว่าทำไมพี่นิโครต้องรีบมาที่ไร่ขนาดนั้นด้วย เขาเเค่ให้เหตุผลว่ามีธุระด่วนสุดๆกับพี่เรียว เเต่ทำไมเขาต้องพาฉันมาที่บ้านพี่เรียวด้วยล่ะ เเละตอนนี้ฉันก็อยู่กับวิเวียนสองคนในห้องนอนที่ไว้สำรับเเขกโดยเฉพาะ ตัวของพี่นิโครเองก็ไปไหนกับพี่เรียวก็ไม่รู้เหมือนกันหายไปกับกลีบเมฆเลย ทิ้งฉันไว้ให้อยู่กับวิเวียนเนี่ย"พี่เพทายจ้ะ...เอ่อคือ..."วิเวียนพูดอ้ำอึ้งอยู่ ฉันที่นั้งครุ่นคิดเรื่องพี่นิโคร ก็รีบหันหน้าไปมองหน้าวิเวียนอย่างอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไรกับฉันหรือเกี่ยวกับพี่นิโครหรือเปล่า"มีอะไรเหรอจ้ะวิเวียน พูดมาเถอะพี่รอฟังอยู่""คืองี้จ๊ะ วันนี้เป็นวันเกิดของหนูเอง หนูจึงขอพี่นิโครจัดงานเลี้ยงในไร่องุ่นนะจ้ะ"อ๋อวันเกิดวิเวียนเองเหรอ เเล้วทำไมเธอถึงพูดอำอึ่งไม่กล้าบอกฉันด้วยล่ะ?"สุขสันต์วันเกิดด้วยนะจ๊ะวิเวียนมีความสุขมากๆล่ะ^^"ฉันก็รีบอวยพรวันเกิดให้เธอ เธอก็ยิ้มรับออกมาเเต่แววตาของวิเวียนเหมือนยังมีอะไรซ่อนอยู่"วันนี้เป็นวันเกิดของหนู หนูอยากข
ณ บ้านเเวมไพร์ตอนนี้ผมได้พายัยตัวเล็กมาเที่ยวบ้านไอ้เเวมไพร์ตามคำขอ เเละก็ได้ปล่อยให้เธอไปพูดคุยกับน้องเอวากับน้องน่ารักอีกมุมหนึ่ง ส่วนผมเเละไอ้วายุกับไอ้เเวมไพร์ก็นั่งคุยกันที่โต๊ะตรงสวนหลังบ้าน"กูบอกพวกมึงก่อนก็เเล้วกัน อีกสามวันกูจะเเต่งงานกับเพทายที่ไร่ พวกมึงมาร่วมงานด้วยล่ะ"ผมตัดสินใจบอกพวกมันสองคนไป โดยที่ผมมานอนคอนโดนี้เพื่อกะเซอร์ไพรซ์เธอเลย ผมให้ไอ้เรียวกับวิเวียนช่วยจัดสถานที่เเต่งงานเเล้วด้วย เเละได้เลือกชุดเเต่งงานให้เธอหมดทุกอย่าง รอเเค่เธอเเต่งงานกับผมเเค่อย่างเดียวพอ เรื่องอื่นๆผมได้จัดการไว้หมดเเล้ว ส่วนพ่อเเม่ของผมเเละของเพทายก็รู้หมดทุกคนเเล้ว พวกท่านทั้งสี่คนตอนนี้ได้อยู่ที่ไร่เป็นที่เรียบร้อยเพื่อเตรียมความพร้อม ส่วนเเขกก็ไม่เยอะหรอกนะครับมีก็เเค่คนใหญ่คนโต หัวหน้ามาเฟียด้วยกันทั้งนั้นที่ผมได้เชิญไป งานเเต่งจัดขึ้นอย่างเงียบๆโดยที่เพทายไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย "ยินดีด้วยวะไอ้นิโคร"ไอ้เเวมไพร์พูดเเล้วมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มเเละด้วยความยินดี"จริงเหรอยินดีด้วยนะไอ้นิโคร ส่วนกูเเต่งงานหลังมึงเเค่สองวันเองวะ กูต้องรีบเอาลูกให้ทันพวกมึงหึๆๆ"ไอ้วายุพูดอย่างชอบใจ เเสดงว
ณ คอนโดนิโคร"จะ...จริงเหรอค่ะ เป็นรุ่นพี่เตชินที่พยามไล่ยิงพี่นิโครเองเหรอค่ะพี่เเวมไพร์"เพทายอึ้งในคำพูดของไอ้เเวมไพร์ที่เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นจนจบ เเต่มันดันถูกไอ้วายุยิงตายไปเมื่อวันนั้นเเล้วเหมือนกันเเละเป็นตอนที่ผมสลบไป "ครับพี่ไปสืบหมดเเล้ว ที่มันได้ทำตัวกร่างเพราะมันเป็นลูกนักการเมืองที่มีอำนาจนิดหน่อยครับ""กูขอบคุณพวกมึงมากเลยนะเว้ย ถ้าพวกมึงช่วยกูไม่ทัน มันคงเป่ากระบาลกูตายไปเเล้ว"ถ้าไม่ได้ไอ้วายุกับไอ้แวมไพร์มาช่วยผมคงตายไปเเล้วจริงๆ อย่างน้อยมันก็ได้ตายจากโลกนี้ไป แต่ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่อีกล่ะก็ ผมคงไม่ไว้ชีวิตมันเเน่นอน "ไม่เป็นไรมึง เพราะพวกเราไม่ทิ้งกันอยู่เเล้วเว้ย""อืม…พวกเราไม่ทิ้งกันอย่างที่ไอ้วายุบอกนั้นเเหละ""งั้นชนเเก้วกันเว้ย!"ไอ้วายุพูดพร้อมยื่นเเก้วเหล้าออกมาตรงหน้า จากนั้นพวกเราก็กระดกดื่มจนหมดเเก้วโดยมีเพทายนั้งตักผมอยู่ด้วย ส่วนไอ้วายุก็มีน้องเอวานั้งตักอยู่เหมือนกัน มีเเต่ไอ้เเวมไพร์ที่ไม่ได้พาเมียมาเพราะคิดว่าไปนัดเจอพวกเราที่ผับ ไอ้เเวมไพร์เองก็ไม่กล้าพาน้องน่ารักไปในที่เเบบนั้นเหมือนกันกับผมนั้นล่ะครับ เหตุผลก็คือเมียท้องเคร้ง!!!เ
ณ คอนโดนิโครตอนนี้ผมได้กลับมายังคอนโดของตัวเอง เพราะผมมีเรื่องอยากจะถามไอ้เเวมไพร์กับไอ้นิโครที่ผมเกิดเหตุในวันนั้น เมื่อคืนผมนอนคิดเเล้วว่าก่อนหน้านั้นผมได้โทรหาไอ้เเวมไพร์ ผมก็เเค่อยากรู้ว่าไอ้เวรนั้นมันคือคนๆเดียวกันหรือเปล่า ผมอยากได้คำตอบที่เเน่ชัดเเละที่สำคัญที่สุดคืออยากรู้ว่ามันตายหรือว่าอยู่ ถ้ามันตายล่ะก็ผมไม่ต้องเปลืองเเรง เเต่ถ้ามันยังอยู่ผมนี่เเหละจะฆ่ามันด้วยน้ำมือของผมเอง"เพทายคืนนี้พี่จะเข้าผับไปคุยธุระสำคัญกับไอ้พวกนี้หน่อย เเล้วพี่จะรีบกลับมานะครับ""ไม่เอา~ให้หนูไปด้วยได้ไหมคะน้าาา~"งานเข้าเเล้วไงกู!เอาไงดีวะยิ่งอ้อนซ่ะจนผมอยากลากเธอขึ้นเตียงเเล้วจับเย..ให้เข็ด ถ้าไม่ติดว่าท้องลูกนะผมคงใส่เต็มเเม็กไปเเล้วล่ะครับ "เธอท้องอยู่ด้วยนะ พี่ไม่อยากให้เธอไปในที่เเบบนั้นเลยมันไม่ดีนะครับ"ความเป็นจริงเเล้วมันเป็นพื้นที่อันตรายกับคนท้องด้วยไง เสียงเพลง ควันบุรี่ อีกอย่างกว่าจะได้กลับคอนโดมันก็ดึกด้วยไง ผมอยากให้เธอนอนพักผ่อนมากว่าครับ"เเต่หนูอยากไปนิค่ะ อยากไปเที่ยวด้วยอ่ะ"เพทายเริ่มมีสีหน้างอนอย่างจริงจัง "อย่าดื้อได้ไหม?"ถึงยังไงผมก็พาเธอไม่ได้อยู่ดีมันอันตรายเกินไ
หลายวันผ่านไป...ตอนนี้อาการผมดีขึ้นมากเเล้ว เเผลที่ศรีษะก็หายดีเเล้วด้วย...เเต่ยังอีกบางอย่างคือ...ผมจำอะไรไม่ได้เลย เเต่ทุกคนที่มาดูผมนั้นล้วนคุ้นหน้าคุ้นตาไปหมดทุกคน ผมคิดยังไงก็คิดไม่ออกสักที บางครั้งคิดไปมากๆผมก็เริ่มปวดศีรษะเลยต้องหยุดคิดไป ส่วนเพทายเธอเป็นเมียของผมจริงๆนั้นเเหละครับเพราะผมรู้สึกผูกพันกับเธอ หัวใจเต้นเเรงมากเมื่อตอนลืมตาเห็นใบหน้าของเธอครั้งเเรกที่ผมฟื้นตัวขึ้นมา หลายวันที่ผ่านมาเธอดูเเลผมดีมากๆไม่ออกห่างจากผมเเม้เเต่น้อย ผมอยากจำเธอไห้เร็วๆจังเพราะผมกลัวว่าคำบางคำที่ผมพูดไปนั้นจะทำให้เธอเสียใจหรือเปล่า "โอ๊ย!!!""พี่นิโคร!เป็นอะไรหรือเปล่า"เพทายที่กำลังยืนกวาดขยะอยู่ก็รีบวิ่งเข้ามาที่ผมอย่างตกใจ เมื่อเธอเห็นภาพผมกำลังกุมขมับอยู่จู่ๆอาการปวดศีรษะก็ปวดขึ้นมาอย่างรุนเเรง เเละก็เริ่มมีเหตุการณ์ที่ผ่านนั้นเกิดขึ้นเข้ามาในหัวอย่างซับซ้อน"อ้าวเฮ้ย!ไอ้นิโคร ปวดหัวใช่ไหมเเกต้องรีบผ่อนคลายทำให้สมองโล่งๆอย่างพึ่งคิดอะไรเด็ดขาดไม่อย่างนั้นอาการก็จะเริ่มรุนเเรงมาขึ้น"ไอ้เรียวที่กำลังเดินเข้ามาก็เห็นผมที่นั้งปวดศีรษะอยู่โซฟาพอดีจึงรีบเดินเข้ามาหา ผมก็รีบทำอย่างที่มันพู
Comments